ตอนที่ 15 ทำไมฉันต้องเกาะติดคุณด้วย?
เมื่อนั่งดูฉีโย่วโกหกแม่ของเธอได้อย่างเป็นธรรมชาติ เธอบอกว่าเขาเป็นผู้จัดการธุรกิจที่ซื่อสัตย์ เหยาซื่อรู้สึกว่ามันน่าสนใจจริง ๆ รอยยิ้มที่รุนแรงอยู่บนริมฝีปากของเขา
แม่ของฉีโย่วจึงชวนเขาไปทานอาหารเย็นด้วยกัน
“แม่คะ เขายุ่งเกินกว่าจะอยู่ที่นี่นะคะ!” ฉีโย่วตอบอย่างรวดเร็วก่อนที่เหยาซือจะกล่าวอะไรได้ เธอพาเขาออกมาส่ง กระทั่งลงมาชั้นล่างฉีโย่วรู้สึกโล่งใจ
“กลับเถอะค่ะ” ฉีโย่วโบกมือให้เขา กระตุ้นให้เขาออกไป
“คุณเหยา ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณทำเพื่อฉันในวันนี้นะคะ ฉันหวังว่าคุณจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักฉัน เมื่อเราอยู่ที่ทำงาน”
เหยาซื่ออดไม่ได้ที่จะแกล้งเธอ “เอ๊ะ? คุณไม่ได้อยากจะเกาะติดฉันหรอกเหรอ?”
ผู้สนับสนุนคนนี้มีพลังเกินกว่าที่เธอจะพึ่งพา ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังไม่กล้าพอ...
หลังจากนั้นไม่นานฉีโย่วหัวเราะออกมาเบา ๆ “คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าคุณเป็นหนี้ฉันหรอก จะพูดก็พูดเถอะ ฉันไม่คิดจะอาศัยบารมีของคุณหรอกค่ะ พูดตามตรงเราทั้งคู่ก็เป็นเพียงคู่นอนกันเท่านั้น”
จากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปชั้นบน เหยาซื่อมองด้านหลังของเธอ ก่อนจะขึ้นรถด้วยรอยยิ้มที่ห้อยอยู่มุมริมฝีปากของเขา
ช่างเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ารักจริง ๆ
*
ณ บ้านตระกูลเหยา
จางเฟิงอี้มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างกระตือรือร้น พึมพำสองสามวินาที “เขาสัญญาว่าจะกลับมาทานอาหารเย็น ทำไมตอนนี้ยังไม่มาอีกล่ะ? เขาคงจะมีความสุขกับการออกเดทล่ะมั้ง”
เป็นเวลานาน กระทั่งมีลำแสงสองลำพุ่งเข้ามาในสวน พร้อมกับรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งที่ขับเข้ามา
พ่อบ้านเห็นเขาก่อนและเตือนหญิงชราว่า “ท่านผู้หญิงครับ นายน้อยกลับมาแล้ว”
“โอ้ใช่!” เจียงเฟิงอี้ก็เช่นกัน เธอรีบลุกไปที่ประตูเพื่อรับเขา
ประตูเปิดออกและมีเพียงเหยาซื่อเท่านั้นที่เข้ามา เจียงเฟิงอี้รอมานานมาก แต่ไม่เห็นใคร เธอจึงออกไปตรวจสอบ ไม่มีใครอยู่ข้างนอก ในที่สุดเธอก็ถามว่า “ผู้หญิงคนนั้นล่ะ อยู่ที่ไหน?”
“ผมทรงเธอกลับบ้านไปแล้ว”
“ทำไมหลานไม่พาเธอกลับมาทานข้าวเย็นที่นี่ แล้วค่อยไปส่งเธอกลับทีหลังล่ะ”
เจียงเฟิงอี้กล่าวอย่างสงสัยในระดับ EQ ของหลานชายเธอ
ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดี ดังนั้นเธอจึงคิดว่าวันนี้เป้นไปได้ด้วยดี และตามเขาไปในห้องวาดภาพ พร้อมกับคำถามเป็นชุด
“หลานได้เดินเล่นหลังจากดื่มกาแฟหรือเปล่า?”
“หลานได้ไปเยี่ยมพ่อกับแม่ของเธอ ตอนที่หลานไปส่งเธอที่บ้านหรือเปล่า?”
“หลานได้นัดพบเธอในครั้งต่อไปหรือยัง? ฮะ?”
เหยาซื่อถูกจับให้นั่งลงบนโซฟา “หน่ายนาย วันนี้ไม่มีอะไรทั้งนั้น ผู้หญิงคนที่ผมขับรถไปส่ง เขาเป็นเพียงแค่เพื่อนเท่านั้นเอง”
เจียงเฟิงอี้ตกตะลึงกล่าวว่า “อืม เพื่อนจะก้าวหน้าไปถึงคนรักได้ แล้วหลานล่ะคิดยังไงกับเธอ?”
เหยาซื่อนึกถึงฉากที่เขาได้พบกับฉีโย่วในวันนี้ รอยยิ้มคืบคลานขึ้นมาที่ริมฝีปากของเขา
“เธอก็..น่าสนใจดี”
คุณย่ารู้สึกดีใจที่ได้ยินคำที่บ่งบอกถึงความหวัง “อย่างที่บอก ย่าก็ชอบเธอมากเช่นกัน! จะพาเธอกลับมาหาย่า แล้วพากันไปเลือกชุดแต่งงานของเธอเมื่อไหร่ดีล่ะ”
“ย่าครับ ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องแต่งงาน”
“จะไม่ให้รีบได้ยังไงล่ะ? ดูสิว่าหลานอายุเท่าไหร่แล้ว!” เจียงเฟิงอี้จ้องมองเขาอย่างโกรธ ๆ
“จ้าวเสว่หันก็แต่งงานไปแล้ว หลานจะคิดถึงเธอไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ”
จนกระทั่งคุณย่าพูดจบ เธอสังเกตเห็นใบหน้าของเหยาซื่อแย่ลง
“อาซือ ย่าหมายถึง..”
“ย่าครับเราค่อยพูดเรื่องนี้กันทีหลัง ผมขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อน” เมื่อพูดจบ เขาหันหน้าไปชั้นบน เจียงเฟิงอี้กระทืบเท้าของเธอด้วยความไม่พอใจ
“พ่อบ้านซุน ดูเขาเถอะ!” ย่าบ่นกับพ่อบ้านอย่างเป็นห่วง
“เขานึกถึงผู้หญิงคนนั้น แต่เธออาจจะลืมเขาไปนานแล้ว นี่ก็หลายปีแล้วนะ!”
“ท่านผู้หญิงอย่าโกรธไปเลยขอรับ เป็นเรื่องปกติที่นายน้อยจะยังจดจำคุณหนูเสว่หันได้ ก็พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน” พ่อบ้านปลอบโยนคุณย่า “ทำไมเราไม่คิดว่า จะจับคู่นายน้อยกับผู้หญิงคนนั้นได้ยังไงแทนล่ะขอรับ”
“มีความคิดอะไรดี ๆ งั้นหรือ”
พ่อบ้านซุนกระซิบข้างหูของเจียงเฟิงอี้ว่า “ผมส่งคนไปตามดูนายน้อยตั้งแต่เมื่อเช้านี้ และรู้ว่าเขาไปส่งหญิงสาวคนนั้นที่ไหน ..”
ไม่นานาเจียงเฟิงอี้ก็ส่งเสียงชื่นชมพ่อบ้าน “พ่อบ้านซุน ยอดเยี่ยมมาก ไปจัดการต่อ ทิ้งนายน้อยไว้กับฉัน!”
...