ตอนที่ 13 ชดใช้หนี้ของคุณ
แต่เหยาซื่อยังคงสงบเพียงแค่หยิกแก้มของเธอและตำหนิเธอไปว่า “ทำไมคุณไม่บอกพวกเขาไปล่ะ ว่านั่นคือผม”
จีหมานชิงและลู่เสี่ยวหลินรู้สึกมึนงง
พวกเขามองไปที่เหยาซื่อ สังเกตว่าด้านหลังของเขาดูเหมือนผู้ชายในรูปถ่ายมาก!
ฉีโย่วหยุดไปชั่วขณะ ในไม่ช้าก็ตอบกลับด้วยความข้องใจในดวงตาของเธอ
“ฉันกลัวว่าจะทำให้คุณเข้าเกี่ยวข้องด้วย กลัวว่าคุณจะถูกถ่ายรูปและส่งไปในกลุ่ม wechat”
“ผมจะโทรไปที่บริษัท และเคลียร์เรื่องนี้เอง”
จีหมานชิงพยายามซ่อนใบหน้าบูดบึ้งของเธอ แล้วฝืนยิ้ม “อ๊ะ! เขาเป็นแฟนของเธอเองเหรอ ถ้าเธอบอกพวกเราคงไม่เข้าใจผิดอย่างนี้หรอก”
“ฉันไม่ได้กังวลเลยสักนิด” ฉีโย่วพูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มเขิน ๆ ภายใต้อ้อมแขนของเหยาซื่อ “ฉันรู้ว่าแฟนของฉันเขาจัดการเรื่องนี้ได้ ขอโทษด้วยล่ะกันที่ทำให้เป็นห่วง”
ดูเหมือนว่าการพูดคุยมันยืดยาวเกินไป จีหมานชิงและลู่เสี่ยวหลินจึงหาข้ออ้าง เพื่อปลีกตัวออกไป
นายหลินก็ลนลานออกไปด้วยเช่นกัน
ทันทีที่พวกเขาจากไปฉีโย่วก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
รู้สึกกระอักกระอ่วนที่รู้ว่าเธอยังอยู่ในอ้อมแขนของเขา ฉีโย่วรีบลุกขึ้นมัดผมของเธอแล้วพูดออกไปว่า
“อย่าคาดหวังคำขอบคุณจากฉันเลย ฉันไม่ทำแบบนั้นกับคุณหรอก!”
เธอขอให้เหยาซื่อชี้แจงเรื่องนี้อย่างลับ ๆ เพราะมันน่าอายมาก หากเพื่อนร่วมงานรู้ว่าเธอนอนกับซีอีโอ อีกทั้งเธอยังไม่อยากตกงาน
เหยาซื่อเหลือบมองเธอ “ชี้แจ้งอะไร? ทำไมฉันต้องช่วยคุณ”
“คุณล้อเล่นกับฉันหรือไง?” ฉีโย่วมองเขาด้วยความประหลาดใจ
“ฉันจะตกอยู่ในสถานการณ์นี้ได้ยังไง ถ้าคุณไม่ดึงฉันเข้าไปในห้องน้ำ”
“ฉันคิดว่านั่นเป็นการล้างหนี้ของคุณยังไงล่ะ”
เมื่อมองไปที่สายตาที่จ้องมาอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ของฉีโย่ว ที่พยายามกลืนความโกรธลงไป
เหยาซื่อก็หัวเราะออกมาพร้อมพูดว่า “เอาน่า ล้อเล่นเท่านั้นเอง ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้”
“อะนี่” ฉีโย่วกลอกตา ส่งถุงช้อปปิ้งให้เขา
“ไม่เป็นไร มันเป็นของคุณ”
ฉีโย่วกำลังลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เหยาซื่อกดให้เธอนั่งลงบนโซฟา
“ไหน ๆ คุณก็สั่งอาหารไปแล้ว จะทิ้งไปเปล่า ๆ ได้ยังไง มาคุยไปกินไปดีกว่า”
ฉีโย่ว “...”
ฉีโย่วมองข้ามโต๊ะไปที่เหยาซื่อ ระหว่างทางอาหาร
ชายคนนี้ทานอาหารได้อ่อนโยนมาก ทำให้เธองงงวย “ทำไมหัวหน้าใหญ่ถึงย้ายไปล่ะคะ? ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ติดอะไร”
ฉีโย่วถามเขา “คุณเหยาซื่อ ทำไมคุณถึง...มาทำงานนั้นล่ะค่ะ?”
ไม่คาดคิดว่าเธอจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เหยาซื่อหัวเราะเบา ๆ แสร้างทำเป็นตอบอย่างจริงจัง
“มันทำให้ฉันผ่อนคลาย คุณไม่ได้ชอบหรอกเหรอ”
เสียงทุ้มที่น่าหลงใหลและมีความหมายของเขาทำให้ฉีโย่วนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอหน้าแดงก้มหน้าทานข้าวเพื่อคลายความลำบากใจ
เหยาซื่อรู้สึกว่าเธอน่ารักดีและถามอย่างไม่เป็นทางการว่า “ทำไม คุณถึงมาเดทล่ะ?”
หัวข้อนี้เปลี่ยนไปเร็วมากจนฉีโย่วต้องใช้เวลาสักครู่ในการตอบ “แม่ของฉันน่ะสิ เป็นคนจัดการให้ แต่ก็ดีค่ะ ได้มาเจอคนแปลก ๆ ถือเป็นการเปิดหูเปิดตา”
ยิ่งเธอพูดมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งโกรธขึ้นเรื่อย ๆ “ดี! แล้วก็ยังมีคนประหลาดเพิ่มมาอีก 2 คน เข้ามาทักทายฉันด้วยการถากถาง ไม่รู้จักส่องกระจกดูเงาของตัวเองเสียบ้าง!”
การพูดมากเกินไปทำให้เธอกระหายน้ำ เธอจึงหยิบน้ำบนโต๊ะขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ ในขณะที่เหยาซื่อกำลังมองดูเธอด้วยความสนใจ ปรากฏรอยยิ้มในแววตา
ฉีโย่วถามอย่างกระวนกระวายด้วยใจสั่น ๆ ว่า “มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“คุณน่ารักดี” ชายคนนั้นหยุดพูดชั่วตราว รอยยิ้มในดวงตาของเขาชัดเจนมากขึ้น
“ถ้าอยากจะมีแฟน ไม่ลองพิจารณาฉันดูหน่อยเหรอ?”
“แค่ก...” ด้วยความตกใจ ฉีโย่วสำลักน้ำที่เธอเพิ่งกลืนเข้าไป แทบจะไม่สามารถหยุดไอได้
เหยาซื่อยื่นทิชชูให้กับเธอ
“คุณเหยาซื่อคะ มันไม่ตลกเลยนะ” ฉีโย่วเช็ดปากของเธอ ใบหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ
“ฉันออกมาเดทก็เพราะตามใจแม่ ฉันไม่ได้หาแฟนไม่ได้สักหน่อย อีกอย่างฉันอยากทำงานหาเงินมากกว่าค่ะ”
“แล้วคุณคิดว่าวิธีไหนจำให้ได้เงินเร็วกว่ากัน ระหว่างเป็นพนักงานต้นรับบนเครื่องบินหรือเป็นภรรยาของเจ้านายในบริษัทที่คุณทำงานอยู่”
“...”
เธอมีความรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังคุยกับคนบ้า
ฉีโย่วพูดกับเขาเพียงสองสามคำ จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่อง เพื่อให้เธอสบายใจ เหยาซื่อไม่ได้ขอให้เธอตอบคำถามของเขาอีกต่อไป