ตอนที่แล้วWS บทที่ 40 การต่อสู้ PART 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 42 โครงสร้างเวทมนต์อันที่สอง

WS บทที่ 41 งานช้าง


เมอร์ลินรับฟังสิ่งที่ชายสวมหน้ากากพูดอย่างเงียบ ๆ เขาสังเกตเห็นว่าชายตรงหน้าเรียกเขาว่า ‘นักเวทย์’ ไม่ใช่ ‘คนนอกรีต’ อย่างที่คนอื่นเรียกกัน

นอกจากนี้เขาเห็นด้วยกับสิ่งที่ชายสวมหน้ากากพูด เขาไม่มีทางรับมือกับลูกศรนับนับพันด้วยคาถาระดับศูนย์ที่เขามีในตอนนี้ได้

“แองกัส แค่คนนอกรีตคนเดียว คุณถึงกับจะยอมแพ้เลยเหรอ?”

“...”

เมื่อเห็นว่าอีกฝั่งไม่พูดอะไร เขาก็เปลี่ยนความสนใจไปที่เมอร์ลินพร้อมตัวดาบที่ส่องแสงสีขาวออกมา

“เมอร์ลินระวังตัวด้วย พวกเขาทั้งหมดเป็นนักดาบแสงระดับสาม” เลห์แมนเตือนเมอร์ลินอย่างอ่อนแรง เขากำลังกดบาดแผลบนท้องของเขา

“ตายซะ!!”

ชายสวมหน้ากากได้พุ่งใส่เมอร์ลินโดยไม่เกรงกลัวใด ๆ แสงสีขาวบนดาบได้ขยายออกจากตัวดาบยาวขึ้นถึงหนึ่งเมตร เขาได้พุ่งขึ้นและง้างดาบฟันจากด้านบน

“ลูกไฟ!!” เมอร์ลินเสกคาถาลูกไฟออกไปด้วยแววตาที่เย็นชา

ลูกไฟสองลูกได้ถูกส่งลอยขึ้นไปในอากาศทันที นี่เป็นเป็นเพียงแค่ลูกไฟธรรมดาไม่ใช่ลูกไฟยักษ์

จากพลังเวทย์ในปัจจุบันของเขา ทำให้เขาสามาร่ายคาถาลูกไฟได้สิบลูกพร้อมกัน

และด้วยพลังจิตที่เพิ่มขึ้น เขาจึงสามารถปล่อยลูกไฟออกมาด้วยความเร็วที่ยากจะหลบได้

*ตูม!!*

มุมปากของเมอร์ลินยกขึ้นเล็กน้อย ลูกไฟทั้งสองได้ระเบิดกระจายไปทั่วทิศทาง ทำให้ชายสวมหน้ากากถูกกลืนหายไปในทะเลเพลิง

“อ๊าก!!” ชายสวมหน้ากากได้กรีดร้องออกมาอย่างทรมาน

เปลวไฟของลูกไฟสามารถหลอมได้แม้กระทั่งเหล็กชั้นดี ดังนั้นนักดาบแสงระดับสามก็ไม่สามารถรอดจากการเผาไหม้ของมันได้

หลังจากที่ชายสวมหน้ากากได้กรีดร้องอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาเงียบและล้มลงไป

“เควีโร่!!”

แองกัสกับลีโลตะโกนออกมาพร้อมกับแสงสีขาวได้ปรากฏรอบตัวของพวกเขา ทั้งคู่ได้แยกออกเป้นสองทิศทางและพุ่งเข้าหาเมอร์ลิน

เมอร์ลินส่ายหัวเล็กน้อย ตอนนี้เขาแตกต่างจากตอนที่ต่อสู้กับโรลิน ด้วยประสบการณ์ในตอนนั้นทำให้เขาสามารถจัดการนักดาบธาตุระดับสามได้อย่างง่ายดายเพียงแค่สะบัดนิ้ว

ตอนนี้เขาเริ่มคุ้นเคยกับพลังของพ่อมดมากขึ้นแล้วและพลังจิตก็มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนจึงทำให้เขาสามารถควบคุมคาถาได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

ในตอนที่พวกเขาเริ่มขยับตัว เมอร์ลินก็ได้โยนลูกไฟยักษ์ใส่พวกเขาไปแล้ว

*หวู่ม!!*

ลูกไฟขนาดมหึมาลอยอยู่ในอากาศ สภาพของมันไม่ค่อยเสถียรเนื่องตัวมันเต็มปี่ยมไปด้วยพลังธาตุไฟอันเข้มข้น

*ตูม!!!!*

เมอร์ลินได้จุดชนวนมันทันที นั่นทำให้คลื่นไฟขนาดใหญ่ซัดใส่แองกัสกับลีโลที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างไร้ความปรานี

เมื่อพวกเขาสัมผัสกับแรงระเบิด ทำให้พวกเขาถูกกระแทกออกไปหลายเมตร

แม้พวกเขาจะเป็นนักดาบธาตุระดับสามแต่ด้วยพลังรุนแรงมันก็ส่งผลต่อพวกเขาไม่มากก็น้อย

เมอร์ลินยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เขาส่งลูกไฟสพวกเขาอีกสองลูก

*ตูม!!*

ลูกไฟได้ทะลุศีรษะของลีโลโดยไม่มีอะไรกั้น ส่วนแองกัสเขาได้เอาแขนมาป้องกันไว้ แต่ด้วยเพลิงอันร้อนแรงได้เผาขนของเขาทันที

แองกัสตัดสินใจกระโดดขึ้นหลังม้าและหนีไปด้วยสภาพร่างกายที่บาดเจ็บสาหัส

“สายไปแล้วที่จะคิดหนีตอนนี้”

เมอร์ลินไม่ยอมปล่อยให้แองกัสหนีไปได้ แม้ว่าฝีเท้าของม้าจะเร็วถึงเพียงใดแต่ลูกไฟของเมอร์ลินนั้นเร็วกว่า

ลูกไฟที่บินตามไปอย่างรวดเร็วได้พุ่งใส่หลังของแองกัสเข้าเต็ม ๆ มันได้ทะลุร่างของเขาและมีรูขนาดใหญ่บนตัวของ

จากนั้นแองกัสก็ตกจากหลังม้าและนอนแน่นิ่งไป

เมื่อนักดาบแสงระดับสามทั้งสามคนได้ตายไปแล้ว จึงทำให้กลุ่มโจรต่างตกอยู่ในความโกลาหล พวกเขาต่างตะโกนร้องออกมาพร้อมกับถอยหนี

นายพลแพรตต์ไม่พลาดโอกาสนี้ เขาได้นำเหล่าอัศวินหลายร้อยคนจัดการกลุ่มโจรที่แตกพ่าย

เมอร์ลินไม่ได้ออกไปต่อสู้ด้วย เขานำเลห์แมนที่บาดเจ็บเข้าไปในปราสาทและสั่งการให้คนรับใช้จัดการเคลียร์ซากศพอยู่ด้านนอก

ครึ่งชั่วโมงต่อมา อัศวินทั้งหมดได้เดินทางกลับมาที่ปราสาท พวกเขาตั้งแถวที่หน้าด้านปราสาทและแพรตต์ได้เข้ามาในห้องโถงเพื่อรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแก่เลห์แมนฟัง

“ท่านบารอน พวกโจรถูกขับไล่ออกไปหมด ตอนนี้ดินแดนของท่านปลอดภัยจากการคุมคามของพวกโจรแล้ว”

เลห์แมนพยักหน้าที่ซีดอย่างเงียบ ๆ เขาพยักหน้าลุกขึ้นและถามอย่างเย็นชาว่า “แล้วพวกเชลยล่ะ”

แพรตต์พยักหน้าตอบรับ เขาส่งสัญญาณให้อัศวินนำเชลยที่บาดเจ็บกว่าหนึ่งโหลเข้ามาในห้องโถง

เลห์แมนหรี่ตามองพวกเชลยและถามด้วยเสียงเข้มว่า

“พวกโบสถ์กำลังคิดทำอะไรอยู่ พูดมันอออกมา!!”

เหล่าเชลยต่างมองหน้ากัน ก่อนจะตอบอย่างระมัดระวังว่า “ท่านบารอน พวกเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพวกศาสนจักร พวกเป็นเพียงแค่กลุ่มโจรธรรมดา ๆ ที่ออกหากินตามบริเวณชายแดนของอาณาจักรแห่งแสงกับอาณาจักรแบล็กมูนเท่านั้น แต่เมื่อปีที่แล้วผู้นำของพวกเขาถูกคนของโบสถ์ฆ่าตายและพวกเราก็บังคับให้เข้าร่วมกับพวกเขา พวกเราเป็นแค่โจรเท่านั้นจึงไม่รู้แผนของพวกโบสถ์เลย”

“ฉันรู้ ๆ ฉันได้ยินมาว่าทางโบสถ์มีแผนการครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเมืองหลวง เมืองแบล็กวอเตอร์และเมืองรูท”

เมื่อเชลยกล่าวเสร็จ พวกเขาได้มองขอความเมตตาจากเลห์แมน

“นำพวกมันออกไปและฆ่าพวกมันให้หมด!!” เลห์แมนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง

จากนั้นพวกเชลยกว่าสิบคนได้ถูกแพรตต์นำออกไปสังหาร

“เมอร์ลินเราต้องมุ่งหน้ากลับไปที่เมืองแบล็กวอเตอร์ให้เร็วที่สุด” เลห์แมนเงยหน้าขึ้นมาเผยหน้าสีหน้าที่เหนื่อยล้า ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยกังวลที่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเมืองแบล็กวอเตอร์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด