ตอนที่แล้วบทที่ 52 การติดต่อ (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 54 การติดต่อ (5)

บทที่ 53 การติดต่อ (4)


(Editor note : วิซาร์ดและพ่อมดคืออันเดียวกันเพื่อมีพ่อมดที่เป็นผู้หญิงเราจะเรียกว่าวิซาร์ดแทนนะครับ)

หนึ่งเดือนได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วและมานาจากคริสตัลก็ถูกดูดซึมจนหมด

นี่หมายถึงการที่เฟรย์ก้าวเข้าใกล้ระดับ ​​8 ดาวอีกครั้ง

เฟรย์พอใจกับสิ่งนั้นแต่นั้นไม่ใช่ข่าวดีเพียงอย่างเดียว

เมื่อคืนก่อนเขาประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญากับวิญญาณแห่งความมืด

มันเป็นวิญญาณระดับกลางที่ชื่อว่า 'ดาร์กมิง'

มันดูเหมือนแมวตัวเล็กๆที่มีขนสีดำและเมื่อมันเซ็นสัญญากับเฟรย์มันก็แสดงท่าทีหยิ่งผยองมาก

คามิลล์บอกว่าเก้าจากสิบครั้งจิตวิญญาณที่ถูกทำสัญญาครั้งแรกที่คนส่วนมากจะได้รับจะอยู่ในระดับต่ำดังนั้นแปลว่าเฟรย์ค่อนข้างโชคดีที่เขาได้รับจิตวิญญาณที่ดีเช่นนี้

ในตอนนี้เฟรย์รู้สึกเหมือนว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในหอคอยเวทมนตร์อีกต่อไป

ยังมีเวลาอีกสักพักก่อนที่จะมีการทดสอบในเซอร์เคิลและเขารู้สึกว่าการเดินทางไปรอบโลกนั้นดีกว่าการอยู่ในหอคอย

ด้วยเหตุนี้เฟรย์จึงเก็บข้าวของของเขาทันทีและพร้อมที่จะออกจากหอคอย

ขณะที่เขากำลังจะเปิดประตูเขาก็รู้สึกว่ามีใครบางคนยืนอยู่ด้านนอก

ด้วยเหตุผลบางอย่างเฟรย์รู้สึกคุ้นเคยเขาจึงเปิดประตูเพื่อดูว่าเป็นใคร

“อ่าอา สวัสดี”

หญิงสาวคนหนึ่งก้มหัวให้เขา

เธอดูเหมือนจะแก่กว่าเฟรย์ประมาณสามหรือสี่ปี แต่ผมและดวงตาสีเขียวของเธอดึงดูดความสนใจของเขาเนื่องจากมันค่อนข้างหายากแม้แต่ในทั้งทวีป

“…”

เฟรย์พูดไม่ออก

จากนั้นเขาก็จ้องมองที่เสื้อคลุมของเธอก่อนจะเปิดปากในที่สุด

"คุณเป็นใครกัน?"

“ฉันมีชื่อว่าเบเนียง”

เขาไม่ได้ขอชื่อเธอเลย

สมองของผู้หญิงคนนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ

เบเนียงส่ายหัวอย่างรีบร้อนเมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆของเฟรย์

"อา ขอโทษ คุณคงเป็นเฟรย์เบลคใช่หรือเปล่า?”

"ฉันเอง"

“ฉันขอโทษที่รบกวนคุณ ให้ฉันแนะนำตัวเองอย่างถูกต้อง ฉันคือเบเนียงอาร์เจนโต้”

ขณะที่เธอพูดต่อเฟรย์ก็ตระหนักว่าความคาดหวังของเขาถูกต้อง

“ฉันเป็นเซอร์เคิลมาสเตอร์ของโทร์วแมนริงส์”

* * *

เฟรย์ปีนบันไดหอคอยอีกครั้งและมุ่งหน้าไปที่ห้องของเขา

นี่เป็นเพราะไม่มีที่อื่นให้เขาต้อนรับแขกและไม่ว่าเขาจะอยากทำมันมากแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถพาเซอร์เคิลมาสเตอร์ไปที่ร้านอาหารได้

นอกจากนี้การรักษาความปลอดภัยของหอคอยก็ค่อนข้างดี

ตาก

เฟรย์ปิดประตูและมองไปที่เบเนียงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางประหม่า

แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงมันแต่ตอนนี้เฟรย์ก็อยู่ในสภาพจิตใจที่ซับซ้อนมาก

‘เสื้อคลุมตัวนั้นไม่ใช่เครื่องมือวิเศษ’

ในตอนแรกตอนที่เขาเป็นลูคัสเขาไม่ชอบใช้ของวิเศษ

เขาทำมันเพื่อฆ่าเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่อย่าง

เสื้อคลุมตัวนั้นเป็นเพียงเสื้อคลุมหนังธรรมดาๆที่มีคุณภาพดี

นั่นเป็นสาเหตุที่เขาจำแทบไม่ได้

4,000 ปีได้ผ่านไปและเสื้อคลุมก็แตกต่างจากที่เคยเป็น

‘พวกเขาค่อยๆเพิ่มรายละเอียดลงไปทีละนิดๆเมื่อเวลาผ่านไปหรือเปล่า?’

ดูเหมือนว่าจะมีคนที่เปลี่ยนชิ้นส่วนของมันด้วยหนังประเภทต่างๆ

ด้วยเหตุนี้เสื้อคลุมหนังธรรมดาๆจึงกลายเป็นเหมือนของวิเศษที่เข้ากับชื่อของมันในฐานะมรดกของฮีโร่

แต่มันไม่ใช่เสื้อคลุมที่ทำให้เขาสับสน

เขาเปล่งความคิดที่เขามีอยู่ข้างใน

“เซอร์เคิลมาสเตอร์เดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร?”

"คือ…"

การดูเธอเขินอายในขณะที่เธอคิดหาคำที่จะพูดทำให้เฟรย์รู้สึกแปลกใหม่

นี่เป็นเพราะเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าผู้ที่มีอำนาจอันดับหนึ่งในเซอร์เคิลจะเป็นเช่นนี้

มันยิ่งเด่นชัดมากขึ้นเมื่อเทียบกับความหยิ่งผยองของดูเกนจาร์ที่เขาเคยพบเมื่อไม่นานมานี้

“บังเอิญ…ฉันเป็นคนแรกที่ได้คุยกับนายหรือ?”

“คนแรกอะไร?”

"ก็…"

เบเนียงขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เธออธิบาย

“มันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่เมื่อมือใหม่ไฟแรงอย่างคุณปรากฏตัว บางครั้งพวกเขาก็จะถูกเข้าทาบทามก่อนที่พวกเขาจะเข้าทำการทดสอบ”

“ก่อนที่พวกเขาจะทำการทดสอบด้วยซ้ำ”

"ใช่ อา...และคุณไม่ต้องทำการทดสอบ ด้วยการที่คุณได้ปราบอัครสาวก คุณได้รับการประเมินแล้วว่าคุณแข็งแกร่งกว่าผู้บริหารจากบิ๊กทรี "

เขาไม่ต้องทำการทดสอบ

ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถหลีกเลี่ยงบางสิ่งบางอย่างที่ยุ่งยากได้ แต่เขายังไม่สามารถวางใจในเซอร์เคิลได้ในตอนนี้

จะเป็นอย่างไรถ้าพวกเขาพยายามบังคับให้เขาทำอย่างอื่น?

“มีข่าวลือว่าฉันเอาชนะอัครสาวกหรือ?”

"ยังไม่มากนัก มีเพียงไม่กี่เซอร์เคิลเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันได้ยินเรื่องนี้เพราะโชคช่วยเท่านั้น…”

นั่นคือเมื่อเขาเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร

เบเนียงมาที่นี่เพื่อเชิญให้เขาเข้าร่วมโทร์วแมนริงส์

เฟรย์รู้สึกประหลาดใจ

เขาไม่รู้ว่าสิ่งต่างๆเกิดขึ้นในเซอร์เคิลได้อย่างไร แต่เขามั่นใจว่าเซอร์เคิลมาสเตอร์ไม่ได้เดินไปเดินมาเพื่อรับสมัครสมาชิกเป็นการส่วนตัว

“คุณตัดสินใจแล้วหรือยังว่าจะเข้าร่วมเซอร์เคิลใด?”

"ฮะ?"

“ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นน้องชายของไฮนซ์เบลค และคุณยังมีความสัมพันธ์ทีดีกับออเนอเชพเพิร์ดจากสโตรว์เน็คลิซ …”

แม้แต่ข้อมูลนี้ก็ยังรั่วไหลออกไป

เฟรย์มีความรู้สึกว่าเซอร์เคิลเหล่านี้กำลังปล่อยข้อมูลแบบจงใจ จากสิ่งที่เบเนียงเปิดเผยดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการตัวเขามากเกินกว่าที่เขาคิดไว้แต่แรก

“ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนี้”

“ฉัน...ฉันเข้าใจ”

เบเนียงพยายามสงบสติและความปั่นป่วนในท้องของเธอ อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อคว้างน้ำเหลว

เธอเหลือบมองตาของเฟรย์ก่อนจะพูดต่อ

“คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับโทร์วแมนริงส์?”

“ฉันไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ”

มันเป็นความจริง

แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะเป็นหัวหน้าขององค์กรที่ใช้นามสกุลของเขา แต่ความจริงนั้นก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

เบเนียงผิดหวัง

อาจกล่าวได้ว่าพ่อมดเก้าในสิบคนจะเคารพลูคัสโทรว์แมนมากๆ

แต่ตอนนี้แผนการของเธอที่จะสร้างพื้นที่ร่วมกันโดยการพูดคุยเกี่ยวกับลูคัสล้มเหลวก่อนที่มันจะเริ่มต้นด้วยซ้ำ

“…เดี๋ยวก่อนจะเป็นไรไหมถ้าฉันบอกคุณเกี่ยวกับเซอร์เคิลของเรา?”

“ฉันอยากที่จะได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้”

เมื่อเฟรย์ตอบในทางบวกอย่างไม่คาดคิดใบหน้าของเบเนียงก็สดใสขึ้นมาก

เขาอยากรู้มากอยู่แล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้

นี่เป็นเพราะเพื่อนร่วมงานหลายคนของเขาเชื่อมโยงโดยตรงหรือโดยอ้อมกับโทร์วแมนริงส์

เพเรียนบอกว่าเขาต้องการเข้าร่วมจริงๆและอเดเลียเองก็เป็นสมาชิกของโทร์วแมนริงส์

“เซอร์เคิลของเรา…”

เบเนียงเริ่มอธิบายด้วยใบหน้าประหม่าในขณะที่เฟรย์เพียงแค่ฟังเธอเงียบๆ

การแสดงออกของเฟรย์ยังคงเหมือนเดิมตลอดการอธิบายทำให้เบเนียงไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรกันแน่

“…”

และเมื่อเธอพูดเสร็จเฟรย์ก็คร่ำครวญกับคำพูดของเบเนียงอย่างเงียบๆ

หากเป็นสมาชิกในเซอร์เคิลคนอื่นๆที่บอกเขา พวกเขาก็พูดถึงเซอร์เคิลของพวกเขาเหมือนกับว่ามันถูกห่อไว้ด้วยผ้าคลุมที่สวยงามอยู่เสมอ

สิ่งที่ทำให้เฟรย์ประหลาดใจคือเบเนียงเปิดเผยทุกอย่างโดยไม่สนใจว่าสถานการณ์ของโทร์วแมนริงส์นั้นจะเลวร้ายเพียงใดให้กับเขา

หากจุดประสงค์ของเธอคือการรับสมัครเฟรย์ มันคงจะดีกว่าที่เธอจะปกปิดบางสิ่งไปจากเฟรย์

พูดอย่างอ่อนโยนอย่างน้อยเธอก็ซื่อสัตย์มิฉะนั้นเธอก็คงไม่มีความยืดหยุ่น

“ถ้าเฟรย์ตัดสินใจเข้าร่วมกับเซอร์เคิลของเรา…ฉันจะให้ไอเท็มเวทมนตร์แก่คุณด้วย”

“ไอเทมวิเศษ?”

"ใช่"

เฟรย์ไม่รู้ แต่จริงๆแล้วนี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ก้าวร้าวอย่างไม่น่าเชื่อ

ยกเว้นแต่บิ๊กทรี จำนวนของสิ่งประดิษฐ์ที่เซอร์เคิลมีอยู่ในคลังสมบัตินั้นไม่สูงนัก อย่างมากก็จะมีสองหรือสามชิ้นและบางเซอร์เคิลนั้นไม่มีเลยด้วยซ้ำ

ในอดีตมีไอเท็มเวทมนตร์เพียงห้าชิ้นในโทร์วแมนริงส์ ดังนั้นการที่จะมอบมันให้กับมือใหม่จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าตกใจ

เบเนียงคิดว่าจะมีการแสดงออกบนใบหน้าของเฟรย์เมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ แต่เขากลับก้มหน้าลงราวกับว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง

ปฏิกิริยานี้ค่อนข้างทำให้เบเนียงท้อใจ

“ฉันอยากจะถามอะไรคุณสักหน่อย”

"อา! ได้โปรดถามมาเลย”

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยินยอมรับคำขอของเฟรย์เพราะเธอแค่ต้องการให้เขาแสดงปฏิกิริยาออกมา

“มาสเตอร์เบเนียงเป็นมังกรใช่หรือไม่?”

ความเงียบชั่วขณะลงมาในห้อง

แกร๊ก

จากนั้นเบเนียงก็รีบลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้

เธอจ้องมองเฟรย์ด้วยดวงตาที่สั่นระริกและไม่สามารถซ่อนความกังวลของเธอได้

“นะ..นั่น...นั่น…”

เฟรย์มองเธออย่างใจเย็น

ไม่ใช่เพราะเสื้อคลุมแต่เฟรย์รู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาคือมังกรหรือเกี่ยวข้องกับมังกรซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขามีความรู้สึกที่ซับซ้อน

อย่างไรก็ตามเขาเริ่มสงสัยหลังจากเห็นปฏิกิริยาของเบเนียง มันเป็นอารมณ์ที่แสดงออกมามากเกินไปสำหรับเธอที่เป็นมังกร

"…ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้น?"

ดูเหมือนว่านี่เป็นสิ่งเดียวที่เบเนียงสามารถถามได้

เฟรย์อ้าปากช้าๆ

“มังกรไม่มีห้องมานา หัวใจมังกรเป็นแหล่งพลังที่ยอดเยี่ยมซึ่งช่วยให้คุณใช้มานาได้ทันทีโดยไม่ต้องดูดซับมันจากธรรมชาติ”

ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้มานารอบๆมังกรมี "คุณภาพ" ที่แตกต่างกัน มันเปลี่ยนไปเพื่อให้หัวใจของมังกรสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา

ด้วยเหตุนี้มังกรจึงสามารถหลีกเลี่ยงการร่ายเวทย์ได้

ยิ่งวิซาร์ดแข็งแกร่งมากเท่าไหร่พวกเขาก็จะสามารถรับรู้ข้อเท็จจริงนี้ได้ดีขึ้นเท่านั้น

สายตาของเฟรย์พบกับเบเนียง

“มาสเตอร์เบเนียงมีมานาที่โดดเด่นบริสุทธิ์และไร้การปรุงแต่ง”

“…ดูเหมือนว่าคุณจะรู้เรื่องเกี่ยวกับมังกรมาก คุณเคยเจอกับมังกรมาก่อนใช่ไหม?”

“นั่น…ไม่”

ในขณะนั้นเฟรย์เห็นแววแห่งความผิดหวังในดวงตาของเบเนียง

เธอถอนหายใจก่อนพูด

“โห! เอาละเนื่องจากคุณสังเกตเห็นมามากแล้วก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ… แต่ฉันถูกเรียกได้ว่าแค่ว่า 'ลูกครึ่ง'”

"ลูกครึ่ง?"

"ใช่"

เบเนียงพยักหน้าและวางมือไว้ที่หน้าอกของเธอ

“ฉันเป็นลูกครึ่งมังกร”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด