ตอนที่ 6 ประสบการณ์ใหม่สำหรับเธอ
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่านั่นคือคุณ...” ฉีโย่วประหลาดใจจริง ๆ
ถ้าเธอรู้ เธอคงไม่คลั่งไคล้เขาขนาดนั้นตอนอยู่ที่ผับ อีกทั้งยังกล้าซื้อเขาด้วยเงินหมื่น
เธอพูดเงียบ ๆ อย่างไร้เดียงสาพร้อมกับโค้งงอปากของเธอ ทำให้เหยาซื่อหัวเราะและเข้าใกล้เธอมากขึ้น ลมหายใจร้อนกระทบกับแก้มของเธอ
“ไม่เป็น มันเป็นความต้องการของฉันเอง”
ฉีโย่วตะลึงงัน
ซีอีโอที่ร่ำรวยและหล่อเหลา ทำงานแบบนั้นเป็นงานอดิเรกเหรอ เขาบ้าไปแล้ว?
คุณซีโน้มตัวไปหาเธอและถามว่า “แล้วคุณล่ะ? คุณจะจ่ายเงินค่านอนกับผมที่ค้างไว้ยังไง?”
“Alipay ได้ไหมคะ?” ฉีโย่วตอบอย่างไม่แน่ใจ
น่าแปลกที่ชายคนนั้นมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
“คุณบอกว่าคุณเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แต่คืนนี้ฉันไม่สนุกกับตัวเองเอาเสียเลย แล้วคุณก็ยังอยู่ในยูนิฟอร์ม..”
ฉีโย่วรู้สึกสับสนไปหมด เมื่อเธอถูกอุ้มขึ้น วางบนเคาน์เตอร์ เมื่อชายคนนั้นเข้ามาใกล้ เธอก็เครียดเสียงสั่น
“คุณ คุณจะทำอะไรค่ะ”
“ฉันจะมองประสบการณ์ใหม่ให้กับคุณไง” ชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ และลดศีรษะลงเพื่อจูบเธอ โดยใช้มือข้างหนึ่งจับศีรษะด้านหลังของเธอ เพื่อให้จูบได้ลึกขึ้น
ฉีโย่วจ้องกลับไปที่เขา
ชายคนนี้จูบเก่งมาก ในไม่ช้าฉีโย่วก็คลายตัวออกในอ้อมแขนของเขา ฝ่ามือกว้างสอดเข้าไปใต้กระโปรงแคบของเธอ พร้อมทั้งลูบไล้ไปทั่วต้นขาด้านในของเธอ
ฉีโย่วปลุกตัวเองให้ได้สติ จับมือเขา พยายามที่จะเอาชนะเขา น้ำเสียงของเธอนุ่มนวลและน่าสมเพช
“คุณช่วยอ่อนโยนหน่อยจะได้ไหม คุณคะ...เจ็บนะ!”
เธอหน้าแดงทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากของเธอ ช่างน่าอายเสียจริง! ชายคนนี้ยิ้มและจูบที่ริมฝีปากของเธอ
“โอเค ผมจะอ่อนโยน”
เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา ประตูที่ปิดสนิทก็เปิดออก ในที่สุดเหยาซื่อก็ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อยบนริมฝีปากของเขา หลังจากปิดประตูเขาเดินกลับมาที่นั่งของเขาราวกับว่าพอใจหลังเสร็จจากมื้ออาหาร
แต่ไม่กี่นาที หลังจากนั้นประตูห้องน้ำก็ค่อย ๆ แง้มเปิดออกมา
หลังจากยืนยันว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ ฉีโย่วจึงปรับกระโปร่งของเธอให้เรียบร้อย วิ่งออกไปพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ปลายทางเดินแม้จะดูหดหู่
หากถูกจับได้ เธอต้องจบอาชีพนี้เป็นแน่
เวลา 2 ทุ่ม เครื่องบนลงจอดที่สนามบินของปารีส
ฉีโย่วยืนยิ้มอยู่ที่ประตูห้องโดยสาร มองดูผู้โดยสารที่ลงจากเครื่องบินพร้อมกับพูดซ้ำ ๆ ว่า “ขอให้เดินทางปลอดภัยนะคะ”
เหยาซื่อเดินผ่านเธอไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทาขนาดเล็กของเขา พลางกระซิบ
“แล้วเจอกันใหม่ สัตว์ประหลาดที่น่ารักของฉัน”
ฉีโย่วตบมือของเขาออกไป ก้มหน้าลงแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไร
เธอไม่เคยอยากเจอเขาอีกเลย!!
เวลาเกือบ 3 ทุ่ม ฉีโย่วลากกระเป๋าเดินทางของเธอไปยังโรงแรมที่บริษัทจัดเตรียมไว้ให้ เธอเหนื่อยมากจึงปิดโทรศัพท์ อาบน้ำและเข้านอน
เช้าตรู่ของวันถัดไป เพื่อนร่วมงานของเธอมาเคาะประตูห้อง เพื่อลากเธอออกไปซื้อของ
เธอต้องการเอสเซ้นสักขวด เธอจึงเปลี่ยนชุดและแต่งตัวออกไปกับเพื่อน
ในเขตที่ 8 ของปารีส สวรรค์ของนักช้อป นักเดินทางต่างต่อคิวกันยาวเหยียดนอกร้านค้าแบรนด์หลัก จึงเป็นเวลาบ่ายแล้วที่ฉีโย่วซื้อของเสร็จ
เพื่อร่วมงานของเธอเป็น Daigou ด้วย (รับหิ้วสินค้ามาขาย) มีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายในรายการช้อปปิ้งของเธอ เธอเสียใจที่ลากฉีโย่วมาด้วยเป็นเวลานาน จึงบอกให้ฉีโย่วกับไปก่อนพร้อมกับกล่าวกับเธอว่า “ดูแลตัวเองนะ” และจากไป
เมื่อเธอเดินเข้ามาในโรงแรมเผอิญชนกับคนบางคน
ก่อนที่ฉีโย่วจะมีเวลาตอบโต้ อีกฝ่ายได้ฉกกระเป๋า Chanel ของเธอไป เธอพยายามยื้อยุดดึงสายกระเป๋า กระทั่งล้มลงฝ่ามือกระแทกเข้ากับก้อนหิน
“หยุดนะ ขโมย!” ฉื่อห่าวร้องเป็นภาษาอังกฤษ โดยไม่คำนึงถึงอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ก็เข้ามาช่วยเธอไล่จับขโมยเช่นกัน