ตอนที่ 10 นัดบอด
หลักจากหลีกเลี่ยงมาหลายต่อหลายครั้ง แม่ของฉีโย่วทำหน้าบึ้งใส่เธอ “เลือกมาสักคน ไม่งั้นก็ไม่ต้องกลับมาที่บ้านอีก! เธออยากจะหาเงินเหรอ ไปเลยสิ ฉันจะไว้วางใจให้แกดูแลฉันยามแก่เฒ่าได้อยู่ใช่ไหม? หะ!”
ฉีโย่วโค้งปากหยิบรูปถ่ายแล้วโยนโทรศัพท์ส่งให้แม่ของเธอ
“ฉันรู้ว่าแกเป็นเด็กดี ฉันจะช่วยเธอเอง” แม่ของเธอรับโทรศัพท์มาด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า ฉีโย่วกลอกตาของเธอจนเกือบจะเป็นบ้า
เวลา 10 โมงเช้าของวันอังคาร ณ ร้านคาเฟ่โซอัน
ฉีโย่วเข้าไปในคาเฟ่ พนักงานในร้านพาเธอไปยังที่นั่งในร้าน
ตรงข้ามเธอเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 27 ปี สวมแว่นตาเรียบร้อยและดูอ่อนโยน
เมื่อเชาเห็นฉีโย่ว ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “คุณฉีโย่วใช่ไหมครับ?”
ฉีโย่วพยักหน้าให้เขาและนั่งลง
ในฐานะที่เป็นร้านคาเฟ่ระดับไฮเอนด์ ผู้ชายคนตรงหน้ามองเมนูแล้วขมวดคิ้ว บ่นพึมพำว่าทำไมมันถึงแพงขนาดนี้ ทำให้มุมปากของฉีโย่วกระตุก
‘ผู้ชายคนนี้ดูดีอยู่เหมือนกัน แต่งก’
หลังจากสั่งเครื่องดื่มไปแล้ว เขาก็มองมาที่ฉีโย่วอีกครั้ง ด้วยความประหลาดใจ
“คุณฉีโย่ว รูปถ่ายไม่ได้สวยเกินตัวจริงเลยนะครับ ผมได้ยินมาว่าคุณเรียนเอกวิชาการบิน และเป็นแอร์โฮสเตสด้วย”
“คุณหลินพยักหน้าและพูดว่า”แต่ผมไม่ชอบงานขอบพวกคุณเลย ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย หากคนรักต้องเดินทางและอยู่ไกลกันบ่อย ๆ คุณพอจะลาออกและหางานธุรการแทนจะได้ไหมครับ?”
“..”
“ผมไม่มีบ้าน ปัจจุบันอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านเดิม หลังจากแต่งงานกันแล้ว ผมหวังว่าแม่จะดูแลทุกอย่างรวมถึงเงินของเราด้วย”
จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่เสื้อผ้าของฉีโย่ว “เงินเดือนของผมอยู่ในระดับดีก็จริง แต่ผมเป็นคนมัธยัสถ์ คุณควรระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายหลังแต่งงานจะดีกว่า”
ปากของฉีโย่วกระตุก
เธออยากจะยกแก้วกาแฟที่ส่งมาให้เธอแล้วโยนใส่หน้าคุณหลิน!
เขาเริ่มจู้จี้จดจ่ออยู่กับตัวเอง และครอบครัวของเขา ในเวลาที่ฉีโย่วนั่งลง ยอมรับเลยว่าเธอพูดไม่ออกจริง ๆ
ฉีโย่วพยายามยิ้มต่อไปถามเบา ๆ “คุณหลิน แล้วคุณมีรายได้เท่าไหร่ต่อเดือน”
“ผมทำงานราชการ หลังจากหักค่าประกัน 5 อย่างและ 1 กองทุน ผมมีรายได้ หกพันหยวนทุกเดือน” คุณหลินกล่าวด้วยความภาคภูมิใจพลางดันแว่นของเขาเข้ากับดั้งจมูกของเขา
“หกพันเหรอ?”
“คุณล้อเล่นหรือเปล่าคะ...?”
เมื่อฉีโย่วกำลังถอนหายใจว่ามาจากไหน คุณหลินกล่าวต่อว่า
“คุณฉีโย่ว คุณยังบริสุทธิ์อยู่ใช่ไหมครับ? ผมเป็นคนหัวโบราณสักหน่อย และผมค่อนข้างจะทนไม่ได้ที่คู่รักด่างพร้อย ผมเคยมีแฟนมาแล้ว 2 คน แต่ก็เป็นประสบการณ์ก่อนแต่งงานเพียงเท่านั้น”
ฉีโย่วจ้องมองเขา “คุณไม่ แล้วทำไมคนต้องเป็นอย่างคุณด้วยล่ะ?”
“หืม คุณไม่บริสุทธิ์แล้วเหรอ?” หน้าของคุณหลินมืดมนอย่างห่างเหิน
“คุณจะไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไง?”
ฉีโย่วยิ้มและเบื่อ เธอกัดฟันแน่น “คุณหลิน ฉันคิดว่าอาหารมื้อนี้คงต้องจบลงตรงนี้แล้วล่ะค่ะ”
เธอหยิบเงินหลายร้อยหยวนออกจากกระเป๋า วางไว้บนโต๊ะ ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินออกไป
ในขณะที่เธอลุกจากที่นั่ง จีหมานชิงผลักประตูเข้ามาในร้านแบะเดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง จีหมานชิงมองเธอแวบหนึ่งและเดินเข้ามาหา
“โย่วโย่ว โลกกลมจังเลย” จีหมานชิงยืนอยู่ตรงหน้าฉีโย่วที่สวมรองเท้าส้นสูง
ฉีโย่วเงยหน้าขึ้นมองเธอและยิ้มเล็กน้อย “อ่าใช่ หลีกทางหน่อยหน่อย ฉันจะออกไปน่ะ”
“มาสิ!” จีหมานชิงจับแขนเธอเข้ามาอย่างใกล้ชิดและยิ้ม “มาทานข้าวด้วยกันก่อน จะได้คุยกันด้วย เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ”
เมื่อหันไป ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นใครบางคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอก่อนหน้านี้ จึงแปลกใจ
“เอ๊ะ นี่เพื่อนของเธอเหรอ?”ย่วกระตุก
องงเรื่องการใช้จ่ายหลังแต่งงานจะดีกว่าังว่าแม่จะด