ตอนที่แล้วEp.834 - เผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา : อสูรโลหิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.836 - สมรภูมิธารโลหิต

Ep.835 - ชาวประมงฉิน


3/4

Ep.835 - ชาวประมงฉิน

หนึ่งคือเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาอสูรโลหิต เมื่อเทียบกับสถานการณ์ของสัตว์เทวะแล้ว มันได้เปรียบทั้งในเรื่องเวลาและสถานที่

อีกหนึ่งคือการดำรงอยู่ระดับสัตว์เทวะเลเวล A เมื่อทั้งสองเข้าห้ำหั่นกัน ทั้งสวรรค์และปฐพีก็ถูกโยนลงสู่ความวิปโยค

สัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนได้รับผลพวงจากแรงปะทะ ซากศพกระจัดกระจายไปทั่วสนามรบ

สัตว์ร้ายทยอยกันตกตายลง สัตว์เทวะไม่สามารถคุ้มครองพวกมันได้ สภาพแวดล้อมดังกล่าว ทำให้การต่อสู้ระหว่างทั้งสองดูเข้มข้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ คนของสหภาพสาธารณรัฐแอฟริกาเหนือ ไม่ต่างจากมดตัวเล็กๆที่ก้าวเข้าสู่สนามรบ พวกเขากริ่นเกรงหวาดกลัว หวั่นว่าอีกฝ่ายจะใช้เท้าเพียงข้างเดียวเหยียบย่ำตนจนตาย ไหนจะต้องคอยหลบเลี่ยงการโจมตีไม่คาดฝันจากรอยแยกมิติอีก

เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว บนเรือเหาะกลุ่มเฟิงหลี ไม่ได้เกิดความตื่นตระหนกแต่อย่างใด เหล่าสมาิกยังคงประจำการอยู่ในจุดเดิม ทำภารกิจของตนเองอย่างจริงจัง นั่นเพราะพวกเขาเชื่อสุดใจ ว่าผู้นำของตน มีความสามารถปกป้องพวกเขาได้

การต่อสู้ระหว่างอสูรโลหิตกับสัตว์เทวะที่ครอบครองอบิลิตี้สองประสาน(ดิน,ไฟ) เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สัตว์ร้ายส่วนใหญ่จบชีวิตลงแล้ว เลือดยิ่งนานยิ่งเจิ่งนอง ความแข็งแกร่งของอสูรโลหิต ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

สัตว์เทวะสองประสาน ยิ่งสู้พละกำลังยิ่งถดถอย ประเด็นก็คือเลือดน่ะประกอบไปด้วยน้ำ ดังนั้นสามารถใช้ดับเปลวไฟได้

“ได้เวลาแล้ว!” มุมปากของฉินเฟิงยกสูง ประดับรอยยิ้มบนใบหน้า

นกปากซ่อมกับหอยกาบวิวาทกัน ฉินเฟิงฉวยโอกาสสวมบทชาวประมงเก็บเกี่ยวผลกำไร!

ฉินเฟิงก้าวออกจากเรือเหาะอีกครั้ง จากนั้น เริ่มปลุกเร้ารูนจากในจักรวาลแห่งจิตสำนึก ชี้หนึ่งนิ้วไปยังจุดที่ไกลออกไป

เมฆดำทะมึนน่าหวาดกลัว ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า ขยับขยายความมืดมิดออกไปโดยรอบ ปกคลุมทั่วบริเวณในระยะ 1,000 เมตร โดยมีจุดกึ่งกลางคือพื้นที่ราบที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นโดยสัตว์เทวะ

ใต้เรือเหาะ หน้าผากของคลิฟส์ขมวดเข้าหากันแน่น เนื้อตัวรู้สึกอึดอัดไม่สบายไปหมด

ก็อย่างว่า แสงสว่างและความมืดมักข่มกันและกัน ยามปลดปล่อยอบิลิตี้แสง ฝั่งอบิลิตี้มืดรู้สึกอึดอัดมากแค่ไหน ยามปลดปล่อยอบิลิตี้มืด ฝั่งอบิลิตี้แสงก็รู้สึกอึดอัดเท่านั้น

ฉินเฟิงปลดปล่อยอบิลิตี้มืดออกมา ผู้ใช้ธาตุแสงอย่างคลิฟส์ย่อมรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว แต่เวลานี้เขาจำเป็นต้องพึ่งพิงฉินเฟิง เลยได้แต่อดกลั้นเอาไว้

กระนั้น การยอมลดตัวเช่นนี้ ส่งผลให้ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว รู้สึกอับอายนัก

ฉินเฟิงไม่สนใจความคิดของคนที่อยู่ข้างล่าง หลังจากเมฆดำขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น เม็ดฝนสีดำก็โปรยปรายลงทันที

เม็ดฝนนี้ ไม่ต้องสงสัยเลย ว่ามันคือเทคนิคสายฝนแห่งการทำลายล้าง!

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันฉินเฟิงสามารถสั่งสมรูนมืดได้มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันยิ่งนานวันเขายิ่งแข็งแกร่งขึ้น ยกระดับอย่างต่อเนื่อง ทำให้เวลาอบิลิตี้นี้ถูกปลดปล่อยออกมา มันรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้เงื่อนไขในสภาพแวดล้อมแบบนี้!

“เขตแดนแห่งความมืด : หมื่นศพย่างกราย!”

เทคนิคธาตุมืดของฉินเฟิงถูกเปิดใช้งาน กำแพงซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของเขตแดนแห่งความมืดปรากฏขึ้นทันที

ซ่า … ซ่า …

ฝนสีดำโปรยปราย ตกลงบนซากศพนับไม่ถ้วน เปลี่ยนซากศพที่เนื้อหนังยังสดใหม่ กลายเป็นเปื่อยยุ่ย บ้างหลุดลอกจนเห็นลึกไปถึงกระดูกสีขาว เลือดสีแดงสด ถูกผสมปนเปื้อนกลายเป็นสีแดงดำ บางจุดถึงขั้นโดนชะล้าง  ถูกแทนที่ด้วยสีดำอันมืดมิด

คลิก คลิก คลิก คลิก คลิก

สัตว์ร้ายที่ตายไปแล้ว ทั้งหมดถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

“ไปเลย!”

ฉินเฟิงชี้นิ้ว เล็งไปยังทิศทางของอสูรโลหิต

“ก๊าซซซ!”

อสูรโลหิตโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมากในเวลานี้

เพราะสำหรับมัน อบิลิตี้นี้ของฉินเฟิง ถือเป็นมลพิษชนิดหนึ่ง

สิ่งที่มันต้องการคือเลือดสดๆเพื่อใช้เป็นพลังงาน รักษากำลังให้สามารถสู้ต่อไปได้ แต่ผลกระทบจากสายฝนแห่งการทำลายล้างของฉินเฟิง ทำให้เลือดเหล่านั้นไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป ไม่ต่างจากการทำลายแหล่งพลังงานของมัน

นี่เองที่ทำให้สัตว์ร้ายต่างมิติเดือดดาล บังเกิดความรังเกียจเดียดฉันท์ หันมาโจมตีเขา!

อสูรโลหิตถีบตัวขึ้นจากพื้นราบบนยอดเขา ทั้งคนทั้งร่างของมันลอยในอากาศ มุ่งหน้าตรงมายังทิศทางของฉินเฟิงด้วยความเร็วสูง

ด้วยความแข็งแกร่งของอสูรโลหิต มันได้ล็อคพลังสมาธิของฉินเฟิงไว้แล้ว และตระหนักว่าฉินเฟิงก็แค่ผู้ใช้พลังเลเวล B เป็นการดำรงอยู่ที่มันสามารถบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้หรือที่ฉินเฟิงจะอยู่เฉยให้มันเข้าประชิดตัว?

บนเรือเหาะ อีกร่างหนึ่งก้าวออกมา เธอคนนี้สวมชุดเดรสสีขาว ถือบอลเรืองแสงในมือ

--จะเป็นใครอื่นไปได้อีกหากไม่ใช่ไป๋หลี!

“มิติปิดล้อม!”

ไป๋หลีไม่ได้เปิดเทคนิคผนึกลูกบาศก์ แต่เลือกปิดกั้นมิติโดยตรง

รูนสีเงิน-เทานับไม่ถ้วนโผล่ออกมา ก่อตัวเป็นผ้าโปร่งหรืออาจมองเป็นหมอกก็ได้ กระจายคลุมล้อมยอดเขาทั้งลูก อสูรโลหิตและสัตว์เทวะอบิลิตี้สองประสาน ถูกกักขังเอาไว้ข้างใน

เวลานี้ ต่อให้อสูรโลหิตปรารถนาจักสังหารฉินเฟิงมากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถทำได้

ในตอนนี้ มันไม่เพียงถูกหุ่นเชิดแห่งความตายเข้าพัวพัน แต่สัตว์เทวะสองประสาน ก็ไม่ยอมปล่อยอสูรโลหิตหลุดมือไปเช่นกัน

“ลูลูลู---”

สัตว์เทวะคำรามเกรี้ยวกราด เรียกอุกกาบาตตกลงมา นี่คืออุกกาบาตจากเขตแดนปฐพี ร่วงตู้ม! กระแทกเข้าใส่ร่างของอสูรโลหิตอย่างโหดเหี้ยม เลือดเหลวบนตัวมัน ถูกทับจนผิดรูป

ทว่าเลือดเหล่านั้น แม้กระเซ็นออกจากร่างกาย แต่มันกลับไม่ถูกปนเปื้อนกับสายฝนแห่งการทำลายล้าง หรือตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฉินเฟิง ทว่าได้ถูกกลืนกินเข้าไปในท้องสัตว์ร้ายแทน นี่เทียบเท่ากับเป็นการช่วงชิงพลังงาน ไม่ยินยอมให้กลับคืนสู่ร่างของอสูรโลหิตอีกต่อไป

กลิ่นอายของอสูรโลหิต ยิ่งนานยิ่งอ่อนแอลง ในทำนองเดียวกัน สายฝนพรั่งพราว บ่อนทำลายพลังชีวิตของสัตว์เทวะสองประสานอย่างต่อเนื่อง แต่พวกมันทั้งสองยังคงต่อสู้กัน ไม่เผยเศษเสี้ยวความคิดที่จะร่วมมือกันเลย!

การต่อสู้นี้ ภายใต้การควบคุมโดยฉินเฟิงกับไป๋หลี ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับความพ่ายแพ้!

ฉินเฟิงควบคุมศพสัตว์ยักษ์ กระโจนเข้างับต้นคอของสัตว์เทวะที่หมดแรง

ขณะเดียวกัน สัตว์ร้ายอีกตัว กลืนกินอสูรโลหิตเข้าไปในท้องของมัน ถือเป็นการปิดฉาก สังหารอสูรโลหิตลงอย่างสิ้นเชิง

บนยอดเขา เหลือทิ้งไว้เพียงหุ่นเชิดแห่งความตายใหญ่ยักษ์หลายสิบตัวที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในเลเวล A ตามศพของพวกมัน เต็มไปด้วยบาดแผล หลายรอยเผยให้เห็นกระดูกสีขาวๆ ยิ่งขับหนุนให้ดูน่าหวาดกลัวเป็นพิเศษ

“กระบวนท่าวรยุทธ : พลุไฟสงคราม!”

ฉินเฟิงชักมีดกษัตริย์ครามออกมา ตัดกวาดในคราเดียว จากตำแหน่งที่อยู่ห่างออกหลายร้อยเมตร หุ่นเชิดแห่งความตายที่เพิ่งกลืนอสูรโลหิตเข้าไป ถูกผ่าเป็นสองซีกทันที

ฟัฟฟฟฟ!

หุ่นเชิดแห่งความตายแยกออกเป็นสองส่วน หัวใจของมันถูกเผยออกมา แต่ที่น่าตกใจก็คือ สัตว์ร้ายที่แม้ตายไปแล้วทั้งยังถูกเชิดด้วยอบิลิตี้มืด เวลานี้หัวใจของมันกลับทะลักออกมาด้วยเลือด อีกทั้งหากสังเกตดีๆจะพบว่ามันเต้นอยู่

พลังสมาธิของฉินเฟิง ตรงเข้าควบคุมหัวใจนั้นทันที หินสีเลือดที่มีขนาดเท่าลูกบาสเกตบอล ลอยออกมา หินก้อนนี้ใสแจ๋ว แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของชีวิต

“ผลึกโลหิตเป็นของดีจริงๆ!”

ในชีวิตเก่าของฉินเฟิง แม้เขาเป็นถึงหนึ่งในผู้ได้รับสมญาว่าราชา แต่ด้วยคุณสมบัติที่มี ยังไม่มากพอที่จะได้ครอบครองผลึกโลหิตชิ้นใหญ่เช่นนี้ เพราะเกรงว่าอสูรโลหิตที่สามารถผลิตมันขึ้นมาได้ คงถูกสังหารตายไปหมดแล้วโดยผู้ใช้พลังเลเวล S !

แต่ตอนนี้ ผลึกโลหิตเลเวล A ซึ่งชัดเจนว่าเป็นสมบัติที่หาได้ยากเย็นยิ่ง กลับตกอยู่ในมือฉินเฟิง ลึกลงไปในจิตสำนึก ฉินเฟิงพบว่าพลังพิเศษของเขากำลังกระสับกระส่าย พร้อมจะเขมือบอีกฝ่ายทุกเมื่อ

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

ฉินเฟิงไม่ลังเลอีกต่อไป ระเบิดอบิลิตี้ติดตัวออกมา

พลังงานมหาศาล ทะลักออกจากผลึกโลหิต แม้ไม่มีอักษรรูน แต่เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตอันแข็งแกร่ง ตรงเข้าบำรุงร่างกายของฉินเฟิง ช่วยยืดอายุขัยของเขาให้ยาวนานกว่าเดิม จนเกรงว่ามันอาจจะเพิ่มขึ้นมากถึง 200 ปีเต็ม

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ อำนาจของพลังสมาธิอันทรงพลัง ยังถูกดูดซับเข้าไปในจักรวาลแห่งจิตสำนึกของฉินเฟิง

ซึ่งพลังสมาธินี้ มันคือพลังสมาธิของอสูรโลหิต!

ในฐานะที่เป็นเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา เสียงคำรามด้วยความโกรธของมันก่อนหน้านี้ สามารถทำให้ผู้ใช้พลังทุกคนยกสองมือขึ้นกุมหัวด้วยความเจ็บปวด ลองจินตนาการเอาเถอะ ว่าพลังสมาธิของมันมหาศาลขนาดไหน

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยระดับที่ต่างกันหลายขั้น เลยช่วยส่งเสริมให้ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงเพิ่มไปอีกขั้น

พลังสมาธิเริ่มไต่ระดับอย่างต่อเนื่อง

ตูมมม!

พลังสมาธิของฉินเฟิงตัดผ่านกำแพงอุปสรรคได้สำเร็จ มุ่งขึ้นสู่เลเวล B5!

ยังไม่จบง่ายๆ ผนึกโลหิตในมือของฉินเฟิงยังไม่หมดไป มันค่อยๆหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง

ตูมมม!

การบวนการยกระดับบังเกิดขึ้นอีกระลอก กลิ่นอายของฉินเฟิงเพิ่มพูนไปอีกขั้น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด