ตอนที่ 9 รถของประธาน
รอยยิ้มของหญิงชราจางหายไปในทันใด
การพัฒนาของตระกูล หวัง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้อย้างต่อเนื่อง เนื่องจากไม่มีผู้ที่มีอำนาจในตระกูล ที่เธอขอให้ เจียงเป่ยเฉิน มาที่นี่เพื่อที่จะดูว่า เจียงเป่ยเฉิน ได้มียศตำแหน่งสูงๆหรือไม่
แต่ผลที่ได้กลับทำให้เธอรู้สึกผิดหวัง
"เอาล่ะนั่งกันได้แล้วมาประชุมกันต่อเถอะ!"
หญิงชราโบกมืออย่าง ท่าทีของเธอต่างกับตอนแรกอย่างสิ้นเชิง
เจียงเป่ยเฉิน นั่งลงอย่างไม่สนใจ
“ที่เรียกทุกคนมาวันนี้ก็มีอีกเรื่อง คาดว่าหลายคนต้องเคยได้ยินมา หรงติ่ง เพิ่งประกาศโครงการ ชิวชุน ซึ่งจะเปิดประมูลสำหรับ บริษัท ชุดชั้นในทั้งหมดในเมืองหยุนไห่ในเช้าวันพรุ่งนี้แบรนด์ชุดชั้นในสองแบรนด์ของเราคือ ซือหยุ่น และ ซือเทียน ทั้งหมดจะเข้าร่วมด้วยดังนั้นฉันจึงวางแผนที่จะให้ เสี่ยวหวู่ และ เสี่ยวซู เข้าร่วมในการประมูลราคาครั้งนี้พร้อมกัน!”
หญิงชรามองไปที่ หวังเสี่ยวหวู่ และ หวังซู และพูดต่อ: "ฉันคิดว่าทุกคนรู้อยู่แล้วตอนนี้ฉันก็อายุมากแล้วฉันตัดสินใจแล้วว่าจะส่งมอบอำนาจให้กับรุ่นต่อไปและเงื่อนไขของผู้สืบทอดก็คือใครก็ตามที่ชนะในการเสนอราคาของ หรงติ่ง และได้ร่วมงานกับ หรงติ่ง จะเป็นผู้ชนะ และนี่ก็คือเงื่อนไขในการเลือกผู้สืบทอด! "
ว้าว! ทันใดนั้นมีเสียงตกใจก็ดังขึ้นมาทันที
การเลือกทายาทของหญิงชราเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องความรุ่งเรืองหรือการล่มสลายของตระกูลหวังในอนาคต เป็นปกติที่ทุกคนจะสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ
"คุณย่าไม่ต้องกังวลหลานชายของย่าจะชนะโครงการ หรงติ่ง ในครั้งนี้แน่นอน!"
หวังซูกล่าวอย่างตื่นเต้นดวงตาของเขาแสดงถึงความโลภและจ้องมองไปที่เก้าอี้ไม้ลูกแพร์ที่หญิงชรานั่งอยู่ เขารอวันนี้มานาน เขาฝันว่าอยากนั่งตรงที่นั่งที่หญิงชรานั่งอยู่
หวังเสี่ยวหวู่รู้สึกตื่นนิดหน่อยในตอนแรก แต่ในไม่ช้าก็สงบจิตใจได้ เงื่อนไขความร่วมมือกับหรงติ่งที่ใช้ในการเลือกบริษัทคู่ค้าด้วยนั้นเป็นที่รู้กันดีทั่วทั้งหยุนไห่ แม้ว่า ซือหยุ่น และ ซือเทียน จะค่อนข้างเป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมนี้ แต่ก็ยังห่างไกลจากแบรนด์ชั้นหนึ่ง เป็นเรื่องยากเกินไปที่จะชนะโครงการนี้และความเป็นไปได้ในการชนะการประมูลอาจกล่าวได้ว่ามีน้อยมาก
“หากโครงการนี้สำเร็จจะเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดของ หวังกรุ๊ป ของเราในปีนี้ ตระกูลหวังของเราจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งในหยุนไห่ ตอนนั้นฉันจะเป็นคนจัดงานเลี้ยงฉลองให้เธอเอง!”
หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ฉันจะรอฟังข่าวดีของพวกเธอ!"
เมื่อหญิงชราพูดจบเธอก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า "เอาละจบการประชุมเพียงเท่านี้!"
หลังจากงานหวังเสี่ยวหวู่และแม่ของเธอพร้อมกับเจียงเป่ยเฉิน ก็เดินมายังลานจอดรถ
"น่าอายและน่าเสียดายจริงๆที่เราต้องถูกขยะอย่างนายทำให้เราอับอ่าน เสียวหวู่ เธอจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอ? แม่คิดว่าเธอความไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนและหน่าเลยดีกว่าแม่ไม่อยากเจอไอ้บ้านี่อีก! "
เตวหยูหลาน กล่าวพร้อมกับนึกถึงความอับอายต่อหน้าคนอื่นๆในตระกูลหวัง
หวังเสี่ยวหวู่เม้มปากของเธอด้วยสีหน้าที่ยุ่งเหยิง แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ถอนหายใจและพูดว่า "ฉันว่าพรุ่งนี้ นายน่าจะมาเริ่มงานที่ บริษัม!"
แต่เดิมแล้เธอต้องการที่จะหย่ากับ เจียงเป่ยเฉินแต่พอเธอนึกถึงเรื่องที่เขาช่วยเธอจาก หวังซู ก่อนหน้านี้ก็ทำให้เธอใจอ่อนลงและรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
"อะไรนะ? เสี่ยวหวู่ เธอจะให้เจ้านี่ไปทำงานใน บริษัท จริงหรอ? "
"นี่เธอจะไม่หย่ากับมันหรอ? "
เตวหยูหลาน ไม่พอใจ : "ไม่! เสี่ยวหวู่ เธอต้องฟังนะเธอต้องไม่ใจอ่อนกับมันนะ ไม่งั้นมันจะลากเธอให้ล้มจมไปกับมันนะ! "
ในสายตาของ เตวหยูหลาน แม้ว่าลูกเขยของเธอจะไม่ใช่คุณชายหนุ่มใหญ่เหมือน เจียงซวนหยวย อย่างน้อยเขาก็ควรจะหล่อกว่านี้
"แม่ก็น่าจะได้ยินเกี่ยวกับการประชุมเมื่อครู่แล้วนะ พรุ่งนี้จะเป็นการประมูลราคาของ หรงติ่ง และฉันจะพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะชนะการเสนอราคาเพราะงั้นตอนนี้ฉันคงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะคิดเรื่องอื่นได้แน่!"
หวังเสี่ยวหวู่ กล่าวอย่างหมดหนทาง
"ถูกต้องใช่แล้ว! การประมูลของ หรงติ่ง เป็นเหตุการณ์สำคัญเธอไม่สามารถมองข้ามเรื่องนี้ไปได้!"
"เมื่อนายมาถึง บริษัท นายควรเริ่มจากระดับล่างจากการเป็น รปภ. ก่อน!"
หวังเสี่ยวหวู่ บอกกับ เจียงเป่ยเฉิน อย่างเย็นชา: "มีอย่างหนึ่ง นายไม่สามารถพูดกับฉันได้เมื่อนายมา บริษัท... " และคำว่า "สามี-ภรรยา" ก็ไม่สามารถพูดกับฉันได้"
ตอนนี้เจียงเป่ยเฉินโกรธขึ้นมานิดหน่อยเขากล่าวไปว่า
"พรุ่งนี้ฉันจะออกไปหางาน ถ้าหาไม่ได้ฉันค่อยไปหาเธอ!"
เจียงเป่ยเฉิน กล่าวเขาจะจัดการมันเอง จะให้เขาไปเป็น รปภ.งั้นหรอ?
หวังเสี่ยวหวู่ ขมวดคิ้วเธอคิดว่า เจียงเป่ยเฉิน ไม่ชอบทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
"ก็แล้วแต่นายแล้วกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ไปส่งแม่กลับก่อนแล้วกัน!"
หวังเสี่ยวหวู่ กล่าวอย่างไม่อดทน
“ไม่ต้องไปส่ง! ฉันจะนั่งแท็กซี่เอง!”
เตวหยูหลาน ตะโกนอย่างรวดเร็วจากนั้นก็วิ่งไปที่ด้านข้างของถนน
หวังเสี่ยวหวู่ ตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่งแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเธอเหลือบมองไปที่ เจียงเป่ยเฉิน และเดินไปที่ BMW 5 Series อีกด้านหนึ่งเพียงลำพัง
เจียงเป่ยเฉิน กลับไปที่วิลล่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการต้อนรับที่บ้านนี้ แต่พี่เลี้ยงของบ้านในฐานะคนรับใช้ก็ไม่กล้าที่จะไม่ทำอาหารให้เขา หลังจากรับประทานอาหาร เจียงเป่ยเฉิน ก็กลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน เตวหยูหลาน อยู่ที่ชั้นล่างดูเหมือนจะต้องการระบายความโกรธของเธอ เธอจงใจตั้งทีวีให้ดัง แต่มันก็ไม่มีผลอะไรกับเขาเลย
หลังจากปรับลมปราณในชั่วข้ามคืน เจียงเป่ยเฉิน ก็รู้สึกสดชื่น หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้วเขาก็ออกไปขับรถซานตาน่าตรงไปยัง บริษัท หรงติ่ง
บริษัท หรงติ่ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเป็นพื้นที่ที่พัฒนาขึ้นใหม่และยังเป็นย่านธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตมากที่สุดใน หยุนไห่ อาคารสูงหลายสิบเมตรตั้งตระหง่าสูงเสียดฟ้า ทำให้บรรยากาศในย่านนี้ไม่ธรรมดา
"นายกำลังทำอะไร? อย่าปล่อยให้เข้ามาโดยไม่มีบัตรผ่าน! "
เมื่อเขาขับรถไปที่ประตูเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหยุดเอาไว้ ถ้ามันเป็นการเรียกตรวจสอบตามปกติมันก็ดี แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจงใจทำให้เจียงเป่ยเฉินอับอาย หรงติ่ง เป็นหนึ่งใน บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดใน หยุนไห่ ที่จอดรถ บริษัท เต็มไปด้วยรถหรูและแม้แต่ราคาอย่างน้อยสุดก็เริ่มต้นที่ 100,000 ใครจะขับซานตาน่าที่กำลังจะถูกทิ้งมาทำงานหรือทำธุรกิจ?
การปล่อยให้ซานตาน่าเข้าไปนั้นส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กรจริงๆ! พวกเขาอาจจะโดนต่อว่าโดยหัวหน้าของเขาได้
แต่โชคดีที่ เจียงเป่ยเฉิน โทรหา จางเหมี่ยว โดยตรงและหลังจากนั้นไม่นานผู้หญิงในชุดทำงานดูดีก็ปรากฏตัวจากข้างใน
ด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยและผิวของเธอขาวราวกับหิมะบวกกับชุดลำลองที่รัดรูปสะท้อนให้เห็นถึงรูปร่างของเธออย่างชัดเจน เสื้อด้านในของเธอนั้นเป็นลายลูกไม้สีชมพูช่วยขับให้ผมยาวสีดำของเธอดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
“ผู้จัดการจาง!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองเห็นเธอและพวกเขาทักทายด้วยความเคารพ
จางเหมี่ยว เป็นเลขาของประธานและยังดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการแผนกการลงทุน ตำแหน่งของเธอใน บริษัท ไม่ได้ต่ำ
“เมื่อกี้คุณเห็นรถของประธานเข้ามาหรือเปล่า?”
จางเหมี่ยว มองไปรอบ ๆ สักครู่และอดไม่ได้ที่จะถาม
"ประธาน?"
รปภ. สองคนมองหน้ากันแล้วส่ายหัวพร้อมกัน
เขาไม่เห็นรถของประธานมีเพียงซานตาน่าเก่าๆเท่านั้น!
ปีบปี๊! ในตอนนี้รถซานตาน่าก็บีบแตรและทั้งสามคนก็สะดุ้งทันที จางเหมี่ยว หันหน้าไปทางเขาด้วยความรำคาญและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งโผล่หัวออกมาจากหน้าต่างรถ "เธอคือ จางเหมี่ยว ฉันชื่อ เจียงเป่ยเฉิน!"
"อ๊ะ! คุณคือ ... ท่านประธาน?"
ความโกรธของ จางเหมี่ยว หายไปในทันที แต่กลับกันเธอสับสนขึ้นมาเล็กน้อย เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ารถของประธานจะเป็นซานตาน่า? นอกจากนี้ประธานคนใหม่นี้ยังดูเด็กเกินไป? มันเหนือจินตนาการของเธอก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง แต่เธอก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็วเพราะทั้งสองเคยคุยโทรศัพท์กันมาก่อนและเสียงของประธานที่เธอจำได้ก็ไม่น่าจะไม่ผิดพลาด
เพียงตะลึงเล็กน้อยเธอก็เผยรอยยิ้มหวานอย่างรวดเร็ว: "ท่านประธานยินดีต้อนรับสู่หรงติ่ง!"
ประธาน?
รปภ. สองผวา! ฉันไม่เคยเห็นประธานขับรถซานทาน่าเลย! และเขาก็ยังเด็กมาก
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนตกใจกลัว โชคดีที่ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ทำกิริยาหยาบคายออกไปไม่เช่นนั้นพวกอาจเขาจะถูกปลดออกทันที! "ท่านประธานไปตามถนนนี้ที่จอดรถของคุณอยู่ที่นั้นด้านในสุดครับ!"
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งรีบแสดงท่าทีด้วยความเคารพทันที
เจียงเป่ยเฉิน พยักหน้า "จางเหมี่ยว เข้าไปก่อนและส่งข้อความถึงผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดฉันจะเรียกประชุมคณะกรรมการภายในครึ่งชั่วโมง!"
"ประธานฉันจะแจ้งให้ทุกคนทราบโดยทันที!"
จางเหมี่ยว ยิ้มและพยักหน้าจากนั้นหันกลับและส่งข้อความทันที
ที่จอดรถของประธานหาง่ายมากมันเป็นช่องจอดพิเศษมีพื้นที่กว้างขว้างหลายสิบเมตร
ทุกคนที่ หรงติ่ง รู้ดีว่านี่คือที่จอดรถเฉพาะสำหรับประธาน แม้ว่าที่จอดช่องอื่นๆอาจจะเต็ม แต่ทว่าก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะจอดรถในช่องจอดรถของประธาน
แต่วันนี้กลับมีซานตาน่ามาจอด!!
"นั้นใครน่ะ?"
"เขาไม่รู้กฏหรอ?"
"เขากล้ามาจอดรถที่ช่องหมายเลข 1 ได้ยังไง? "
“เขาคงมาสัมภาษณ์ใช่มั้ย? ทำไมไม่รู้จักกฏเลย!”
"ฮ่าฮ่า เขาไม่จำเป็นต้องไปสัมภาษณ์แล้วแหละ เขาคงจะถูกจับโดนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วถูกจับโยนออกไปแน่นอน!"
ในเวลานี้ผู้คนส่วนใหญ่มาทำงานและบางคนก็มาสัมภาษณ์ที่ หรงติ่ง และก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับฉากนี้ แต่หลังจากที่ เจียงเป่ยเฉิน จอดรถก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังมาไม่ไกล
“เจียงเป่ยเฉิน?”
เจียงเป่ยเฉินผงะไปชั่วขณะ แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นจางซินหรานที่นี่
แต่เมื่อวานเขาได้ยินจางซินหรานพูดว่าแฟนของเธอเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของหรงติ้งจึงไม่น่าแปลกใจที่จะมาที่นี่
เจียงเป่ยเฉิน เพียงแค่พยักหน้าและไม่พูดอะไร
แต่จางซินหรานถามอย่างสงสัย: "นายมาสัมภาษณ์ด้วยเหรอ?"
"แต่ฉันได้ยินแฟนบอกว่าพวกเขาไม่จ้างรปภ. แล้ว!"
จางซินหรานกล่าวด้วยสีหน้าติดตลกอีกครั้ง