ตอนที่ 7 เช็คเงินสดสิบล้าน
"ห้าปีที่ผ่านมาฉันก็ยังสามารถเหยียบนายไว้ใต้เท้าฉันได้เหมือนเดิม!" คำพูดนี้ส่งผมกระทบอย่างแรงกับ หลี่ลี่เว่ย มันถูกสลักลงไว้ในใจของ หลี่ลี่เว่ย มาจนทุกวันนี้ บรรยากาศขณะนี้ส่งผลให้หลายๆคนไม่กล้าที่จะหายใจแรงด้วยซ้ำ
อ่อร่าจากคำพูดของ เจียงเป่ยเฉิน ที่พวกเขาสัมผัสได้นั้นมันช่างรุนแรงและน่ากลัวมาก มากกว่านายน้อยเจียงของตระกูลเจียงสะอีก ก่อนหน้านี้เขาปกปิดมันไว้อย่างดี ไม่มีใครสังเกตุหรือสัมผัสได้เลย
"เป่ยเฉินพอเถอะพวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ!"
"ใช่เป่ยเฉิน หลี่เว่ยไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร!"
หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เจียงเป่ยเฉินพูดกลุ่มเพื่อนก็พากับปรับคำพูดและขอร้องให้เจียงเป่ยเฉินปล่อยหลี่ลี่เว่ยไป
หลี่ลี่เว่ย ลุกขึ้นยืน ในขณะที่ใบหน้าของเขายังคงแขวนไว้ด้วยความหวาดกลัว เขารู้สึกราวกับว่าเขาถูกจ้องมองด้วยสัตว์ร้ายกระหายเลือด
"หลิวฮาวไปกันเถอะ!"
เจียงเป่ยเฉินเรียกหลิวฮาว ในเมื่องานเลี้ยงเป็นแบบนี้ไปแล้วเขาก็ไม่มีเหตุผลให้อยู่ต่อ
ทุกคนต่างมองหน้ากัน
"ลี่เหว่ยนายเป็นไงบ้างต้องไปโรงบาลหรือเปล่า?"
เหล่าหญิงสาวถาม
"ไม่จำเป็น!"
หลี่ลี่เว่ยบอกปัด “ไอ้บ้านั้น ให้ตายเหอะมันแค่ไปเป็นทหารมาสองสามปีแค่เก่งนิดหน่อยมาทำหยิ่งหรอ? แล้วยังไงละสุดท้ายก็จนเหมือนเดิม?”
ถุย! หลังจากที่ เจียงเป่ยเฉิน ออกจากห้องไปแล้ว หลี่ลี่เว่ย ถ่มน้ำลายลงพื้นทันที
จางซินหรานส่ายหัว นี้เขาโตขนาดนี้แล้วยังจะใช้กำลังอีกหรอ?
นี้มันไร้ค่าจริงๆ! หลังจากที่ เจียงเป่ยเฉิน กับ หลิวฮาว เดินออกจากคลับเฮาส์ หลิวฮาว ก็เริ่มร้องไห้ขึ้นมา
“เอาละ เอาละ พอแล้ว ก่อนหน้านายอยากได้คนมาเซ็นสัญญาสินะ?”
"ฉันจะหาคนมาเซ็นสัญญาให้นายเอง! "
เจียงเป่ยเฉิน สายหัวและพูดออกมา
หลิวฮาว ตะลึงคิดว่า เจียงเป่ยเฉิน ล้อเล่น
เจียงเป่ยเฉิน หยึบโทรศัพท์โทรหา จางเหมี่ยว
"สองอย่าง!"
คำพูดของ เจียงเป่ยเฉิน ยังคงกระชับเช่นเดิม "หนึ่งพรุ่งนี้จะมีเพื่อนของฉันชื่อ หลิวฮาว ไปที่ บริษัท และเธอจะต้องเซ็นสัญญากับเขา!"
"อย่างที่สองให้ฉันถามเธอหน่อยมี บริษัท ที่เราได้เจรจาเกี่ยวกับการร่วมมือเมื่อเร็ว ๆ นี้เปล่า ที่มีผู้อำนวยการชื่อหลี่ลี่เว่ย"
"ท่านประธานเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท ชื่อ จิงเหมา ต้องการให้เราลงทุนด้วยและผู้ที่รับผิดชอบคือ หลี่ลี่เว่ย!"
จางเหมี่ยว ตอบอย่างเคารพ
"ดี! จากนี้ไปยุติความร่วมมือกับ บริษัท จิงเหมา ทันที!"
เจียงเป่ยเฉิน พูดเสร็จและวางสายโทรศัพท์
หลิวฮาว ตะลึง
"พี่เจียงคุณ ... "
เจียงเป่ยเฉิน ตบไหล่ หลิวฮาว: "ลูกผู้ชายไม่ควรร้องไห้นะ ยิ่งเป็นการคุกเข่ายิ่งแล้วใหญ่เลย เอาล่ะกลับบ้านเถอะ พรุ่งนี้นายไปที่ หรงติ่ง จะมีคนมาเซ็นสัญญากับนายเอง! "
หลังจากที่เจียงเป่ยเฉินพูดจบเขาก็เดินจากไป
หลิวฮาว ยืนนิ่งไปทันทีพร้อมกับจ้องไปที่แผ่นหลังของ เจียงเป่ยเฉิน
‘ฉันว่าพี่เจียงดื่มมากเกินไปหรือเปล่านะ’
‘พี่เจียงจะบอกให้ฉันไปเซ็นสัญญาที่หรงติ่งพรุ่งนี้จริงหรือ?’
‘นั่นเป็น บริษัท ที่ใหญ่ที่สุด! ฉันฟังผิดแน่ๆเลย! ’
หลังจากนั้นในห้องส่วนตัว หลี่ลี่เว่ย เพิ่งดูและรักษาบาดแผลของเขาเสร็จ ทันใดนั้น บริษัท ของเขาก็โทรมาและโดยเจ้าของหมายเลขนั้นคือ หวังหมิง ประธานบริษัทในฮ่องกง เขาก็ตกใจมากและรีบบอกทุกคนว่าเขาต้องการคุยโทรศัพท์เงียบๆ
"ครับ? ประธานทำไมคุณโทรมาด้วยตนเอง? "
หลี่ลี่เว่ย กล่าวอย่างระมัดระวัง
"แกเป็นบ้าอะไร แกไปทำอะไรไว้ห๊ะ คู่ค้าของเราหรงติ่ง ยกเลิกสัญญากับเราไป แล้วแกคิดว่าฉันควรโทรหาแกไหมละ!"
หวังหมิงเดือดดาล
"ว่าไงนะ? ยกเลิกสัญญา? เป็นไปได้ไงก็พวกเขารับปากแล้วนิ! "
หลี่ลี่เว่ยเหงื่อแตกและตอบกลับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
" งั้นแกก็ต้องถามตัวเองแล้วไปทำไรไว้?"
"ไอ้เวรเอ๋ยไปมีเรื่องกับใครไม่มี ดันไปมีเรื่องกับประธานของหรงติ่ง ฉันอยากจะฆ่าแกจริงๆ! "
หรงติ่ง นับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทที่ต้องการมาเปิดตลาดในประเทศ มันมีความสำคัญอย่างมาก หวังหมิง ที่อยู่ในฮ่องกงแทบรอไม่ไหวที่จะจัดการ หลี่ลี่เว่ย ด้วยตัวเองในตอนนี้!
“ผมทำให้ประธานหรงติ่งไม่พอใจ?”
หลี่ลี่เว่ย รู้สึกสับสนทันที เขาระวังตัวอย่างมากเมื่อเขาทำงาน เขาจะไปกล้าทำอะไรให้ใครไม่พอใจได้นับประสาอะไรกับประธานของหรงติ่ง มีเพียงคนเดียวที่เขามีเรื่องเมื่อไม่นานมานี้คือ...
เมื่อนึกถึงตรงนี้ดวงตาของหลี่ลี่เว่ยก็เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?
"หลี่ลี่เว่ย ไม่ว่าแกจะใช้วิธีอะไรก็ตาม ก็ต้องแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้ ไม่งั้นแกก็เตรียมเก็บข้าวเก็บของรอโดนฉันถีบแกออกจากบริษัทได้เลย! "
หวังหมิงตะโกนใส่โทรศัพท์
"ครับท่านประธานผมจะรีบดำเนินการทันทีครับ!"
หลี่ลี่เว่ย วางสายเขารู้ได้เลยว่าตัวเขาตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงือ
“ลี่เว่ยมีอะไร? เกิดอะไรขึ้นหรอ?”
มีหลายคนสังเกตุถึงความผิดปกติและถามเขา
"ฉันต้องไปก่อน! วันนี้ฉันมีธุระด่วนขอตัวก่อนนะ!"
หลี่ลี่เว่ย รีบพูดและจากไปอย่างรวดเร็ว
เขารีบออกมาด้านนอกและบังเอิญเห็นหลิวฮาวกำลังจะขึ้นแท๊กซี่ออกไป
"หลิวนายเห็นคุณเป่ยเฉินไหม"
หลี่ลี่เว่ย รีบไปขว้างและหยุด หลิวฮาว ไว้
“ว่าไง? ยังโดนขวดเบียร์ไม่พอใจหรอ?”
หลิวฮาว หัวเราะเยาะ
"เขาอยู่ที่ไหน!"
หลี่ลี่เว่ย ร้อนรน
"ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำไปมันผิดกับนายและฉันไม่รู้ว่าเป่ยเฉินเขาจะมีอำนาจขนาดนั้น เขาเป็นถึงประธานของหรงติ่ง ถ้าฉันรู้มาก่อนฉันจะไม่กล้าที่จำทำอะไรเขาเลย ฉันมาตามหาเขาเพื่อที่จะขอโทษ ในสิ่งที่ฉันทำไปเมื่อกี้! "
"นะ นายว่าไงนะ"
หลิวฮาว ตะลึงไปในทันที
ในตอนนี้เขาเข้าใจทั้งหมดแล้ว
เมื้อกี้เขาคิดว่าพี่เจียงเมาเกินไปแล้วเพ้อ แต่ที่พี่เจียงพูดมันเป็นความจริง พี่เจียงไม่ได้ดื่มมากเกินไป
ทั้งสองคนขึ้นไปบนแท็กซี่ หลัวฮาว รีบบอกให้คนขับขับตามไปยังทิศทางที่เขาบอก ผ่านไปครึ่งทางเขาก็พบ เจียงเป่ยเฉิน
ตุบ!
“พี่เฉินผมผิดไปแล้วได้โปรดให้โอกาสผมยกโทษให้ผมให้เถอะครับอย่างยกเลิกสัญญากับเราเลย ไม่งั้นความพยายามที่ผ่านมาบอกบริษัทผมจะสูญเปล่า!”
หลี่ลี่เว่ยคุกเข่าบนถนน
ตอนนี้เขาเสียใจมาก
ถ้าเจียงเป่ยเฉินไม่ให้อภัยเขา เขาไม่เพียงแค่จะตกงานเท่านั้น แต่สายงานทั้งหมดก็จะไม่ให้โอกาสเขาเข้าทำงานแน่นอน เขาจะทำได้เพียงแค่เปิดร้านขายอาหารเท่านั้น
เจียงเป่ยเฉิน ขมวดคิ้ว
"ลุกขึ้น!"
"ไม่พี่เฉิน ถ้าคุณไม่ให้อภัยผมจะไม่ยอมลุก!"
หลี่ลี่เว่ยยังคงยืนยันคำเดิม
เจียงเป่ยเฉินถอนหายใจในเมื่อเพื่อนของเขายอมรับความผิดผลาดแล้วเขาก็ควรที่จะให้โอกาสสักครั้ง! "โอเคฉันตกลง นายลุกขึ้นมาได้ละ!"
เจียงเป่ยเฉิน โบกมือ หลี่ลี่เว่ย ก็ลุกขึ้นอย่างสั่นเทา
“พี่เฉินเรากลับไปดื่มกันต่อไหม?”
"ผมจะเลี้ยงคุณเอง? "
หลี่ลี่เว่ย ถามอย่างระมัดระวัง
"ไม่นายไปเถอะ อีกอย่างฉันไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ถึงสถานะของฉัน"
เจียงเป่ยเฉินบอก
"ผมเข้าใจแล้วครับ!"
หลี่ลี่เว่ย ยิ้มและจากไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ หลิวฮาว ก็เริ่มที่จะระมัดระวังคำพูดที่ใช้กับเจียงเป่ยเฉิน เพราะตอนนี้ด้วยสถานะและความต่างชั้นของเขากับเจียงเป่ยเฉิน
เจียงเป่ยเฉิน ยิ้มและตบไหล่เขา
“อย่าคิดมาก ฉันก็ยังเป็นฉันเหมือนเดิม!”
หลิวฮาว น้ำตาไหลทันที่ เขาพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว: "ครับพี่เจียง!"
…อีกด้านหนึ่ง บริษัท ซือหยุ่น
หวังเสี่ยวหวู่ร่างข้อตกลงการหย่าร้างกับทนายความอยู่และเมื่อใกล้เวลาเลิกงานเลขาของเธอก็ส่งเอกสารเข้ามาให้เธอ
"นี่คือ... "
"ประธานมีหญิงสาวสกุลจางนำมาให้ บอกว่าเข้านายของเธอต้องการมอบให้คุณ!"
เลขาตอบ
“เจ้านายของเธอ?”
หวังเสี่ยวหวู่ขมวดคิ้ว ล่าสุดที่เธอมีปัญหากับเฉินจื่อเฉ่า ก็ไม่มีบริษัทใดมาให้ความร่วมมือกับ ซือหยุ่น เลยเธอไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนส่งเอกสารนี้มา
หลังจากที่เลขาออกไปแล้วหวังเสี่ยวหวู่ก็เปิดเอกสารดู แต่เมื่ออ่านเนื้อหาในเอกสารนั้นเธอก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ จากนั้นเมื่อเธอเห็นตัวเลขบนเอกสารความประหลายใจยิ่งกว่าก็ปรากฏบนหน้าเธออีกครั้ง! สิบล้าน! หลังจากนั้นเธอก็โล่งใจด้วยเงินจำนวนนี้การประชุนคณะกรรมการครั้งนี้เธอก็ไม่ต้องกังวลใดๆแล้ว
เธอรีบทำใจเย็นแล้วตรวจเช็คที่เธอได้มา
ชื่อแปลก ๆ จางเมียว
หรือจะเป็นเจ้าหน้าที่การของบริษัทไหนสักที่ แต่เจ้านายของเธอคือใคร?
สิ่งแรกที่เธอนึกได้คือเฉินจื่อเฉ่า
เพราะเฉินจื่อเฉ่าเพิ่งจะมาพบเธอเมื่อเช้านี้เอง! การลงทุนของหรงดิ่งได้รับมาแล้วหรอ?
“นี่ของเฉินจื่อเฉาหรอ?”
หวังเสี่ยวหวู่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที
ถ้าเฉินจื่อเฉ่าแบ่งเงินจากหรงติ่งมาให้เธอจริงๆ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะต้องแบกรับความเสี่ยงขนาดไหน หากหรงติ่งรับรู้เขาอาจจะถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงได้เลย และบริษัทเขาจะเสียหายมากเลยด้วย
“คุณมาเพื่อช่วยฉันจริงๆหรอ?”
หวังเสี่ยวหวู่ถอนหายใจลึก ๆ แม้ว่าเธอจะไม่ได้รู้ักสนิทกับ เฉินจื่อเฉ่า มาก่อน แต่ในตอนนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะชื่อชมเขา
ก๊อก ก๊อก! ยูเฉียน เคาะประตูและเดินเข้ามา
"พี่สาวเสี่ยวหวู่มีโทรศัพท์จากสำนักงานใหญ่และประธานต้องการให้คุณเข้าพบทันที!"
"อ๋อ? คณะกรรมเริ่มประชุมตอนสองทุ่มไม่ใช่หรอ?"
หวังเสี่ยวหวู่รู้สึกประหลาดใจ
แต่ในทันทีเธอเข้าใจ ประธานของ หวังกรุ๊ป ซึ่งก็คือคุณยายของเธอกำลังจะสืบทอดสมบัติและจะมีการประกาศว่าหนึ่งในเธอหรือหวังซูลูกพี่ลูกน้องของเธอจะได้รับเลือกให้เป็นประธาน แม้ว่าซือหยุนของเธอจะเหนือกว่าซือเทียน แต่ย่าของเธอชอบหลานชายมากกว่าหลานสาวและมักจะเข้าข้างหวังซู และที่เรียกประชุมก่อนเวลานั้น 80% ต้องการที่จะกดดันเธอในเรื่องการหาทุน!
"โอเคฉันจะไปเตรียมตัวก่อน อีกสักพักฉันจะไป!"
หวังเสี่ยวหวู่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
"นอกจากนี้นะพี่เสี่ยวหวู่ประธานได้ยินว่าเจียงเป่ยเฉินกลับมาแล้วประธานต้องการให้คุณพาเขาไปด้วย!"
ยูเฉียนไม่พอใจและกล่าว
"อะไรนะ? ให้พาเขาไปด้วย? "
เมื่อหวังเสี่ยวหวู่ได้ยินคำพูดนี้เธอก็รู้สึกปวดหัวในทันที
‘ทำไมคุณยายถึงเรียกตัวตาบ้าเจียงเป่ยเฉินมาด้วยนะ?’