ตอนที่ 6 ต้องการเงิน
"ฉันออกจากทหารมาทำธุรกิจอยู่บ้านแล้ว!"
เจียงเป่ยเฉิน กล่าวเบา ๆ ทันทีที่เขาพูดออกมาสายตาของทุกคนก็แสดงความดูถูกมากขึ้น ในตอนแรกเจียงเป่ยเฉินเป็นบุตรชายที่ร่ำรวยและเขาถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ตอนนี้เขาเป็นแค่ทหารผ่านศึกที่ตกต่ำมีใครบ้างที่อยากจะสนใจเขา?
"เป่ยเฉินเนื่องนายไม่มีงานทำ ตอนนี้บริษัทฉันต้องการ รปภ นายสนใจมาทำไหมละ นายน่าจะถนัดนะ!"
หลี่ลี่เว่ย กล่าวด้วยน้ำเสียงดูถูก
"ถนัด?"
"ลี่เว่ยอย่าตลก นายเป็น บริษัท ฮ่องกงแม้แต่ รปภ. ก็ต้องพูดภาษาอังกฤษได้"
"เป่ยเฉินไปเป็นทหารก่อนที่เขาจะจบมัธยมปลายด้วยซ้ำฉันเกรงว่าเขาจะทำไม่ได้นะ! "
“ว่ากันว่าคนขายหมูล้วนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮ่าฮ่า!”
ทุกคนหัวเราะเยาะเย้ยเขายยกเว้น หลิวฮาว
“ยังไงก็ตามเป่ยเฉินคุณนายคงยังไม่ได้ลืมเรื่องนี้ใช่ไหม? ฉันจำได้ว่าซินหลานของเราชอบนายมากและเขียนจดหมายรักถึงนายด้วย!”
ในเวลานี้จู่ๆเพื่อนร่วมชั้นก็พูดถึงเหตุการณ์นั้น สายตาของทุกคนมองไปที่สาวสวยที่อยู่ข้างๆ สาวสวยนั้นเป็นผู้หญิงที่ไล่ตาม เจียงเป่ยเฉิน, จางซินหลาน
นับตั้งแต่ที่เจียงเป่ยเฉินเข้ามานั้นการแสดงออกของจางซินหรานก็ดูไม่เป็นธรรมชาติ ในขณะเดียวกันเธอก็แอบมองไปที่เจียงเป่ยเฉินบาง แต่ในขณะนี้เธอที่ได้ยืนคนอื่นๆพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้เธอก็หน้าแดงขึ้นมาทันที เธอเปรียบเสมือนดอกไม้ในชั้นเรียนแต่เธอก็ท้อแท้ในเวลาเดียวกันเพราะถูกเจียงเป่ยเฉินปฏิเสธมา แม้ว่ามันจะผ่านไปหลายปีแต่เธอก็ยังจำมันได้
"เฮ้ทำไมเมื่อก่อนพูดละ ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้วนะ!"
จางซินหรานยิ้มจากนั้นก็พูดออกมา
"และแฟนของฉันก็ดีมากและตอนนี้เขาได้กลายเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของ บริษัท หรงติ่ง!"
"ว้าวหรงติ่งนั่นเป็นบริษัทร่วมทุนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหยุนไห่!"
“ว่ากันว่าเงินเดือนที่แผนกต้อนรับของหรงติ่งเดือนละ 10,000 หยวน! แฟนของเธออยู่ในระดับผู้จัดการดังนั้นเงินเดือนต่อปีน่าจะหลายแสนใช่มั้ย?”
"ซินหลานแฟนของคุณเก่งมากเลยอายุน้อยและยังทำงานมีหน้ามีตาอีก!"
จางซินหลาน รู้สึกยินดีกับคำชมเช่นนี้และมองไปที่ เจียงเป่ยเฉิน ทันทีและหัวเราะเยาะ
"ฉันจะบอกให้หากจะมองหาใครสักคนให้มองคนที่มีความสามารถเหมือนแฟนฉัน แม้ว่าครอบครัวจะไม่มีฐานะแต่ก็สามารถลุกขึ้นมายืนได้ด้วยตัวเอง!"
"มันต่างจากบางคนที่ครอบครัวตกต่ำและไม่สามารถทำอะไรได้และสุดท้ายก็เป้นได้แค่ทหารเท่านั้น!"
จางซินหรานหัวเราะเยาะเย้ย
ทุกคนรู้ว่ามันหมายถึงใครและพวกเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะความดูถูกเหยียดหยาม หลิวฮาวมองเจียงเป่ยเฉินด้วยความกังวลแต่แล้วเขาก็โล่งใจเมื่อเห็นว่าเจียงเป่ยเฉินดูเหมือนจะไม่ได้สนใจมันเลย
ตอนนี้อาหารเสร็จแล้ว
หลี่ลี่เว่ย แสดงความร่ำรวยของเขาอีกครั้งเขาจัดชุดใหญ่ให้กับทุกคนและสั่งซื้อ Remy สองสามขวด
"ลี่เว่ยไม่เป็นไรจริงหรอนี่ขวดนึง 3,000 เลยไม่ใช่เหรอ?"
"เห้ยพวก ลี่เว่ย ตอนนี้เป็นผู้จัดการมีเงินเดือนปีละหลายแสนไวน์ไม่กี่ขวดนับเป็นอะไรได้!"
"มันยอดเยี่ยมมากเลย!"
เหล่าเพื่อนพากันผลัดกันชมเชย
หลี่ลี่เว่ยรู้สึกภาคภูมิใจในท่าทีของเพื่อนๆ เขาจึงพูดออกมาอย่างมีความสุขว่า "เฮ้ เร็วๆนี้ฉันได้รับมอบหมายงานบ้างอย่างถ้าทำสำเร็จฉันจะเป็นรองประธาน บริษัท ก็ได้! เงินเดือนปีละหนึ่งล้าน!"
“ตอนนั้นฉันจะชวนทุกคนมาสนุกกันอีกที่ water world!”
ดวงตาของทุกคนสว่างขึ้นทันตา water world คือคลับเฮาส์ชั้นนำในจิงโจว เป็นดังสวรรค์ของคนรวยที่ทุกคนต้องเคยได้ยินมาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะชมเชย หลี่ลี่เว่ย บรรยากาศก็คึกคักขึ้นมาทันทีและเริ่มเกมกัน มีเพียงแค่หลิวฮาว และ เจียงเป่ยเฉินที่ถูกทิ้งไว้ข้างๆ
ทั้งสองดื่มและคุยกัน หลิวฮาว เหม่อลอยและมองไปที่ หลี่ลี่เว่ย เป็นครั้งคราว เมื่อดื่มไปได้สักพักทาง หลิวฮาว ก็หยิบสัญญาจากกระเป๋าเอกสารและเดินไปหา หลี่ลี่เว่ย
"ลี่เว่ย... " เสียงของหลิวฮาว เบาลงเล็กน้อย หลี่ลี่เว่ยกำลังเล่นลูกเต๋าและไวน์กับใครบางคนและแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
"ลี่เว่ยที่ฉันบอกกับนายก่อนหน้านี้... " หลิวฮาว สกิดไหล่ของ หลี่ลี่เว่ย อีกครั้ง
"อาหลิวฮาวมีอะไร?"
"ก่อนหน้านี้นายบอกให้ฉันเรียกพี่เจียงมาแล้วจะเซ็นสัญญาให้ นี่สัญญา... "
"ทำไมนายรีบจัง จะให้ฉันเซ็นอะไรตอนนี้ดูหน่อยสิมันเหมาะสมมั้ย"
หลี่ลี่เว่ย ไม่เพียงยังไม่เซ็นให้กลับหัวเราะเยาะเย้น
"ถูกต้องหลิวฮาวฉันไม่ได้ขัดโอกาสในการทำธุรกิจนะ แต่ว่า ลี่เว่ย กำลังสนุกอยู่แล้วนายมาขอให้เขาเซ็นตอนนี้เนี้ยนะ? ฉันละเชื่อเลย! "
ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะ
"เฮ้อย่าพูดแบบนั้นเห็นฉันหลี่ลี่เว่ยเป็นคนอื่นคนไกลหรอ ฉันแค่ไม่สะดวก แต่ทุกคนคือเพื่อนกันถ้าช่วยได้ก็ต้องช่วย!"
จู่ๆหลี่ลี่เว่ยก็พูดขึ้น
"เพราะงั้นนายช่วยดื่มเบียร์บนแทนฉันโต๊ะให้หน่อยสิ!"
มีเบียร์มากกว่าสิบขวดอยู่บนโต๊ะ หลิวฮาว ลังเล
"ก็ได้ในเมื่อนายบอกฉันจะดื่ม!"
หลิวฮาวก็ยกเบียร์ทั้งหมดบนโต๊ะขึ้นมาซดทันที หลังจากดื่มจนหมดแล้วเขาก็มีอาการมึนยืนไม่อยู่เล็กน้อย
"ตอนนี้นายช่วยเซ็นสัญญาได้หรือยัง"
หลิวฮาว ถามอีกครั้ง
"ฮ่าฮ่า หลิวฮาว นายต้องรู้ว่าโครงการนี้ทำกำไรได้ดีแค่ไหนนายคิดว่าแค่นี้มันเพียงพอแล้วหรอ?"
มุมปากของ หลี่ลี่เว่ย โค้งขึ้น
"ลี่เว่ยนายหมายความว่าไงหรือต้องการให้ฉันดื่มอีก?"
หลิวฮาว ถามอย่างไม่แน่ใจ
"หลิวฮาวจู่ๆฉันก็นึกอะไรได้!"
ในเวลานี้หลี่ลี่เว่ยก็ตบมือของเขาและใบหน้าของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเย็นชา
"ก่อนหน้านั้นฉันไปเจียงเป่ยเฉินเพื่อชำระบัญชี แต่ก็ถูกหมาตัวนึงเตะฉันลงกับพื้น!"
“ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นมีนายด้วยสินะ”
หลี่ลี่เว่ย ดูเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
หลิวฮ่าวสะดุ้งตกใจใบหน้าของเขาดูซีดลงทันที หลายปีผ่านไปฉันไม่คิดไม่หวังว่า หลี่ลี่เว่ย จะจำมันได้
"เพราะงั้นตอนนี้นะ นายต้องคุกเข่าและขอโทษฉันสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นและฉันจะเซ็นให้นาย!"
"นายทำได้มั้ย?"
จู่ๆหลี่ลี่เว่ยพูด
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดทุกคนก็ตกใจแม้แต่สาวๆที่ร้องเพลงอยู่ ก็หันมาสนใจเรื่องนี้ ทันใดนั้นสายตาของเขาก็หันไปที่ เจียงเป่ยเฉิน อีกครั้ง ความคับแค้นใจระหว่างทั้งสองเป็นที่รู้กันดีสำหรับทุกคน หลังจากทำให้เจียงเป่ยเฉินอับอาย ท้ายที่สุด หลิวฮาว ที่เป็นเพื่อนของ เจียงเป่ยเฉิน ก็ถูกบังคับให้คุกเข่าด้วยเช่นกัน
‘แล้วทางเจียงเป่ยเฉินละเป็นไง?’
แต่เจียงเป่ยเฉินกลับนั่งสบายใจจิบไวด์อยู่บนโซฟาโดยไม่พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ
"ลี่เว่ยเราทั้งคู่ยังเด็กและตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากมายนายยังจะติดใจหรอ?"
ใบหน้าของ หลิวฮาว น่าเกลียดมาก สมัยก่อนเขาเป็นเพียงวัยรุ่นและเป็นเรื่องปกติที่จะมีเรื่องแบบนี้
"หลิวฮาว เพื่อนก็ส่วนเพื่อนนี่มันโลกของธุรกิจนายต้องรู้ว่ามันก็เป็นแบบนี้มันมีราคาที่นายจะต้องจ่ายเพื่อให้ได้ของที่ต้องการ!"
หลี่ลี่เว่ยลุกขึ้นยืนขณะที่เขาพูดหยิบไวน์แล้วเทลงบนหัวของหลิวฮาว ของเหลวถูกเทลงมาบนหัวของเขาทำให้เขารู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก ไม่มีใครเลยที่คิดจะช่วยหลิวฮาวทุกคนมองไปที่เขาด้วยความเย้ยหยัน
"หลี่เว่ยเราเป็นเพื่อนกันนินายทำแบบนี้ไม่เกินไปหน่อยหรอ?"
หลิวฮาว ถามน้ำเสียงของเขาสั่นเครือ
"หลิวฮาว ฉันจะพูดอีกครั้งตราดใดที่นายยอมคุกเข่าฉันจะเซ็นให้นาย!"
หลี่ลี่เว่ย ยังคงยืนยันในเงื่อนไขของเขา
“ไม่ใช่ว่านายบอกว่าลูกชายนายต้องการนมผงหรอ ไม่งั้นเมียนายจะทิ้งนายไปนิ?”
"นายไม่ต้องการเงินแล้วหรอ? ถ้านายยังต้องการอยู่ก็ คุกเข่าสะ? "
หลี่ลี่เว่ย ตะโกนด้วยรอยยิ้ม
หลิวฮาว ตัวสั่นด้วยความโกรธ
เขาสามารถหันกลับมาและจากไปได้ในวันนี้ แต่เขายังต้องเผชิญกับความอับอายและดุด่าของภรรยาของเขาเมื่อเขากลับถึงบ้าน! โลกของผู้ใหญ่มันไม่ง่ายอย่างนั้น
...ดวงตาของหลิวฮาวเปียกชื่น ขาของเขาก็อดไม่ได้ที่จะมิ้งลง แต่ในขณะเดียวกันก็มีมืออันทรงพลังคว้าแขนของเขาไว้ทำให้เขาทรงตัวได้อีกครั้ง
"พี่เจียง ... " หลิวฮาว หันศีรษะและมองไปที่ เจียงเป่ยเฉิน ด้วยดวงตาแดงก่ำ
“ไม่เป็นไรฉันอยู่นี่แล้ว!”
เจียงเป่ยเฉิน ยิ้มและตบไหล่ หลิวฮาว
“เจียงเป่ยเฉิน?”
"นายจะคุกเข่าแทน หลิวฮาว? "
หลี่ลี่เว่ย อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย
"วันนี้ฉันอยากจะบอกอะไรให้นายจำใส่หัวเอาไว้นะ!"
“เมื่อก่อนนายอาจจะเป็นคุณชายเจียง แต่ตอนนี้นะหรอ?”
"แกมันแค่ขยะ"
ปัง!
ก่อนที่เขาจะพูดจบหัวของหลี่หลี่เว่ยก็ถูกขวดไวน์ตีทันที เลือดก็ไหลหยดลงมาอาบใบหน้าของเขา
"ไอเวรมึงกล้าตีกูเหรอ!"
หลี่ลี่เหว่ยเบิกตากว้าง ขณะล้มลงบนพื้น มือของเขาจับไปที่ศีรษะของเขาที่เต็มไปด้วยเลือด! เพื่อนคนอื่น ๆ ก็ตะลึงเช่นกัน ไม่มีใครคาดคิดว่า เจียงเป่ยเฉิน จะกล้าทำขนาดนี้?
เจียงเป่ยเฉิน ไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่นเขาเตะ หลี่ลี่เว่ย ด้วยเท้าข้างเดียวโดนที่มือทั้งสองข้างของเขาล้วงอยู่ในกระเป๋าของเขา เขาเดินไปข้างหน้าสองก้าวและเหยียบไหล่ของ หลี่ลี่เว่ย ไว้ใต้เท้าของเขา
"อย่าคิดว่าด้วยความสำเร็จอันเล็กน้อยของแกจะมาอวดเพื่อนๆได้นะ!"
"วันนี้ที่มารวมตัวกันก็เพราะเป็นเพื่อนกัน"
"การรวมตัวกันของเพื่อนๆ ไม่ใช้เครื่องมือหรือเวทีให้แกไว้ใช้ล้วงแค้นใคร!"
เจียงเป่ยเฉิน ก้มลงและมองไปที่ หลี่ลี่เว่ย อย่างเย็นชา "ถ้านายยังไม่รู้สึกตัว ฉันจะบอกนายให้ได้ยินชัดๆอีกครั้ง!"
"เมื่อห้าปีก่อนฉันสามารถเหยียบนายไว้ใต้เท้าฉันได้ยังไง ห้าปีที่ผ่านมาฉันก็ยังสามารถเหยียบนายไว้ใต้เท้าฉันได้เหมือนเดิม!"