ตอนที่ 10 แห้งเหือด
ตอนที่ 10 แห้งเหือด
"อย่าเพิ่งใจร้ายนักสิ! หากเจ้าเก่งพอก็ตีข้าตอนนี้เลยสิ" เซียวอี้ยิ้มเยาะ
หากฟางเฉินกังกล้าทำอะไรเขาตอนนี้ เซียวอี้คงอดไม่ได้ที่จะปลูกฝังพิษสักชนิดเข้าไปในตัวเขา
ยิ่งกว่านั้น ในตอนที่ฟางเฉินกังแสดงวิญญาณต้นกำเนิดเมื่อครู่ ลูกแก้วหมื่นพิษในตันเถียนของเขาถึงกับแสดงความหิวกระหายอย่างรุนแรง! นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมองนาคาทมิฬของฟางเฉินกังอย่างประหลาดใจ
เพราะลูกแก้วหมื่นพิษคิดจะกลืนกินวิญญาณต้นกำเนิดที่เป็นธาตุพิษด้วย!
นาคาทมิฬนั้นย่อมมีพิษที่ไม่ธรรมดา ผู้ที่ปลุกวิญญาณต้นกำเนิดชนิดนี้ได้ เช่นนั้นก็คงจะมีความสามารถทางการใช้พิษแน่นอน
เซียวอี้จึงพอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
จืออวี้จวิ๋นมารดาของฟางหลินหยานอาจจะไม่ได้ถูกพิษจากแมลง มันอาจจะถูกฉีดเข้าร่างโดยผู้ที่มีวิญญาณต้นกำเนิดธาตุพิษได้!
โลกนี้เริ่มน่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ ที่สำคัญคือ แหล่งพิษนั้นดูจะหาง่ายกว่าที่คาดไว้เสียอีก! เซียวอี้ยิ้มอย่างชั่วร้ายในใจ
เวลานี้ฟางเฉินกังได้เดินออกไปข้างนอกด้วยใบหน้าที่โกรธเกรี้ยว
คำที่ฟางเฉินกังทิ้งไว้ไม่ใช่แค่คำขู่
ไม่มีใครในเมืองยวิ๋นโจวไม่รู้จักว่าฟางเฉินกังเป็นคนยังไง!
แต่หากเซียวอี้ทราบคงจะหัวเราะกลับ เพราะหากฟางเฉินกังทำอะไรเขา เช่นนั้นเขาก็จะมอบคืนให้เป็นสิบเท่า ร้อยเท่า...
เมื่อฟางเฉินกังจากไป ฟางหลินหยานยังคงกังวลอยู่ไม่น้อย แต่นางก็ต้องจัดการเรื่องของพี่ชายก่อน
นางมองไปยังหลินฉิงเหว่ยอย่างเย็นเยือก "พี่ใหญ่ข้าอยู่ที่ไหนตอนนี้?"
หลินฉิงเหว่ยถอนหายใจ "ยังคงอยู่ในห้องชุนเหยียน"
ฟางหลินหยานกล่าวต่อ "พาข้าไป"
ถึงแม้นางจะไม่ใช่คนใจดีมากนัก แต่ก็ไม่ได้โทษหลินฉิงเหว่ยเท่าไหร่
หลินฉิงเหว่ยพยักหน้าก่อนจะพาทั้งสองไปยังห้องชุนเหยียน
เมื่อมาถึงตรงหน้าห้อง หลินฉิงเหว่ยหยุดชั่วครู่ก่อนจะหันไปถาม "คุณหนูสิบสาม เจ้าทราบเรื่องของคุณชายเฉินหลี่กับชุนเหยียนมากเท่าไหร่?"
ฟางหลินหยานกล่าวต่อ "หากเขาไม่ได้เกิดอุบัติเหตุ เช่นนั้นข้าก็คงไม่ทราบเรื่องที่น่าอับอายนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินชื่อชุนเหยียน"
หลินฉิงเหว่ยยิ้มจาง ๆ "ดูเหมือนคุณหนูสิบสามจะคิดว่าสถานที่อย่างหอฉิงฟางเหลานั้นดูไม่ดี ในโลกนี้ แม้จะเป็นด้านนอก จิตใจของผู้คนก็ยังต่ำตมเสียยิ่งกว่าคนในนี้เสียอีก ข้าหวังแค่ว่าพวกท่านจะไม่ทำให้ชุนเหยียนอับอาย เพราะนางได้อยู่ข้างคุณชายเฉินหลี่และปลอบประโลมชีวิตของเขาถึงห้าปี"
ฟางหลินหยานกล่าวเสียงต่ำ "ตราบใดที่การตายของพี่ข้าไม่เกี่ยวข้องกับนาง ข้าก็จะไม่ทำให้นางอับอายแน่นอน"
หลังจากกล่าวจบ ฟางหลินหยานได้เปิดประตูเข้าไป
ภายในห้องมีสตรีผู้หนึ่งสวมชุดกระโปรงสีเขียวนั่งร้องไห้อยู่ที่ขอบเตียง
นางเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด
"พี่ฉิงเหว่ย พวกเขามาจากตระกูลฟางงั้นหรือ?" ชุนเหยียนเอ่ยถามปนสำลัก
ขณะที่หลินฉิงเหว่ยกำลังจะตอบ ฟางหลินหยานได้เอ่ยขึ้นอย่างเย็นเยือก "ข้าคือน้องสาวของฟางเฉินหลี่ ดังนั้นเจ้าบอกข้ามาตามตรงเสียดีกว่าว่าพี่ข้าตายยังไง"
เซียวอี้ไม่เอ่ยคำใด เขาทำแค่เดินไปยังเตียงและมองศพของฟางเฉินหลี่ ใบหน้าที่แข็งกระด้างของฟางเฉินหลี่ยังคงมีรอยยิ้มที่น่าเกลียด
เขาสูดจมูกเข้าไปในห้องแล้วยิ้มจาง ๆ
ชุนเหยียนได้กล่าวขณะร้องไห้ "ข้าไม่ทราบ เมื่อข้าตื่นมาเช้านี้ ข้าก็พบว่าคุณชายเฉินหลี่ไม่หายใจแล้วค่ะ"
ฟางหลินหยานไม่ค่อยพอใจในคำตอบของชุนเหยียน ขณะที่กำลังจะโกรธ เซียวอี้ได้กล่าวอย่างสงบ "เขาตายจากร่วมเตียงหนักเกินไป"
"..."
ทันทีที่กล่าวประโยคนี้ ทุกคนในห้องถึงกับแสดงท่าทีงุนงง
ใบหน้าชุนเหยียนหน้าแดงขึ้นอย่างงดงาม นางรีบเรียกสติกลับมาก่อนจะอธิบาย "ไม่... เป็นไปไม่ได้ ข้ามีอะไรกับเขาแค่ครั้งเดียว จากนั้นพวกเราก็นอนหลับไป"
เซียวอี้ยกมุมปากขึ้นก่อนจะกล่าวต่อ "เจ้าไม่ได้ง่วงและหลับไปเอง แต่มีใครบางคนเข้ามาวางยาสลบเจ้า หลังจากเจ้าหลับไปแล้ว ได้มีสตรีเข้ามาทำให้ฟางเฉินหลี่กระตุ้นความต้องการของเขา สตีผู้นั้นดูดกลืนพลังกายของเขาจนแห้งเหือดและเสียชีวิตลง"
ใบหน้าของชุนเหยียนซีดเผือดด้วยอาการตกตะลึง มีคนอื่นด้วยงั้นหรือ?
หลินฉิงเหว่ยและฟางหลินหยานมองไปที่เซียวอี้อย่างประหลาด และไม่เข้าใจว่าเขาเข้าใจเรื่องราวได้ยังไง
เซียวอี้ขี้เกียจที่จะอธิบายมากเกินไป "ถึงแม้คนของเจ้าจะไม่ได้สังหารเขา แต่พี่เขยข้าก็ตายที่นี่ แม่นางหลิน เจ้าจะว่ายังไง?"
หลินฉิงเหว่ยครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกล่าว "หอฉิงฟางเหลาจะชดเชยเป็นศิลาต้นกำเนิดหนึ่งร้อยก้อน หากมากกว่านั้นพวกเราคงให้ไม่ได้"
"ตกลง ศิลาต้นกำเนิดหนึ่งร้อยก้อน" เซียวอี้ยิ้มเห็นด้วย
การตายของฟางเฉินหลี่นี้ไม่ได้เป็นบาดแผลในใจสำหรับเขา เงินชดเชยเองก็เช่นกัน
หลินฉิงเหว่ยผงะสงสัย นางไม่เข้าใจว่าทำไมเขยคนใหม่ของตระกูลฟางยังหัวเราะได้
ฟางหลินหยานไม่มีข้อกังขาอะไรกับค่าชดเชย เพราะศิลาต้นกำเนิดร้อยก้อนนั้นนับว่ามากพอควร นางทำแค่เดินไปที่ศพของฟางเฉินหลี่อย่างเงียบ ๆ และเลื่อผ้าห่มปิดหน้าของเขา
"ข้าทราบว่าเจ้ามีเรื่องลำบากและทรมานในใจ แต่เจ้าเป็นผู้ชาย เหตุใดถึงต้องแสวงหาความสุขเช่นนี้ หากเจ้าตายไป ท่านแม่และน้องสาวของเจ้าจะทำยังไงต่อในอนาคต?"
ฟางหลินหยานไม่ค่อยชอบพี่ชายของตนเท่าไหร่นัก แต่เวลานี้นางเองก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้
เมื่อคนเราเสียชีวิตความคับแค้นใจและความโกรธก็หายไปหมดสิ้น
หลินฉิงเหว่ยสะบัดมือขวา จากนั้นเสียงกรุ๊งกริ๊งได้ดังขึ้น และบนโต๊ะกลางห้องได้ปรากฏศิลาต้นกำเนิดหนึ่งร้อยก้อน
เซียวอี้และฟางหลินหยานรับทั้งหมดไว้ แต่พวกเขาก็เกิดความสงสัยในใจ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าหลินฉิงเหว่ยจะเป็นผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณ
ยิ่งกว่านั้นเซียวอี้ยังรู้สึกเหมือนจะสัมผัสได้ถึงบางอย่าง
แต่ตอนนี้ฟางหลินหยานยังอยู่ในห้อง เขาจึงไม่ทำอะไรมากนอกจากกล่าว "ศิลาต้นกำเนิดเหล่านี้ หลินหยานเจ้าเก็บมันไว้เสีย"
ฟางหลินหยานส่ายหัวก่อนจะกล่าว "หากข้าเก็บไว้ เมื่อกลับไป ข้าจะต้องถูกคนในตระกูลมาสร้างปัญหาให้แน่นอน เจ้าควรจะเก็บไว้ดีกว่า"
ฟางหลินหยานทราบว่า แม้คนในตระกูลจะไม่กล้าหาเรื่องเซียวอี้ แต่ทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อนางก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก
เซียวอี้พยักหน้าพร้อมเก็บศิลาเหล่านั้นเข้าแหวนต้นกำเนิด
"นำศพพี่เขยออกจากที่นี่ก่อนแล้วค่อยหาที่ฝังเขา" เซียวอี้กล่าว
ดวงตาฟางหลินหยานมืดดำลง พี่ของเราจะไม่ได้ถูกฝังในสุสานตระกูลฟางงั้นหรือ? นางอยากจะขอให้เซียวอี้ช่วยพูดกับตระกูล แต่ก็ต้องกลืนคำเหล่านั้นลงไปก่อนจะเอ่ย
เซียวอี้ได้ทำให้คนมากมายในตระกูลขุ่นเคืองเพราะนางมาไม่น้อย และนางไม่ต้องการจะสร้างปัญหาให้เขาอีก
ฟางหลินหยานจึงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยอมตกลง
"ในอนาคต หากเจ้ามีโอกาสแข็งแกร่งขึ้นและเป็นที่ยกย่องของตาเฒ่านั้นมากกว่านี้ มันก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะย้ายกระดูกพี่เขยกลับไปยังสุสานตระกูล" เซียวอี้พอจะทราบความคิดของนาง ดังนั้นจึงได้ยิ้มและกล่าวปลอบใจ
ดวงตาของนางเปิดกว้างก่อนจะมองเซียวอี้อย่างซาบซึ้ง แม้ว่าโอกาสที่จะแข็งแกร่งขึ้นจะมีน้อย แต่มันก็ยังพอจะมีความหวัง!
เมื่อคนเรามีชีวิตอยู่ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการไม่มีความหวังในใจ
เซียวอี้ห่อศพของฟางเฉินหลี่ด้วยผ้าห่มก่อนจะพาเขาออกจากหอฉิงฟางเหลา
แต่หลังจากนั้น หลินฉิงเหว่ยไม่คาดคิดว่าอีกครึ่งชั่วยามต่อมา เซียวอี้จะกลับมาปรากฏตัวตรงหน้าอีกครั้ง
"แม่นางหลิน พวกเราพบกันอีกแล้ว" เซียวอี้ยิ้มอย่างชั่วร้าย
หลินฉิงเหว่ยยิ้มแห้งตอบ "ข้าไม่ทราบว่าเหตุใดท่านเซียวถึงกลับมาอีก?"
"เจ้าหมายความว่าอะไร?" เซียวอี้เผยรอยยิ้มก่อนจะเดินไปตรงหน้าหลินฉิงเหว่ย "พูดมาว่าใครเป็นคนสังหารฟางเฉินหลี่"