Ep.828 - ยังอยากร่วมประลองอีก?
1/5
Ep.828 - ยังอยากร่วมประลองอีก?
ภายในระยะเวลาแค่ปีเดียว ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บวกกับการร่วมทุนวิจัยกับเมืองหลวงมังกร กลุ่มเฟิงหลีเลยเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน มันได้มาถึงจุดที่ผู้คนต้องแหงนหน้ามองแล้ว
และเนื่องจากฉินเฟิงดำรงตำแหน่งเป็นผู้การรัฐทะเลเหนือ ส่งผลให้ประวัติศาสตร์หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการปรากฏขึ้นของมิติลาวาเดือด เมืองลาวาเดือดจึงถูกสร้างขึ้น รุ่งเรืองจนกลายเป็นเมืองที่ห้าแห่งรัฐทะเลเหนือ
นอกจากนี้ยังมีทรายธารเวลาฝังไว้ใต้ดินเมืองเฟิงหลี ผลพวงจากมัน นำไปสู่อัตราการปลุกพลังที่เพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันคนที่เป็นผู้ใช้พลังอยู่แล้ว ความแข็งแกร่งพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
ส่งผลให้ในปีนี้ อาจกล่าวได้ว่าปรากฏอัจฉริยะขึ้นมากมาย ในรายชื่อตัวเต็งสิบอันดับแรก มิได้มีแค่คนภายในของกลุ่มเฟิงหลี , ลูกหลานของสมาชิกกลุ่ม , ญาติมิตร ฯลฯ เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่มีหลายคนมาจากภายนอก
กระนั้น หัวขบวนของรายชื่อ มิใช่ใครอื่นแต่เป็นโจวฮ่าว ปัจจุบันความแข็งแกร่งของเขาได้มาถึงเลเวล D9 แล้ว ต่อให้เป็นลูกรักของพระเจ้าในเมืองหลวงมังกร เกรงว่ายังไม่สามารถแข็งแกร่งถึงระดับนี้
ส่วนท้ายขบวนตัวเต็ง มีเลเวลน้อยสุดอยู่ที่ D1 รุ่นเยาว์พวกนี้ หากไปอยู่ที่ไหนย่อมได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นอัจฉริยะ และบอกได้เลยว่าต่อให้รุ่นเยาว์คนอื่นๆที่อายุต่ำกว่า 20 ปี จากทุกรัฐของภูมิภาคเหนือมาเข้าร่วมงานประลอง น่ากลัวว่าจะไม่สามารถสั่นคลอนตำแหน่งตัวแทนของรัฐทะเลเหนือได้
ไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังเหลือผู้รอดชีวิตจากเมืองฉงโหลว บางคนโชคดีบังเอิญได้กินเนื้อสัตว์ร้ายระดับสูง เลยยกระดับขึ้นเป็นผู้ใช้พลังระดับสูงอย่างรวดเร็ว แม้พวกเขายังไม่มีกระบวนท่าวรยุทธที่เหมาะสมแก่ตนเอง แต่ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่กลายเป็นม้ามืดของงานประลองนี้
ด้วยประการฉะนี้เอง งานประลองลูกรักของพระเจ้าในปีนี้ จึงคุ้มค่าแก่การรอคอย!
ในตอนนั้นเอง อุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงดังขึ้น แต่เมื่อก้มลงมอง เห็นหมายเลขที่โทรเข้ามา ฉินเฟิงกลับไม่แปลกใจเลย
ใช่! ปลายสายคือซางฮัน!
“สวัสดีท่านจ้าวพรมแดน!” ฉินเฟิงกดเชื่อมต่อสายสื่อสาร อีกด้านหนึ่ง ซางฮันกำลังนั่งอยู่ในสำนักงานของเธอ ด้วยระบบฉายภาพเสมือนจริง ทำให้ตัวเธอในเวลานี้ยิ่งสง่างาม เปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรี
อย่างไรก็ตาม เมื่ออีกฝ่ายเห็นสภาพแวดล้อมเบื้องหลังฉินเฟิง ซางฮันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เธอกับฉินเฟิงรู้จักกันมาตั้งนาน แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้คุยกันในสำนักงาน--
--นี่ฉินเฟิงทำงานเป็นกับเขาด้วยหรอ?
เธอหลงนึกว่าชีวิตของฉินเฟิงจะมีแค่การเตร่ไปทั่วโลก หรือหากกลับมาก็พักผ่อนอยู่บ้านซะอีก!
แต่แน่นอน ซางฮันไม่ได้พูดคำเหล่านี้ออกมา คนมีใจทำงานก็ดีแล้ว ไม่ควรล้อเลียน เอ่ยเข้าประเด็นทันที “ฉินเฟิง ก่อนหน้านี้คุณช่วยเมืองฉงโหลว แต่เนื่องจากเหตุผลบางประการ ทำให้แม้แต่ฉันยังคิดยอมแพ้ แต่ไม่นึกเลยว่าคุณจะสามารถอพยพชาวเมืองได้จริงๆ”
“หลังชาวเมืองกลุ่มแรกถูกช่วยชีวิต เพราะคุณกับรุ่ยฉงได้เดิมพันกัน ดังนั้นฉันเลยไม่ถือว่านั่นเป็นภารกิจที่ทางพันธมิตรหัวเซี่ยจะต้องให้รางวัลคุณ แต่การช่วยอพยพชาวเมืองในครั้งนี้ … เอาจริงๆอยู่เหนือความคาดหมายมาก!”
รายงานเพิ่งส่งมาถึงซางฮันเมื่อวาน ฉินเฟิงสามารถช่วยชีวิตชาวเมืองได้มากถึง 50,000 - 60,000 คน แถมยังสังหารจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล A ผลงานดังกล่าว ช่างน่าทึ่งจริงๆ ควรค่าแก่การสรรเสริญ
ต้องรู้นะว่า การดำรงอยู่ระดับจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล A หากคิดกำจัด จำเป็นต้องส่งผู้ใช้พลังเลเวล A นับ 100 คนออกไปจัดการ หรือไม่ก็ส่งเลเวล S ออกไปถึงจักสังหารมันลงได้
แต่ฉินเฟิงกลับฆ่ามันได้ด้วยตัวเอง … ตอนนี้ฉินเฟิงแข็งแกร่งขนาดไหนกันนะ?
ฉินเฟิงในตอนนี้ ทำให้ซางฮันบังเกิดความรู้สึกกดดันมาก หากเป็นในอดีต มีภารกิจอะไรเธอยังพอส่งให้ฉินเฟิงจัดการได้ แต่นับจากนี้ไป หากคิดสั่งอะไรฉินเฟิง ซางฮันคงต้องพิจารณาเป็นพิเศษ
ดังนั้น ที่เธอโทรมาในครั้งนี้ มิใช่ด้วยเรื่องภารกิจใด แต่ติดต่อหาฉินเฟิงเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเมืองฉงโหลว
“ทุกอย่างเมื่อเริ่มต้นก็ต้องทำให้สุด เรื่องพวกนี้ สำหรับผมแล้ว ไม่ใช่งานยากอะไร” ฉินเฟิงตอบเบาๆ
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฉันในฐานะที่เป็นตัวแทนของภูมิภาคเหนือ จะขอมอบรางวัลตอบแทนแก่คุณ แม้ภารกิจช่วยเหลือเมืองฉงโหลวถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ยังถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของฉัน หากชาวเมืองที่รอดชีวิตรู้เรื่องนี้ เกรงว่าพวกเขาจะตำหนิฉันว่าเป็นคนเลือดเย็น ดังนั้นเลยอยากชดเชยเป็นการส่วนตัว”
ซางฮันส่งสำเนาข้อมูลให้ฉินเฟิง ในบรรดารายการเหล่านี้ เป็นเงินรางวัลจำนวน 50 ล้านล้านมอบให้แก่ฉินเฟิงโดยตรง
นี่เหมือนกับตอนฉินเฟิงสังหารเขมือบฟ้า เขาก็ได้รางวัลใหญ่แบบนี้เช่นกัน ต้องไม่ลืมนะว่า เขมือบฟ้าคือเจ้าเหนือหัวของทะเลนรก ขณะที่จักรพรรดิมังกรตลบปฐพีที่เพิ่งปรากฏตัว มีระดับเท่าเทียมกับเขมือบฟ้า ดังนั้นไม่ใช่อะไรที่เรียบง่ายอย่างแน่นอน ซางฮันเลยมอบเงินรางวัลอย่างสมน้ำสมเนื้อแก่ฉินเฟิง
ส่วนรายการอื่นๆ คือแต้มสงครามอีกเป็นจำนวนมาก มากพอที่จะใช้แลกเปลี่ยนชุดเกราะเทวะเลเวล B ได้
และแทบจะในทันที ซางฮันสมทบทุนเพิ่มให้อีกเป็นมูลค่า 10 ล้านล้าน โดย 2 ล้านล้านเป็นค่าใช้จ่ายในการปลอบประโลมชาวเมือง ส่วนอีก 8 ล้านล้านเป็นคือวัตถุดิบต่างๆตั้งแต่เลเวล G ถึง D
ด้วยปริมาณมหาศาลขนาดนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เมืองเล็กๆ
เงินสมทบทุนนี้คำนวณตามจำนวนคน ฉินเฟิงช่วยชีวิตชาวเมืองฉงโหลวได้ราวๆ 200,000 คน เฉลี่ยได้ค่าทำขวัญคนละ 10 ล้าน ทว่าเงินนี้ไม่สามารถแจกจ่ายโดยตรง แต่จะมอบให้เมืองเฟิงหลีในรัฐทะเลเหนือ หรือกลุ่มเฟิงหลีคอยดูแลแทน จัดสรรให้แก่ชาวเมืองทั้ง 200,000 คน นั่นเพราะในบรรดาคนพวกนี้ อาจถือกำเนิดผู้ใช้พลังขึ้นก็ได้ ดังนั้นต้องได้รับการสนับสนุน!
ด้วยเหตุข้อนี้เอง การได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองหรือผู้การรัฐ ถึงสามารถได้ครอบครองเม็ดเงินมหาศาล!
เงินขนาดนี้สำหรับเจ้าเมืองหรือตำแหน่งผู้การในรัฐที่อ่อนแอ ถือเป็นโชคลาภก้อนใหญ่ กระนั้น โดยปกติแล้วพวกเขาจะไม่ได้รับเงินอุดหนุนสูงเช่นนี้
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่านจ้าวพรมแดน แต่ยังไงก็ตาม ผมยังมีอีกเรื่องหนึ่งอยากขอร้อง”
“ว่ามาสิ”
“ท่านจ้าวพรมแดน คุณช่วยเสนอชื่อผมให้เข้าร่วมงานประลองลูกรักของพระเจ้าอีกสักครั้งจะได้ไหม”
เดิมฉินเฟิงต้องการไปสมัครด้วยตัวเอง แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ แต่การคัดเลือกต้องใช้เวลาหนึ่งเดือน หากเขาแทรกสักตำแหน่งหนึ่ง ในรัฐทะเลเหนือย่อมไม่มีใครกล้าโต้แย้งเขา
อย่างไรก็ตาม เข้าไปแทรกตำแหน่ง แบบนี้เท่ากับเป็นการรังแกกันชัดๆ!
“นี่คุณ- คุณยังอยากจะเข้าร่วมงานประลองลูกรักของพระเจ้าอีกหรือ?” ซางฮันตะลึงกับคำพูดของฉินเฟิง นี่เล่นเอาเธออึ้งไปวูบหนึ่ง ลูกรักของพระเจ้าบ้าอะไร ด้วยสถานะปัจจุบันของฉินเฟิง ให้เข้าร่วมมันไม่ใช่เรื่องถูกต้องเลย!
งานประลองลูกรักของพระเจ้า หากให้พูดตามตรง มันคือการต่อสู้ของรุ่นเยาว์ ส่วนฉินเฟิง …
“อา ฉันลืมไปเลย ว่าปีนี้คุณยังอายุไม่ถึง 20 ปี!” ซางฮันฉุกคิดได้ แต่ขณะเดียวกัน ต้องทอดถอนหายใจด้วยอารมณ์
นั่นสินะ ฉินเฟิงยังเด็กอยู่
“ครับ แต่ถ้าผมเข้าร่วม จะเป็นการดีกว่าถ้าไม่ปล่อยให้โดรนตามตัว เก็บภาพผมออกอากาศ!” ฉินเฟิงกล่าว
“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณต้องได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมอยู่แล้ว และยังสามารถไปยังด้านบนสุดของหอคอยประตูมังกรได้เลย ฉันจะติดต่อกับคนอื่นๆเอง ไม่น่าจะมีใครคัดค้าน”
“อา ครั้งนี้คงต้องรบกวนท่านจ้าวพรมแดนแล้ว”
“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย”
จากนั้นทั้งสองก็สนทนากันเรื่อยเปื่อย ซางฮันไม่ได้มอบภารกิจใดๆ บวกกับฉินเฟิงจะไปเมืองหลวงมังกรในเดือนพฤศจิกายน นั่นเท่ากับอีกไม่กี่เดือนจากนี้ ดังนั้นจะไม่ได้รับภารกิจใด ถือซะว่าอยู่ในช่วงพักร้อน
ตลอดทั้งปีนี้ ฉินเฟิงยุ่งมาก ซางฮันเองก็รู้สึกเช่นกัน เธอไม่ควรปล่อยให้ฉินเฟิงวิ่งวุ่นมากจนเกินควร ที่สำคัญที่สุดคือการพิจารณาก่อนหน้านี้ ฉินเฟิงแข็งแกร่งเกินไป น่าจะแกร่งจนแซงหน้าเธอในฐานะจ้าวพรมแดนแล้ว หากมอบหมายภารกิจให้ตลอด อีกฝ่ายอาจไม่พอใจ ถึงเวลานั้นเธอคงรับแรงต้านทานไม่ไหว ตอนนี้ไม่ควรราดน้ำลงในน้ำมันเดือด ถือซะว่าเป็นรางวัลอีกอย่างก็แล้วกัน!
กระนั้น แม้ซางฮันไม่มอบภารกิจ แต่ฉินเฟิงก็มิได้อยู่เฉย
“อ้างอิงตามช่วงเวลานี้ ‘สถานที่แห่งนั้น’ น่าจะปรากฏขึ้นแล้ว!” ฉินเฟิงขบคิด ลูบไล้มีดกษัตริย์ครามในมือ ประกายสว่างวาบฉายผ่านในดวงตาของเขา