72 พ้นขีดอันตราย
72 พ้นขีดอันตราย
พ่อของเขาเกือบถูกชายบางคนใช้ดาบฟันจนเกือบเสียชีวิต แต่สำนักงานบังคับใช้กฎหมายก็ยังยืนหยัดอยู่ข้างผู้กระทำความผิดทั้งยังโยนข้อกล่าวหาใส่พวกเขาแทน เรื่องนี้ทำให้เอี้ยนลี่เฉียงหน้าแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
หลังจากที่เขาสงบลงเอี้ยนลี่เฉียงก็จำได้ว่าลุงของหงต๋าจาก ตระกูลหงดูเหมือนจะทำงานที่สำนักงานบังคับใช้กฎหมายของ มณฑลชิงไห่ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะสุมหัวกัน
อย่างไรก็ตามแม้ว่าตระกูลหงจะสามารถขยายอิทธิพลของพวกเขาได้ที่สำนักงานบังคับใช้กฎหมายของมณฑลชิงไห่
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งเดียวกันในมณฑลหวงหลงได้ อิทธิพลของตระกูลลู่กับตะกูลหงนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
เมื่อเขาเข้าใจข้อเท็จจริงเหล่านี้เอี้ยนลี่เฉียงก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะประสานมือคารวะลู่เปียน
“รบกวนนายท่านหกแล้ว ...”
"ไม่มีปัญหามันไม่มีปัญหาเลย! ข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้สำนักงานบังคับใช้กฎหมายของมณฑลหวงลงเอง เราจะลากตัวมันออกมาให้ได้…” ลู่เปียนกล่าวอย่างเฉยเมย
"หลังจากนั้นคำสั่งจะกระจายไปทั่วแผ่นดินและเจ้าหน้าที่จากมณฑลชิงไห่จะไม่สามารถปัดความรับผิดชอบของพวกเขาได้โจรคนนี้ก็จะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อิสระอีกต่อไป
ข้าจะกลับไปที่เมืองหวงหลงก่อนและจะตรวจสอบตัวตนของชายคนนี้แม้ว่าเขาจะไม่ใช่อาชญากรที่อยู่ในรายชื่อเดิม แต่ตระกูลลู่ของเราก็สามารถควานหาตัวมันออกมาได้อย่างแน่นอน! "
ลู่เปียนกล่าวจบก็จากไปพร้อมกับภาพวาดของเอี้ยนลี่เฉียง เอี้ยนลี่เฉียงตามเขาออกไปส่งนอกประตูบ้าน
"ข้าจะให้พ่อบ้านอยู่ที่นี่พร้อมกับองครักษ์สองคนจากตระกูลลู่ถ้าลู่นายน้อยมีปัญหาอะไรก็สามารถให้พ่อบ้านทำแทนได้!"
เอี้ยนลี่เฉียงพยักหน้า จากนั้นลู่เปียนก็ส่งรูปวาดของเอี้ยนลี่เฉียงให้กับองครักษ์ของเขาและขอให้เขาห่อด้วยผ้าอย่างระมัดระวังรัด หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พาผู้เข้าร่วมสี่คนขี่ม้าแรดออกไป
...
ยาฟื้นคืนชีพที่ตระกูลลู่นำมานั้นมีสรรพคุณน่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ เวลาผ่านไปเพียง 1 ชั่วยาม เอี้ยนเต๋อชางซึ่งนอนมาตั้งแต่เมื่อวานก็ได้สติขึ้นมาในที่สุด
หลังจากที่เอี้ยนเต๋อชางตื่นขึ้น เอี้ยนลี่เฉียงก็ละลายเปลือกหุ้มของยาในน้ำเพื่อให้เขาดื่ม หลังจากพักสักครู่เอี้ยนเต๋อชางก็มีสีหน้าดีขึ้นมากรวมทั้งสามารถสนทนากับคนอื่นได้
เมื่อเห็นฉากนี้เอี้ยนลี่เฉียงก็วางความกังวลของเขาลงในที่สุดและรู้สึกขอบคุณตระกูลลู่ด้วยใจจริง
...
ทั้งเฉียนซูและโจวหย่งอยู่กันจนเกือบพระอาทิตย์ตกจากนั้นก็ทานอาหารเย็นก่อนที่จะกล่าวคำอำลาเอี้ยนลี่เฉียง
โจวหย่งและคนที่เหลือเป็นทหารประจำการ แม้ว่าพวกเขาจะแต่งตัวด้วยชุดลำลอง แต่ก็จะกลายเป็นปัญหาหากพวกเขาอยู่ที่ บ้านสกุลเอี้ยนนานเกินไป
ตอนนี้ตระกูลลู่ได้มอบหมายให้ชายสองคนรับประกันความปลอดภัยของเอี้ยนลี่เฉียงและเอี้ยนเต๋อชางจนกว่าจะพ้นอันตราย เฉียนซูพร้อมกับโจวหย่งและคนที่เหลือจึงจะไปด้วยความสบายใจ
เอี้ยนลี่เฉียงติดตามมาส่งเฉียนซูที่ชานเมืองหลิวเหอเป็นการส่วนตัว
"ลี่เฉียงเจ้ารู้หรือไม่ว่าสกุลลู่เหตุไฉนถึงนำยาคืนชีวิตมาให้พ่อของเจ้า ของสิ่งนี้แม้แต่ทองคำหลายพันเหรียญก็ยังไม่สามารถซื้อได้” เฉียนซูกล่าวกับเอี้ยนลี่เฉียงเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง
เอี้ยนลี่เฉียงพึมพำ“ฉันจะไม่ปกปิดความจริงจากลุงเฉียนแม้ว่าข้าอยากจะให้มันเป็นเพราะตระกูลลู่ต้องการตอบแทนน้ำใจของข้า แต่พวกเขาก็ได้ตอบแทนข้าด้วยทองคำไปแล้วเรื่องนี้จึงไม่ใช่เหตุผลอย่างแน่นอน!”
"เจ้าเป็นคนฉลาด ในเทศกาลครึ่งปีที่ตระกูลลู่เจ้าคงได้พบกับคุณหนูเก้าไปแล้ว "
เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้แสร้งทำเป็นไม่รู้อีกต่อไป "ข้าไม่รู้ว่าทำไมนายผู้เฒ่าลู่ถึงคาดหวังในตัวข้าถึงขนาดนี้ ข้าเป็นเพียงเด็กน้อยบ้านนอกคนหนึ่ง ไม่ว่าศักดิ์ศรีหรือฐานะล้วนเทียบคุณหนูเก้าไม่ได้!"
“ ตอนที่ข้าไปถึงตระกูลลู่ในวันนี้ข้าได้แจ้งให้นายผู้เฒ่าลู่ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเจ้า ข้ายังบอกเขาเกี่ยวกับรูปแบบมงคลของเจ้าเมื่อเมื่อผ่านขั้นตอนท่าม้า
นั่นเป็นเหตุผลให้ตระกูลลู่ลงทุนกับเจ้า แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วเจ้าจะไม่สามารถเป็นลูกเขยของพวกเขาได้ แต่ในอนาคตเจ้าก็มีโอกาสที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นนักรบอย่างแท้จริง การที่พวกเขาสร้างบุญคุณกับเจ้าไว้ก่อนก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง! "
นี่คือความจริงมาโดยตลอด!
เอี้ยนลี่เฉียงพยักหน้า "ข้าเข้าใจแล้ว!"
“ดีแล้วที่เจ้าเข้าใจ!” เฉียนซูหันไปมองเมืองหลิวเหอ จากนั้นเขาก็ปรับน้ำเสียงให้เบาลง
“ ลี่เฉียงแค่ตระกูลหงในเมืองหลิวเหอก็เพียงพอที่จะทำลายครอบครัวของเจ้าแล้ว เจ้าควรรู้ว่าหลักการที่เรียกว่าความจริงและความยุติธรรมเป็นเพียงเรื่องไร้สาระในท้ายที่สุดทุกคนก็ต้องพึ่งพาความแข็งแกร่ง
ผู้คนจะเชื่อฟังใครก็ตามที่มีอำนาจ คนที่ไร้ซึ่งพระกำลังจะเปรียบเหมือนกับหุ่นไล่กาเท่านั้น
เจ้าต้องพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นให้มากที่สุดหากเจ้าไม่สามารถก้าวขึ้นเป็นนักสู้ที่แท้จริงได้ แม้แต่ตระกูลลู่ก็จะสลัดเจ้าทิ้งอย่างไม่ใยดี
การที่เจ้ามีตระกูลลู่คอยหนุนหลังนั้นเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง ด้วยทรัพยากรและเงินทุนของพวกเขาจะทำให้เจ้าสามารถก้าวเข้าสู่อาณาจักรของนักสู้ได้อย่างแท้จริง และเมื่อเวลานั้นไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือสตรี ทุกอย่างจะวิ่งเข้าหาเจ้าเอง! "
เฉียนซูจ้องมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงที่เงียบงัน
"ข้ารู้จักคุณหนูเก้ามาก่อน แม้ว่านางจะเป็นสตรีแต่นางก็มีความสามารถอย่างแท้จริง หากเจ้าสามารถหมั้นหมายกับนางเจ้าคิดว่าตระกูลหงจะกล้าลงมือกับเจ้าอยู่อีกหรือ?
“ลุงเฉียนวางใจเถอะสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต” การแสดงออกบนใบหน้าขอเอี้ยนลี่เฉียง
“ข้าจะให้ความสำคัญกับคุณหนูลู่ให้มากกว่านี้”
เฉียนซูจ้องมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
“งั้นก็ดีแล้ว!”
เอี้ยนลี่เฉียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆหลังจากที่เฉียนซูแลโจวหย่งจากไป เขาก็กลับเข้าบ้าน
เอี้ยนลี่เฉียงมองอย่างเย็นชาที่ลานบ้านของตระกูลหง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความแค้น