บทที่ 336
ยิ่งเดินเข้าไปในถ้ำลึกเท่าไรอุณหภูมิความร้อนเพิ่มสูงขึ้น เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณต้านความร้อนเขาเดินเข้ามาด้านในนับหนึ่งเค่อ ไม่นานก็พบกับปล่องภูเขาไฟอีกฝั่งหนึ่งมีช่องรอยแยกเท่าตัวคนซ่อนอยู่หลังก้อนหิน มองลงไปด้านล่างยังมีลาวาสีแดงฉาน เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาเป็นฐานเหยียบเนี่ยฟงถีบเท้าพุ่งทะยาน กลิ่นหอมบางอย่างโชยออกมาจากช่องเขาแสยะยิ้มรีบพุ่งหายเข้าไปด้านใน พบดงสมุนไพรหญ้าจิตอัคคีขึ้นอยู่เต็มไปหมด รอยยิ้มอันแสนเจ้าเลห์ปรากฏขึ้นเขารีบจัดการเก็บสมุนไพรทั้งหมดลงไปในแหวน ตรงกลางดงสมุนไพรเขาพบก้อนหินขนาดเล็กก้อนหนึ่งวางอยู่ ทันทีที่เขาไปแตะถูกก้อนหินมันก็แตกออกความร้อนประดุจอยู่ในกลางแม่น้ำลาวาพุ่งพวยออกมาจากบางอย่าง
“เจ้าช่างโชคดีนักไอ้หนู”
“มันคือสิ่งใดกันขอรับ”
“มันคือ เมล็ดธาตุไฟมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับไข่มุกพิษสวรรค์ที่อยู่ในตัวเจ้า”
“หากข้าดูดซับมันข้าจะใช้พลังธาตุไฟได้หรือไม่ขอรับ”
“เรื่องนั้นข้าไม่รู้ เหตุใดเจ้าไม่ดูดซับมันดูละไอ้หนู”
เสียงสะบัดมือดังแว่ววงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏที่พื้นใช้เมล็ดธาตุ สมุนไพรจิตอัคคีก็ปรากฏออกมาด้วยเช่นกันไม่นานเนี่ยฟงก็นั่งลงกับพื้นโคจรลมปราณ วูบ พลังปราณมากมายถูกดูดเข้าไปที่จุดตันเถียนอย่างบ้าคลั่ง ดาบห้าเล่มที่ส่องแสงสว่างเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ดาบเล่มแรกเริ่มมีเปลิวไฟสีแดงฉานลุกโชนเช่นเดียวกับประกายสายฟ้า เสื้อผ้าสวมใส่ถูกเผาไหม้จนหมดเช่นเดียวกับกองสมุนไพรจิตอัคคี พื้นดินโดยรอบแห้งผาก ก้อนหินขนาดเล็กถูกหลอมละลายด้วยความร้อน ชั่วน้ำเดือดพื้นดินแตกแยกออกเป็นช่องลาวาด้านนอกเริ่มไหลเข้ามาด้านใน เหงื่อจำนวนมากไหลออกมาไม่ถึงครึ่งลมหายใจก็ระเหยกลายเป็นไอน้ำจางหายไปในอากาศ แสงสีแดงและสีฟ้าสว่างออกมาจากร่างกายวูบวาบไปมา ชีพจรทั่วร่างปูดบวมขยายใหญ่ขึ้นพลังธาตุไฟเข้าไปเผาทำลายสิ่งสกปรกจนหมด ตูม ตูม ตูม เสียงดังสนั่นภายในหูถึงห้าครั้งร่างกายสั่นสะท้าน เนี่ยฟงค่อยๆรู้สึกตัวอย่างช้าๆ
“ข้าอยู่ในสภาพเช่นนี้กี่วันแล้วขอรับ”
“สองวัน เจ้าตื่นขึ้นมาก็ดีแล้วรีบออกไปด้านนอกเถอะ”
เนี่ยฟงขมวดคิ้วสะบัดมือขวากำเสื้อผ้าออกมาสวมใส่ เขาสวมชุดสีน้ำตาล ใช้ผ้าสีเทามัดทับดวงตาเอาไว้ ทันทีที่เขาแผ่ลมปราณออกมาก็พบว่าเขาสามารถแผ่ลมปราณออกมาได้ไกลกว่าปกติ พลังปราณถูกเร่งโคจรไปที่มือทั้งสอง มีเปลิวไฟสีแดงและประกายสายฟ้าพุ่งพวยออกมาอย่างน่าตกใจ
“เกิดสิ่งใดกับข้ากันขอรับ”
“พรสวรรค์ระดับสีดำของเจ้าช่างน่ากลัวยิ่งนัก หากว่าเจ้ามีโอกาสได้ดูดซับเมล็ดพลังธาตุทั้งหมดเจ้าก็ไม่ต้องกลัวสิ่งใดแล้ว ตอนนี้พิษร้ายหรือพลังไฟอันร้อนแรงก็ไม่สามารถสังหารเจ้าได้แล้วไอ้หนู”
“ที่ท่านกล่าวว่ามา ข้าสามารถควบคุมพลังธาตุไฟได้”
“แน่นอน”
เนี่ยฟงแสยะยิ้มปรับเปลี่ยนเร่งโคจรลมปราณให้เป็นธาตุไฟ ประกายสายฟ้าจางหายมีเพียงเปลิวไฟเท่านั้นที่ปรากฏออกมาที่มือทั้งสองข้าง
“เจ้าออกไปที่ด้านนอกเถอะ”
เมื่อออกจากช่องรอยแยกก็พบว่าลาวาที่อยู่ด้านล่างแห้งผากไปจนหมด เขารีบออกมาที่หน้าผาแสงอาทิตย์สาดส่องลงกลางศีรษะลมปราณถูกแผ่ออกจากร่างพื้นที่โดยรอบถูกทำลายลงเพราะความร้อนจากลาวาที่ไหลออกมาจากรอยแยกใต้ดิน ต้นไม้หักโค่นหลงเหลือเพียงตอตะโกเขาพุ่งทะยานลงมาด้านล่างอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงหาได้พุ่งกลับทางเดิมเขาอ้อมเขาไปอีกทาง เกือบสองชั่วยามได้ยินเสียงปะทะดังลั่นมาจากด้านหน้า ยอดฝีมือสองคนพุ่งปะทะกันกลางทะเลสาบที่ตอนนี้น้ำในทะเลสาบแห้งขอด ปลาน้อยใหญ่นอนตายเกลือนอยู่บนพื้น เนี่ยฟงใช้ความเร็วพุ่งหลบหลีกตามต้นไม้ใหญ่กลิ่นเลือดโชยมาตามสายลมซากศพนับสิบนอนแน่นิ่ง ทันใดนั้นเองเนี่ยฟงก็ต้องขมวดคิ้วพุ่งเข้าหาชายหนุ่มผู้หนึ่งเป็นหยวนอันหลง เขารีบตรวจชีพจรพร้อมกับป้อนเม็ดยาสองเม็ดไม่นานเขาก็พยุงหยวนอันหลงหลบออกมา เมื่อออกมาไกลได้สักระยะเขาก็รีบวางร่างหยวนอันหลงไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่พร้อมกับแอบหลบซ่อนตัว
ชั่วน้ำเดือดมีกลุ่มคนมากมายพุ่งมายังจุดที่เนี่ยฟงแอบซ่อนตัวอยู่ ไม่นานกลุ่มคนพวกนั้นก็จากไป เกือบสองเค่อที่เขาแอบซ่อนตัวอยู่หยวนอันหลงก็เริ่มรู้สึกตัว เสียงสะบัดมือดังแว่วกระบอกน้ำปรากฏออกมาเนี่ยฟงค่อยๆประคองร่างหยวนอันหลงพร้อมกับป้อนน้ำในกระบอก
“ขอบใจเจ้ามากน้องชาย”
“เกิดสิ่งใดขึ้นขอรับ”
“เมื่อสองวันก่อนมีการปะทะกันระหว่างชาวยุทธจำนวนมากกับกลุ่มโจรหนันกวง ระหว่างที่ทั้งสองปะทะกันได้มีแรงสั่นสะเทือนจากภูเขาหู้โจวมีรอยแยกขนาดใหญ่ปรากฏผ่านค่ายโจรแน่นอนว่าเป็นข่าวดี แต่ข่าวร้ายก็คือพื้นที่โดยรอบถูกทำลายด้วยลาวา ส่วนพวกข้าถูกกลุ่มโจรเข้าโจมตี”
“ข้าเสียใจด้วยขอรับ ตอนนี้ท่านขยับตัวได้หรือไม่ข้าจะพาท่านลงไปจากเขา”
หยวนอันหลงทดลองขยับร่างกายรับรู้ว่าอาการเริ่มหายดีแล้วเขาถึงกับขมวดคิ้ว
“เจ้าเป็นหมอด้วยอย่างนั้นรึ”
“พอรักษาได้บ้างขอรับ”
หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็พยุงหยวนอันหลงลงจากเขา เมื่อมาถึงด้านล่างตีนเขาก็พบกับคนตระกูลหยวนอันนับสิบคนตั้งค่ายอยู่ด้านล่างพร้อมกับชาวยุทธและกองกำลังทหาร เนี่ยฟงพยุงหยวนอันหลงเขาไปในค่ายคนของตระกูลหยวนอันรีบพุ่งเข้ามาช่วยเหลือ
“ขอบใจเจ้ามากน้องชาย”
เนี่ยฟงเพียงยกยิ้มตอบรับก้าวเดินออกไปจากค่าย หยวนอันหลงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เจ้าจะไปไหนกันน้องชาย”
“ข้าจะกลับเข้าเมืองขอรับ”
ไม่นานเนี่ยฟงก็มุ่งหน้าเข้าเมืองอีกครั้ง ทันทีที่เข้าเมืองเขาก็รีบหาโรงเตี๊ยมสำหรับอาบน้ำแต่ทว่ากลับถูกกลุ่มคนยืนขวางตัวไว้เสียก่อนเป็นคนจากตระกูลชิง โดยมีชิงเสี้ยวยืนอยู่ด้านหน้า
“ข้าส่งคนออกตามหาท่าน จนทั่วทั้งเมือง”
“เกิดสิ่งใดขึ้นขอรับท่านชิงเสี้ยว”
“คุณชายได้โปรดช่วยท่านหัวหน้าตระกูลชิงด้วยขอรับ”
ชิงเสี้ยวถึงกับลงไปคุกเข่า
“เกิดสิ่งใดขึ้นขอรับ”
“เมื่อสองวันก่อนมีคนของเผ่ามารสุขาวดีฟ้าดินบุกมาที่นี่”
เนี่ยฟงรับยกมือขวาขึ้นห้าม
“ข้าเข้าใจแล้ว เชิญท่านนำทางเถอะว่าแต่คุณชายชิงมู่ถังพอใจกับดาบของข้าหรือไม่”
“คุณชายหายตัวไปตั้งเมื่อสองวันก่อนตอนนี้ยังตามตัวไม่พบ”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับเดินติดตามชิงเสี้ยวไปที่บ้านตระกูลชิง สภาพโดยรอบด้านหน้าถูกทำลายจากการปะทะ รอยคราบเลือดยังเห็นชัดเจนตามพื้นและกำแพง บ้านเรือนโดยรอบพังทลายจากการปะทะ เมื่อเข้ามาด้านในพบหมอมากมายเร่งรักษาคนตระกูลชิงอยู่ในกระโจม ชิงเสี้ยวพาเนี่ยฟงเดินเข้าไปด้านในบ้านเมื่อเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่ก็พบเห็นชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ผมสีดอกเลานอนอยู่บนเตียงไม้ รอบด้านมีชายฉกรรจ์สามคนยืนอยู่ด้านข้าง ชิงเสี้ยวรีบก้มคารวะ
“ท่านหัวหน้าตระกูลชิงตอนนี้ข้าพบหมอที่จะมาช่วยเหลือท่านแล้วขอรับ เขาผู้นี้คือคนที่รักษาคุณชายชิงมู่ถังจนหายดี”
เนี่ยฟงก้มคารวะด้วยเช่นกันแต่หาได้กล่าวสิ่งใดออกมา ชายฉกรรจ์สามคนเริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจเกี่ยวกับการกระทำของชายหนุ่มตาบอดที่ชิงเสี้ยวพามามีชายผู้หนึ่งเอ่ยวาจาออกมา
“แน่ใจรึชิงเสี้ยวว่าชายหนุ่มตาบอดผู้นี้เป็นหมอที่เก่งกาจ แล้วเหตุใดถึงไม่รักษาดวงตาที่มืดบอดของตัวเองเล่า”
ชิงเสี้ยวขมวดคิ้วหันไปมองเนี่ยฟงที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ ชายผู้นั้นก็เอ่ยวาจาออกมาอีกครั้ง
“เหอะ ไม่เพียงจะตาบอดเท่านั้นยังเป็นใบ้อีกรึ”
ชิงเสี้ยวกำหมัดในมือแน่น หัวหน้าตระกูลชิงรีบเอ่ยวาจาออกมา
“หุบปากของเจ้าได้แล้วชิงมู่เทียน พาน้องของเจ้าออกไปจากที่นี่ซะ อย่ารบกวนท่านหมอ”
ชิงมู่เทียนกำหมัดทั้งสองแน่นจ้องมองชายหนุ่มตาบอดอย่างไม่วางตา
“เจ้ายังไม่ไปอีกรึ”
ชิงมู่เทียนรีบเดินออกไปจากห้องโถงอย่างรวดเร็วไม่นานชายฉกรรจ์อีกสองคนก็เดินติดตามออกไป
“ข้าต้องขอโทษท่านหมอด้วย”
เนี่ยฟงยกยิ้มก้าวเดินเข้ามาจับชีพจร นานนับสิบลมหายใจเขาก็เอ่ยวาจาออกมา
“ตัวของท่านนั้นมีพิษร้ายแฝงอยู่ ทุกครั้งที่ท่านโคจรลมปราณจะรู้สึกเจ็บปวดตามจุดชีพจร”
ชิงเสี้ยวถึงกับตื่นตกใจ
“มีทางรักษาหรือไม่คุณชายเนี่ยฟง”
“วางใจเถอะ ข้าพอมีทางรักษา เช่นนั้นท่านช่วยเจ้าสำนักถอดเสื้อเถอะ”
ชิงเสี้ยวรีบเข้ามาช่วยถอนเสื้อผ้าถึงกับตื่นตกใจกับรอยช้ำสีม่วงตามร่างกายของหัวหน้าตระกูล
“ไม่ต้องตกใจขอรับท่านชิงเสี้ยว รบกวนท่านช่วยนำผ้าสะอาดแช่น้ำร้อนในให้ข้าได้หรือไม่”
“ได้ ข้าจะนำมาให้”
สิ้นเสียงกล่าวชิงเสี้ยวรีบเดินออกไปจากห้องโถง เนี่ยฟงก็เริ่มทำการปรุงยารักษา เกือบครึ่งเค่อเขาก็ปรุงยาสำเร็จทันทีที่เปิดหม้อปรุงยา กลิ่นเหม็นฉุนโชยออกมาจากหม้อ เขาก้มลงไปหยิบเม็ดยาสีดำสองเม็ดออกมา
“ทานยาก่อนขอรับ”
หลังจากเนี่ยฟงป้อนยาเขาก็สะบัดมือขวานำเข็มเงินออกมา ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมือขวาเผาเข็มเงินไม่นานเขาก็เริ่มทำการฝังเข็ม เมื่อชิงเสี้ยวกลับมาเนี่ยฟงก็ฝังเข็มทั่วร่างหมดแล้ว เข็มเงินดูดพิษสีม่วงออกมาจำนวนมากเป็นชิงเสี้ยวที่คอยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดพิษร้ายออกจากตัว