ตอนที่แล้วบทที่ 333
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 335

บทที่ 334


รุ่งเช้าข่าวฟางซุนหวินถูกกลุ่มใครบางคนดักทุบตีกลางทางกระจายไปทั่วทั้งเมือง แต่น่าแปลกที่สองผู้เฒ่าตระกูลฟางหาได้มีการสั่งการใดๆออกมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ บ่อนพนันติดป้ายประกาศปิดบ่อนมีรอยคราบเลือดสาดกระเซ็นที่ประตูด้านหน้า ส่วนเนี่ยฟงปิดตัวเงียบอยู่ในห้องประทับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ลงไปในมีดและดาบทั้งสองเล่มที่ได้มาอีกทั้งยังมีปรุงยาเพิ่มอีกหลายขวด ผ่านไปอีกหนึ่งวันรุ่งเช้าเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังลั่น เนี่ยฟงก้าวเดินออกไปเปิดประตูหาได้พบเจอผู้ใดมีเพียงม้วนหนังแกะวางอยู่ด้านหน้า เขาก้มลงหยิบขึ้นมาหลังจากนั้นก็ปิดประตูห้องเช่นเดิม ม้วนหนังแกะถูกกางไว้ที่โต๊ะกลางห้องลมปราณถูกแผ่ออกมาตรวจสอบเขาใช้มือขวาลูบไปบนหนังแกะจนทั่วมันคือแผนที่ ไม่นานเขาก็ม้วนหนังแกะเก็บเอาไว้ในแหวนชั่วน้ำเดือดเขาก็เดินลงมาด้านล่าง

“อาหารสามอย่าง ข้าวหนึ่งถ้วย น้ำชาหนึ่งกา”

สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงก็เดินไปนั่งที่โต๊ะ เขานั่งฟังชาวบ้านพูดคุยถึงข่าวของฟางซุนหวินและการสังหารหมู่ที่บ่อนพนัน ไม่ถึงครึ่งเค่อเสี่ยวเอ้อก็นำอาหารมาให้ที่โต๊ะ หลังจากทานอาหารจนอิ่มเขานำทองหนึ่งก้อนวางไว้บนโต๊ะหลังจากนั้นก็เดินออกจากโรงเตี๊ยม เขาเดินออกจากเมืองมุ่งหน้าลงใต้สองข้างทางมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นตามทาง ตลอดเส้นทางพบเห็นชาวบ้านและชาวยุทธ์มุ่งหน้าออกจากเมืองด้วยเช่นกัน มีกลุ่มชาวบ้านมากมายเชื้อเชิญชายหนุ่มตาบอดติดตามไปด้วยเพียงแต่ว่าชายหนุ่มกล่าวปฏิเสธ ในที่สุดแสงอาทิตย์ก็เริ่มลาลับขอบฟ้าหลายกลุ่มเริ่มหยุดพัก แน่นอนเนี่ยฟงหาได้สนใจเพราะเขามองเห็นทุกอย่างแม้แต่ยามค่ำคืน การเดินทางสะดวกยิ่งเพราะมีสายลมหนาวพัดผ่านมาเป็นระยะ เขาเดินทางตลอดสามวันย่างเข้าย่ามจื่อเสียงกรีดร้องดังลั่นออกมาจากด้านหน้าเนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วแผ่ลมปราณตรวจสอบ ซากศพกองอยู่เกลื่อนพื้นเลือดไหลเป็นทาง

“ไอ้หนูระวัง ชายฉกรรจ์ด้านหน้าเป็นยอดฝีมือ”

“ข้าจะระวังขอรับ”

เนี่ยฟงพุ่งทะยานขึ้นไปแอบบนกิ่งไม้จ้องมอง ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งสวมชุดเกราะเต็มชุดถือทวนเหล็กในมือขวาจ้องมองหญิงสาวผู้หนึ่งที่นั่งตัวสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว ทวนเหล็กถูกยกขึ้นหมายจ้วงแทงออกไปแต่ทว่ากลับมีกระบี่เล่มหนึ่งพุ่งเข้ามา เคร้ง กระบี่ร่วงลงพื้นทันใดนั้นเองได้มีกระบี่อีกสองเล่มพุ่งเข้าหาชายสวมชุดเกราะ เคร้ง เคร้ง กระบี่ถูกปัดกระเด็นร่วงลงพื้น ชายฉกรรจ์สวมชุดสีแดงปรากฏตัวออกมา

“สือตี้จง ข้านัดเจอเจ้าที่นี่หาได้ให้เจ้าสังหารผู้ใด”

“เป็นท่านเองที่มาช้าท่านเก่อมู่ไป๋”

“เหอะ เผ่ามารเช่นพวกเจ้าช่างชืนชอบการฆ่าฟันยิ่งนัก”

“ว่าแต่สิ่งที่ข้าร้องขอไปท่านนำมาหรือไม่”

“แน่นอนเทพเช่นพวกข้าหาได้ไร้สัจจะเช่นพวกเจ้าไม่”

เสียงสะบัดมือดังแว่วขวดยาสีทองพุ่งเข้าหาสือตี้จงเขารีบคว้ารับพร้อมกับเปิดจุดขวดยาออกมาสูดดม เขาสะบัดมือขวาเก็บขวดยาซัดม้วนหนังไปทางชายฉกรรจ์ผู้หนึ่ง ทันใดนั้นเองกระบี่สามเล่มที่ร่วงลงพื้นก็สั่นสะเทือนเล่มหนึ่งพุ่งออกไปจ้วงแทงหญิงสาวตกตายลงไปนอนกับพื้น อีกสองเล่มพุ่งทะยานหายเข้าไปในแหวน สือตี้จงทำได้เพียงหรี่ตามองซากศพของหญิงสาว

“หวังว่างานที่ข้าให้เจ้าไปทำจะสำเร็จ”

“แน่นอน เพราะประมุขมอบหมายให้ข้าไปชิงดาบ เมื่อใดที่ข้าได้ดาบดับอสูรมาอยู่ในมือ คุณชายเวิ่นเทียนต้องได้ชื่นชมดาบอย่างแน่นอน”

“เหอะ แล้วประมุขของเจ้าจะไม่โกรธรึ”

“เรื่องนั้นท่านวางใจเถอะข้ามีแผน”

“หากเป็นเช่นนั้นข้าก็วางใจ เห็นทีข้าต้องไปก่อน”

สิ้นเสียงกล่าวชายฉกรรจ์ชุดสีแดงก็จางหายไปเช่นเดียวกับสือตี้จง

“เจ้าจะทำอย่างไรต่อไอ้หนู”

“ยังไม่ถึงเวลาชิงดาบขอรับ ตอนนี้ต้องรีบไปที่ตระกูลชิงเสียก่อน”

เนี่ยฟงถีบลงมาจากกิ่งไม้พุ่งทะยานมุ่งหน้าไปที่ตระกูลชิงรุ่งเช้าเขาก็พบเห็นเมืองขนาดใหญ่ด้านหน้า เมื่อเดินผ่านประตูเมืองเขาก็เอ่ยวาจาสองถามถึงที่ตั้งของตระกูลชิง ทหารหน้าประตูเมืองสองนายรับอาสาเดินไปส่ง สภาพเมืองที่นี่สวยงามไปด้วยดอกไม้นานาชนิด บ้านเรือนทำมาจากหินตัดและไม้ เกือบสองเค่อเนี่ยฟงก็มายืนอยู่ด้านหน้ากำแพงขนาดใหญ่ มีชายฉกรรจ์สี่คนยืนอยู่ด้านหน้าประตูไม้ทหารนายหนึ่งรีบเดินเข้าไปแจ้งไม่ถึงสิบลมหายใจชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งก็เปิดประตูพุ่งหาเข้าไปในบ้านไม่ถึงยี่สิบลมหายใจชายฉกรรจ์ก็กลับมาพร้อมกับชิงเสี้ยว ทันทีที่เห็นเนี่ยฟงเขาก็ตื่นตกใจพุ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ

“ข้าคิดว่าท่านตกตายลงไปแล้ว”

“มีผู้อาวุโสท่านหนึ่งช่วยชีวิตข้าเอาไว้”

เสียงสะบัดมือดังแว่วดาบเล่มใหญ่ด้ามถือมีรูปสลักพยัคฆ์ ชายฉกรรจ์สี่คนและทหารต่างสะบัดอาวุธมากำชับด้วยเช่นกัน เนี่ยฟงยื่นดาบเล่มนั้นให้แก่ชิงเสี้ยว

“ระหว่างเดินทางมาที่นี่ข้าพบเจอดาบอยู่เล่มหนึ่งที่เหมาะสมกับคุณชายชิงมู่ถัง”

เนี่ยฟงรีบก้าวเดินเข้ามากระซิบข้างๆหูชิงเสี้ยว

“อย่าบอกกล่าวต่อผู้ใดขอรับ ดาบเล่มนี้มีความสามารถส่งเสริมพลังปราณแก่ผู้ครอบครองดาบ”

ชิงเสี้ยวก้มลงมาจ้องมองดาบอย่างไม่วางตา เขารีบคว้าขึ้นมาก็พบว่ามีบางอย่างต่างออกไปจากดาบเล่มอื่น เขาหันมามองชายฉกรรจ์สี่คนด้านหลัง

“เก็บอาวุธของพวกเจ้าซะ”

ชายฉกรรจ์ทั้งสี่สะบัดมือขวาเก็บอาวุธในมือเช่นเดียวกับทหารทั้งสอง

“เชิญคุณชายด้านในขอรับ”

เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมา

“ข้าคงไม่รบกวนท่าน ข้ามาที่นี่เพียงแค่นำดาบมามอบให้เพียงแค่นั้น”

“แต่ว่าคุณชายตาบอด”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ”

เนี่ยฟงก้มคารวะชิงเสี้ยวหลังจากนั้นก็หันมากล่าวขอบคุณทหารทั้งสอง ไม่นานเขาก็เดินจากไป เขาเลือกโรงเตี๊ยมหลังหนึ่งในตรอกเล็กๆโรงเตี๊ยมที่นี่มีเพียงห้องพักไม่กี่ห้อง เมื่อเดินเข้ามาด้านในเสี่ยวเอ้อสองคนรีบเข้ามาช่วยเหลือ เนี่ยฟงสั่งอาหารพร้อมกับแจ้งขอเข้าพักสองคืน ในระหว่างที่ทานอาหารได้มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งล้อมที่ด้านหน้าโรงเตี๊ยมเอาไว้ เถ้าแก่ตื่นตกใจรีบออกมาก็พบว่าเป็นคนตระกูลชิง “เกิดสิ่งใดขึ้นชิงคังเก่อ เหตุใดเจ้าถึงนำกำลังคนมากมายมาที่นี่”

ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งมีแผลเป็นบริเวณแขนซ้ายก้าวเดินออกมา

“หุบปากของเจ้าซะเถ้าแก่จางซี พวกข้ามาที่นี่เพียงเพื่อเชิญคนผู้หนึ่งตามคำสั่งนายน้อยชิงมู่ถัง”

เนี่ยฟงได้ยินเช่นนั้นก็แสยะยิ้ม ชิงคังเก่อชี้นิ้วชี้มาทางชายหนุ่มตาบอดที่กำลังทานอาหารอยู่ เถ้าแก่จางซีเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ต้องหลีกทางให้ ชิงคังเก่อนำกำลังคนก้าวเดินเข้ามา

“คงเป็นเจ้าสินะที่มอบดาบให้แก่นายน้อยชิงมู่ถัง”

“เป็นข้าเอง พวกท่านมีสิ่งใดรึ”

“นายน้อยชิงมู่ถัง เชิญเจ้าเข้าพบที่ตระกูลชิง”

เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมา

“ตัวข้าคงคิดตามพวกท่านไปไม่ได้ ฝากขอบคุณคุณชายชิงมู่ถังด้วยขอรับ”

เสียงสะบัดมือดังแว่วขวดยาสีขาวนวลปรากฏที่มือขวา เนี่ยฟงวางขวดยาลงบนโต๊ะ

“ด้านในเป็นเม็ดยาเพิ่มพลังปราณ ข้าได้มันมาจากผู้อาวุโสท่านหนึ่ง เชิญพวกท่านนำกลับไปมองแก่คุณชายเถอะ”

ชิงคังเก่อรีบหยิบขวดยาขึ้นมา ทันทีที่เปิดจุกขวดยาออกมากลิ่นหอมของสมุนไพรโชยออกมาเขารีบปิดฝาจุกอย่างรวดเร็วพร้อมกับนำกำลังออกไปจากโรงเตี๊ยม หลังจากทานอาหารจนอิ่มเสี่ยวเอ้อก็พาเนี่ยฟงขึ้นไปพักบนห้องพักชั้นสอง

“เจ้าคิดว่าชิงมู่ถังจะทานยาของเจ้าหรือไม่”

“แน่นอนคนผู้นี้มีความโลภยิ่งถึงกล้าวางยาพิษสังหารข้า เพียงเพราะต้องการของภายในแหวน เจ้านั้นคงคิดว่าคัมภีร์ยุทธที่ข้าฝึกฝนอยู่ในแหวนเป็นแน่ หากข้าเดาไม่ผิดทันทีที่กลืนเม็ดยาลงไปต้องส่งคนมาสังหารข้าอีกอย่างแน่นอน”

เนี่ยฟงเพียงแต่นั่งโคจรลมปราณรอคอยเพียงแค่นั้น และกลางดึกคืนนั้นเองถายในห้องพักของเนี่ยฟงได้มีกลุ่มควันพิษพุ่งพวยออกมาตามซอกประตู ไม่ถึงครึ่งเค่อได้มีชายฉกรรจ์สี่คนบุกเข้ามาด้านในห้องเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มตาบอดนอนแน่นิ่งอยู่เตียงพวกเขาทั้งสี่จึงแบกชายหนุ่มตาบอดออกไปจากโรงเตี๊ยม เนี่ยฟงแผ่ลมปราณตรวจสอบก็พบว่าตนเองกำลังถูกพาไปที่ด้านท้ายของเมือง ไม่ถึงครึ่งเค่อเขาก็ถูกพาตัวมาที่บ้านร้างหลังหนึ่ง เมื่อมาถึงเนี่ยฟงถูกมัดกับเชือกติดไว้ที่เสาบ้าน ชั่วน้ำเดือดได้มีชายฉกรรจ์สองคนก้าวเดินเข้ามาภายในบ้านร้างชายผู้หนึ่งสาดน้ำในถังไปยังชายหนุ่มตาบอด

“ข้าต้องขอบใจมากคุณชายเนี่ยฟงที่มองเม็ดยาและดาบมาให้แก่ข้า”

เนี่ยฟงแสดงว่าที่ตื่นตกใจ

“เป็นคุณชายชิงมู่ถังหรอกรึ เหตุใดท่านถึงจับตัวข้ามาเช่นนี้”

เสียงก้าวเท้าเดินเข้ามาหาเนี่ยฟงอย่างช้าๆหยุดอยู่ด้านหน้า

“หากข้าจะขอเม็ดยาจากตัวท่านเพิ่มจะได้หรือไม่”

“คงไม่มีแล้วขอรับ ข้าได้มอบมันให้คนของท่านไปหมดแล้วถึงสามขวด”

ชิงคังเก่อได้ยินเช่นนั้นถึงกับขมวดคิ้ว

“ผายลม เจ้ามอบให้ข้าเพียงแค่ขวดเดียว”

“ถึงข้าจะตาบอดแต่ข้าจดจำได้ดีว่าข้านำขวดยาออกมาสามขวด”

ชิงมู่ถังหันไปมองชิงคัวเก่ออย่างไม่วางตาจากนั้นเขาก็แสยะยิ้ม

“ช่างเถอะ หากข้าสังหารเจ้าแล้วตรวจสอบภายในแหวนก็คงทราบเองจริงหรือไม่”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด