ตอนที่แล้วบทที่ 329
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 331

บทที่ 330


รุ่งเช้าเมื่อทุกคนตื่นขึ้นเป็นชิงมู่ถังที่รีบเข้าไปตรวจสอบเนี่ยฟงเมื่อเห็นว่าปากเนี่ยฟงเป็นสีม่วงจากพิษ เขาแอบโรยยาพิษไปตามเสื้อผ้าของเนี่ยฟง หลังจากนั้นก็ทำทีเป็นจับไปที่จุดที่โรยยาพิษก็เอ่ยวาจาออกมาด้วยความตื่นตกใจ

“ท่านชิงเสี้ยว ท่านฉูเทียนเฉียน คุณชายเนี่ยฟงตกตายแล้วขอรับ”

ทั้งสองได้ยินถึงกับตื่นตกใจรีบเข้าไปตรวจสอบอาการชิงมู่ถังรีบยกมือขึ้นห้าม

“อย่าแตะต้องตัวขอรับ พวกท่านอาจได้รับพิษ เช่นมือซ้ายของข้า”

ชิงมู่ถังยกมือซ้ายขึ้นมาที่ตอนนี้ฝ่ามือเริ่มเป็นสีม่วงแล้ว ฉูเทียนเฉียนสบถออกมาเสียงดังลั่น

“บัดซบ เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร แล้วเขาได้รับพิษได้อย่างไร”

ชิงมู่ถังส่ายศีรษะไปมา

“ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน แล้วเราจะทำอย่างไรต่อ”

“เราคงต้องออกไปจากที่นี่เพราะไม่เช่นนั้นพวกเราเองก็อาจจะได้รับพิษไปด้วย ข้าคิดว่าข้าจะกลับไปรวมตัวกับพวกกบฏ พวกท่านทั้งสองจะไปกับข้าหรือไม่”

ชิงมู่ถังรีบเอ่ยวาจาออกมา

“ข้าคิดว่าพวกข้าสองคนคงต้องกลับไปที่ตระกูลชิงก่อน คงไม่รบกวนท่านฉูเทียนเฉียนแล้ว”

ชิงเสี้ยวถึงกับขมวดคิ้วหมายเอ่ยวาจาออกมา เป็นชิงมู่ถังที่ยกมือขึ้นห้าม

“ท่านชิงเสี้ยว หากเราติดตามท่านฉูเทียนเฉียนไปอาจจะทำให้เขาลำบากขึ้นอีก ตัวข้าอาจเป็นภาระให้พวกท่านทั้งสองดั่งเช่นที่เคยทำมาถึงแม้ตอนนี้ร่างกายข้าจะเริ่มหายดีแล้ว ตอนนี้ข้าคิดว่าถึงเวลาที่เราคงต้องแยกจากกันแล้ว”

“ได้ หากท่านกล่าวเช่นนั้นเราก็ควรแยกทางกันที่นี่ หากข้าจัดการเรื่องที่นี่เสร็จสิ้นข้าจะไปเยี่ยมพวกท่านที่ตระกูลชิง”

ชิงเสี้ยวรีบเอ่ยวาจาออกมา

“แล้วซากศพของคุณชายเนี่ยฟงจะทำอย่างไร”

“ไม่ต้องห่วง รอให้พิษจางหายข้าจะกลับมาทำพิธีศพให้แก่เขาเอง ว่าแต่คุณชายพิษที่มือซ้ายของท่านเป็นอย่างไรบ้าง”

ชิงเสี้ยวรีบสะบัดมือขวานำขวดยาออกมาหลังจากนั้นรีบเทเม็ดยายื่นให้ชิงมู่ถัง

“นายน้อยเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”

ชิงมู่ถังยกมือซ้ายขึ้นมาพบว่าพิษร้ายเริ่มถูกขจัดแล้วฝ่ามือที่เป็นสีม่วงเริ่มจางหายเขาถึงกับเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ท่านมียาแก้พิษด้วยอย่างนั้นรึ”

“เป็นยาที่คุณชายเนี่ยฟงมอบให้”

ชิงมู่ถังได้ยินเช่นนั้นก็แสยะยิ้ม

“เอาเถอะ เราทั้งสามคงต้องแยกจากกันแล้วหากอยู่ที่นี่นานเกิดไปเราอาจจะได้รับพิษอีก”

สิ้นเสียงกล่าวของชิงมู่ถัง ทั้งสามก็รีบออกไปจากถ้ำโดยทิ้งซากศพของเนี่ยฟงเอาไว้ ชั่วน้ำเดือดหลังจากที่ทั้งสามออกไปจากถ้ำเนี่ยฟงค่อยๆลุกขึ้นมานั่งโคจรลมปราณบริเวณปากที่มีสีม่วงเริ่มกลับมาเป็นปกติ เขาแผ่ลมปราณออกมาจากร่างกายไม่นานเขาก็มองเห็นสภาพภายในถ้ำทั้งหมดเพียงแต่ว่าเป็นภาพขาวดำ เขาเดินไปมาภายในถ้ำ

“เจ้ามองเห็นแล้วอย่างนั้นรึไอ้หนู”

“ขอรับ เพียงแต่ว่าหากไกลจากตัวข้าเกินยี่สิบก้าวจะมองเห็นทุกอย่างเลือนราง ข้าคงต้องรีบฝึกฝนปราณจิตเก้าสวรรค์จึนถึงขั้นผลิดอกเสียก่อน”

สิ้นเสียงกล่าวเขาก็สะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ปรากฏที่ด้านหน้าของถ้ำทับซ่อนกันถึงสามวง หลังจากนั้นเขาก็นำขวดยาออกมาหนึ่งขวดหลังจากกลืนเม็ดยาในขวดทั้งหมดก็เริ่มโคจรลมปราณฝึกฝนปราณจิตเก้าสวรรค์ เวลาค่อยๆไหลผ่านอย่างช้าๆล่วงเลยไปถึงยี่สิบวันเนี่ยฟงก็ฝึกฝนถึงระดับผลิดอก เขาสามารถมองเห็นรอบด้านอย่างเช่นปกติเพียงแต่เป็นภาพขาวดำเท่านั้นแต่ยังต้องใช้พลังปราณแผ่ออกมาจากร่างอยู่เช่นเดิม เสียงสะบัดมือดังแว่วอีกครั้งแส้แข็งสีขาวตอนนี้เสียหายจนใช้การไม่ได้ เหลือเพียงมีดสั้นสีดำ กงล้อสะท้านฟ้าหนึ่งคู่ ดาบและกระบี่อย่างละสิบเล่ม

“ข้าคงต้องหาอาวุธมาเพิ่มอีกแล้ว”

หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสวมใส่เป็นชุดสีเทา ใช้ผ้าสีเทาเช่นกันมัดที่ดวงตาทั้งสองเอาไว้ ทันใดนั้นเองเนี่ยฟงก็สัมผัสบางอย่างกำลังพุ่งทะยานมาบริเวณถ้ำที่หลบซ่อน เขารีบออกจากถ้ำเพื่อตรวจสอบพบเจอขบวนขนาดใหญ่มีรถลากคันใหญ่อยู่ตรงกลางรายล้อมไปด้วยทหารเดินเท้า ทันใดนั้นเองเขาก็ขมวดคิ้ว มีกลุ่มคนห้าคนยืนขวางด้านหน้า ทันทีที่ขบวนขนาดใหญ่มาถึงกลุ่มคนทั้งห้าก็พุ่งเข้าปะทะกับกองกำลังทหารเสียงการปะทะดังลั่น เนี่ยฟงถีบเท้าพุ่งทะยานเข้าไปเมื่อมาถึงก็พบว่ากองกำลังทหารถูกสังหารจนหมดสิ้นคนทั้งห้ามุ่งหน้าไปที่รถลากคันใหญ่ มีใครบางคนแอบหลบหนีจากรถลากอีกทางเป็นหญิงสาวนางหนึ่ง ไม่ถึงสามลมหายใจเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องพร้อมเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือของหญิงสาว มีดสั้นเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาเนี่ยฟงพุ่งทะยานรีบดึงตัวหญิงสาวหลบมาทางซ้ายใช้มือขวาคว้ารับมีดสั้นพร้อมกับเร่งโคจรลมปราณซัดมีดสั้นออกไป ไม่ถึงครึ่งลมหายใจก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังออกมาจากด้านหน้า

“ไม่ต้องกลัวแม่นาง เจ้าปลอดภัยแล้ว”

“กลุ่มคนพวกนั้นเป็นเผ่ายักษ์เป็นยอดฝีมือ ทหารของข้าตกตายจนหมด ท่านเพียงผู้เดียวไม่ไหวหรอกทิ้งข้าไว้ที่นี่เถอะอีกอย่างตัวท่านเองก็ตาบอด”

“วางใจเถอะแม่นาง”

สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงก็ใช้มือขวาจี้สกัดจุดหญิงสาวนางนั้น เขาพยุงหญิงสาวนอนบนพื้น

“แม่นางไม่ต้องตกใจ ข้าเพียงแค่จี้สกัดจุดห้ามเลือดและเคลื่อนไหวเท่านั้นไม่ต้องกังวล ไม่ต้องห่วงข้าเดี๋ยวข้าจะกลับมา”

เนี่ยฟงก้าวเดินออกไปช้าๆพบเห็นชายฉกรรจ์ห้าคนยืนขวางด้านหน้าคนทั้งห้าถืออาวุธแปลกประหลาด ทันใดนั้นเองชายฉกรรจ์สามคนพุ่งทะยาน ผู้หนึ่งสะบัดมือขวาซัดมีดสั้นออกมา เนี่ยฟงแสยะยิ้มใช้ความเร็วโยกตัวหลบมีดสั้นจนมองเห็นทะลุตัว เขาพุ่งเข้าประชิดต่อยหมัดขวาไปที่หน้าอกอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง เสียงกระดูกแตกดังลั่นติดตามชายผู้นั้นตกตายลงทันที มีชายฉกรรจ์อีกผู้หนึ่งปรากฏตัวที่ด้านหลังต่อยหมัดขวาออกมา เขาโยกตัวหลบไปทางซ้ายชายฉกรรจ์อีกคนก็ฟาดหวดขวานเหล็กขนาดใหญ่เข้ามา ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมือขวายกขึ้นคว้าจับไปที่คมขวาน ชายฉกรรจ์ที่อยู่ใกล้หัวเราะออกมาในลำคอพุ่งเข้ามาด้านหน้าต่อยหมัดขวาออกมา เนี่ยฟงเองก็หัวเราะในลำคอเช่นกันยกมือซ้ายคว้าจับหมัดขวาเอาไว้ ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมือทั้งสองข้าง เขาออกแรงบีบมือซ้ายเสียงกระดูกมือแดงดังลั่น ชายฉกรรจ์ที่ถือขวานเหล็กรีบปล่อยมือออกจากด้ามขวานเพราะความเจ็บปวด เนี่ยฟงโยนขวานเหล็กขึ้นใช้เท้าขวาถีบไปที่ด้ามขวานพุ่งออกไป เปรี้ยง ชายฉกรรจ์ที่ถือขวานกระเด็นออกไป เขาดึงแขนซ้ายเข้ามาพร้อมกับต่อยหมัดขวาออกไปที่ปลายคาง เปรี้ยง ใบหน้าสะบัดร่วงลงพื้น ชายฉกรรจ์อีกสองคนที่ยืนอยู่ตัวสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว

“ข้าให้โอกาสพวกเจ้าหลบหนี ภายในสามลมหายใจ”

ชายฉกรรจ์ทั้งสองเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มด้านหน้าเป็นเพียงคนตาบอด ทั้งสองก็แกล้งทำเป็นถีบเท้าหลบหนีแต่ทว่ากลับพุ่งเข้ามาประชิด เนี่ยฟงแสยะยิ้มออกมา

“เห็นว่าข้าตาบอดมองไม่เห็นสิ่งใดอย่างนั้นรึ”

เสียงสะบัดมือดังแว่วกระบี่สี่เล่มถูกซัดออกไปจ้วงแทงชายฉกรรจ์ทั้งสองอย่างรวดเร็ว

“ข้าให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว”

เนี่ยฟงเข้าไปตรวจสอบซากศพพร้อมกับปลดแหวนในมือออกมาหลังจากนั้นก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้สลบลงไปแล้ว เขารีบเข้าไปตรวจสอบชีพจรหลังจากนั้นก็ป้อนยาให้ทานหนึ่งเม็ด ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแว่วดังมาจากกลุ่มทหารที่ติดตามหญิงสาวมา เมื่อเข้าไปตรวจสอบก็พบว่ามีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งยังมีชีวิตอยู่เขารีบป้อนยารักษาอาการบาดเจ็บแล้วพยุงชายผู้นั้นมานอนใกล้ๆกับหญิงสาว เนี่ยฟงเดินไปลากรถลากพร้อมพยัคฆ์สามตัวมาอยู่ใกล้ๆด้วยเช่นกันเพื่อบังแดด สองชั่วยามแสงอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้า กองไฟถูกก่อจากเศษไม้ที่เกวียนลาก เนื้อสัตว์อสูรย่างส่งกลิ่นหอม ชายฉกรรจ์รู้สึกตัวก่อนเมื่อตื่นขึ้นมาก็รีบสะบัดมือขวากำชับดาบชี้มาที่ชายหนุ่มตาบอดผู้หนึ่งที่กำลังย่างเนื้ออยู่

“ใจเย็นๆก่อนพี่ชาย ท่านได้รับบาดเจ็บมาไม่น้อยนั่งพักก่อนเถอะ เนื้อย่างใกล้สุขแล้ว ตัวข้าเป็นเพียงนักเดินทางเท่านั้น”

“เจ้าไม่ใช่คนที่นี่ เจ้ามาจากเขตด้านนอก”

“ถูกของท่าน”

ในระหว่างนั้นหญิงสาวก็เริ่มรู้สึกตัว ทันทีที่นางมองเห็นคนของนางชี้ดาบไปที่ชายหนุ่มตาบอดนางก็รีบเอ่ยวาจาออกมา

“พี่ชายลิ่วเถียนวางดาบลงเถอะ ชายผู้นี้เป็นคนช่วยเหลือข้าและท่านเรื่องนี้ข้ายืนยันได้”

ลิ้วเถียนค่อยๆวางดาบในมือลง เนี่ยฟงยกเนื้อย่างขึ้นมาสูดดม

“เนื้อย่างสุขกำลังดี ท่านทั้งสองทานเถอะ”

เนี่ยฟงยื่นเนื้อย่างไปด้านหน้าลิ้วเถียนขมวดคิ้วเอ่ยวาจาสอบถาม

“เจ้าตาบอดอย่างนั้นรึ”

“ตัวข้ามีนามว่าเนี่ยฟง มาจากเขตด้านนอกจริงส่วนข้ามาที่นี่ได้อย่างไรข้าของไม่แจ้งต่อพวกท่าน ส่วนตาของข้าหาได้บอดสนิทเพียงแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น รีบทานเนื้อย่างเถอะขอรับ”

ลิ้วเถียนเดินเข้าไปคว้าไม้เสียบเนื้อย่างจากเนี่ยฟง หญิงสาวนางนั้นก็เอ่ยวาจาออกมา

“ตัวข้ามีนามว่าฉีฮั่วเหลียน ข้าต้องเอ่ยขอบคุณท่านเนี่ยฟงอีกครั้งที่ช่วยเหลือ ว่าแต่ตอนนี้ท่านคิดจะทำสิ่งใดต่อ”

“แต่เดิมข้าคิดที่จะไปชมการชิงดาบดับอสูรที่เขาอู่ไถ่ แต่ทว่าตอนนี้ต้องออกไปจากเขตแห่งนี้ก่อน”

ลิ้วเถียนได้ยินเช่นนั้นก็เสียบไม้ย่างเนื้อลงพื้นสะบัดมือขวานำม้วนหนังแกะโยนให้แก่เนี่ยฟง

“นั้นคือแผนที่ของเขตแห่งนี้ทั้งหมด เจ้าเดินตามแผนที่ลงใต้อ้อมเขาสามลูกขึ้นไปทางทิศตะวันออกก็จะออกจากเขตแห่งนี้แล้ว”

ฉีฮั่วเหลียนขมวดคิ้วหันไปมองลิ้วเถียน หลังจากนั้นก็หันมายกยิ้มให้แก่เนี่ยฟง

“เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ ท่านติดตามข้ากลับไปในเมืองข้าจะกล่าวต่อท่านพ่อให้ส่งคนไปส่งท่านดีหรือไม่”

เนี่ยฟงลุกขึ้นหยิบม้วนหนังแกะ

“ไม่เป็นไรขอรับแม่นางฉีฮั่วเหลียน ข้าคงไม่รบกวนพวกท่าน”

“แต่ว่าช่วงนี้เป็นช่วงกวาดล้างกบฏ ข้ากลัวว่าท่านจะถูกทำร้าย”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง หากไม่มีสิ่งใดแล้วข้าคงต้องขอตัวก่อน”

ฉีฮั่วเหลียนยังไม่ทันใดกล่าวสิ่งใดเนี่ยฟงก็จางหายไปเสียแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด