ตอนที่ 3 - ความโกรธฉับพลัน (2)
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
--------------------------------------------------------------------------------------------
ราวกับสะดุ้งเพราะโดนน้ำเย็นเอมิเลียก็ปรี๊ดแตกทันที. เธอลืมไปว่าเจ้านี่ไม่ใช่ทารกมนุษย์ธรรมดา. มันเป็นดาร์คเอล์ฟผู้ที่ชิงชังศาสนาแห่งแสงสุดใจ.
เมื่อตะกี้เธอเพิ่งใช้เวทย์มนต์ไปคงจะมีเศษแสงสว่างกระจายไปทั่วจนเจ้าเอล์ฟรู้เข้า.
เอมิเลียรู้สึกว่าบางอย่างแหม่งๆไป จึงไปดึงคางเจ้าเอล์ฟแล้วมองเขาใกล้ๆ “ไหนนายบอกจำอะไรไม่ได้ไง?”
พอโดนแตะตัวแบบนี้เจ้าเอล์ฟก็โกรธขึ้นมาอีกครั้ง เขาข่วนเธอไปอย่างเร็ว.
ด้วยความรู้สึกตัวที่เร็วเอมิเลียจึงชักแขนกลับออกมาได้ทันแต่ถึงอย่างนั้นกรงเล็บของเจ้าเอล์ฟก็ข่วนโดนไปหน่อยๆ.
เอมิเลียจึงถอยหลังกลับไปให้มีระยะห่างพอดีกับเจ้าเอล์ฟ.
พอมองดูเจ้าสิ่งมีชีวิตจากความมืดจากไกลๆแล้ว ร่างกายที่มีแต่แผลข่วนและโดนมัดไว้กับเตียงทำให้เขาดูราวกับสัตว์ที่โดนเจ้าของทุบตีเพื่อจะทำให้มันเชื่องเลย.
เอมิเลียยืนเท้าสะเอว. เธอโกรธมากถึงขนาดจะตีเจ้าเอล์ฟให้ตายด้วยมือเปล่าได้เลย “ดูผ้าพันแผลที่ตัวแกสิ. ชั้นเป็นคนพันให้แกนะเจ้าเด็กทรพี! ชั้นช่วยชีวิตแกเพื่ออะไรเนี่ย”! เธอตะโกนแล้วชี้หน้าเจ้าเอล์ฟจากไกลๆ.
เจ้าเอล์ฟมองตามนิ้วของเอมิเลียลงมาเห็นผ้าพันแผลเต็มตัวไปหมด.
ผ้าพันแผลสีขาวรัดผิวสีดำของเขาไปหมด มีทั้งโคลนและคราบเลือดที่แห้งอยู่เต็ม. เขาเห็นสะเก็ดดินอยู่ตามผ้าพันแผล. มันดูย้อนกับสีผิวคล้ำๆของเขามาก ราวกับดอกไม้สีขาวในใจกลางบึง.
เหมือนกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาเลย.
เจ้าเอล์ฟผงกหัวขึ้น เขาจำอะไรไม่ได้เลยและจำไม่ได้ด้วยว่ามาจากไหน. ทุกๆอย่างโล่งไปหมด.
แม้จะจำอะไรไม่ได้ก็ตาม เจ้าเอล์ฟก็ยังมีสัญชาตญาณภายในที่เกลียดชังทุกๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับศาสนาแห่งแสง.
ถ้าเขาขยับได้ล่ะก็ เขาจะขยี้ผู้หญิงคนนี้ให้แหลกเป็นผุยผงแล้วโยนลงนรกไปลึกๆเลย.
ตาของเจ้าดาร์คเอล์ฟไฟลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่รอบนี้เขาไม่ขยับตัวเลย เขาแค่มองเอมิเลียด้วยสายตาที่ดูเดือดราวกับน้ำต้มเลย.
เขาจะไม่ยอมสิโรราบ. เขากำลังจดจำหน้าตาของเอมิเลียไว้ จำไว้ใส่สมองให้ดีๆพอถึงเวลาที่จะแก้แค้นเธอ เขาจะกัดเธอด้วยฟันแหลมๆเลย.
พอเจ้าเอล์ฟมองเธอด้วยสายตาอาฆาตรุนแรง เอมิเลียจึงไม่มีความสงสารให้กับมันอีกต่อไป. เจ้าสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดตัวนี้ไม่รู้จักบุญคุณเอาซะเลย.
ที่ห้องใต้ดินนั้นมีแต่ความเงียบสงัดขณะทื่ทั้งสองคนจ้องหน้ากันไปมา คนนึงไม่ชอบตัวตนของอีกคน. แม้จะอยู่ในท่านอนก็ตาม เจ้าเอล์ฟยังคงจ้องเอมิเลียอย่างไม่ลดละเลย.
ผมสลวยสีเทาของเขาสะบัดไปมาที่หน้าและเอมิเลียคิดว่าถ้ามันเข้าตาไปคงจะสะใจไม่น้อย.
จากนั้นเอมิเลียจึงไปเก็บของโดยไม่สนใจเจ้าเอล์ฟที่โดนมัดเลยจากนั้นเธอก็ออกห้องใต้ดินไป.
เธอไม่มีอารมณ์จ้องหน้าอีกต่อไป โดยเฉพาะกับเจ้าเอล์ฟที่ทำตัวดุร้ายใส่เธอแม้เธอจะทำให้เขาทุกอย่างแล้วก็ตาม. เธอรู้แน่ว่าถ้าอยู่ต่อคงอารมณ์เสียใส่เจ้าเอล์ฟไม่รู้คุณนั่นเลยตัดสินใจปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวก่อนตอนนี้.
เอมิเลียพยายามปิดประตูเสียงดังให้ชัดๆใส่ จนประตูสั่นไปหมด.
นี่คือที่พักของเหล่าเซ้นต์ สรวงสวรรค์และศูนย์กลางของศาสนาแห่งแสง. แม้จะไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาที่วังของเธอ แต่เธอก็ระวังตัวและซ่อนเจ้าเอล์ฟให้ดีๆ. ถ้ามีใครรู้เข้าล่ะก็ นอกจากเจ้าเอล์ฟจะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมแล้ว เธอก็จะโดนหนักด้วยเหมือนกัน.
พอเอมิเลียมาคิดดูดีๆแล้ว เธอก็โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเธอเอง. ความหุนหันของเธอทำให้เจ้าเอล์ฟมาอยู่นี่และเธอก็ต้องรับผิดชอบ.
นอกจากเจ้าเอล์ฟที่อยู่ในห้องเธอแล้ว เธอก็ยังมีอีกปัญหาที่ต้องกังวลด้วย. เดบรายังไงล่ะ.