ตอนที่ 3 - ความโกรธฉับพลัน (1)
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
--------------------------------------------------------------------------------------------
เอมิเลียคุกเข่าแล้วเอียงตัวเข้าไปหาเจ้าเอล์ฟ. เธอโบกมือช้าๆใส่หน้าของเขา “รู้สึกเป็นไงบ้าง? พูดได้มั้ย?”
พอมองเจ้าเอล์ฟจากมุมนี้แล้ว เอมิเลียก็รู้สึกว่าเขาหน้าตาค่อนข้างดี. แม้ใบหน้าจะยังไม่โตเต็มที่แต่เธอก็สามารถรู้สึกถึงความเยือกเย็นได้เลย.
โดยเฉพาะขอบตาของเขาที่ดูเหมือนจะขีดด้วยอายไลเนอร์ไว้ ดวงตาของเขาดูมีเสน่ห์มากขึ้นเพราะขนตาที่ดูงอนดุจขนนก.
ไม่แปลกใจเลยว่าเอล์ฟเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเพราะหน้าตาดี.
นี่เป็นครั้งแรกที่เอมิเลียได้เห็นความงามของเด็กอายุน้อยๆ เธอนึกภาพไม่ออกจริงๆว่าเขาโตมาแล้วจะงดงามแค่ไหน.
ขนตาของเจ้าเอล์ฟกระตุก ตาของเขาค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆเพื่อดูรอบๆ. พอเขาหันข้างมาดูเอมิเลียเธอก็เห็นได้เลยว่าเขาพยายามจะเพ่งมากแค่ไหน เขาเอียงหัวด้วยความงุนงง.
เอมิเลียรู้สึกว่าตัวเองเอ็นดูเขาเพราะท่าทางนี่.
เธอพยายามห้ามใจไม่ให้ลูบหัวเขา “เธอชื่ออะไรเหรอ? มาจากที่ไหน?” เธอถามเจ้าเอล์ฟด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน.
เจ้าเอล์ฟกะพริบตาด้วยความประหลาดใจราวกับว่าไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร. เขาดูมึนงงและพยายามนึกความทรงจำให้ออก. พอผ่านไปแป๊บเดียวเขาก็ส่ายหัวแล้วก็ถาม “เจ้าหมายความว่าอะไร?”
เอมิเลียรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่. พอถามเจ้าเอล์ฟแล้วไม่ได้เรื่องหลายคำถาม เธอก็พอจะนึกออกว่าเกิดอะไรขึ้น.
เจ้าเอล์ฟสูญเสียความทรงจำไป.
แม้เธอจะสงสารเอล์ฟที่บาดเจ็บตนนี้ แต่เธอก็รู้สึกไม่ดีเพราะมันอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงก็ได้. เธอไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อขณะเดินวนไปมารอบห้อง สมองเธอนึกอะไรไม่ออกเลย.
พอนึกอะไรไม่ออกเอมิเลียจึงตัดสินใจทำความสะอาดให้เจ้าเอล์ฟแทน. เธอหยิบยาขี้ผึ้งออกมาจากลิ้นชักแล้วค่อยๆทาที่แผลของเจ้าเอล์ฟ. เจ้าเอล์ฟตัวนั้นนิ่งไม่พูดอะไร เอาแต่จ้องหน้าเอมิเลีย. แม้เธอจะเผลอกดแผลสดไป เจ้าเอล์ฟก็ไม่ร้องออกมาซักแอะแต่แค่สะดุ้งเล็กน้อย. ผมสีเทาของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อจนผ้าปูที่นอนเปียกไปหมด.
เอล์ฟตัวน้อยยังคงไม่ขยับตัว ปล่อยให้เอมิเลียทายาให้จนทั่ว.
เอมิเลียจ้องไปที่เจ้าเอล์ฟที่กำลังมองเพดานอยู่ เธอทึ่งมากเพราะเจ้าเอล์ฟว่าง่ายสุดๆ.
จากนั้นเธอก็ดีดนิ้วใช้เวทย์มนต์เช็ดคราบดินบนหน้าเจ้าเอล์ฟออกและสะเก็ดที่อยู่บนเสื้อของเขา.
พอมองดูแล้วว่าเจ้าเอล์ฟสะอาดพอเธอก็เอียงตัวเข้าไปหาอีกครั้งแล้วลูบหัวสีเทาของเขาเบาๆ “คิดซะว่าอยู่บ้านนะ โอเคมั้ย? เดี๋ยวเราจะหาทส- อ๊ะ!”
เอมิเลียอุทานด้วยความตกใจออกมาพร้อมชักมือกลับเพราะถูกตบ. เธอมองเจ้าเอล์ฟด้วยความที่ไม่อยากจะเชื่อ.
เจ้าเอล์ฟไม่ทำตัวสงบเหมือนก่อนหน้านี้เลย. เขาจ้องมาแรงมาก, หน้าผากยู่พร้อมสีหน้าที่ดูฉุนเฉียว.
‘แสง…’
“เจ้าขี้ข้า….ข้าจะฆ่าเจ้า…”
เจ้าเอล์ฟพ่นคำหยาบออกมาขณะจ้องเอมิเลียด้วยสายตาฉุนเฉียว. เจ้าเอล์ฟพยายามลุกขึ้นบนเตียงโดยไม่สนแผลบนตัวเลย.
เนื่องจากมีแรงเหลือนิดเดียวเพราะเสียเลือดไปเยอะมากๆ เจ้าเอล์ฟเลยลุกขึ้นมาได้นิดเดียวแล้วก็ร่วงลงไปที่เตียง. เจ้าเอล์ฟหอบขณะที่พยายามลุกจนผ้าพันแผลที่เอมิเลียพันไว้ให้เริ่มหลุดออก.
“อย่าขยับตัวสิ! เธอยังเจ็บอยู่นะ!” เอมิเลียว่าเจ้าเอล์ฟแล้วพยายามดันตัวเขาให้นอนลง “เป็นอะไรไปน่ะ? ตีชั้นทำไม?!”
น้ำเสียงของเอมิเลียทำให้เจ้าเอล์ฟยิ่งโมโหขึ้นไปอีก เขาตะคอกออกมา “ปล่อยข้านะ!”
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าเอล์ฟจะพูดติดๆขัดๆ แต่พอเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มพูดได้คล่องมากขึ้นและน้ำเสียงก็เริ่มชัดมากขึ้น.
ตาทั้งสองดวงของเจ้าเอล์ฟมมีไฟลุกโชนขึ้นมาแล้วจ้องไปที่เอมิเลียด้วยความโกรธเกรี้ยว. ดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามอย่างมากราวกับว่าจะโดดเข้ามากัดเอมิเลียเลย.
“ชั้นบอกให้หยุดขยับตัวไง! ไม่เข้าใจเหรอ?” เอมิเลียพูดเสียงดัง.
แต่เจ้าเอล์ฟตัวน้อยก็สู้กลับพร้อมดิ้นไปมาในมือของเอมิเลีย. ตอนแรกเธอห้ามเขาไม่อยู่เพราะเขาดิ้นสุดกำลังแต่ไม่นานเธอก็ทำสำเร็จแล้วก็เอาผ้าพันแผลมัดเขาไว้.
เธอสูดหายใจแล้วเช็ดเหงื่อที่หน้าผากออก “แกเป็นอะไรไปน่ะ? จู่ๆโรคหมาบ้ากำเริบรึไง? ชั้นพยายามจะช่วยนะไม่ได้จะทำร้าย!” เอมิเลียตะโกน.
คำพูดของเอมิเลียยิ่งทำให้เจ้าเอล์ฟเดือดดาลไปมากกว่าเดิม. เขาจ้องเธอราวกับว่าจะฆ่าให้ตาย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความขยะแขยง.
“แสง….ขี้ข้า! น่าขยะแขยง” เจ้าเอล์ฟที่กำลังเดือดดาลด่าออกมา.