บทที่ 5
เปลี่ยน บ่มเพาะ เป็น ฝึกตน
-***********
เซิ่นเทียนตัดสินใจตามหา ฉินเกา
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาคนๆหนึ่งในพระราชวังขนาดใหญ่นี้ อย่างไรก็ตามมันจะไม่ใช่ปัญหาหากมีรู้จักกับหัวหน้าขันทีในพระราชวัง
เซิ่นเทียนไม่รู้จักใครที่รี่ ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้สร้างความรำคาญให้กับเซิ่นเทียนเพราะไม่มีใครกล้าท้าทายองค์ชาย 13
หลังจากได้ยินคำขอของเขาหัวหน้าขันทีก็รีบออกตารางาน พร้อมกับความเคลื่อนไหวของขันทีทั้งหมดและแจ้งให้ เซิ่นเทียนทราบเกี่ยวกับเบาะแสของ ฉินเกา
หลังจากนั้นเขาก็ส่งเซิ่นเทียนออกจากกรมพระราชวังด้วยความเคารพ
เขากลัวว่าสำนักพระราชวังจะถล่มเหมือนสถาบันหลวง
…
เซิ่นเทียนพบว่า ฉินเกา กำลังทำงานให้กับองค์ชาย 6
องค์ชาย 6 มีนามว่า เซิ่ยโอว และเขามีความสามารถในการฝึกตนมากที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งหมดของเขา
เมื่ออายุได้ 18 ปีเขาฝึกฝนจนบรรลุกลั่นฉีถึงขั้นที่ 9 และใกล้จะถึงขั้นรากฐานแล้ว เขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะที่ไม่มีใคบเทียบได้แห่งอาณาจักแห่งเพลิง
ว่ากันว่า เซียน(supremacy ) คนหนึ่งจากถ้าสววรค์สีขาว สนใจเขาและรับเขาไปเป็นศิษย์สายตรง
ถิ่นทุรกันดารตะวันออกมีสองสาขาหลักสำหรับการฝึกตน หนึ่งคือ 36 ถ้ำสวรรค์และอีก 72 ดินแดนชั้นสูง(blessed land) ถ้ำสวรรค์สีขาวอยู่ในอันดับ 10 ในหมูถ้ำสวรรค์ด้วยกัน
มันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่เมื่อเซียนจากถ้ำสวรรค์สีขาวจะรับเป็นศิษย์
หากไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างน้อย เซิ่นโอว ก็จะกลายเป็นหนึ่งในขั้นแก่นทองคำ
หากเขาโชคดีกว่านี้ก็มีโอกาสที่เขาจะไปถึง วิญญาณแรกเริ่ม ในช่วงอายุ 500 ปีและกลายเป็นเซียนที่ได้รับความเคารพจากคนอื่น ๆ
ในตอนนั้นแม้แต่จักรรพดิก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับเขา ท้านที่สุดแล้วแม้แต่ผู้ยี่งใหญ่ที่อ่อนแอที่สุดก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างน้อย 1,000 ปีในโลก พวกเขาสามารถแยกภูเขาออกจากกันและแยกมหาสมุทร ตำแหน่งอย่างจักรพรรดิไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขา
ดังนั้น เซิ่นโอวจึงมีฐานะที่ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรแห่งเพลิง
องค์ชายคนอื่น ๆ จะไม่ยุ่งกับเขาอย่างตั้งใจ แม้จักรพรรดิจะปฎิบัติต่อเขาดีเพียงใด เพราะมันไม่จำเป็น
มันเป็นชะตากรรมของ เซิ่นโอวที่จะกลายเป็นเซียนเพราะเขาใช้เวลาทั้งชีวิตของเขาเพื่อฝึกตน โดยธรรมชาติแล้วเขาไม่สนใจบัลลังก์เลย
…
ข้าสงสัยว่ารัศมีของพี่ชาย 6 เป็นอย่างไร เซิ่นเทียนคิดกับตัวเอง
เขาเดินตามถนนในสวนราชวังและไปถึงวังองค์ชาย 6
ทันใดนั้นเซิ่นเทียนก็ได้ยินเสียงกรีดร้องตามมาด้วยโซ่
“เจ้าตาบอดเหรอ? เจ้างั่ง!”
“เจ้ามีความคิดบ้างไหมว่าเห็ดหลินจือเก้าใบนี้แพงแค่ไหน? แม้ว่าเจ้าจะมีเก้าชีวิตเจ้าก็ไม่มีอะไรเทียบมันได้”
“สำหรับพวกเจ้าที่เหลือถือเป็นคำเตือน! นี่จะเป็นการลงโทษถ้าเจ้าทำงานผิดพลาด!”
…
เซิ่นเทียนมองไปและเห็นฝูงชนรอบ ๆ บ่อน้ำในสวนหลวง ฝูงชนรวมตัวกันรอบไม้กางเขน บนนั้นมรขันทีที่บาดเจ็บสาหัสถูกมัดไว้ มันคือฉินเกา!
รัศมีของ ฉินเกา มีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะยังคงเป็นสีแดง แต่สีก็จางลงมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน บางส่วนเริ่มเป็นสีเขียวและไม่มีความสดใสเหมือนก่อน
ฉินเกา เป็นคนที่โชคดีไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้เขาต้องทนทุกข์ทรมานขนาดนี้?
เมื่อเขาเห็นฉินเกาถูกแส้ เซิ่นเทียนก็ตกใจ
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงนิยายบางเรื่องที่เขาเคยอ่านมาก่อน
ตัวละครหลักไม่ใช่ทั้งหมดที่มีชีวิตที่ราบรื่นรอพวกเขาอยู่ บางครั้งพวกเขาจะต้องเผชิญกับการดูถูก เอาชีวิตรอดและสังหารศัตรู ...
เดี๋ยวก่อน... เอาชีวิตรอดและฆ่าศัตรู!
เซิ่นเทียนรู้สึกหวาดกลัวกับความคิดของเขา
ใครคือศัตรูของ ฉินเกา ใ?
ขันทีที่กำลังตีเขาอยู่ตอนนี้? หรือนายของเขา เซิ่นโอว? หรือ…อาณาจักรแห่งเพลิงทั้งหมด!?
เซิ่นเทียนจำสิ่งที่ขันที กุ้ย พูดเกี่ยวกับปีศาจเฮียวกะและวิธีที่เขาแก้แค้นอาณาจักรคุน
เขาสังหารราชวงศ์ทั้งหมดเพียงเพราะเขาเคยถูกรังแกครั้งหนึ่งในวัง
วันนั้นเลือดไหลเหมือนสายน้ำ ทุกๆที่ราชวังเต็มไปด้วยซากศพ!
…
เจ้ากำลังทำอะไรกันแน่ เซิ่นโอว!?
ริมฝีปากของ เซิ่นเทียนกระตุก เขานึกภาพออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาไม่ยุ่งกับเหตุการณ์
ฉินเกา จะถูกรังแกเหมือนตอนนี้และเขาจะรอด จากนั้นเขาจะพบหนังสือ ประวัติศาสตร์แห่งเพลิงที่ยิ่งใหญ และ หนังสือปีศาจเฮียวกะ จากนั้นเขาก็จะหนีออกจากวังและเริ่มฝึกฝนวิชาปีศาจนี้ หลังจากเชี่ยวชาญทักษะแล้ว เขาจะกลับมาหา เซิ่นโอวและสังหารราชวงศ์ทั้งหมด!
ด้วยรัศมีสีดำบนศีรษะของ เซิ่นเทียน เขาเกือบจะมั่นใจได้ว่าเขาจะติดอยู่ในความวุ่นวายนี้และตกตายลง
เขามั่นใจ 99.99999%!
มีโอกาสไหมที่ฉินเกาจะไม่พยายามแก้แค้นหลังจากที่เชี่ยวชาญวิชาปีศาจ?
?!
ข้าพยายามอย่างมากที่จะมีชีวิตรอด แต่เจ้ากลับพังมัน เจ้าโง่ เซิ่นโอว!
เซิ่นเทียนเริ่มสาปแช่งบรรพบุรุษ18ชั่วโคตรของเซิ่นโอว?
อัจฉริยะในการฝึกตน?
เซียนแห่งถ้าสีขาวรับเจ้าเป็นศิษย์?
ทำสิ่งที่เจ้ากำลังทำต่อไปและเราทุกคนจะต้องตาย!
เจ้ากำลังพาข้าไปตาย
“ข้าจะทำยังไงดี!”
เซิ่นเทียนตื่นตระหนกเมื่อมองไปที่ ฉินเกา ซึ่งถูกมัดไว้บนไม้กางเขน
ข้าควรหันหลังเดินออกไปไหม?
ไม่ใช่ความคิดที่ดี สิ่งที่ข้าคิดจะเป็นจริงอย่างแน่
หรือข้าควรรอจนกว่าพวกเขาจะจัดการ ฉินเกา และตรวจสอบให้แน่ใจว่า ฉินเกา ตาย?
มันก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเหมือนกัน
เขาจะตายอย่างง่ายดายได้เหรอ โชคชะตาอวยพรเขา?
นอกจากนี้ยังมีรัศมีสีดำบนหัวของเซิ่นเทียน เขาจะไม่แปลกใจถ้ามีาผู้เชี่ยวชาญกระโดดลงมาจากท้องฟ้าและช่วย ฉินเกา ถ้าเขาพยายามฆ่า ฉินเกา ด้วยมือของเขาเอง
หากเขาโชคร้ายอีกเล็กน้อยผู้เชี่ยวชาญคนนี้จะรับฉินเกาเป็นศิษย์และฆ่าทุกคนที่นี่เพื่อล้างแค้นให้กับศิษย์ของเขา
แม้ว่าโอกาสจะมีน้อย แต่การปรากฏตัวของ เซิ่นเทียนก็ทำให้กฎแห่งความน่าจะเป็นไร้ประโยชน์ ... มีเพียงกฎของเมอร์ฟี่เท่านั้นที่จะใช้ในตอนนี้ ...
ลืมมันไป ข้าควรจะช่วยเขาก่อน!
เซิ่นเทียนตัดสินใจที่จะช่วย ฉินเกา และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา ฉินเกา อาจจะสามารถเรียนรู้วิชาอื่น ๆ และกลับมาเพื่อแก้แค้นในอนาคต อย่างน้อยบุญคุณนี้มันก็จะช่วยซิ่นเทียนไว้ได้
ใช่ อาจจะ!
เมื่อนึกขึ้นได้ เซิ่นเทียนก็เดินขึ้นมาและตะโกนว่า“หยุด!”
เมื่อพวกเขาได้ยิน เซิ่นเทียนทุกคนก็ถอยหลัง
พวกเขาคำนับ เซิ่นเทียนและรีบออกไป ดูเหมือนพวกเขาจะกลัวเขามาก
มีเพียงขันทีที่ตีฉินเกาเท่านั้นที่ยังคงอยู่ที่นั่น เขาอยู่ภายใต้คำสั่งของใครบางคนและไม่สามารถออกไปเหมือนคนอื่น ๆ ได้
ขณะที่ เซิ่นเทียนเข้ามาใกล้ใบหน้าของขันทีก็เต็มไปด้วยความตกใจความหวาดกลัวและความไม่สบายใจ
หายนะ!
“องค์ชาย 13 … ท่านมาทำอะไรที่นี่”
เซิ่นเทียนชี้ไปที่ ฉินเกา และพูดอย่างใจเย็น“ข้าจะพาชายคนนนั้นออกไป”
ขันทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เขาเพิ่งทำลายเห็ดหลินจือเก้าใบขององค์ชาย 6 เขาควรจะตาย องค์ชายที่ 13 โปรดอย่าทำให้ข้าลำบากเลย”
เซิ่นเทียนตะลึง เห็ดหลินจือเก้าใบเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรุงยาเสริมสร้างรากฐานชั้นเลิศ มันมีค่าสูงมาก
ดังนั้นมันจึงมีค่ามากกว่าชีวิตของขันทีระดับต่ำ
" งั้นข้าจะคุยกับพี่ชายของข้าเป็นการส่วนตัว!”
“เป็นเวลานานมากแล้วที่ข้าพูดกับเขาครั้งสุดท้ายด้วย โอ้ข้าคิดถึงเขามาก!”
เสียงสงบแต่หนักแน่นดังมาจากภายในวังทันทีหลังจากที่เซิ่นเทียนพูดจบ
“นั่นไม่จำเป็น เจ้าเป็นน้องชายของข้า เต้ามีสิมธิ์ที่จะพาเขาไป!”
“น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถพบเจ้าเป็นการส่วนตัวได้ ตอนนี้ข้ากำลังกักตนและไม่สามารถหยุดชะงักได้”
“หลี ส่งพวกเขาออกไป”