ตอนที่แล้วบทที่ 3
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5

บทที่ 4


เซิ่นเทียนถอนหายใจและถาม“มันคืออะไร?”

“ฝ่าบาทลองดูที่นี่”

ขันทีกุ้ยพลิกไปที่หน้าสุดท้ายของหนังสือและดึงปกแข็งออก เขาใช้พลังปราณของเขาและปกแข็งก็แยกออกเป็นสองส่วนที่แตกต่างกันโดยมีบางอย่างซ่อนอยู่ระหว่างนั้น

มันเป็นหยกที่ห่อด้วยผ้าแพรขนาดเท่าฝ่ามือ หยกนั้นเปล่งประกายด้วยแสง

“มันเป็นอะไรที่พิเศษมาก น่าจะเป็นหยกทักษะทที่ทึกวิชายุทธของบรรพชน!”

ขันทีกุ้ยไม่ได้อ่านเนื้อหาข้างใน เขาส่งมันให้กับเซิ่นเทียนและกล่าวว่า“ฝ่าบาทมันเป็นของท่าน โปรดอ่าน”

เซิ่นเทียนตื่นเต้นมาก เขาวางผ้าแพรลงบนโต๊ะและเริ่มอ่านมัน

มีคำใหญ่สี่คำเขียนไว้ที่มุมบนซ้าย หนังสือปีศาจแห่งเฮียวกะ

เบื้องหลังคำเหล่านี้มีคำเล็ก ๆ สีแดงสด: เจ้าต้องตัดอัณฑะตัวเองก่อนถึงจะเรียนวิชนี้ได้!

เซิ่นเทียนแทบจะสลบทันทีที่อ่าน!

อะไรวะเนี่ย!?

นี่คือสิ่งที่ข้าค้นหามาตลอดสามวันที่ผ่านมา? มันช่าง...!

ผ่อนคลาย…ข้าต้องใจเย็น…

เซิ่นเทียนพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง

บางทีอาจจะมีโชคชะตาบางอย่างที่ส่งมาที่ข้าในตอนนี้!

เขาหยิบกระจกออกมาจากกระเป๋าเสื้อและมอง ...

ปัง

กระจกหลุดมือและแตกกระจายบนพื้น

ขันทีกุ้ยถามอย่างรวดเร็วว่า“มีอะไรผิดปกติกับหนังสือหรือ ฝ่าบาท?”

เซิ่นเทียนกล่าวด้วยใบหน้าดำคล้ำ“มาดูด้วยตัวเอง!”

ขันทีกุ้ยส่ายหัวอย่างโกรธเกรี้ยว “นี่เป็นของฝ่าบาท ข้าไม่ควรดูมัน!”

“มันมีความหมายสำหรับท่าน ไม่ใช่ข้า!”

เซิ่นเทียนดึงขันทีกุ้ยไปที่โต๊ะ

“หนังสือปีศาจแห่งเฮียวกะ” ขันทีกุ้ยตกใจมากหลังจากอ่านสิ่งที่เขียนไว้ “นี่…นี่คือหนังสือทักษะของ ปีศาจเฮียวกะ! ตอนนั้นเขาอยู่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในถิ่นทุรกันดารตะวันออก!”

“ปีศาจเฮิยวกะ?” เซิ่นเทียนรู้สึกสับสน “เจ้าเคยได้ยินชื่อคนๆนี้มาก่อน?”

“ข้าเคยอ่านเจอเขาในหนังสือโบราณ ปีศาจเฮียวกะ เป็นบุคคลที่ชั่วร้ายที่สุดเมื่อ 3,000 ปีก่อน” ขันทีกุ้ย เล่า

“ ปีศาจเฮียวกะเป็นขันทีธรรมดาในอาณาจักรคุนในถิ่นทุรกันดารตะวันออก เขามีสถานะต่ำในราชวงศ์และมีรากฐานที่ไม่ดีในวิถีบ่มเพาะ

“อย่างไรก็ตามเขามีโชคชะตาที่ดีและสามารถค้นหาส่วนหนึ่งของตำราสุริยันแห่งราชวงศ์ที่หายไปได้ในห้องสมุดหลวง”

“ เป็นเพราะมีชิ้นส่วนที่ขาดหายไปมากเกินไป และข้อความที่สำคัญที่สุดในหนังสือได้หายไปจนเรียนรู้ไม่ได้

“ คนปกติจะถูกปีศาจในจิตควบคุมเนื่องจากความโลภและส่งผลให้ต้องตายหากพวกเขาฝืนพยายามเรียนรู้

“อย่างไรก็ตาม ปีศาจเฮียวกะ มีทั้งโชคและความพากเพียร”

“ เขาใช้ตัวเองเป็นที่ทดสอบวิชาและรวมศาสตร์ปีศาจหลายแขนงเข้ากับตำราสุริยันและสร้างวิชาปีศาจขึ้นมาให่มทั้งหมด

“ ต่อมามันได้รับการขนานนามว่าหนังสือปีศาจแห่งเฮียวกะ มันชั่วร้ายและแข็งแกร่งมาก มันมีความเร็วในการโจมตีที่รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อและสามารถดึงความปรารถนาและจิตวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามออกมาได้

“ เมื่อฝ่ายตรงข้ามเสียสมาธิผู้ใช้วิชาปีศาจนี้จะทำการสังหาร มันเป็นวิชาปีศาจที่น่ากลัวที่สุดในยุคนั้น!

“ ปีศาจเฮียวกะ ใช้วิชาปีศาจนี้เพียงอย่างเดียวและถึงระดับของวิญญาณแรกเริ่มในเวลาเพียง 50 ปี!

“ เขาได้รับความเคารพนับถือจากผู้คนในระดับเดียวกันและไม่มีใครสามารถต้านทานเขาได้

“ 50 ปีอาจดูเหมือนนานมากสำหรับบางคน อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ค้นหาความเป็นอมตะมันสั้นมาก!

“ถ้าใครได้ฝึกฝนวิชาปีศาจนี้ฉบับสมบูรณ์ วกเขาก็จะเป็นยอดอัจฉริยะที่สามารถเข้าถคงวิญญาณแรกเริ่มได้ภายใน 50 ปี

“อย่างไรก็ตาม ปีศาจเฮียวกะ ไม่ได้มีพรสวรรค์ขนาดนั้นมาตั้งแต่แรก ดังนั้นมันเป็นเพราะวิชาปีศาจนี้เพียงอย่างเดียวจริงๆ!”

“ ฝ่าบาทนี่คือมรดกที่น่าทึ่ง!

“ แม้ว่าจะไม่ใช่ตำราจักรพรรดิ แต่ก็มีค่ามากกว่าสำหรับผู้ที่ไม่มีความสามารถในการบ่มเพาะมากนัก

“ฝ่าบาทโชคดี! ใครจะคิดว่าวิชาปีศาจที่น่าทึ่งจะซ่อนอยู่ในหนังสือธรรมดาเล่มนี้? นางสนมหลานจะต้องมีความสุขมากแน่ๆถ้าท่านรู้เ!”

ขันทีกุ้ยรู้สึกตื่นเต้นขณะที่เขาสัมผัสผ้าแพร

ปีศาจเฮียวกะ เป็นเหมือนตำนานในหมู่ขันที ขันทีทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครองหนังสือปีศาจแห่งเฮียวกะ พวกเขาจะไม่แลกเปลี่ยนแม้จะเป็นตำราจักรรพิที่แท้จริง!

เซิ่นเทียนรู้สึกไม่สบายใจที่รู้ว่า หนังสือปีศาจแห่งเฮียวกะ นี้ทรงพลังเพียงใด

ทำไมหนังสือนรกถึงไม่เหมาะกับข้า!?

แน่นอนว่าแม่ของข้าจะรู้สึกมีความสุข

แน่นอนว่าข้าโชคดีได้แล้วสักครั้ง

เวร! ข้ายังคงโชคร้ายเหมือนเดิม!

“ถ้ามันหายากขนาดนี้ลุงกุ่ยท่านก็เอาไป ขอให้โชคดีที่ได้ฝึกฝนสิ่งนี้!”

แม้ว่ามันจะไม่ได้มีความหมายสำหรับเขา แต่มันก็ไม่เลวเลยที่ขันทีกุ้ยจะเรียนรู้วิชาปีศาจ เซิ่นเทียนรู้สึกดีขึ้นมากกับความคิดนี้

ขันทีกุ้ยตกใจที่เซิ่นเทียนมอบงานศิลปะหายากนี้ให้เขา

เขาส่ายหัวและพูดว่า“ไม่นะฝ่าบาท มันเป็นของท่าน! ข้าจะเอามันไปได้อย่างไร? ข้าต้องทำอะไรเพื่อที่จะได้มัน”

เซิ่นเทียนกลอกตาของเขาและพูดว่า“เจ้าต้องการให้ข้าฝึกแทน?”

จู่ๆขันทีกุ้ยก็นึกบางอย่างได้

แท้จริงแล้วเจ้าชายไม่สามารถฝึกฝนวิชานี้ได้ ...

ช่างเป็นเจ้าชายที่น่าสงสารอะไรเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็พบกับสิ่งที่ดีในชีวิตของเขา แต่เขาไม่สามารถได้,yo,k

พระเจ้าทำไมต้องทำแบบนี้กับองค์ชายของข้า!?

เพราะองค์ชายไม่มีทางเลือก เขาจคงให้ข้าฝึกมันแทน!

หลังจากการต่อสู้ภายในใจ งขันทีกุ้ยก็ตัดสินใจที่จะเชื่อฟังองค์ชายของเขา

องค์ชาย 13 ต้องเชื่อใจข้ามากแน่ ๆ !

“ เมื่อ 20 ปีก่อนข้าถูกกล่าวหาว่าขโมยสมบัติในวัง สนมหลานเป็นคนที่ช่วยชีวิตข้า

“ แม้ว่าข้าจะไม่ได้ร่ำเรียนมามากนัก แต่ข้าก็รู้ที่จะตอบแทนบุญคุณของผู้คน เมื่อนางสนมหลานอยู่ใกล้ ๆ ข้าก็รับใช้พระองค์ด้วยใจจริงและชีวิตของข้า ตอนนี้พระองค์จากไปแล้ว ความภักดีของข้าอยู่ที่ท่านทั้งหมด

“ข้าจะฝึกฝนหนังสือปีศาจของเฮียวกะอย่างขยันขันแข็งทุกวันและสาบานกับพระเจ้าว่าข้าจะปกป้องท่านตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่!”

สำหรับผู้ที่แสวงหาความเป็นอมตะจะมีกรรมต่อทุกสิ่ง ดังนั้นการทำสัญญาและคำสาบานโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อพระเจ้าจึงไม่ควรทำโดยไม่คิให้ดี

ถ้าปีศาจสัญญาแบบสุ่มๆมันผู้นั้นจะตายอย่างน่าสยดสยอง

คำสาบานของขันทีกุ้ยเป็นไปอย่างจริงใจในขณะที่เขาเป็นหนี้บุญคุณกับสนมหลานและองค์ชาย

เซิ่นเทียนเชื่อว่าเขาตัดสินใจถูกต้อง

แม้ว่าข้าจะพบหนังสือปีศาจของเฮียวกะ แต่ข้าก็ยังโชคไม่ดี ...

เซิ่นเทียนถอนหายใจและไม่มีความสุขกับมัน

เนื่องจากข้าขโมยโอกาสนี้จากฉินเกาแล้วตอนนี้เขาล่ะ?

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงขันทีหนุ่มฉินเกา

ฉินเกา มีโชคที่ดีที่สุดเท่าที่เซิ่นเทียนเคยพบและหนังสือปีศาจของเฮียวกะนี้ก็ควรจะเป็นของเขาเช่นกัน

ตอนนี้ เซิ่นเทียนได้หนังสือเล่มนี้มาแล้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับฉินเกา?

เขาจะได้รับโชควาสนาอื่นๆอีกไหม? หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาอื่น ๆ ?

ความอยากรู้อยากเห็นของเซิ่นเทียนก็พุ่งสูงทันที!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด