บทที่ 4
เซิ่นเทียนถอนหายใจและถาม“มันคืออะไร?”
“ฝ่าบาทลองดูที่นี่”
ขันทีกุ้ยพลิกไปที่หน้าสุดท้ายของหนังสือและดึงปกแข็งออก เขาใช้พลังปราณของเขาและปกแข็งก็แยกออกเป็นสองส่วนที่แตกต่างกันโดยมีบางอย่างซ่อนอยู่ระหว่างนั้น
มันเป็นหยกที่ห่อด้วยผ้าแพรขนาดเท่าฝ่ามือ หยกนั้นเปล่งประกายด้วยแสง
“มันเป็นอะไรที่พิเศษมาก น่าจะเป็นหยกทักษะทที่ทึกวิชายุทธของบรรพชน!”
ขันทีกุ้ยไม่ได้อ่านเนื้อหาข้างใน เขาส่งมันให้กับเซิ่นเทียนและกล่าวว่า“ฝ่าบาทมันเป็นของท่าน โปรดอ่าน”
เซิ่นเทียนตื่นเต้นมาก เขาวางผ้าแพรลงบนโต๊ะและเริ่มอ่านมัน
มีคำใหญ่สี่คำเขียนไว้ที่มุมบนซ้าย หนังสือปีศาจแห่งเฮียวกะ
เบื้องหลังคำเหล่านี้มีคำเล็ก ๆ สีแดงสด: เจ้าต้องตัดอัณฑะตัวเองก่อนถึงจะเรียนวิชนี้ได้!
เซิ่นเทียนแทบจะสลบทันทีที่อ่าน!
อะไรวะเนี่ย!?
นี่คือสิ่งที่ข้าค้นหามาตลอดสามวันที่ผ่านมา? มันช่าง...!
ผ่อนคลาย…ข้าต้องใจเย็น…
เซิ่นเทียนพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง
บางทีอาจจะมีโชคชะตาบางอย่างที่ส่งมาที่ข้าในตอนนี้!
เขาหยิบกระจกออกมาจากกระเป๋าเสื้อและมอง ...
ปัง
กระจกหลุดมือและแตกกระจายบนพื้น
ขันทีกุ้ยถามอย่างรวดเร็วว่า“มีอะไรผิดปกติกับหนังสือหรือ ฝ่าบาท?”
เซิ่นเทียนกล่าวด้วยใบหน้าดำคล้ำ“มาดูด้วยตัวเอง!”
ขันทีกุ้ยส่ายหัวอย่างโกรธเกรี้ยว “นี่เป็นของฝ่าบาท ข้าไม่ควรดูมัน!”
“มันมีความหมายสำหรับท่าน ไม่ใช่ข้า!”
เซิ่นเทียนดึงขันทีกุ้ยไปที่โต๊ะ
“หนังสือปีศาจแห่งเฮียวกะ” ขันทีกุ้ยตกใจมากหลังจากอ่านสิ่งที่เขียนไว้ “นี่…นี่คือหนังสือทักษะของ ปีศาจเฮียวกะ! ตอนนั้นเขาอยู่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในถิ่นทุรกันดารตะวันออก!”
“ปีศาจเฮิยวกะ?” เซิ่นเทียนรู้สึกสับสน “เจ้าเคยได้ยินชื่อคนๆนี้มาก่อน?”
“ข้าเคยอ่านเจอเขาในหนังสือโบราณ ปีศาจเฮียวกะ เป็นบุคคลที่ชั่วร้ายที่สุดเมื่อ 3,000 ปีก่อน” ขันทีกุ้ย เล่า
“ ปีศาจเฮียวกะเป็นขันทีธรรมดาในอาณาจักรคุนในถิ่นทุรกันดารตะวันออก เขามีสถานะต่ำในราชวงศ์และมีรากฐานที่ไม่ดีในวิถีบ่มเพาะ
“อย่างไรก็ตามเขามีโชคชะตาที่ดีและสามารถค้นหาส่วนหนึ่งของตำราสุริยันแห่งราชวงศ์ที่หายไปได้ในห้องสมุดหลวง”
“ เป็นเพราะมีชิ้นส่วนที่ขาดหายไปมากเกินไป และข้อความที่สำคัญที่สุดในหนังสือได้หายไปจนเรียนรู้ไม่ได้
“ คนปกติจะถูกปีศาจในจิตควบคุมเนื่องจากความโลภและส่งผลให้ต้องตายหากพวกเขาฝืนพยายามเรียนรู้
“อย่างไรก็ตาม ปีศาจเฮียวกะ มีทั้งโชคและความพากเพียร”
“ เขาใช้ตัวเองเป็นที่ทดสอบวิชาและรวมศาสตร์ปีศาจหลายแขนงเข้ากับตำราสุริยันและสร้างวิชาปีศาจขึ้นมาให่มทั้งหมด
“ ต่อมามันได้รับการขนานนามว่าหนังสือปีศาจแห่งเฮียวกะ มันชั่วร้ายและแข็งแกร่งมาก มันมีความเร็วในการโจมตีที่รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อและสามารถดึงความปรารถนาและจิตวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามออกมาได้
“ เมื่อฝ่ายตรงข้ามเสียสมาธิผู้ใช้วิชาปีศาจนี้จะทำการสังหาร มันเป็นวิชาปีศาจที่น่ากลัวที่สุดในยุคนั้น!
“ ปีศาจเฮียวกะ ใช้วิชาปีศาจนี้เพียงอย่างเดียวและถึงระดับของวิญญาณแรกเริ่มในเวลาเพียง 50 ปี!
“ เขาได้รับความเคารพนับถือจากผู้คนในระดับเดียวกันและไม่มีใครสามารถต้านทานเขาได้
“ 50 ปีอาจดูเหมือนนานมากสำหรับบางคน อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ค้นหาความเป็นอมตะมันสั้นมาก!
“ถ้าใครได้ฝึกฝนวิชาปีศาจนี้ฉบับสมบูรณ์ วกเขาก็จะเป็นยอดอัจฉริยะที่สามารถเข้าถคงวิญญาณแรกเริ่มได้ภายใน 50 ปี
“อย่างไรก็ตาม ปีศาจเฮียวกะ ไม่ได้มีพรสวรรค์ขนาดนั้นมาตั้งแต่แรก ดังนั้นมันเป็นเพราะวิชาปีศาจนี้เพียงอย่างเดียวจริงๆ!”
…
“ ฝ่าบาทนี่คือมรดกที่น่าทึ่ง!
“ แม้ว่าจะไม่ใช่ตำราจักรพรรดิ แต่ก็มีค่ามากกว่าสำหรับผู้ที่ไม่มีความสามารถในการบ่มเพาะมากนัก
“ฝ่าบาทโชคดี! ใครจะคิดว่าวิชาปีศาจที่น่าทึ่งจะซ่อนอยู่ในหนังสือธรรมดาเล่มนี้? นางสนมหลานจะต้องมีความสุขมากแน่ๆถ้าท่านรู้เ!”
ขันทีกุ้ยรู้สึกตื่นเต้นขณะที่เขาสัมผัสผ้าแพร
ปีศาจเฮียวกะ เป็นเหมือนตำนานในหมู่ขันที ขันทีทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครองหนังสือปีศาจแห่งเฮียวกะ พวกเขาจะไม่แลกเปลี่ยนแม้จะเป็นตำราจักรรพิที่แท้จริง!
เซิ่นเทียนรู้สึกไม่สบายใจที่รู้ว่า หนังสือปีศาจแห่งเฮียวกะ นี้ทรงพลังเพียงใด
ทำไมหนังสือนรกถึงไม่เหมาะกับข้า!?
แน่นอนว่าแม่ของข้าจะรู้สึกมีความสุข
แน่นอนว่าข้าโชคดีได้แล้วสักครั้ง
เวร! ข้ายังคงโชคร้ายเหมือนเดิม!
…
“ถ้ามันหายากขนาดนี้ลุงกุ่ยท่านก็เอาไป ขอให้โชคดีที่ได้ฝึกฝนสิ่งนี้!”
แม้ว่ามันจะไม่ได้มีความหมายสำหรับเขา แต่มันก็ไม่เลวเลยที่ขันทีกุ้ยจะเรียนรู้วิชาปีศาจ เซิ่นเทียนรู้สึกดีขึ้นมากกับความคิดนี้
ขันทีกุ้ยตกใจที่เซิ่นเทียนมอบงานศิลปะหายากนี้ให้เขา
เขาส่ายหัวและพูดว่า“ไม่นะฝ่าบาท มันเป็นของท่าน! ข้าจะเอามันไปได้อย่างไร? ข้าต้องทำอะไรเพื่อที่จะได้มัน”
เซิ่นเทียนกลอกตาของเขาและพูดว่า“เจ้าต้องการให้ข้าฝึกแทน?”
จู่ๆขันทีกุ้ยก็นึกบางอย่างได้
แท้จริงแล้วเจ้าชายไม่สามารถฝึกฝนวิชานี้ได้ ...
ช่างเป็นเจ้าชายที่น่าสงสารอะไรเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็พบกับสิ่งที่ดีในชีวิตของเขา แต่เขาไม่สามารถได้,yo,k
พระเจ้าทำไมต้องทำแบบนี้กับองค์ชายของข้า!?
เพราะองค์ชายไม่มีทางเลือก เขาจคงให้ข้าฝึกมันแทน!
หลังจากการต่อสู้ภายในใจ งขันทีกุ้ยก็ตัดสินใจที่จะเชื่อฟังองค์ชายของเขา
องค์ชาย 13 ต้องเชื่อใจข้ามากแน่ ๆ !
“ เมื่อ 20 ปีก่อนข้าถูกกล่าวหาว่าขโมยสมบัติในวัง สนมหลานเป็นคนที่ช่วยชีวิตข้า
“ แม้ว่าข้าจะไม่ได้ร่ำเรียนมามากนัก แต่ข้าก็รู้ที่จะตอบแทนบุญคุณของผู้คน เมื่อนางสนมหลานอยู่ใกล้ ๆ ข้าก็รับใช้พระองค์ด้วยใจจริงและชีวิตของข้า ตอนนี้พระองค์จากไปแล้ว ความภักดีของข้าอยู่ที่ท่านทั้งหมด
“ข้าจะฝึกฝนหนังสือปีศาจของเฮียวกะอย่างขยันขันแข็งทุกวันและสาบานกับพระเจ้าว่าข้าจะปกป้องท่านตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่!”
สำหรับผู้ที่แสวงหาความเป็นอมตะจะมีกรรมต่อทุกสิ่ง ดังนั้นการทำสัญญาและคำสาบานโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อพระเจ้าจึงไม่ควรทำโดยไม่คิให้ดี
ถ้าปีศาจสัญญาแบบสุ่มๆมันผู้นั้นจะตายอย่างน่าสยดสยอง
คำสาบานของขันทีกุ้ยเป็นไปอย่างจริงใจในขณะที่เขาเป็นหนี้บุญคุณกับสนมหลานและองค์ชาย
เซิ่นเทียนเชื่อว่าเขาตัดสินใจถูกต้อง
…
แม้ว่าข้าจะพบหนังสือปีศาจของเฮียวกะ แต่ข้าก็ยังโชคไม่ดี ...
เซิ่นเทียนถอนหายใจและไม่มีความสุขกับมัน
เนื่องจากข้าขโมยโอกาสนี้จากฉินเกาแล้วตอนนี้เขาล่ะ?
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงขันทีหนุ่มฉินเกา
ฉินเกา มีโชคที่ดีที่สุดเท่าที่เซิ่นเทียนเคยพบและหนังสือปีศาจของเฮียวกะนี้ก็ควรจะเป็นของเขาเช่นกัน
ตอนนี้ เซิ่นเทียนได้หนังสือเล่มนี้มาแล้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับฉินเกา?
เขาจะได้รับโชควาสนาอื่นๆอีกไหม? หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาอื่น ๆ ?
ความอยากรู้อยากเห็นของเซิ่นเทียนก็พุ่งสูงทันที!