WS บทที่ 35 อุปกรณ์เวทมนต์ PART 1
เมอร์ลินจินตนาการถึงช่วงที่สักวันเขาจะต้องพบกับเลห์แมนเข้าสักวัน เขาคิดเรื่องไปต่าง ๆ นานา แต่ทว่าเมื่อเขาได้กับเจอกันจริง ๆ เขารู้สึกสงบมากที่เขาคิด
“เมอร์ลิน ลูกมาที่นี่ทำไม”
เลห์แมนกระโดดลงจากหลังม้าอย่างรวดเร็วและพุ่งมาหาเมอร์ลิน ดวงตาของเขาเต็มได้ด้วยความรักและความอ่อนโยน
เมอร์ลินเงยหยน้าขึ้นเล็กน้อย เมื่อจะพูดกับเลห์แมน เขามีรูปร่างสูงใหญ่ น่าจะสูงราว ๆ สองเมตรได้ เขาดูแข็งแรงราวกับม้าศึก
เมอร์ลินรู้สึกถึงกลิ่นเลือดอันคละคุ้งยามที่เขาเดินเข้ามาใกล้
“เมื่อกี้ท่านพ่อได้เจอกับพวกโจรเหรอครับ?” เมอร์ลินไม่ตอบแต่ถามกลับไปแทน
เลห์แมนค่อย ๆ นำดาบที่เปื้อนเลือดนำใส่กลับไปที่ฝักดาบและตอบอย่างไม่ใยดีว่า “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร พวกมันมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นและพ่อก็ฆ่าพวกมันไปหมดแล้ว เราiu[เข้าไปข้างในกันเถอะ”
จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในปราสาท เลห์แมนได้ให้พวกคนรับใช้ถอดชุดเกราะของเขา
เมอร์ลินเห็นพวกคนรับใช้ถือชุดเกราะออกไปด้วยความยากลำบาก มันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ เขาคิดว่าชุดเกราะสีดำพวกนั้นต้องมีน้ำหนักอย่างน้อย ๆ 150กิโลกรัม แน่นอน
ถึงเลห์แมนจะสวมชุดเกราะที่หนักขนาดนั้นแต่เขาก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสบาย ๆ นี่แสดงให้เห็นสมรรถภาพทางร่างกายของเขานั้นสูงเป็นพิเศษ
ในตอนแรกเมอร์ลินคิดว่าเลห์แมนเป็นเพียงนักดาบเพลิงระดับสองธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่เมื่อดูจากร่างกายที่แข็งแกร่งแบบนี้ เขาไม่มีทางเป็นนักดาบเพลิงระดับสองธรรมดา ๆ แน่นอน เขาคงมีคุณสมบัติทางร่างกายที่พิเศษ มันจึงทำให้เขาแข็งแกร่งกว่านักดาบธาตุระดับคนอื่น ๆ
‘ไม่แปลกใจเลยที่ท่านพ่อสามารถเอาชีวิตรอดจากการไปสู้รบที่อาณาจักรแบล็กมูน นอกจากอำนาจทางการทหารแล้วความแข็งแกร่งของเขาก็ถือได้ว่าอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา’
เมอร์ลินสัมผัสได้ถึงพลังธาตุไฟจำนวนมากที่กำลังถูกดูดซับเข้าสู้ร่างกายของเลห์แมนอย่างรวดเร็ว ดูจากจำนวนที่ดูดซับเข้าไปนั้นมีความเป็นไปได้ว่าเขากำลังจะก้าวสู่ระดับที่สามเร็ว ๆ นี้
เมอร์ลินคิดว่าพลังที่น่ากลัวของเลห์แมนนั้นเขามีความแข็งแกร่งที่ทัดเทียมกับนักดาบธาตุระดับสามได้เลย
แม่บ้านได้เดินเข้ามาและพาเลห์แมนไปห้องอาบน้ำ ครู่ต่อมาเขาได้เดินกลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่
กลิ่นเลือดตามตัวเขาได้หายไปล้ว ภาพลักษณ์ของเขาดูเปลี่ยนไปมากหลังจากที่เขาใส่ชุดธรรมดา ๆ ซึ่งผิดกับเหมือนตอนเขาใส่ชุดเกราะที่น่ากลัวมาก
เขาเดินมาหาเมอร์ลินที่ยังอยู่ในห้องโถง เขาเดินมาตบไหล่เมอร์ลินเบา ๆ และสำรวจร่างกายของเมอร์ลินจากบนลงล่าง ไม่วินาทีต่อมา เขาก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ไม่เลว ๆ ลูกดูแข็งแกร่งขึ้นมาก เหมือนกับพ่อของลูกเลย”
เห็นได้ชัดว่าเลห์แมนรู้สึกยินดีมากกับการพัฒนาการของเมอร์ลิน
“ไหนลูกบอกพ่อมาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกถึงมาที่นี่แทนที่จะอยู่ในเมืองแบล็กวอเตอร์” เลห์แมนถามด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
โชคดีที่จิตของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงจะลนลานกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเลห์แมนอย่างฉับพลัน
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับท่านพ่อ ผมมาที่นี่เพื่อแจ้งให้ท่านพ่อทราบว่าบารอนคาสเทลแลนต้องการเชิญขุนนางทุกคนในเมืองแบล็กวอเตอร์มาที่ปราสาทของเขาเพื่อประชุมแก้ปัญหาเรื่องการระบาดของกลุ่มโจร”
เมอร์ลินเรื่องทุกอย่างให้เลห์แมนฟังซึ่งพ่อของเขาได้ตั้งใจฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
หลังจากที่เลห์แมนเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นมาว่า
“เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่รอบเมืองแบล็กวอเตอร์ต่างถูกพวกโจรคุกคามแต่ที่น่าแปลกก็คือไม่มีเมืองไหนเลยที่ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ราวกับว่าพวกโจรพวกนี้กำลังวางแผนอะไรบางอย่างเอาไว้ ภายใต้เบื้องหลังการลักขโมยเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนั้น
แต่ไม่ว่ายังไงพวกโจรจะต้องถูกกำจัดให้หมด ไม่อย่างนั้นพวกชาวเมืองเล็ก ๆ กับพวกขุนนางคงใช้ชีวิตอย่างไม่สงบสุขแน่นอน
ก่อนหน้านี้พ่อได้เจอพวกโจรในระหว่างที่ออกลาดตระเวน พวกมันมีเพียงกลุ่มเล็ก ๆ และไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่ ทหารของพ่อสามารถจัดการพวกมันได้อย่างสบาย ๆ แต่อย่างไรก็ตามพ่อยังหาที่ซ่อนของพวกมันไม่ได้ซะที
บางทีหากพวกขุนนางรวมพลังกันอาจจะจัดการพวกมันได้สบาย ๆ โอ้จริงสิ ออกัสตินได้พูดวันประชุมมั้ยว่า จัดวันไหน”
“คงเป็นวันมะรืนนี้ครับ” เมอร์ลินตอบเบา ๆ
“มะรืนนี้เหรอ ดีมาก เมอร์ลินเราจะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้เลย”
เลห์แมนตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่ากลุ่มโจรนี้กำลังคุกคามเมืองอย่างหนัก แม้แต่เลห์แมนก็ยังคิดว่าควรกำลังกลุ่มโจรให้เร็วที่สุด
...
เมอร์ลินได้ตื่นขึ้นในเช้าตรู่ แม้ตอนนี้แสงอรุณจะยังไม่ถึงขึ้นจากขอบฟ้าแต่เหล่าคนรับใช้ต่างเริ่มทำหน้าที่ของตน
เขารีบแต่งตัวและมุ่งลงไปชั้นล่าง
ตอนนี้เลห์แมนยังไม่ตื่น เมอร์ลินมองไปทางห้องของเลห์แมน เขาจำได้ว่าเมื่อคืนแม่บ้านที่ทรงเสน่ห์ได้ดอดย่องเข้าไปในห้องนอนเมื่อคืน
เมอร์ลินสบัดหัวไล่ความคิดที่ฟุ้งซ่านออกไปและมุ่งหน้าออกนอกปราสาท
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณชายเมอร์ลิน!”
องครักษ์กับคนรับใช้ส่วนใหญ่เริ่มจำเมอร์ลินได้แล้ว พวกเขาโค้งคำนับด้วยความเคารพ เมอร์ลินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและมุ่งหน้าออกนอกปราสาท
*หวู่มมม*
เช้านี้ก็ยังหนาวเย็นเช่นเคย หิมะยังคงตกลงมาได้ปกคลุมพื้นดินด้วยสีขาว
เมอร์ลินมองไปรอบ ๆ หลังจากที่เขาแน่ใจว่าไม่มีครอยู๋แถวนี้ เขาได้มุ่งตรงไปยังสถานที่ที่มีสายลมประหลาด
“เจอแล้ว อยู่นี่นี่เอง”
เมอร์ลินมาที่มุมของกำแพงและนั่งยองอย่างเงียบ ๆ ตรงที่ ๆ เขาสัมพัสถึงคลื่นเวทย์ได้เมื่อคืน
เขาเอายื่นมือออกไปและขุดอย่างระมัดระวัง
ในไม่กี่อึดใจ เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่แข็งและเย็น
“นี่คืออุปกรณ์เวทมนต์งั้นเหรอ?”
จากนั้นเขาก็รีบเขาของที่ขุดขึ้นมาห่อด้วยผ้าที่เขานำมาด้วยและมุ่งหน้ากลับปราสาทโดยทำทีเหมือนกับเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น