Ep.816 - ร่วมมือกับชูฟ่าน
5/5
Ep.816 - ร่วมมือกับชูฟ่าน
“เรื่องของผม ไม่ใช่ธุระให้คุณต้องมากังวล อ้อ แล้วรู้อะไรไหม สัตว์ร้ายจอมเขมือบที่ผมกำลังเลี้ยงอยู่ นับวันยิ่งเติบโตขึ้น โลกใบนี้น่ะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผมโดยเฉพาะ!” ชูฟ่านกล่าวด้วยสีหน้าบ้าคลั่ง “ตราบใดที่ผมยังอยู่ที่นี่ แซดไม่มีวันกล้าเข้ามา ผมจะป้อนอาหารให้สัตว์ร้ายจอมเขมือบไปเรื่อยๆ ขอเวลาแค่หนึ่งปีมัน มันก็จะกลายเป็นสัตว์ร้ายระดับเทวะ!”
สำหรับชูฟ่าน ในมิติแห่งนี้ มันคือโอกาสครั้งยิ้งใหญ่ที่สุดของเขา
“หนึ่งปี?” คำนี้เล่นเอาฉินเฟิงตกใจเล็กน้อย
ระยะเวลาแค่ปีเดียว มันเร็วเกินไปจริงๆ ต่อให้ฉินเฟิงผู้ซึ่งเกิดใหม่ และสามารถคว้าชัยชนะมาได้ตลอดเส้นทาง ยังต้องใช้เวลากว่าสามปี ในที่สุดถึงค่อยครอบครองความแข็งแกร่งดั่งปัจจุบัน
แม้เมื่อเทียบกับชีวิตก่อน ฉินเฟิงจะสามารถก้าวข้ามความแข็งแกร่งในเวลานั้นไปได้แล้วก็ตามที แต่ตรารับรองผู้ใช้พลังของเขา ยังไปไม่ถึงเลเวล A ที่ผู้คนมากมายต่างต้องแหงนมอง
อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวไม่นานก็ถึงแล้ว ฉินเฟิงส่ายหัว “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าไม่มีฉันช่วย นายก็ไม่มีทางออกไปได้อยู่ดี”
ในความเป็นจริงแล้วคำพูดของฉินเฟิงไม่ผิดเลย เพราะหากไม่มีฉินเฟิง ชูฟ่านไม่มีทางได้ควบคุมสัตว์ร้ายจอมเขมือบเหมือนเช่นตอนนี้
เนื่องจากในความทรงจำในชีวิตก่อนของฉินเฟิง เมืองฉงโหลวได้กลายเป็นมิติต้องห้าม ทั้งเมืองถูกทำลายพินาศ แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร
กระนั้น หากไม่ใช่เพราะฉินเฟิงนำเซลล์ของเขมือบฟ้ามอบให้แก่แซด แล้วสัตว์ร้ายจอมเขมือบจะถูกผลิตขึ้นมาได้อย่างไร?
ชูฟ่านต้องถูกขังอยู่ที่นี่ ไร้ซึ่งหนทางที่จะย้อนกลับไปยังมิติเดิม
ทุกสิ่งอย่าง ล้วนเกิดจากปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีกทิ้งเอาไว้
ชูฟ่านชะงักงัน สักพักดวงตาของเขาเปล่งประกาย กล่าวว่า “คุณเคยพูดมาก่อน ว่าคุณกับแซดไม่ใช่พวกเดียวกัน? งั้นศัตรูของศัตรูก็คือมิตร ทำไมพวกเราไม่รวมพลังกันเล่า?”
หากผนึกกำลังกัน มิติแห่งนี้จะเข้าหรือออกก็สามารถทำได้ตามใจต้องการ ชูฟ่านเคยเห็นวิธีหลบหนีของฉินเฟิงมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบันไดสวรรค์ หรือช่องว่างมิติ เรื่องนี้สามารถเป็นตัวแทนบ่งบอกได้ว่า เบื้องหลังฉินเฟิง มีกลุ่มขนาดใหญ่คอยสนับสนุน
ณ ขณะนี้ ในหัวใจฉินเฟิงเริ่มมีความคิดวาบผ่านเข้ามาเช่นกัน
“ถ้าอยากร่วมมือกัน นายต้องมอบความไว้วางใจให้ฉัน ตัวฉันในฐานะนายพลแห่งพันธมิตรมนุษย์ มีหลายสิ่งหลายอย่างไม่สามารถเพิกเฉยได้ เนื่องจากสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้มากขึ้น ฉันก็ไม่ต้องการเห็นชาวเมืองตายลงทั้งๆแบบนี้ นายจะอยู่ที่นี่ตลอดไปก็ได้ แต่ต้องช่วยฉันรวบรวมผู้คนที่ยังรอดชีวิต”
ฉินเฟิงหยุดพักหนึ่งก่อนกล่าวต่อ “นายเองก็น่าจะรู้เหมือนกัน ว่าเลือดและเนื้อของสัตว์ร้ายในมิตินี้ มันสามารถช่วยกระตุ้นศักยภาพของมนุษย์ เปลี่ยนคนธรรมดาให้แข็งแกร่งขึ้นได้ หน้าที่ของนายคือฝึกฝนคนกลุ่มนี้! ด้วยวิธีที่ว่ามา ชาวเมืองที่นี่ อย่างน้อยก็สามารถยืดชีวิตออกไปได้นานขึ้น”
บางครั้ง เราควรสอนวิธีตกปลา ไม่ใช่ตกปลาให้พวกเขา!
ฉินเฟิงไม่สามารถช่วยชีวิตชาวเมืองทีละคน ทีละคนได้ เมื่อพลาดโอกาสแรก ชาวเมืองที่เหลือก็ไม่มีความกล้าที่จะเสี่ยงชีวิต ยอมออกจากสถานที่หลบภัยอีกต่อไป แทนที่จะปลุกเร้าให้พวกเขาออกมา จะดีกว่าหากปล่อยให้พวกเขาอยู่ในภาวะวิกฤต บีบบังคับตัวเองให้เข้มแข็ง ค่อยๆรวบรวมความกล้าแล้วก้าวออกมาเอง
ฉินเฟิงกล่าว “ทุกๆเดือนฉันจะเปิดช่องว่างมิติหนึ่งครั้ง แต่นายควรรู้ไว้ ว่าทุกครั้งที่เปิดช่องว่างมิติ มักจะมาพร้อมกระแสกองทัพสัตว์ร้าย ฉะนั้น ทางนายต้องรีบหน่อยแล้ว”
ชูฟ่านแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดกับความคิดของฉินเฟิง
“สั่งผมเหมือนเป็นลูกน้องคุณเลยนะ ใครมันจะไปเสียเวลาดูแลชาวเมืองพวกนั้น!”
ฉินเฟิงเผยรอยยิ้มจาง “ก็ต้องเป็นนายอยู่แล้ว เพราะตอนนี้นายไม่แกร่งพอให้ฉันตกลงร่วมมือได้เลย ฉะนั้นต้องทำงานให้สมน้ำสมเนื้อ”
แต่ชูฟ่านชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย แสยะยิ้มหยัน “อย่ามาดูถูกสัตว์ร้ายจอมเขมือบของผม! ในมิติแห่งนี้ คุณที่ไร้กำลังภายในและพลังสมาธิโดยสิ้นเชิง ไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดแบบนี้กับผม!”
ระหว่างทั้งสองกำลังสนทนา สัตว์ร้ายจอมเขมือบยังคงกัดกินอย่างอิสระ ร่างกายของมันค่อยๆขยายขนาดขึ้น ดูเหมือนว่าความสามารถในการดูดซับของอีกฝ่าย ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าเขมือบฟ้าเลย
บางที การเลี้ยงสัตว์ร้ายตัวนี้ อาจเป็นเหมือนการเพาะสร้างเอกลักษณ์ของเขมือบฟ้าขึ้นอีกตัวก็ได้
“อาศัยแค่มันน่ะหรอ? เห็นๆกันอยู่ว่าตอนนี้มันทำได้แค่ก้มเลียขยะ!”
“แก!!!”
ชูฟ่านปฏิเสธที่จะยอมรับคำครหานี้ของฉินเฟิง
วินาทีถัดมา ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า ปรี่เข้าหาสัตว์ร้ายจอมเขมือบกับชูฟ่านด้วยความเร็วสูง ระเบิดความว่องไวมหาศาลในชั่วพริบตาเดียว จนชูฟ่านไม่สามารถมองตามด้วยตาเปล่า
ชูฟ่านคิดสั่งการสัตว์ร้ายจอมเขมือบ แต่ปฏิกิริยาของมันเชื่องช้ามาก ระหว่างสั่งการ ชูฟ่านรู้สึกคล้ายร่างกายของเขาลอยขึ้นไปในอากาศ
คอเสื้อของเขาถูกกระชากขึ้น
จากนั้น ฉินเฟิงง้างเท้าเตะเปรี้ยงลงบนร่างของจอมเขมือบ
ลูกเตะนี้ ใช้ออกด้วยพละกำลังทั้งหมดที่รวบรวมมา สัตว์ร้ายจอมเขมือบไม่ต่างจากลูกบอล ถูกฉินเฟิงเตะโด่งปลิวออกไป
สัตว์ร้ายอ้วนกลมหนึบหนับกลิ้งไปในอากาศ ก่อนชนเข้ากับอาคารภายในจัตุรัส
โครม!
ตัวอาคารเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างแรง ฝุ่นผงคละคลุ้งกระจัดกระจาย ก่อนร่วงกรูดลงมา
พละกำลังจากลูกเตะนี้ น่าหวาดกลัวนัก
เท้าข้างนี้ โชคดีที่เจ้าของเลือกเตะออกไป ไม่ใช่กระทืบย่ำโดยตรง มิฉะนั้นอวัยวะภายในของสัตว์ร้ายจอมเขมือบ คงถูกบดขยี้จนแหลกเหลว
“นี่น่ะหรอความแข็งแกร่งทั้งหมดที่นายมี มันอ่อนแอเกินไป!” ฉินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแส “ตอนนี้ ฉันมีคุณสมบัติพอให้สั่งการได้รึยัง?”
เขาคลายมือออก ปล่อยชูฟ่านลง ชูฟ่านไม่สนใจตอบคำเขา ยืนโซซัดโซเซอยู่ท่ามกลางบ่อเลือดและซากเนื้อ สีหน้าของเขาดำสนิท
“แก!!” ชูฟ่านโกรธมาก ปลุกเร้าพลังสมาธิชนิดพิเศษของเขา เรียกสัตว์ร้ายจอมเขมือบ เมื่อพบว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ เขาถึงค่อยคลายใจลง
ส่วนเรื่องที่ฉินเฟิงทำ ตอนนี้เด็กน้อยขบกรามแน่น
“ผมพูดไปหมดแล้ว ขอเวลาอีกแค่หนึ่งปี จะทำให้ดู!”
ฉินเฟิงกล่าว “ถ้าอย่างนั้น ในระยะเวลาหนึ่งปีนี้ นายต้องทำตามที่ฉันสั่ง มิฉะนั้น ทำไมฉันต้องร่วมงานกับนายด้วย?”
เห็นได้ชัดว่าชูฟ่านไม่เต็มใจจะทำเช่นนั้น “ในตอนหนีออกจากห้องทดลอง ทำไมคุณถึงยอมปล่อยผมไป ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ ผมไม่น่าจะสามารถสลัดหลุดง่ายๆแบบนั้น”
“บางที คิดว่าคงเป็นเพราะนายเองก็เป็นศัตรูของแซดล่ะมั้ง”
แน่นอน ครั้งก่อนที่ชูฟ่านหลบหนีไป ฉินเฟิงก็อยากจะเห็นเช่นกัน ว่าไพ่ก้นหีบในมือชูฟ่านคืออะไร
กระนั้น หลังจากได้รู้จักตัวตนของชูฟ่าน และความเกลียดชังที่อีกฝ่ายมีต่อแซด ฉินเฟิงก็ยิ่งอยากเห็น ว่าชูฟ่านจะสามารถไปได้ไกลแค่ไหน
หลังกลับมาเกิดใหม่ ความขุ่นเคืองที่ฉินเฟิงมีต่อแซดลดน้อยลงมาก เขาเพียงรู้สึกโกรธที่ไม่ตระหนักถึงความจริง แต่ตอนนี้เขารู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว การให้แซดข่มเหงผู้อื่น อาจดีกว่าให้มารุกรานตนเอง
กระนั้น ฉินเฟิงก็ยังต้องการจะเห็น ว่าใครจะมาแก้แค้นแซดแทนเขา
และชูฟ่านเป็นตัวเลือกที่ดีมาก
บางครั้ง การเป็นฝ่ายนั่งชมละคร อาจน่าสนใจกว่าการลงไปแสดงด้วยตัวเอง
ชูฟ่านจ้องมองมายังฉินเฟิง แยกเขี้ยวไม่ต่างจากลูกหมาป่า แต่เวลานี้เจ้าตัวทราบดี ว่าศัตรูของศัตรูคือมิตร ดังนั้นไม่คิดดื้อรั้นอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงเป็นคนไม่ยอมช่วยใครเปล่าๆ หากคิดร่วมมือกัน จำเป็นต้องช่วยงานฉินเฟิงทำอะไรบางอย่างบ้าง
“ลำบากจริงๆ!” ชูฟ่านไม่ต้องการรวบรวมกลุ่มคนธรรมดา แต่ตอนนี้ เขาทำได้เพียงยอมรับภารกิจที่ฉินเฟิงกำหนดให้
ในทางตรงกันข้าม ฉินเฟิงเมื่อสามารถวางภารกิจในมือข้างหนึ่งลงได้แล้ว เขาก็สามารถทำสิ่งที่ตัวเองต้องการได้เสียที
“ดูเหมือนนายจะตกลงแล้ว พวกเรามาร่วมงานกันอย่างสันติเถอะ!”
ฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “เดิมทีฉันมาที่นี่เพื่อเผาศพสัตว์ร้าย แต่ในเมื่อจอมเขมือบของนายจำเป็นต้องการอาหาร งั้นก็ปล่อยให้มันกินศพแทนแล้วกัน แต่จำไว้ให้ดี--”
“--อย่าเหลือศพทิ้งไว้เด็ดขาด!”