ตอนที่แล้วบทที่ 43 อเดเลีย (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 45 อเดเลีย (3)

บทที่ 44 อเดเลีย (2)


ต่างหูไต้ฝุ่นเป็นของวิเศษที่เฟรย์สร้างขึ้นเอง

แต่ดูเหมือนพวกมันจะเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากกว่าที่เฟรย์คาดไว้

แต่แปลกที่ไม่มีใครจำกำไลข้อมือของชไวเซอร์ได้

ทั้งเชพเพิร์ดและมิเคลที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ก็ไม่ได้สังเกตุเห็นสิ่งนี้

บางทีอาจจะไม่มีใครรู้ว่าโดยปกติแล้วไม้เท้าจะถูกเก็บไว้ในรูปแบบสร้อยข้อมือ

ความจริงแล้วต่างหูไต้ฝุ่นไม่สามารถถือว่าเป็นของวิเศษคุณภาพสูงได้ อย่างไรก็ตามไม้เท้าแห่งมหานักปราชญ์นั้นแตกต่างออกไป

นี่คือสัญลักษณ์ของชไวเซอร์ ความสามารถและพลังของมันอยู่ในระดับที่สิ่งประดิษฐ์อื่นๆไม่สามารถเทียบเท่าได้

หากมีการเปิดเผยการปรากฏตัวของไม้เท้า มันจะทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างมากในโลกโดยเฉพาะในหมู่เซอร์เคิล

ปฏิกิริยาของสโตรว์เน็คลิซที่ประกาศตัวเองว่าเป็นผู้สืบทอดของชไวเซอร์จะทำอะไรเพื่อให้ได้มานั้นสามารถจินตนาการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“เดิมทีฉันจะไม่ขอร้องคุณ แต่การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสถานการณ์ในครั้งนี้ควรมีพ่อมดอย่างน้อยสองคน”

อัครสาวก

เกิดคำถามเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของพวกเขา

มนุษย์ที่ได้รับการคัดเลือกโดยเดมิก็อดและได้รับความสามารถในการใช้พลังศักดิ์สิทธิ์

เราเปรียบเหมือนตัวแทนได้ไหม?

เฟรย์ค่อยๆอ้าปาก

“ผมช่วยคุณได้ แต่…คุณตั้งใจจะออกเดินทางเมื่อไหร่?”

"ฉันไม่แน่ใจ แต่ฉันเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ฉันคิดว่าฉันยังต้องรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมอีกสักนิด”

“…”

หนึ่งอาทิตย์

แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

แต่แน่นอนว่ามันต้องมีเงื่อนไข

“ผมอยากจะเริ่มอ่านกริมโมสนับตั้งแต่วันนี้”

“มันเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือเปล่า?”

"ใช่"

“หืม…คุณกำลังมองหาหนังสืออะไรอยู่?”

ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปิดบังเขาจึงตอบอย่างตรงไปตรงมา

“หนังสือเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุ”

“เล่นแร่แปรธาตุ?”

“มียาอายุวัฒนะที่ผมต้องการปรุง”

“อืม…ถ้างั้นการขอความช่วยเหลือจากเธอโดยตรงในการปรุงอาจจะดีกว่าหนังสืออีกนะ ฉันคิดว่าเธออาจจะอยู่ที่หอคอยอีกสักพัก”

"เธอ?"

มิเคลพยักหน้า

“อเดเลียเธอเป็นผู้มีเชี่ยวชาญในการเล่นแร่แปรธาตุและคงยากที่จะหาใครสักคนในระดับใกล้เคียงกับเธอ ฉันไม่เคยพบใครเก่งไปกว่าเธอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการปรุงอายุวัฒนะ”

“…”

…อเดเลีย?

ดวงตาของเฟรย์หรี่ลง

มันไม่คุ้นเคยแต่เขาก็เคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนมาก่อน

และหลังจากได้ยินคำพูดถัดไปของมิเคลเขาก็รู้เลยว่าเขาเคยได้ยินชื่อที่ไหนแน่ๆ

“เธออยู่ที่หอคอยมาสักพักหนึ่งแล้ว เธอยังเป็นศาสตราจารย์อยู่ที่สถาบันเวสต์โร้ดอีกด้วย ดังนั้นฉันจึงไม่รู้ว่าเธอจะไปเมือไหร่ ดังนั้นถ้าคุณอยากจะถามคุณควรรีบหน่อยก็ดี”

อเดเลีย

เป็นชื่อที่เขาได้ยินหลายครั้งในสถาบันเวสต์โร้ด

เธอเป็นหนึงในหัวกะทิที่สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับศาสตราจารย์ดิโอเพอร์แมนได้ ชายซึ่งได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดในหมู่ศาสตราจารย์

แต่เฟรย์ไม่เคยพบเธอด้วยตัวเอง

เนื่องจากวิชาของอเดเลียไม่ตรงกับชั้นเรียนใดๆ ที่เขาเรียนอยู่ในเวลานั้น

เขารู้เรื่องของเธอน้อยมากเนื่องจากเขาไม่ค่อยให้ความสนใจเกี่ยวกับข่าวลือ

ในบรรดาอาจารย์เธออายุน้อยที่สุดและเธอก็เป็นผู้หญิง

นั่นคือทั้งหมดที่เขารู้

“ระดับพลังของอเดเลียนั้นไม่ได้สูงมากนัก แต่หัวหน้าชั้นในหอคอยก็มักจะร้องขอความช่วยเหลือจากเธอเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุ ฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร แต่น่าจะประหยัดเวลาได้มากแทนที่จะต้องไปค้นหาจากในหนังสือ”

“อืม…”

จากการที่มิเคลหนึ่งในหัวหน้าชั้นในหอคอยได้โอ้อวดเกี่ยวกับเธอ เฟรย์อดไม่ได้ที่จะอยากรู้เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ที่มีชื่อว่าอเดเลีย

เฟรย์มองมิเคลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถาม

"แล้วเธออยู่ที่ไหน?"

* * *

เฟรย์ยืนอยู่หน้าห้องของศาสตราจารย์อเดเลีย

เป็นห้องที่ 20 บนชั้น 6

เขาไม่คาดคิดว่าจะอยู่ชั้นเดียวกับเธอ แต่เขาเคยเห็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่คามิลล์ที่ชั้น 6 ด้วยหรือ?

เฟรย์พยายามเขย่าความทรงจำของเขา แต่พบว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

เขาตัดสินใจเคาะประตู

ปังๆ...

ไม่มีเสียงตอบรับเขาจึงตัดสินใจเคาะอีกครั้ง

ปังๆๆ....

ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ

เฟรย์เคาะประตูแรงขึ้นเล็กน้อย

เสียงเคาะกระหน่ำ...

จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างจากภายใน

มีเสียงดังก้องตามมาที่ดูเหมือนจะเป็นคำสาปแช่งในเสียงของผู้หญิงและเสียงของบางสิ่งที่แตกหัก

เฟรย์ถอยหลังและรอ

คลิก

ประตูเปิดออกและจากตรงนั้นผู้หญิงคนหนึ่งมองออกมา

ผู้หญิงคนนั้นมีผมยุ่งและตาบวม

และดวงตาคู่นั้นจ้องมองไปที่เฟรย์ที่เต็มไปด้วยความระคายเคือง

"นายต้องการอะไร?"

“คุณคือศาสตราจารย์อเดเลียใช่ไหม?”

"ใช่"

“หัวหน้าชั้นมิเคลแนะนำผม ผมได้ยินมาว่าคุณเป็นคนที่เก่งที่สุดในการเล่นแร่แปรธาตุและผมก็อยากจะถาม…”

“ฉันไม่รู้เรื่องนั้น ฉันไม่ว่างออกไปให้พ้น”

หลังจากที่เฟรย์บอกเธอก๋พยายามที่จะปิดประตูแต่เฟรย์ก็เอาเท้าห้ามเอาไว้

เขาเกลียดตัวเองที่ทำตัวน่ารำคาญเช่นนี้ แต่เขาก็อยู่ในสถานะที่ถูกบังคับให้ต้องทำ

“…”

“…”

ครู่หนึ่งทั้งสองสบตากัน

อเดเลียดึงประตูสองสามครั้งก่อนจะถอนหายใจหลังจากตระหนักว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ชายคนนี่ไป

"นายคือใคร?"

“เฟรย์เบลค”

“เบลค…ตระกูลเบลค?”

"ใช่"

“หืม…ฉันไม่คิดว่านายจะพี่ชายคนโตหรอกนะ อา...ลองคิดดูไฮนซ์เคยบอกฉันว่าเขามีน้องชายอยู่อีกคน”

ฟังดูเหมือนว่าเธอจะรู้จักกับไฮนซ์เบลค

เธอหรี่ตาลงครู่หนึ่ง แต่ไม่นานหลังจากนั้นเธอถอนหายใจและเกาหัวที่ยุ่งเหยิงของเธอ

“มีแต่เรืองแย่ๆตั้งแต่เมือวานแล้ว ช่วยบอกได้ไหมว่านายต้องการอะไรแล้วก็ไปๆซะ ฉันยุ่งมาก”

เฟรย์เดินตามเธอเข้าไปในห้อง

ห้องของอเดเลียมีขนาดใหญ่มาก ดูเหมือนว่าจะใหญ่กว่าห้องที่เฟรย์พักอยู่ประมาณสิบเท่าได้

พอดูดีๆมันไม่ใช่ห้องแต่เป็นห้องทดลองอะไรบางอย่าง

อย่างไรก็ตามมีภูเขาหนังสือวัสดุวิเศษที่ให้กลิ่นแปลกๆ และขวดแก้วเก็บพวกของเหลวที่มีสีน่าสงสัยกระจายอยู่ทั่วซึ่งทำให้รู้สึกว่าพื้นที่มีขนาดเล็กกว่าที่เป็นจริงมาก

เหนือสิ่งอื่นใดมันมืดและมีกลิ่นฝุ่นราวกับว่าห้องระบายอากาศได้ไม่ดีนัก

เฟรย์เดินตามอเดเลียที่ปัดฝุ่นด้วยมือของเธอ

“นั่งตรงไหนก็ได้ที่นายต้องการ”

“…”

เธออยากให้เขานั่งตรงไหนละ?

เฟรย์ถูกบังคับให้นั่งและแนบตูดของเขาเข้ากับเก้าอี้

จากนั้นอเดเลียก็พูดจาด้วยท่าทีที่ค่อนข้างเปิดกว้าง

“แม้ว่าฉันอยากรู้ว่านายต้องการอะไร แต่ฉันยุ่งเหนื่อยและหงุดหงิดมาก ดังนั้นตัดเรื่องที่ไม่จำเป็นออกไปซะแล้วเข้าประเด็นเลย”

“ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นผู้ที่ชำนาญในการเล่นแร่แปรธาตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของการสร้างยาอายุวัฒนะ”

"ฮะ! เมื่อพูดถึงยาอายุวัฒนะแม้แต่มาสเตอร์ของหอคอยเวทมนตร์ที่ 3 อย่างจูเลียนก็เทียบกับฉันไม่ได้”

เธอพูดแบบนี้โดยไม่แสดงความภาคภูมิใจใดๆ เหมือนเธอแค่พูดความจริงแทนที่จะแสดงออกก็เท่านั้น

มันเป็นนิสัยเฉพาะคนที่ความมั่นใจในตัวเองสูง คนที่มีความเชื่อมั่นสูงเท่านั้นที่สามารถแสดงทัศนคติแบบนี้ได้

เฟรย์ครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะถามคำถามกับเธอ

“ผมอยากปรุงให้มันกลายเป็นน้ำยามานา คุณทำได้มั้ย?”

"แน่นอน-"

“ไม่ใช่แค่ว่าคุณสามารถปรุงมันขึ้นมาได้ แต่ถ้าคุณสามารถสกัดพลังที่แท้จริงออกมาได้”

“…”

สายตาของอดีเลียเปลี่ยนไปและสายตาที่เธอมองเฟรย์ตอนนี้เธอดูสนใจ

“อืม ดูเหมือนว่านายจะมีความรู้อยู่บ้างเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุ”

กระบวนการกลั่นของเหลวที่เฟรย์เพิ่งพูดถึงนั้นเป็นงานที่ซับซ้อนซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับนักเล่นแร่แปรธาตุระดับแนวหน้ามามากมาย

นอกจากนี้หากเขาไม่มีความรู้เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุเลยเขาก็จะไม่สามารถยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดได้

อเดเลียยักไหล่

"มันเป็นไปได้ ฉันเคยสกัดของเหลวบริสุทธิ์ได้มากถึง 100 มล. ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้ผู้ช่วย ครั้งที่แล้วก็ใช้เวลาประมาณครึ่งวันเลยละ”

“100 มล. …”

ผู้หญิงคนนี้เก่งอะไรขนาดนี่

เฟรย์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชม

สำหรับพ่อมดปกติอาจเป็นไปได้ที่พวกเขาจะแยกได้ประมาณ 10ml ในครึ่งวันแม้จะใช้ผู้ช่วยสองคนก็ตาม

ดูเหมือนว่าคำพูดของเธอที่บอกว่าเธอเก่งกว่ามาสเตอร์ของหอคอยในเรืองการเล่นแร่แปรธาตุจะไม่ใช่เรื่องโอ้อวด

ในขณะเดียวกันมันก็ง่ายที่จะเห็นว่าอเดเลียเป็นคนแบบไหน

เธอเป็นคนที่มีอยากรู้อยากเห็นและมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้รับความรู้ใหม่ๆ

คนทั่วไปอาจจะปฏิบัติกับเธอเหมือนยั่ยแว่นบ้าเรียน แต่เฟรย์ชินกับคนแบบนี้มากที่สุด

เฟรย์มั่นใจ

ตาก

เขาหยิบขวดที่มีหัวใจของทอร์กุนทาออกมาและวางไว้บนโต๊ะที่สกปรก

อเดเลียมองไปที่ขวดด้วยสีหน้าไม่สนใจ

"นั่นอะไร?"

“ทำไมคุณไม่ลองตรวจสอบเองดูละ”

“…”

อเดเลียหรี่ตาเล็กน้อยแล้วตรวจดูขวดอย่างช้าๆ

จากนั้นดวงตาของเธอก็เริ่มเบิกกว้างอย่างช้าๆ

“อืม…หือ? มะ..ไม่...จริง…น่า ระ...รอสักครู่! จริงๆหรือนี่?”

บางทีเธออาจจะไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เธอพูด

อเดเลียมองไปที่ขวดเล็กๆด้วยการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

“ฉะ- ฉันขอสัมผัสมันได้ไหม?”

ทันทีที่เฟรย์พยักหน้าเธอก็ค่อยๆยกขวดขึ้นราวกับว่าเธอกำลังถือสมบัติล้ำค่าก่อนจะค่อยๆเปิดมันออก

“ฮิฮิฮิ สีมันสวยจริงๆ ... มานาที่หนาแน่นเช่นนี้ แต่กลับสามารถถือได้ด้วยมือเปล่า ... ความร้อนอันอบอุ่นที่หลั่งออกมาจากมัน นี่มันอะไรกันเนี่ย?”

“นั่นคือหัวใจของเดรกที่มีอายุ 1,000 ปี มันมีพลังมานาโดยประมาณอยู่ที่ประมาณ 100,000 ME”

“100,000 - !!!!”

หัวใจของอเดเลียดูเหมือนจะเต้นรัวในอก

ถ้าเป็น 100,000 นั่นหมายความว่ามันมีพลังงานมากกว่า 100 เท่าของพ่อมดทั่วไป

มานามากขนาดนี้ถูกบรรจุลงในขวดเล็กๆนี้ได้อย่างไร?

‘ขวดแก้วเป็นเครื่องมือวิเศษที่น่าทึ่งเช่นกัน แต่ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่เขาสามารถถ่ายเทพลังงานที่บริสุทธิ์และอ่อนไหวเช่นนี้ลงไปในขวดแก้วได้ '

แม้ว่ามันจะดูเรียบง่าย แต่ก็เหมือนกับการเคลื่อนย้ายโถแก้วที่แตกในขณะที่ยังคงรูปทรงเดิมไว้

อเดเลียมองไปที่เฟรย์ด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่เธอไม่สามารถบอกอะไรได้จากการแสดงออกของเขา

เธอวางขวดลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง ท่าทางเซื่องซึมก่อนหน้านี้ของเธอดูเหมือนจะมีพลังมากมายมาแทนที่

เธอจ้องไปที่เฟรย์ด้วยสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อยและกล่าวว่า

“แล้วนายต้องการอะไร?”

“เพื่อให้มันกลายเป็นยาอายุวัฒนะที่ผมจะสามารถนำไปใช้ได้”

“นี้มันบ้ามาก!”

เฟรย์หัวเราะออกมา

“การแสดงออกของคุณบอกว่ามันเป็นไปได้”

อเดเลียแตะแก้มของเธอและพบว่าเธอยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัว

“นี่มันเป็นแค่นิสัยนะ นักเล่นแร่แปรธาตุทุกคนก็เป็นแบบนี้…และฉันไม่ได้จะพูดแบบนั้น”

“ทำไมมันถึงบ้าละ?”

“ความยากในการปรับแต่งนั้นยากอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่แท้จริงคือส่วนผสม อีกอย่าง ... ใช่ฉันมีส่วนประกอบส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ในขณะนี้ แม้ว่าจะมีสิ่งที่ฉันไม่มีอยู่บ้างแต่มันก็ไม่ได้ยากเกินไปที่จะหามา”

อเดเลียมองไปรอบๆห้องของเธอขณะที่เธอพูดแบบนั้น

มันกระจัดกระจายและยุ่งเหยิง แต่จริงๆแล้วมันถูกจัดระเบียบไว้ในแบบของเธอเอง

ตั้งแต่ตอนที่เธอได้ยินถึงความตั้งใจของเขาที่จะทำยาอายุวัฒนะเธอก็เริ่มสร้างกระบวนการกลั่นในหัวของเธอขึ้นมาใหม่

“แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถหาได้แน่ๆ”

“สิ่งที่หาไม่ได้?”

อเดเลียมองมาที่เขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ขนของนกฟีนิกซ์”

“…”

“หลังจากเห็นการแสดงออกบนใบหน้าของนาย นายคงรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะหาใช่ไหมละ? มันไม่ใช่สิ่งที่นายจะหาได้เพียงแค่นายพบหรือฆ่านกฟีนิกซ์ นายอาจจะได้มันมาก็ต่อเมื่อพวกมันอารมณ์ดี และพวกมันถูกเรียกว่าสัตว์ในตำนานเพราะไม่มีใครรู้ว่าพวกมันอยู่ที่ไหนบนทวีป…”

เฟรย์ดึงขนนกฟีนิกซ์ที่มีอยู่ในกระเป๋าออกมา

“นะ …นั้น - …”

รูม่านตาของอดีเลียสั่น

เธอพูดติดอ่างและดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถสร้างประโยคที่สอดคล้องกันได้ราวกับว่าเธอถูกทำให้เป็นใบ้

“คุณต้องการอะไรอีก?”

อเดเลียปิดปากของเธอครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อย

“…ผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมพอที่จะช่วยเหลือฉันได้ นอกเหนือจากต้องเป็นพ่อมดที่อยู่ในระดับสูง พวกเขายังต้องมีพรสวรรค์ตามธรรมชาติในการควบคุมมานา อย่างน้อยพวกเขาต้องอยู่ในระดับที่บีบอัดลูกบอลพลังงานให้มีขนาดเท่าเล็บมือได้อย่างง่ายดาย…”

ทันใดนั้นลูกบอลพลังงานก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าอเดเลียและเริ่มบีบอัดจนมันเล็กกว่าเล็บมือ

“…”

อเดเลียอ้าปากค้างครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนวิญญาณของเธอได้ออกจากร่าง

“…นายอยากเริ่มตอนไหนละ!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด