ตอนที่แล้วEp.810 - จะแข็งแกร่งสักแค่ไหนเชียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.812 - ดวลกระบวนท่าวรยุทธขั้นสูง

Ep.811 - หรือคุณอยากสู้กับผม?


5/5

Ep.811 -  หรือคุณอยากสู้กับผม?

“ถ้าอยากรู้ว่าผมมีอะไรดี ไม่ต้องฟังคำยืนยันจากปากคนอื่นหรอก จากคำพูดของท่านผู้ใหญ่รุ่ย ดูเหมือนคุณต้องการดวลกับผมใช่ไหม?” ฉินเฟิงกล่าวเสียงต่ำ

หากเป็นการดวลชวนทะเลาะ ฉินเฟิงไม่เคยหวาดกลัว

และในครั้งนี้ ผู้ที่กำลังหาเรื่องเขาดันเป็นตัวโง่งม หยิ่งผยองไม่เกรงกลัวผู้ใดเช่นกันพอดิบพอดี

“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ!” รุ่ยฉงตอบรับตามตรง

สำหรับผลงานการต่อสู้อันน่าทึ่งในปัจจุบันของฉินเฟิง แม้มีข่าวลือหนาหู แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง

นี่ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะฉินเฟิงไม่เคยคิดโฆษณา ป่าวประกาศชื่อเสียงของตนเอง

อย่างครั้งแรกที่เขาสามารถกำจัดผู้ใช้พลังเลเวล A ตอนนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในเขตทะเลนรก ครั้งนั้นแทบไม่มีใครรอดชีวิตกลับมา เอาจริงๆไม่มีใครรู้ว่าฉินเฟิงชนะเลเวล A ที่นั่น และสามารถช่วงชิงหุ่นเชิดแห่งความตายเลเวล S มาได้ด้วยซ้ำ

ครั้งที่สองคือในพันธมิตรวู้ดแลนด์ ฝั่งวู้ดแลนด์พยายามปิดกั้นข่าวสารอัีนน่าสิ้นหวังนี้สุดกำลัง ถึงขั้นติดต่อหาเลเวล S จากมิติอื่น ให้กลับมากำจัดฉินเฟิงโดยเฉพาะ

ครั้งที่สาม แน่นอนว่าเหตุเกิดในเมืองหลวงแห่งความมืด ฉินเฟิงสังหารเลเวล A กว่า 30 คนในอึดใจเดียว และหลังจากเข้าสู่เกาะนรก ไม่ทราบจำนวนแน่ชัดว่าเขาสังหารไปอีกกี่คน!

ซึ่งทั้งสามครั้งนี้ ไม่มีครั้งใดเลยเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาสาธารณชน กระทั่งหลังเกิดเรื่อง ข่าวคราวนี้ยังถูกปิดกั้นโดยพวกระดับสูง

ส่วนรุ่ยฉง เขาติดตามเลเวล S เดินทางไปยังต่างมิติ ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องราวของหัวเซี่ยเป็นเวลานานมากแล้ว หากไม่ใช่เพราะเจียงเฮ่าหลินติดต่อมาด้วยวิธีพิเศษ และผลของสถานการณ์เปลี่ยนแปลงเป็นในรูปแบบนี้ เขาคงไม่กลับมาเช่นกัน

ฉะนั้น รุ่ยฉงเลยรู้เพียงว่าฉินเฟิงเป็นแค่ดาวรุ่งที่เพิ่งโดดเด่นในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมานี้ กระทั่งสถานะที่ว่าฉินเฟิงเป็นแชมป์งานประลองลูกรักของพระเจ้าเมื่อปีที่แล้ว เขายังไม่ทราบ เพราะสุดท้ายเป็นแค่ข่าวคราวของเลเวล B เป็นการดำรงอยู่ที่เขาสามารถบดขยี้ได้ตลอดเวลาหากต้องการ

แต่ปัจจุบัน เลเวล B ที่ว่า กลับหาเรื่องเขาอย่างกะทันหัน!

รุ่ยฉงต้องการมอบบทเรียนให้แก่ฉินเฟิง

ตูมมม!

รุ่ยฉงย่ำเท้าลงกับพื้น ทั้งคนทั้งร่างดีดผึง ทะยานสูงสู่ฟากฟ้า

วิชาตัวเบาของรุ่ยฉง ได้ไปถึงระดับสุดยอดแล้ว

ไม่กี่ลมหายใจต่อมา รุ่ยฉงได้มาถึงเนินเขาเตี้ยๆที่อยู่ห่างออกไป 1,000 เมตร

ฉินเฟิงหันมองตามทิศทางของรุ่ยฉง สำหรับการดวลในครั้งนี้ เขาไม่คิดลังเล ต้องการประกาศศักดาเช่นกัน

เอาจริงๆเขาไม่สนหรอกว่าลูกน้องเลเวล B 2 - 3 คนของอีกฝ่ายจะเข้าร่วมกับตนหรือไม่ แต่ที่นี่มีคนอื่นๆอยู่มากมาย และเขาต้องการดูแล รับผิดชอบมาเป็นคนของตัวเอง

รุ่ยฉงไม่ได้ทำอะไรชัดๆ แต่เมื่อจบเรื่องกลับเสนอหน้า เอ่ยปากเพียงประโยคเดียว คิดพาผู้คนจากไป --อาศัยอะไรมาทำแบบนี้กับเขา?

ฉินเฟิงไม่ยอมถูกเอาเปรียบอยู่แล้ว ไม่ว่าจะในชีวิตก่อนหรือชีวิตนี้ ทัศนคติของเขาไม่เคยแปรเปลี่ยนไปเลย เขาไม่มีทางยอมสูญเสียเช่นนี้เด็ดขาด

หวือ หวือ หวือออ!

ฉินเฟิงสำแดงวิชาตัวเบาออกมาเช่นกัน ร่างของเขาวูบไหวเป็นเงา สองสามลมหายใจต่อมา ก็ปรากฏกายขึ้นบนยอดเขาอีกลูกตรงข้ามรุ่ยฉง

เนินเขาเตี้ยๆคู่นี้ มีชื่อเรียกกันว่าหุบเขาเจี่ยเม่ย เชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่ส่วนกลาง มองจากมุมไกลจะเห็นเป็นรูปตัว M ระยะห่างราวๆ 500 เมตรพอดี

ระยะห่างแค่นี้ ด้วยความแข็งแกร่งของเลเวล B ธรรมดาๆ เกรงว่าหากคิดโจมตีคงไม่สามารถลอยไปถึงอีกฝั่งได้ แต่ด้วยกำลังภายในหรืออบิลิตี้ของเลเวล A มันสามารถบดขยี้ฝั่งตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย

“คิดสู้กับฉันจริงๆใช่ไหม? ไม่กลัวหรือว่าแกจะตายในสภาพสยดสยอง?” รุ่ยฉงส่งน้ำเสียงเย็นชาผ่านกำลังภายใน

ฉินเฟิงกล่าว “ความแข็งแกร่งของผม คุณไม่มีทางเข้าใจ คุณต่างหากแน่ใจหรือว่าจะสู้กับผมจริงๆ น่ากลัวว่าถึงเวลานั้น ท่านผู้ใหญ่รุ่ยจะลุกไม่ขึ้น!”

คำพูดของฉินเฟิง แม้ฟังดูหยาบคาย แต่เวลานี้เขากำลังแนะนำอีกฝ่ายด้วยความหวังดีจริงๆ

กระนั้น ที่เขาเลือกยืนอยู่ในตำแหน่งห่างออกมา 500 เมตร ก็เพราะตัดสินใจแล้ว ว่าไม่คิดเผชิญหน้ากับรุ่ยฉงตรงๆ

มิฉะนั้นแล้ว ตราบใดที่ทักษะหมื่นวิญญาณสะบั้นบนมีดกษัตริย์คราม สัมผัสลงบนตัวรุ่ยฉงเพียงเล็กน้อย รุ่ยฉงอาจตายกลายเป็นศพทั้งๆแบบนั้นทันที

“ช่างพูดจาอวดดี!” รุ่ยฉงโกรธจนควันออกหู เสียงที่ส่งผ่านกำลังภายใน ดังสนั่นดังฟ้าร้อง

ขณะเดียวกัน ฝั่งผู้ใช้พลังนอกเมืองฉงโหลว เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ต่างก็ตกใจ ไม่เคยคาดคิดเลย ว่าผู้มีพระคุณอยู่ๆจะต้องเผชิญหน้ากับเจ้าเมืองรุ่ยฉง

“ท่านประธานฉินคิดต่อสู้กับท่านผู้ใหญ่รุ่ย เขาจะสามารถเอาชนะท่านผู้ใหญ่รุ่ยได้ใช่ไหม? ยังไงซะเขาก็เป็นแค่เลเวล B เท่านั้น อา! น่าเป็นห่วงจัง”

“ถึงตราประจำตัวของประธานฉินจะเป็นแค่เลเวล B แต่ดูจากกำลังภายในที่เขาปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่ มันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนของเลเวล B ทั่วๆไป แต่ทรงพลังยิ่งกว่ามาก”

“ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะชนะซักหน่อย!”

“ใจเย็นๆก่อน ฉันเคยได้ยินข่าวลือของประธานฉินมา ข่าวเล่าว่าเขาสามารถสังหารเลเวล A ลงได้เป็นจำนวนมาก เพียงแต่ยังไม่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง!”

“แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น ถ้าท่านผู้ใหญ่รุ่ยบาดเจ็บขึ้นมา มันจะเกิดอะไรขึ้น? อย่าลืมสิว่าเบื้องหลังท่านผู้ใหญ่รุ่ยมีตัวตนทรงอำนาจเลเวล S คอยสนับสนุนอยู่!”

ฝูงชนกำลังถกเถียงกันถึงเรื่องนี้ แต่ฉินเฟิงในสมรภูมิกลับดูสงบและมั่นคง เขาเอ่ยปากว่า “ท่านผู้ใหญ่รุ่ย เราสองต่างเป็นสมาชิกพันธมิตรมนุษย์ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม การต่อสู้มักมาพร้อมความเจ็บปวดเสมอ ฉะนั้นทำไมไม่ทำข้อตกลงกันสักหน่อยเล่า?”

รุ่ยฉงกล่าวเสียงเย็นชา “เพิ่งมาคิดเรียกร้องข้อตกลงกันตอนนี้ มันไม่สายไปหน่อยหรือ! แต่เห็นแก่หน้าแก ที่สุดท้ายอย่างไรก็ถูกซางฮันส่งตัวมา ฉันจะยอมรับฟัง!”

เห็นได้ชัดว่ารุ่ยฉงกำลังคิดว่าฉินเฟิงกำลังมองหาทางลงให้แก่ตัวเอง

อย่างไรก็ตาม รุ่ยฉงก็เห็นด้วยกับฉินเฟิง เพราะหากให้สู้ตายกันจริงๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ถูกต้อง แม้รุ่ยฉงต้องการสอนบทเรียนแก่ฉินเฟิง แต่เขาไม่ถึงขั้นปรารถนาให้ฉินเฟิงตาย

‘เจ้าเด็กนี่จู่ๆก็กระโดดมากวนโมโหฉัน ทั้งหมดที่ฉันต้องทำก็แค่โค่นมันลงซะ แบบนั้นจะได้เพาะสร้างบารมีขึ้นมาใหม่ เมื่อทุกคนเห็นผลลัพธ์ในครั้งนี้ จะชาวเมือง หรือลูกน้องของฉัน ก็จะกลับมาอยู่ใต้อาณัติ!’

ผลชนะในครั้งนี้ แน่นอนว่ารวมไปถึงการสามารถลดค่าใช้จ่ายทรัพยากรลงได้ด้วยเช่นกัน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนิงซิน!

ฉินเฟิงเมื่อเห็นว่ารุ่ยฉงตกลง เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นแบบนั้น ก็ขอให้ใช้ภูเขาสองลูกนี้เป็นอาณาเขต ใครก็ตามที่ตกลงไปก่อน คนนั้นจะเป็นฝ่ายแพ้!”

รุ่ยฉงตอบรับทันที “ตกลง ถ้าแกแพ้ ก็แค่ไสตูดกลับไปยังเมืองเฟิงหลีของตัวเอง ส่วนสินสงครามที่ได้จากการช่วยเหลือในครั้งนี้ ในเมื่อแกบอกว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัว ฉะนั้นฉันจะไม่รายงานเรื่องนี้กับซางฮัน!”

ฉินเฟิงไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องรางวัล กล่าวตามตรง “งั้นถ้าคุณแพ้ นับจากนี้ไป เมืองฉงโหลวที่ติดอยู่ในมิติทับซ้อนแห่งนี้ คุณจะไม่มีสิทธิ์เข้าแทรกแซง หรือทวงถามถึงมันอีก”

“ไม่มีปัญหา!”

“ภาพจะถูกบันทึกเอาไว้ทั้งหมด พวกเรามาสู้กันด้วยดีเถอะ!”

ช่วงเวลานี้ มีโดรนมากกว่าสิบตัวกระจายอยู่รอบๆ คอยเก็บภาพของทั้งสองคนจากทุกทิศทาง ผู้ใช้พลังสามารถอาศัยกำลังภายในหรืออบิลิตี้รับชมสถานการณ์ในตำแหน่งที่ห่างออกไปนับ 1,000 เมตรได้ก็จริง แต่คนทั่วไปทำไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ การต่อสู้ของทั้งสองได้ถูกถ่ายทอดสดไปยังอุปกรณ์สื่อสารของทุกคนในที่เกิดเหตุ มีกระทั่งเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายนักสู้ วิดีโอที่ถูกฉายออกไป ได้รับการจับตามองจากผู้คนนับไม่ถ้วน!

นั่นเพราะ นี่คือการประลองของผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล A!

สำหรับเลเวล A ถือเป็นตำแหน่งที่ได้รับการเคารพไปทั่วโลก เลเวล A แต่ละคน สามารถดำรงตำแหน่งเป็นจ้าวพรมแดนได้

ในขณะที่เลเวล S แทบไม่เคยปรากฏตัวออกมา ดังนั้น สำหรับโลกใบนี้ เลเวล A ถือเป็นที่สุด

เบื้องล่างของเหล่าเลเวล A มีผู้ใช้พลังนับไม่ถ้วนกำลังแหงนมองขึ้นมา และหากมีโอกาสย่อมรับชม!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประลองในส่วนของวรยุทธโบราณ ผู้คนนิยมรับชมผู้แข็งแกร่ง เพื่อเรียนรู้กระบวนท่าวรยุทธโบราณ และวิเคราะห์จนแตกฉาน

“ฉินเฟิง ฉันยอมรับในความกล้าหาญของแกจริงๆ แต่ยังไงซะก็ไม่คิดออมมืออยู่ดี!”

รุ่ยฉงหันไปมองโดรนรอบๆ เขารับรู้ได้เช่นกัน ว่าการดวลในครั้งนี้ จะทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้น

เจ้าตัวเหยียดแขนไปข้างหน้า ดาบยาวถูกเรียกจากแหวนมิติ ตกลงในมือเขา

จากนั้น ข้อมือพลันพลิกหงาย ปลายดาบชี้ไปยังทิศทางของฉินเฟิง

“กระบวนท่าวรยุทธ : ทักษะหมื่นคมดาบ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด