WS บทที่ 33 สายลมอันชอบกล
เมอร์ลินเดินตามแพรตต์เข้าไปในปราสาท ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในปราสาท เขาพบว่าการตกแต่งภายในอย่างที่นี่ดูแปลกตาและไม่เหมือนใคร
สีของผนังเป็นสีเหลืองหม่นและมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแขวนอยู่ ในภาพค่อนข้างเบลอและมีจุดสีด่างดำมาก
“ปราสาทหลังนี้ดูเก่ามากเลยนะครับ” เมอร์ลินกล่าว
แพรตต์พยักหน้า “อืม ปราสาทแห่งนี้เก่าแก่มากจริง ๆ แม้แต่คนที่อายุมากที่สุดในดินแดนแห่งนี้ก็ไม่รู้ว่าปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นทาเมื่อไหร่ มันน่าจะมีอายุได้ราว ๆ 500ปีหรือมากกว่านั้น
ท่านบารอนได้ให้คนมาซ่อมแซมและบำรุงรักษานับตั้งแต่ที่เขาย้ายเข้ามาแต่ภายในห้องโถงท่านยังคงรักษาสภาพเดิมเอาไว้”
เมอร์ลินพยักหน้า แม้อาคารส่วนใหญ่ในโลกนี้จะได้รับการเสริมสร้างอย่างยิ่งใหญ่แต่ก็มีอาคารบางแห่งคงรักษาสภาพเดิมเอาไว้ เขาคิดว่าปราสาทแห่งนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นโดยขุนนางเมื่อหลายร้อยปีก่อน
“จริงสิ แล้วท่านพ่ออยู่ที่ไหนครับ” เมอร์ลินกล่าวพลางอย่างไปรอบ ๆ เขาพบเพียงคนรับใช้แต่ไม่เห็นวี่แววของเลห์แมน วิลสันเลย
แพรตต์ได้ตวัดสายตามามองเมอร์ลิน เขาได้หันมาพร้อมท่าทีที่เปลี่ยนไป
“เนื่องจากเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางเราได้ทราบพวกโจรอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ท่านบารอนจึงนำกำลังพลออกไปลาดตระเวนรอบ ๆ ท่านบารอนจะกลับในช่วงกลางคืนครับ”
หลังจากแพรตต์กล่าวจบ ก็มีแม่บ้านที่อยู่ในปราสาทเข้ามาหาเมอร์ลิน จากนั้นแพรตต์ก็ได้ขอตัวออกไปแล้วทิ้งให้เมอร์ลินอยู่กับแม่บ้าน
แม่บ้านเป็นหญิงสาวที่สวยมาก เรือนร่างเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัด ริมฝีปากของทาด้วยลิปสติกที่แดงสด เธอย่อคำนับลงเล็กน้อยโดยไม่ที่ได้มองหน้าเมอร์ลิน
“คุณชายเมอร์ลิน หากท่านเหนื่อยล้าจากการเดินทางอันยาวนาน ดิฉันได้สั่งให้สาวใช้เตรียมน้ำร้อนไว้ในห้องอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว”
หลังจากนั้นแม่บ้านได้เดินนำเมอร์ลินพาเข้าไปในห้องอาบน้ำที่กว้างขวางและมีอ่างขนาดใหญ่อยู่ภายใน
“คุณชายเมอร์ลิน ดิฉันขออนุญาตนะคะ”
แม่บ้านได้ปิดประตูห้องน้ำโดยที่เมอร์ลินไม่ทันรู้ตัวและเดินมาที่อ่างอาบน้ำ ดูเหมือนเธอจะตั้งใจจะปรนนิบัติเขาด้วยการอาบน้ำให้เขา
นับตั้งแต่ที่เมอร์ลินข้ามโลกมายังโลกใบนี้ เขาได้ทำการปฏิเสธเรื่องนี้มาโดยตลอดแต่ตอนนี้มันไม่เหมือนตอนที่อยู่ในเมืองแบล็กวอเตอร์ เขาได้มาต่างเมืองและได้พบเจอกับหญิงสาวที่งดงาม มันทำให้หัวใจเต้นระส่ำ
*ซูม!*
เมอร์ลินได้ตัดสินใจถอดเสื้อผ้าของเขาและลงไปในอ่างอาบน้ำ ทางแม่บ้านได้มองเขาด้วยดวงตาที่ทรงเสน่ห์พร้อมกับเผยรอยยิ้มเล็กน้อย เธอได้ก้มลงมาขยับมืออันเนียมนุ่มลูบไล้ขึ้นลงทั่วร่างกายของเมอร์ลินอย่างต่อเนื่อง
เมอร์ลินได้หรี่ตามองมือของแม่บ้านที่กำลังขยับไปมาอย่างพลิ้วไหว เขารู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันเร่าร้อนที่อยู่ในร่างกายของเขา
เขาได้คว้ามือของแม่บ้านและหัวเราะเบา ๆ “ลงมานี่สิจะได้สะดวก ๆ”
ด้วยการออกแรงเพียงน้อย แม่บ้านก็ได้ลงไปในอ่างอาบน้ำทันที
*ซูม!!*
แม้ว่าแม่บ้านจะสวมเสื้อผ้าอยู่แต่ด้วยสถาพที่เปียกปอน มันก็ได้เผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเธออย่างชัดเจน ยิ่งทำให้เพิ่มความเย้ายวนมากขึ้น มือของเธอยังได้ลูบไล้หน้าของเมอร์ลินอย่างอ่อนโยน
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเมอร์ลินยังคงฝึกฝนตามท่าทางของประติมากรรมนูนอันลึกลับตลอดมาอย่างไม่ลดละ แม้ว่าในช่วงนี้เขาจะไม่ค่อยได้ฝึกฝนเนื่องจากยุ่งกับการทำสมาธิแต่ร่างกายของเขายังฟิตแน่น กล้ามเนื้อชัดได้รูป
เมอร์ลินยังคงแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำ เขาหลับตาและเพลิดเพลินกับการลูบไล้อันอ่อนโยนของแม่บ้าน
“สมกับเป็นบุตรของท่านบารอนจริง ๆ ร่างกายของคุณชายไม่ได้ด้อยไปกว่าท่านบารอนเลย” แม่บ้านคนสวยได้เข้ามาใกล้ ๆ หูของเมอร์ลินและกระซิบพร้อมกับหายใจอันแผ่งเบา
“หื้ม เธอเคยทำอย่างนี้กับท่านพ่อมาก่อนเหรอ?” เมอร์ลินเบิกตาโพลงและถามด้วยเสียงต่ำ
แม่บ้านเม้มริมผีปากเล็กน้อย ก่อนที่จะหัวเราะเบา ๆ “แน่นอนค่ะ ดิฉันคอยรับใช้ท่านบารอนทุกครั้งที่ท่านมาเยือนดินแดน” เธอกล่าวออกมาพร้อมกับดันหน้าอกออกมาข้างหน้าเล็กน้อย
ด้วยท่าทางของแม่บ้าน เมอร์ลินพอจะรู้ว่าเธอต้องการอะไร ถึงเขาจะรู้อย่างนั้นแต่เขาก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แม้เขาจะรู้ชีวิตส่วนตัวของพวกขุนนางส่วนใหญ่นั้นเป็นอย่างไร อย่างแม่บ้านคนนี้ที่ก่อนหน้านี้เธออาจจะ ‘รับใช้’ เลห์แมนมาก่อน แล้วจากนั้นก็มา ‘รับใช้’ เขาต่ออีกที
แม้พวกเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่และในสังคมนี้ก็ทำกับปกติแต่เมอร์ลินก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้
“ออกไป ฉันไม่ต้องการรบใช้จากเธอ” เมอร์ลินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแข็งกระด้าง
แม่บ้านได้ออกไปจากห้องอาบน้ำอย่างงุนงง
จากนั้นภายในห้องก็กลับมาสงบอีกครั้ง เมอร์ลินยังคงแช่อยู่ในน้ำอุ่น ความเหนื่อยล้าได้ค่อย ๆ หายไปทีละน้อยแต่ความรุ่มร้อนที่เกิดจากแม่บ้านยังคงอยู่ นั่นทำให้เขารู้สึกว้าวุ่น
เขาได้นั่งพิงอ่างอาบน้ำและหลับตาลงและเริ่มทำสมาธิ
หลังจากที่เขาทำสมาธิ จิตใจของเขาก็เริ่มสงบลง ดูเหมือนเขาจะลืมทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเขาและปล่อยความรู้สึกผ่านไปตามสายน้ำ
*...*
*อุแว้~ อุแว้~*
*พึ่บ*
เมอร์ลินได้ลืมตาขึ้นมา เขาหันไปมองรอบ ๆ เพื่อมองหาต้นเสียงของเด็กทารก
*ซูม*
เมอร์ลินรีบลุกยืนขึ้นพร้อมกับตัวสั่นเล็กน้อยเนื่องจากน้ำที่เขาแช่มาตลอด ตอนนี้ได้เย็นหมดแล้ว เขาน่าจะทำสมาธิไปอย่างน้อย 2ชั่วโมง
“นั่นสียงอะไรน่ะ” เขาพูดพลางสวมเสื้อผ้า เขาได้อยู่นิ่ง ๆ และลองฟังและพบว่าเสียงร้องยังคงดังชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ มันทำให้เขาขนลุกขึ้นมาอย่างหวาดหลัว
เขาจึงตัดสินใจออกจากห้องอาบน้ำและลงไปชั้นล่าง ด้วยความที่เขารีบไปหน่อยเลยทำให้เขาชนกับแพรตต์โดยบังเอิญ
“ลุงแพรตต์ เมื่อกี้มันเสียงอะไรน่ะ เสียงมันเหมือนเด็กทารกร้องเลย”
เมอร์ลินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เขาลอบสังเกตปฏิกิริยาของแพรตต์แต่เขามีทีท่าสงบราวกับเขาเคยชินกับเรื่องนี้แล้ว
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกครับ คุณชายเมอร์ลิน มันเป็นแค่เสียงลมเท่านั้น เสียงมันมาจากที่ ๆ หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากปราสาท สายลมได้พัดผ่านสถานที่แห่งเลยทำให้เกิดเสียงประหลาดขึ้นมา”
“งั้นเหรอครับ ลุงแพรตต์พอจะช่วยพาผมไปที่นั่นได้มั้ยครับ”
เมอร์ลินรู้สึกสงสัย เขาต้องการตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เกิดเสียงแปลก ๆ เหล่านี้ขึ้นมา
“จริง ๆ มันก็ไม่มีอะไรหรอกนะ แต่ถ้าคุณชายต้องการจะไป เดี๋ยวลุงจะพาไปเอง”
แพรตต์พูดอย่างลังเลเล็กน้อยแต่เขาพอจะจำได้ว่าสถานที่แห่งนั้นอยู่ไม่ไกลมากนัก เขาจึงยอมพาเมอร์ลินไป
แพรตต์สั่งให้คนรับใช้นำเทียนไขมาจุดคบเพลิงให้ จากนั้นก็เริ่มเดินทาง
เมอร์ลินได้เดินตามเขาไปอย่างใกล้ชิด