Ep.803 - กฏน่ะมีไว้สำหรับผู้แข็งแกร่ง!
2/5
Ep.803 - กฏน่ะมีไว้สำหรับผู้แข็งแกร่ง!
“อา!”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“จางหวู่! ออกห่างจากเธอซะ!”
หนิงซินและคนอื่นคล้ายถูกกระชากสติ เร่งตะโกนออกไป
แต่ชั่วอึดใจต่อมา คำอื่นๆพลันจุกอยู่ในลำคอ ไม่สามารถเอ่ยออกมา ทั้งหมดอ้าปากค้าง จ้องมองฉากตรงหน้าตาถลนราวกับไข่ห่าน
ช่วงเวลานี้ เมื่อเทียบกับจางหวู่แล้ว สรีระร่างกายของฉินเฟิงดูผอมแห้งและอ่อนแอ ทว่าด้วยร่างกายเช่นนั้น และยังไม่ทันยกอาวุธขึ้นมาด้วยซ้ำ เพียงงัดเท้าข้างหนึ่งเท่านั้น
ทว่าลูกเตะนี้ เพียงกวาดออกไป มันกลับรวดเร็วเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน กำปั้นของจางหวู่ ที่สวนกลับมา ยังไม่ทันสัมผัสหัวของฉินเฟิง ทั้งคนทั้งร่างของเขาก็ลอยจากพื้น ม้วนกลับหัวกลับหาง ปลิวกระเด็นไม่ต่างจากกระสุนปืนใหญ่
โครม!
แรงมหาศาลเกือบทำให้จางหวู่ตัวงอเป็นกุ้ง เขาลอยไปไกลกว่า 20 เมตร กระแทกเข้ากับต้นไม้ดังสนั่น
เปรี๊ยะ!
ลำต้นไม้ถูกกระแทกด้วยแรงมหาศาลจนหักครึ่ง
“อ๊อก!” จางหวู่ก้มหน้าลง คายเลือดสดๆออกมาเต็มปาก หากสังเกตดีๆ จะพบว่ามีเศษชิ้นเนื้อของอวัยวะภายในหลุดมาด้วย ท่านสามารถจินตนาการได้ ว่าลูกเตะของฉินเฟิงโหดเหี้ยมเพียงใด
คนอื่นๆในที่นี้ ดวงตานิ่งค้างราวกับถูกแช่แข็ง สมองอื้ออึงกลายเป็นว่างเปล่า
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาในรูปแบบนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในมิติทับซ้อน ผู้ใช้พลังล้วนสูญสิ้นความแข็งแกร่งของตนเอง แต่ยังเหลือคนประเภทเดียวเท่านั้น ที่ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ มีคุณสมบัติมากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดสั่นสะเทือนโลกหล้า
--ผู้ใช้วรยุทธเทคนิคคู่ขนาน!
การฝึกฝนเทคนิคนี้ค่อนข้างยากและสร้างความเจ็บปวดมาก ผู้ที่สามารถฝึกยุทธคู่ขนานประเภทนี้ได้ ต้องยอมรับความโหดร้ายที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง หมั่นเพียรพยายาม สุดโต่ง และประเด็นสำคัญที่สุดคือ ‘ไม่มีทางเลือกอื่น’
เหตุผลก็เพราะเทคนิคฝึกฝนกำลังภายในระดับสูง ยากนักที่จะพบเจอ ฉินเฟิงที่หลังเกิดใหม่สามารถคว้าทักษะลับกลืนดารามาได้ ถือเป็นกรณียกเว้น ในขณะที่คนอื่นๆ ต้องออกตามหาเทคนิคฝึกฝนระดับสูงที่เหมาะสมกับพวกเขา การยกระดับเลยเป็นไปอย่างเชื่องช้า ในขณะที่บางคน หลังการปลุกพลัง ก็สามารถระบุได้ทันทีว่าตนสามารถกลายเป็นผู้ใช้พลังระดับสูงได้หรือไม่
วรยุทธโบราณจะโดดเด่นหรือไม่ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของตน บางคนพรสวรรค์ไม่มาก พวกเขาเลยไม่สามารถทำความเข้าใจมันได้ บางคนเส้นลมปราณตีบตัน กำลังภายในไม่สามารถสนับสนุนได้เต็มที่ ถึงเวลานั้นไม่ต้องนึกถึงเรื่องก้าวสู่ระดับสูงอีก
ดังนั้น วิธีเดียวที่จะทำให้ก้าวสู่ระดับสูงได้ คือการฝึกฝนเทคนิคคู่ขนาน เพื่อยกระดับ ก้าวหน้าต่อไป แม้จะเจ็บปวดมาก แต่ความเจ็บปวดนี้ เมื่อแลกกับการไม่ต้องมีสถานะต่ำกว่าคนอื่นๆแล้ว ถือว่าคุ้มค่า
จางหวู่เองก็เป็นผู้ใช้วรยุทธเลเวล C7 เขาได้รับงานเป็นบอดี้การ์ดแก่เจียงเฮ่าหลิน นอกจากนี้มักอยู่ในวิลล่าในฐานะผู้คุ้มกัน เจ้าตัวคิดไม่ซื่อกับหลินยู่ถิงมานานแล้ว แต่ไม่กล้าแสดงออกมา
จนถึงตอนนี้ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป โอกาสได้มาถึงแล้ว เขาเลยเลือกแสดงธาตุแท้
แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าในช่วงเวลาที่เขาเกือบสามารถปีนป่ายขึ้นไปถึงฟากฟ้า ก็ถูกพรากจากเมฆน้อยก้อนนั้นไปอีกครั้ง ร่วงหล่นจมลงสู่ดินโคลนดังเดิม
“จริงอยู่ว่ากฏเกณฑ์เป็นสิ่งที่มนุษย์กำหนดขึ้น แต่สำหรับคุณ หากคิดสร้างกฏ เกรงว่ายังแข็งแกร่งไม่พอ”
ความเกลียดชังและความบ้าคลั่งฉายวาบเข้ามาในดวงตาของจางหวู่ ถลีงมองฉินเฟิงชนิดหัวชนฝา แต่ไม่สามารถโต้เถียงกลับไปได้
นั่นเพราะฉินเฟิงกล่าวถูกต้อง
ผู้แข็งแกร่งที่สุดคือผู้ได้รับการเคารพ ก่อนฉินเฟิงจะมาถึง กระทั่งเลเวล B ทั้งสามคนยังคิดว่าจางหวู่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นนอบน้อมต่อเขา หวังจะได้รับการคุ้มครองจากจางหวู่
ทว่าปัจจุบัน มีคนแข็งแกร่งยิ่งกว่าก้าวเข้ามาแล้ว ดังนั้นกฏเกณฑ์ที่จางหวู่เป็นคนตั้งขึ้น จึงถึงคราวเปลี่ยนแปลง เป็นธรรมดาที่เขาจะไร้อำนาจสั่งการอีกต่อไป
จางหวู่แม้ไม่ยินยอม แต่เขาตระหนักดี ว่าที่นี่ไม่เหลือที่ว่างสำหรับเขาอีกแล้ว
“ความเกลียดชังในวันนี้ บิดาจะจดจำมันไว้!”
จางหวู่ทิ้งท้าย พลิกตัววิ่งจากไปทันที
ฉินเฟิงไม่ได้รั้งไว้
หนิงซินทำสีหน้าแปลกๆ อ้าปากขึ้นมา
ฉินเฟิงกวาดตามองวูบหนึ่ง หนิงซินกลืนคำพูดกลับลงคอทันที บังเกิดความรู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่อาจอธิบาย
แน่นอน เรื่องมอบหลิงยู่ถิงถึงปากเสือ พวกเขายอมรับว่าเป็นคนเริ่ม แต่ตอนนี้ถูกขัดขวางไว้โดยฉินเฟิงแล้ว เป็นอีกฝ่ายที่ช่วยเธอเอาไว้ นี่เล่นเอาทุกคนรู้สึกเสียหน้า อยากยกปี๊บขึ้นมาคลุมหัว เพราะมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไร้ความสามารถและเลวทรามถึงขนาดไหน
“เอ่อนายพลฉิน นี่ … เรื่องนี้พวกเราก็ไม่เห็นด้วยแต่ว่า ..” หนิงซินกล่าวด้วยใบหน้าน่าเกลียด
ฉินเฟิงกล่าว “พอแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องพูดอีก”
หนิงซินชะงัก ก่อนหันไปพูดกับหลินยู่ถิงทันที “พี่สะใภ้ ผมขอโทษจริงๆ ผมปกป้องพี่ไม่ได้ แต่พี่ก็รู้ ว่าตอนนี้เกิดวิกฤติรอบด้าน ผมไม่ทราบสถานการณ์ของพี่เจียง ดังนั้นอย่างน้อยพวกเราต้องหาที่พึ่งพิงที่เชื่อใจได้!”
แต่ฝั่งหลินยู่ถิง เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้หญิงประเภทยอมตายดีกว่ายอมเสียศักดิ์ศรี
หญิงสาวหัวเราะเยาะหยัน สีหน้าของเธอเย็นชาปานน้ำแข็ง “แล้วฉันบอกเมื่อไหร่ว่าต้องการพึ่งพิงมัน? ถ้าพวกนายไม่เต็มใจจะปกป้องฉัน ฉันสามารถอยู่ด้วยตัวเองได้ แต่พวกนายกลับแลกเปลี่ยนฉันเหมือนสินค้า อย่ามาเรียกฉันว่าพี่สะใภ้อีก เพราะราคาของการเป็นพี่สะใภ้พวกนาย มันมากเกินจ่ายไหว!”
ฉินเฟิงรู้สึกชื่นชมผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาเล็กน้อย เอ่ยปากขึ้นว่า “เจียงเฮ่าหลินได้ออกจากมิติทับซ้อนไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ผมมาที่นี่เพื่อพบคุณโดยเฉพาะ เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผมรู้สึกเสียใจจริงๆ ขออภัยที่ล่าช้า”
“เขายังสบายดีงั้นหรอ ยอดไปเลย!” หลินยู่ถิงโล่งใจ หลังเกิดมิติทับซ้อน แม้หลินยู่ถิงไม่มีกำลังภายในอีกต่อไป แต่ความสามารถในการต่อสู้ไม่ได้ลดลงมากนัก ท้ายที่สุดแล้วเธอยังเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ ทั้งยังเคยฝึกฝนกระบวนท่าวรยุทธบางอย่างที่สามารถปลดปล่อยได้โดยไม่ใช้กำลังภายใน
ทำให้เธอสามารถฆ่าสัตว์ร้ายระดับต่ำอย่างน้อยก็หลายตัว หลบหนีออกมาพร้อมกับสาวใช้ แต่แน่นอน ว่าเครดิตส่วนหนึ่งที่รอดมาได้ ถือเป็นผลงานของจางหวู่เช่นกัน
แต่เดิมเธอคิดว่าหลังสามารถหลบหนีออกมาได้ ตั้งใจจะขอบคุณจางหวู่ซะหน่อย แต่นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
เวลานี้หนิงซินได้ยินคำพูดของฉินเฟิง ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เอ่ยแทรกทันใด โดยไม่สนว่าเรื่องของหลินยู่ถิงก่อนหน้านี้ จะทำให้ฉินเฟิงไม่พอใจหรือไม่
“นายพลฉิน ช่องว่างมิติจะเปิดขึ้นอีกอย่างงั้นหรอ? แล้วทำไมถึงต้องเปิดที่ใจกลางเมือง …”
“คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ …” ฉินเฟิงอธิบายให้พวกเขาฟังเกี่ยวกับมิติทับซ้อนและความยากในการเปิดมิติบนท้องฟ้านอกเมือง และเขามั่นใจเต็มเปี่ยมเลย ว่าหลังจากการเปิดมิติในครั้งสุดท้ายนี้แล้ว โลกภายนอกอาจไม่มีการเปิดมิติใดๆอีก เพราะแค่รูมิติเล็กๆ ยังทำให้เกิดการรุกรานของพืชกลายพันธุ์ขนาดนี้
เมื่ออธิบายจนจบ ฉินเฟิงตบท้ายด้วยการเฉลยว่าจะพาทุกคนออกไปในวันพรุ่ง บรรยากาศตึงเครียดถึงค่อยผ่อนคลายลงในที่สุด
สถานที่ผีสางเช่นนี้ สามารถยับยั้งความแข็งแกร่งของผู้คน โดยเฉพาะผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล B แม้สักหนึ่งนาทีก็ไม่อยากรั้งอยู่อีกต่อไป
ตอนนี้ พวกเขาทำได้แค่รอวันรุ่งขึ้นอย่างอดทน!
…
ขณะเดียวกัน ในโลกภายนอก บริเวณรอบๆเมืองฉงโหลว ฝูงชนต่างวิ่งวุ่นเร่งการผลิตอุปกรณ์โบราณ สิ่งของพวกนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของผู้ใช้อบิลิตี้ธาตุโลหะ ค่อยๆประกอบมันเข้าด้วยกัน
กลายเป็นบันไดสู่สวรรค์!
หากต้องการช่วยเหลือชาวเมืองที่อยู่ข้างล่าง เห็นได้ชัดว่ากล่องเหล็กเชื่องช้าเกินไป!
ดังนั้น พวกเขาเลยตัดสินใจสร้างบันไดเหล็กแบบเฉพาะกิจขึ้น
และยังมีโครงล้อมรอบ แม้ตรงส่วนนี้จะดูหยาบ แต่สามารถช่วยป้องกันอันตรายได้เป็นอย่างดี คำนึงถึงในแง่ของน้ำหนัก และอุบัติเหตุ เพราะหลังจากอยู่ในอากาศสูงเสียงฟ้า อาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันได้ทุกเมื่อ
แต่นี่จะตำหนิกันไม่ได้ เนื่องจากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าวัสดุใดก็ไม่สามารถแทรกอักษรรูนลงไปได้ ดังนั้นใช้ได้แค่เหล็กธรรมดา เลยต้องกังวลเรื่องคุณภาพกันบ้าง
แต่เนื่องจากมีเวลาแค่วันเดียว ดังนั้นนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาคิดออกแล้ว!
วันเวลาได้ผ่านพ้นไป พวกเขาทำงานหามรุ่งหามค่ำ ในที่สุดก็สามารถเชื่อมบันไดเหล็กยาวกว่า 400 เมตร และสามารถพับไปมาเป็นร้อยครั้งได้สำเร็จ
