ตอนที่แล้วบทที่ 38 เพื่อน(7)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40 หอคอยเวทมนตร์(2)

บทที่ 39 หอคอยเวทมนตร์(1)


เชพเพิร์ดบอกเขาว่ามีที่รังของเซอร์เคิลที่อยู่ใกล้ๆแถวๆนี้ และก่อนที่เฟรย์จะออกเดินทางไปที่หอคอยเวทมนตร์เชพเพิร์ดเสนอให้เขาไปที่นั่นครั้งหนึ่งก่อน

แต่เฟรย์ปฏิเสธ

แม้ว่าเขาจะยังคงสงสัยเกี่ยวกับเซอร์เคิล แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูสภาพร่างกายของเขาและเข้าการสู่ขั้น 7 ดาวอย่างสมบูรณ์

‘เพราะฉันไม่อยากให้สิ่งที่เกิดตอนปะทะกับทอร์กุนทาเกิดขึ้นอีกแล้ว’

ความภาคภูมิใจและความประมาททำให้เขาต้องพบกับวิกฤต ประสบการณ์ดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็เกินพอสำหรับเขา

“ขอให้โชคดีในการทดสอบ”

เมื่อเขาพูดอย่างนั้นเชพเพิร์ดก็ให้ไพ่สี่เหลี่ยมแก่เขา

บนนั้นมีวงกลมยาวๆหลายวงซ้อนทับกันจนกลายเป็นรูปวงแหวนแปลกๆ

“ภายในครึ่งปีหลังจากนี้เซอร์เคิลจะรับสมัครสมาชิก คุณจะต้องผ่านการทดสอบบางอย่าง แต่คุณคงจะผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย”

“มันเหมือนกับการสอบในสถาบันหรือเปล่า?”

“มันเป็นแนวคิดเดียวกัน ตราบเท่าที่คุณมีการ์ดใบนั้นคุณจะสามารถเข้าร่วมการทดสอบได้”

เวลาครึ่งปีจึงเป็นเวลาที่เหลือเฟือ

“แน่นอนว่ามันไม่เป็นไรหากคุณไม่ต้องการเข้าร่วม ฉันไม่ได้บังคับคุณ”

จากนั้นเขาก็มองไปที่การ์ดที่เขาวางไว้ในมือของเฟรย์ก่อนจะพูด

“นอกจากนี้ยังมีการ์ดมีชื่อของฉันอยู่ด้วย มันจะมีประโยชน์มากมายแต่…”

เขามองกลับไปที่เฟรย์และยิ้มกว้าง

“คุณคงไม่ต้องการมันใช่ไหม?”

"ใช่ครับ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”

“ฮูฮู ฉันรู้อยู่แล้ว แล้วคุณจะอยู่ที่หอคอยเป็นเวลาครึ่งปีเลยมั้ย?”

“ก็เว้นแต่จะมีอะไรพิเศษเกิดขึ้น”

“ถ้าคุณต้องการเข้าร่วมการสอบให้มองหาผู้ชายที่ชื่อลูก้าหรือมิเคเอล พวกเขาไม่ใช่คนของสโตรว์เน็คลิซหรอก แต่ก็เป็นสมาชิกของเหล่าเซอร์เคิลดังนั้นพวกเขาอาจจะสามารถช่วยได้”

เฟรย์ก้มหน้า

“ขอบคุณสำหรับความห่วงใยครับ”

"ไม่มีปัญหา"

ก่อนออกจากคฤหาสน์เฟรย์ได้ไปเยี่ยมโซเนียเป็นคนสุดท้าย

ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะออกจากคฤหาสน์นี้เช่นกัน แม้ว่าการสู่ขอจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงใดๆ ระหว่างทั้งสองฝ่าย

ในที่สุดเฟรย์ก็ถามเธอถึงคำถามที่เขาอยากจะถามเมื่อนานมาแล้ว

“โซเนียฉันอยากรู้เกี่ยวกับเพลงดาบที่คุณใช้”

“คุณหมายเพลงดาบเดรดเมน ?”

"ใช่ มันเป็นวิชาดาบที่สืบทอดโดยอาณาจักรลัวโนเบิลหรือเปล่า?”

“ไม่ มันเป็นวิชาดาบของตระกูลฉันนะ”

มันไม่ใช่เพลงดาบของอาณาจักร แต่เป็นเทคนิคของตระกูลแทน

เป็นไปได้ไหมที่ลูซิดคือบรรพบุรุษของตระกูลอควาริด ?

เฟรย์ต้องการถามมากกว่านี้ แต่ความลับของครอบครัวเป็นหัวข้อที่ละเอียดอ่อนเขาจึงไม่ได้ขุดคุ้ยเพิ่มเติม

'อาจเป็นลูกศิษย์ของลูซิดก็ได้'

ซึ่งแตกต่างจากตัวเขาเอง ชไวเซอร์ไอริสและลูซิดต่างก็มีลูกศิษย์มากมาย

หนึ่งในนั้นอาจมาจากตระกูลอควาริด

"บางทีโซเนียก็อาจจะเกี่ยวพันธ์กับเซอร์เคิลด้วย"

หนึ่งในสามเซอร์เคิลขนาดใหญ่ที่เชพเพิร์ดพูดถึงมีชื่อว่าลูซิดซอร์ด

แต่เฟรย์ไม่สามารถข้ามไปสู่ข้อสรุปได้

เฟรย์จึงบอกลาโซเนียที่กำลังเศร้าใจ

ไม่มีอะไรเหลือให้เขาทำในอยู่ในตระกูลจุนแล้ว

เฟรย์ได้ออกจากคฤหาสน์

หอคอยเวทย์มนต์ที่ 3 ตั้งอยู่ในเมืองทางตอนใต้ของเคาซิมโฟนีที่เรียกว่า "อูเธียโน"

ในฐานะเมืองที่มีหอคอยเวทมนตร์อูเธียโนมีหินวาร์ปของตัวเองซึ่งทำให้เฟรย์เดินทางมาถึงที่นั่นถายในวันเดียวกัน

* * *

มัสเกลเบลคลูกชายคนโตของตระกูลเบลคมองแพทริคขมวดคิ้ว

“หรือ…เฟรย์เป็นเพื่อนของเพเรียนจุนเหรอ?”

"ใช่ครับ มันทำให้งานเลี้ยงกลับตาลปัตรหมดเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสนิทกันมากด้วยครับ”

“…”

“…ผมคิดว่าหัวหน้าชั้นจำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ผมจึงมาบอกคุณ ผมขอลานะครับ”

“อืมขอบใจ”

แพทริคโค้งคำนับและออกจากห้องไป

มัสเกลที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในห้องขมวดคิ้ว

“เฟรย์…เป็นเพื่อนกับเพเรียนจุน”

เฟรย์เบลค

ไม่เคยมีใคร และจะไม่มีใครที่จะไร้พรสวรรค์ได้น่ากลัวเช่นนี้ในตระกูลเบลคอีกแล้ว

เขาเป็นคนที่น่าอับอายของตระกูลที่ไม่สามารถรู้สึกถึงมานาได้ บุคลิกขี้อายและว่านอนสอนง่ายที่ไม่มีความดื้อรั้นไม่หลงใหลและไม่มีความทะเยอทะยาน

‘ชายแบบนั้นจะมาเป็นเพื่อนกับเพเรียนได้ยังไง?’

มัสเกลเคยพบกับเพเรียนมาก่อน

แม้ว่าเขาจะเป็นขุนนางที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเคารพในตัวของเพเรียน

ไม่ว่าเขาจะคิดถึงเรื่องนี้มากแค่ไหนเขาก็นึกไม่ถึงว่าคนๆ นั้นกำลังคบหาอยู่กับเฟรย์จอมขี้อาย

“นายคิดว่าไงละไฮนซ์?”

“…”

ไฮนซ์เบลคซึ่งยืนพิงหน้าต่างได้ฟังการสนทนาและตอบกลับราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจคำพูดของมัสเกล

“…ทั้งคู่เรียนอยู่ที่สถาบันเวสต์โร้ดนิ ไม่มีอะไรแปลกหากพวกเขาถ้าจะมีความสัมพันธ์แบบเพื่อนหากเขาโชคดี”

“อืม ไอ้ขี้แพ้นั้นทำได้ดีเลยทีเดียว”

ดูเหมือนว่าจะมีผลดีจากน้องชายที่เขาไม่เคยคาดหวังมาก่อน

มัสเกลครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง

‘ฉันควรบอกพ่อดีไหม?’

อาจจะมีบางอย่างที่พวกเขาสามารถใช้ได้จากสิ่งนี้

มัสเกลเดินออกจากห้องไปอย่างช้าๆ

ไฮนซ์จ้องไปที่หลังของพี่ชายด้วยสีหน้าเฉยเมย

* * *

เฟรย์มาถึงอูเธียโนและเริ่มมองไปรอบ ๆ

ดูเหมือนจะเป็นเมืองที่พลุกพล่านพอสมควร แต่เนื่องจากเขาอยู่ในเมืองหลวงมาระยะหนึ่งจึงไม่มีความประทับใจมากขนาดนั้น

แต่มีบางอย่างที่เคาซิมโฟนีไม่มี

เขามองขึ้นไปที่หอคอยขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางเมืองซึ่งอาจมองเห็นได้จากทุกทิศทางภายในเมือง

มันสูงและกว้างมาก

เฟรย์มุ่งหน้าไปที่หอคอยทันที จากระยะใกล้เขารู้สึกว่ามันใหญ่กว่าที่เขาคิด

เฟรย์เต็มไปด้วยอารมณ์

“ตอนนั้นฉันอายุ 20 หรือเปล่านะ”

สถานที่แรกที่เขาหมกมุ่นอยู่กับเวทมนตร์อย่างจริงจังคือในหอคอยเวทมนตร์

ที่นั่นเขาได้พบกับชไวเซอร์แล้วก็ไอริส

หอคอยในตอนนั้นโทรมมากเมื่อเทียบกับตอนนี้และมันก็ยังเป็นที่ที่สนุก

การมีเพื่อนคอยเรียนเวทมนตร์ด้วยกันเป็นเรื่องที่ดี เขาหมกมุ่นจนไม่อยากจะเสียเวลานอนเลยด้วยซ้ำ

พวกเขาทั้งสามให้กำลังใจเชิงบวกซึ่งกันและกัน การแข่งขันเป็นเรืองที่ยอดเยี่ยมและทำให้พวกเขากลายเป็นพ่อมดที่เก่งที่สุดได้

รอยยิ้มเหยียดไปทั่วริมฝีปากของเฟรย์

ในทางหนึ่ง วันเวลาที่เขาอาศัยอยู่ในหอคอยเวทมนตร์นั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาเลย

ช่วงเวลาที่เขาสามารถรอวันพรุ่งนี้ได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องกังวล

เมื่อเขามองขึ้นไปบนหอคอยมันก็เต็มไปด้วยความคิดถึง จากนั้นเขาสังเกตเห็นกลุ่มคนที่เดินผ่านเขาไป

พวกเขาทั้งหมดสวมเสื้อคลุมสีน้ำตาล แต่ร่างกายที่แข็งแกร่งของพวกเขาทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ใช่พ่อมด

พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ด้วยซ้ำ

พวกเขาสะดุดตาเพราะผิวสีเข้มผมสีเงินตัดกับหูที่แหลม

‘เอลฟ์?’

พวกเขาเป็นดาร์กเอลฟ์ซึ่งกล่าวกันว่ามีกันอยู่น้อย

ดาร์กเอลฟ์อยู่ในเมืองมนุษย์?

นี่เป็นภาพที่คิดไม่ถึงหากเป็นเมือ 4,000 ปีก่อน

'ดูเหมือนกำแพงระหว่างกลุ่มเชื้อชาติได้ถูกทำลายลงแล้ว'

เมื่อเขาอยู่ในสถาบันการศึกษาเขาได้อ่านบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาได้เรียนรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเอลฟ์และคนแคระนั้นดีมากจนพวกเขาเดินทางไปมาระหว่างดินแดนของกันและกันได้อย่างต่อเนื่อง

‘และดูเหมือนว่าพวกเอลฟ์จะสามารถบรรลุความสามัคคีและความสมานฉันท์ได้สำเร็จ’

ดูเหมือนว่าปลายทางของเอลฟ์นั้นคือหอคอยเวทมนตร์เช่นกัน

เฟรย์จึงเดินตามหลังพวกเขาไปอย่างเป็นธรรมชาติ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด