ตอนที่แล้วตอนที่ 58 ไม่มี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSign in Buddha's palm 60

Sign in Buddha's palm 59 ลงชื่อมายี่สิบปี ผู้ไร้พ่ายบังเกิด!


Sign in Buddha's palm 59 ลงชื่อมายี่สิบปี ผู้ไร้พ่ายบังเกิด!

วัดเส้าหลิน

หน้าโถงศาลาการประชุมใหญ่

ดวงตาของซูฉินหลุบลง ค่อยๆ เดินไปหาจอมมารชุดดำ

ทุกสายตาในโถงใหญ่จับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว

“ศิษย์น้องเจินกวน เจ้ากำลังทำอะไร?”

เจินชื่อ พระลาดตระเวน ที่อยู่แถวนั้นรีบเดินมาอยู่ด้านข้างแล้วจับแขนของซูฉินเอาไว้ และเขาก็กระซิบออกมา “นี่มันหน้าสิ่วหน้าขวาน เจ้าจะมาสร้างปัญหาอะไรยามนี้กัน”

ในขณะที่เจินชื่อกล่าวคำ เขานั้นพยายามที่จะดึงซูฉินให้กลับมา

จากมุมของเจินชื่อ แม้ว่าวัดเส้าหลินจะต้องต่อสู้กับพรรคมาร แต่ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเรื่องของศิษย์ตำหนักยุทธสงฆ์ ตำหนักอรหันต์ อะไรพวกนี้มากกว่า มันจะไปเกี่ยวอะไรกับพระกวาดลานจากลานจิปาถะเช่นซูฉิน?

ควรทราบว่าศิษย์ส่วนใหญ่ในลานจิปาถะไม่เก่งเรื่องวิชายุทธ หากออกไปไม่ใช่แค่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อาจจะเพิ่มปัญหาขึ้นมาเสียอีก

อย่างไรก็ตาม

ไม่ว่าเจินชื่อจะพยายามหนักมากเพียงไร ซูฉินผู้'มิรู้วิชายุทธ' ในตอนนี้ก็เหมือนภูเขาสูงกว่าหมื่นคืบ นิ่ง ไม่ไหวติง

“ในเมื่อเขามาหาข้าเพื่อแก้แค้น ข้าก็จะออกไป”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน เขาค่อยๆ ผลักเจินชื่อออกไปแล้วเดินต่อ

“อะไรกัน?”

จิตใจของเจินชื่อว่างเปล่า เขาอึ้งไปเป็นเวลานาน

ในขณะที่ซูฉินเดินออกไปตลอดทาง ศิษย์วัดเส้าหลินก็เริ่มจำเขาได้ทีละคนสองคน

“เจินกวน?”

“นั่นเขากำลังทำอะไรอยู่?”

“หรือเขาต้องการจะขัดขวางจอมมาร?”

เหล่าศิษย์วัดเส้าหลินงงงวยมากเสียจนลืมหยุดยั้งซูฉินไปชั่วขณะ

ถ้าเป็นศิษย์จากลานอรหันต์ ตำหนักยุทธสงฆ์ หรืออัจฉริยะจากลานธรรมที่วิ่งออกมาขอสู้เป็นตายกับเหล่ามารร้าย เรื่องนี้ก็พอจะเข้าใจได้

แต่ซูฉิน...

เป็นเพียงพระกวาดลานสังกัดลานจิปาถะ จะไปคุกคามจอมมารได้เยี่ยงไร?

“เจินกวน เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”

หัวหน้าลานจิปาถะคนใหม่ขมวดคิ้วเป็นปมแน่น

ในสายตาของเขา ซูฉินเป็นศิษย์ที่ไม่มีความสามารถทางวิชายุทธมาโดยตลอด และถึงขนาดสละโอกาสที่จะเข้าสู่ลานโพธิ์อีกด้วย

บุคคลเช่นนี้ควรจะมีเหตุผล และไม่เลือกทำอะไรโง่ๆ

แต่ตอนนี้...

เมื่อเห็นเจินกวนเดินดุ่มๆ ตรงไปที่จอมมารชุดคลุมดำ หัวหน้าคนใหม่ของลานจิปาถะก็ถึงกับงุนงง

ในที่สุดหัวหน้าลานจิปาถะคนใหม่ก็ถอนหายใจออกมา เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นซูฉินตกตายลงด้วยน้ำมือของจอมมารที่กำลังโกรธจัด เขาจึงเดินไปด้านข้างซูฉิน

“เจินกวน ที่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า ทำไมยังไม่รีบถอยกลับไปอีก?!”

หัวหน้าคนใหม่แห่งลานจิปาถะส่งเสียงครางต่ำพยายามเตือนซูฉิน

สำหรับหัวหน้าลานจิปาถะคนใหม่ เขาคิดว่าแม้วัดเส้าหลินจะถูกทำลายลงไปจริงๆ ศิษย์อย่างซูฉินก็น่าจะเป็นคนสุดท้ายที่จะต้องตาย

“หัวหน้าลาน”

“เขากำลังมองหาข้าอยู่”

ซูฉินส่งยิ้มให้กับหัวหน้าลานคนใหม่แล้วกล่าวคำออกมาเบาๆ

“พูดจาไร้สาระอะไรกัน?”

หัวคิ้วของหัวหน้าลานจิปาถะคนใหม่ขมวดแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ “จอมมารกำลังตามหาบรรพบุรุษสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ชัดๆ แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า?”

หัวหน้าคนใหม่ของลานจิปาถะทั้งโกรธทั้งขำ เขาไม่คาดคิดว่าซูฉินจะคิดว่าคนที่จอมมารตามหาจะเป็นตัวเขาเอง?

สงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนามที่ช่วยวัดเส้าหลินจากเหตุวิกฤติไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง ความแข็งแกร่งของท่านน่ากลัวมาก และเป็นบรรพบุรุษที่มีชีวิตยาวนานมากว่าร้อยปี

แต่ซูฉินเล่า?

อยู่ในวัดมาแค่ยี่สิบปี จะไปเทียบกับบรรพบุรุษสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?

“เจินกวน”

“ข้ารู้ว่าเจ้ามีเจตนาดี แต่ความเป็นอยู่ของวัดเส้าหลินไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าหรอกนะ”

หัวหน้าลานคนใหม่หายใจเข้าลึก แล้วหายใจออกเบาๆ

ขณะนั้น

สายตาของจอมมารชุดดำก็จ้องมองมาที่ซูฉินเช่นกัน

“หืม?”

จอมมารชุดคลุมดำหรี่ตาลงเล็กน้อย แสงสีดำจางๆ สาดประกายออกมา

มันเป็นยอดปรมาจารย์ระดับจุดสูงสุดที่ผ่านการแปรสภาพถึงสองครั้งมานานแล้ว ความสามารถในการมองผู้คนของมันนั้นยอดเยี่ยมมาก

ดังนั้นจอมมารจึงสังเกตเห็นแต่แรกแล้วว่าซูฉินไม่มีความผันผวนของกำลังภายในเลย นับประสาอะไรกับจุดสูงสุดในระดับชั้นที่หนึ่ง แม้เทียบกับคนธรรมดาเกรงว่าจะยังอ่อนแอเสียยิ่งกว่า

และในครานี้

กลุ่มสาวกพรรคมารที่ยืนอยู่ด้านหลังจอมมารต่างระเบิดเสียงเราะกันออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

“เจ้าพวกลาหัวโล้นวัดเส้าหลินนี่รู้จักวิธีดีๆ ในการเสียสละศิษย์ขนาดนี้เชียวหรือ?”

“ลาหัวโล้นยังไงก็ยังเป็นลาหัวโล้น นี่พวกเจ้าคิดจริงๆ หรือว่าพวกเราจะถูกพวกเจ้าหลอกได้?”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า จะหาคนมาเซ่นสังเวยสักคน ก็ควรจะเป็นผู้ที่ฝึกยุทธมาเสียหน่อยไม่ใช่หรือไง แล้วส่งคนธรรมดามาเช่นนี้นี่มันหมายความว่ายังไงวะ?”

สาวกพรรคมารหัวเราะเยาะเย้ยจนแทบเป็นบ้า

ทันใดนั้น

มีศิษย์วัดเส้าหลินหลายคนตกอยู่ในความโกรธ หากมิใช่เพราะหัวหน้าตำหนักยับยั้งไว้ล่ะก็ พวกเขาจะพุ่งออกไปซัดหน้าพวกมันบัดเดี๋ยวนี้

ใบหน้าของจอมมารในชุดคลุมสีดำค่อยๆ เย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ

แน่นอนว่า

สาวกพรรคมารที่อยู่ด้านหลังของเขาพูดจาออกมาได้มีเหตุผลอยู่ไม่น้อย

ลาหัวโล้นตัวเล็กตัวน้อยที่ออกมานี่น่าจะเป็นคนที่ถูกส่งออกมาตายเพื่อวัดเส้าหลิน

จอมมารชุดคลุมดำเงยหน้าขึ้นมองไปรอบบริเวณวัดเส้าหลิน แล้วพูดขึ้นมาเบาๆ “ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการปรากฏตัว ข้าก็ไม่มีทางเลือก คงจะต้องมีการหลั่งเลือดเกิดขึ้นในวัดเส้าหลินของเจ้า!”

จอมมารในชุดคลุมสีดำหันมาสบตากับซูฉิน

เนื่องจากวัดเส้าหลินต้องการใช้เขาเพื่อตายแทน จอมมารชุดดำก็มิรังเกียจที่จะเริ่มลงมือกับอีกฝ่ายก่อนเป็นคนแรก

ฮึบ!!!

ไอพลังของจอมมารชุดดำเริ่มก่อตัวขึ้นมาเป็นปีกมาร แล้วแผ่กระจายออกเข้าครอบคลุมพื้นที่

เมื่อตอนที่เขากวาดล้างนิกายเทียนไถ่ เขาก็ใช้วิชานี้ในการกำจัดนักพรตเทียนเหลียนและรองผู้นำนิกายอีกสองคน รวมทั้งหมดเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งถึงสามคน

“ท่านเจ้าอาวาส ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไรดี?”

หัวหน้าตำหนักยุทธสงฆ์มองไปที่เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินด้วยความกังวล

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินไม่ตอบ เพียงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

“วัดเส้าหลินจะยืนหยัด ต่อสู้กับมารร้ายไปด้วยกัน!”

เมื่อมีคำพูดนี้ดังขึ้นมา

ศิษย์จำนวนมากมายจนนับไม่ถ้วนของวัดเส้าหลิน ไม่สนความเป็นตาย การแสดงออกเด็ดเดี่ยวห้าวหาญ

“เข้าต่อกรเหล่ามารร้ายไปด้วยกัน ปกป้องเส้าหลินของพวกเรา!”

“ต่อกรเหล่ามารร้ายไปด้วยกัน ปกป้องเส้าหลินของพวกเรา!”

“ต่อกรเหล่ามารร้ายไปด้วยกัน ปกป้องเส้าหลินของพวกเรา!”

เสียงนั้นกระหึ่มพุ่งขึ้นไปสู่ฟากฟ้า

“จะสร้างขวัญกำลังใจกันไปเพื่ออะไร? ในเมื่อยามที่เจอกับความห่างชั้นของระดับพลัง ของพวกนั้นก็ไม่มีความหมาย”

ประมุขพรรคมารในชุดคลุมสีดำเลิกสนใจและหันไปมองซูฉินอีกครั้ง

ในท่ามกลางหมู่ศิษย์วัดเส้าหลินที่มีทั้งโศกเศร้า บ้างก็ขุ่นเคือง ซูฉินผู้ยืนอยู่อย่างสงบนิ่งมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก

ซูฉินเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาของเขามีประกายแสงลึกซึ้งซ่อนอยู่ในส่วนลึกภายใน “ห้าปีก่อน ข้าไปเยือนฐานที่มั่นหลักของพรรคมารที่อยู่ในภูเขาหวู่หนาน”

คำที่กล่าวออกมา

ทำให้การแสดงออกของจอมมารชุดคลุมดำเปลี่ยนไปเล็กน้อย

สิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่ได้โกหก

ในขณะนั้นสาวกพรรคมารที่ยืนอยู่ด้านหลังของจอมมารชุดดำก็มีอาการในทันที

“ท่านจอมมาร”

“ใช่แล้ว นี่แหละเขาล่ะ!”

“เขาคือสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนาม!”

คุนคงรีบเดินไปที่ด้านหน้าของจอมมาร น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ

ตั้งแต่ที่ซูฉินเดินออกมา คุนคงก็จำได้และตกอยู่ในอาการตกใจ เขาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ยามนี้เมื่อเขาสงบใจลงได้ เขาจึงรีบแจ้งจอมมารอย่างรวดเร็ว

เมื่อคุนคงพูดมาเช่นนี้

ฝูงชนทั้งหมดต่างตกอยู่ในความเงียบ เงียบเพราะความประหลาดใจ

ไม่เพียงแต่สาวกพรรคมารเท่านั้นที่ไม่อยากจะเชื่อ แม้แต่ศิษย์ทั้งหลายของวัดเส้าหลินเองก็เบิกตากว้าง

พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าบรรพบุรุษสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เคยช่วยวัดเส้าหลินมาหลายต่อหลายครั้งจะกลับกลายเป็นเพียงพระที่แสนจะจืดชืดไม่โดนเด่นใดๆ แห่งลานจิปาถะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด