ตอนที่ 10:พี่เลี้ยงเด็ก
เมื่อเห็นว่าบิดาของตนเองยังคงหลับสนิท เด็กทารกน้อยจึงไม่กล้ารบกวนเขา
"จ๊อกกก!!!"
แต่ทันใดนั้นท้องของเธอเริ่มส่งเสียงร้องอีกครั้ง ดังนั้นมือเล็ก ๆ ของฮัวลี่ลี่จึงเอื้อมไปแตะที่ไหล่ของฮัวซุ่ยเฉิงสองครั้ง แต่เขายังไม่มีทีท่าว่าจะขยับแม้แต่น้อย
จากนั้นเธอลองเอามือน้อย ๆ ดันคางของฮัวซุ่ยเฉิง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น และลองบีบหูของฮัวซุ่ยเฉิงอีกครั้ง แต่ยังคงไม่มีการตอบสนองใด ๆ
. ขณะนี้ฮัวลี่ลี่กลืนน้ำลายด้วยความหิวโหยและเริ่มรู้สึกหิวมากขึ้น เธอจึงพยายามที่จะตีแขนของฮัวซุ่ยเฉิงอย่างรุนแรง
แต่หลังจากผ่านไปสิบนาทีก็ยังไม่มีเสียงตอบรับของบิดาแม้แต่น้อย
. พ่อจะนอนหลับสบายไปแล้ว?
ทำไมพ่อไม่ตื่น!
ตื่นเดี๋ยวนี้นะ!
ลุกขึ้นมาเลี้ยงหนูสิคะ!
. ฮัวลี่ลี่หิวมากจนเผลอตบหน้าบิดาของตนเองอย่างแรง
ป๊าบ!!!…
เมื่อเสียงคมชัดดังขึ้นภายในห้อง ในที่สุดคิ้วของฮัวซุ่ยเฉิงก็เริ่มขยับ ทำให้ฮัวลี่ลี่รู้สึกผิดและเป่าฝ่ามือที่บวมเป่งของตนเองอย่าแผ่วเบา แต่ดูเหมือนว่ามันได้ผล
ทันทีที่เธอเห็นว่าบิดาของตนกำลังจะลืมตา ทันใดนั้นเด็กทารกน้อยก็แกล้งหลับตาและกางแขนออกทันทีราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรเลย
. ต่อมาฮัวซุ่ยเฉิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นด้วยความงงงวยและจ้องมองดูบุตรสาวที่นอนอยู่ด้านข้างตนเอง
. “…เมื่อกี้อะไรตกใส่คิ้วเรา!”
“…”
และในตอนนี้อารมณ์ของฮัวลี่ลี่ก็ซับซ้อนเช่นกัน
พ่อหลับลึกจัง!
หนูยังเป็นแค่เด็กอายุสามเดือน พ่อไม่กลัวว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับหนูเหรอ?
ทำไมพ่อไม่มีความรับผิดชอบเลย?!
...อารมณ์เสียโว้ย!
ตอนนี้ดวงตาของฮัวซุ่ยเฉิงเบิกกว้างขึ้นและแอบสังเกตบุตรสาว แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็บังเอิญสบตากันพอดี ขณะที่เด็กทารกน้อยจ้องมองเข้าไปในดวงตาที่ซ่อนอยู่ในความมืดของฮัวซุ่ยเฉิง
อ่าวเห้ย!
เธอถูกจับได้ว่าแกล้งหลับ!
ศัตรูเจ้าเล่ห์เกินกว่าที่เธอจะหลอกเขาได้ด้วยการแกล้งนอนหลับตา!
หลังจากเด็กทารกน้อยถูกจับได้ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเสแสร้งอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้นและร้องจ้าทันที
อย่างไรก็ตามเธอยังเป็นเด็ก และตอนนี้รู้สึกหิวจึงร้องไห้ออกมาพร้อมกับทุบตีบิดาของตนโดยไม่ได้ตั้งใจ
พ่อเป็นอะไรมากหรือเปล่า? ต้องการให้หนูโมโหเหรอ?
ต่อมาฮัวลี่ลี่ร้องไห้ออกมาเสียงดังกว่าเดิมด้วยความสิ้นหวัง ฮัวซุ่ยเฉิงจึงรีบยัดจุกนมหลอกใส่เข้าปากเล็ก ๆ ของบุตรสาวซึ่งมันทำให้เด็กทารกน้อยที่ร้องไห้อยู่หยุดลงเมื่อฮัวลี่ลี่ดูดจุกนมของเธอได้สักพัก
พ่อใครวะ? ทำไมใจร้ายจัง?
หลังจากที่ฮัวซุ่ยเฉิงจัดการกับบุตรสาวของตนแล้ว เขามองดูเวลา ทำให้ทราบว่าขณะนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าแล้ว
ฮัวซุ่ยเฉิงจึงขยี้เปลือกตาที่เหนื่อยล้า ขณะที่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้จะร้องไห้ก็ต่อเมื่อเธอหิวและไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปแล้ว
เขาลุกจากเตียงนอนเพื่อเดินไปยังโต๊ะที่มีอุปกรณ์ของเด็กทารก จากนั้นเขากรอกนมผงพร้อมกับน้ำต้มสุกใส่ขวดแล้วเขย่าก่อนที่จะนำมาใส่ปากเด็กทารกน้อย
และทันทีที่ฮัวลี่ลี่ได้ดูดนมขวดไปสักพัก เธอรู้สึกได้ว่าอาการหิวนั้นได้บรรเทาลงไปในพริบตา
“พอใจหรือยัง?”
ฮัวซุ่ยเฉิงเอ่ยถามบุตรสาวของเขาขณะที่ฮัวลี่ลี่ยังคงดูดขวดนมของเธอและไม่ได้ส่งเสียงร้องอะไร
และใบหน้าของฮัวซุ่ยเฉิงซ่อนอยู่ภายใต้เงาของแสงสลัวขณะที่เขากล่าวว่า
“บางครั้งฉันก็สงสัยนะว่าเธอเป็นเด็กทารกจริงหรือเปล่า? แต่ไม่เป็นไร! เรื่องแค่นี้มันไม่ได้น่ารำคาญอะไรสำหรับฉัน”
ตราบใดที่ฮัวลี่ลี่ไม่ได้เล่าอะไรย่อมไม่มีใครรู้ว่าเธอคือวิญญาณของหญิงสาวอายุสิบแปดปีที่เข้ามาอยู่ในร่างของเด็กทารกน้อย อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครล่วงรู้ความลับนี้ได้
แต่เมื่อลองนึกทบทวนดูแล้ว บิดาของเธอก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เนื่องจากตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเขาไม่ได้ทำอะไรให้เธอรู้สึกแย่เลย แถมเขายังคงเอาใจใส่เธออย่างสุดความสามารถเท่าที่บิดาคนหนึ่งพึงกระทำให้กับบุตรของตนเอง
หรือสุภาษิตที่กล่าวเอาไว้ว่า แม้แต่เสือที่โหดร้ายยังไม่ยอมกินลูกของมันเองจะเป็นความจริง?
หลังจากดูดดื่มนมจนอิ่มเอมใจแล้ว ฮัวลี่ลี่ก็หาวด้วยความเหนื่อยล้าและค่อย ๆ หลับตาลงจนเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด
เมื่อฮัวซุ่ยเฉิงเห็นบุตรสาวนอนหลับแล้วเขาจึงปิดไฟสองดวงที่อยู่ด้านบนหัวเตียงและหลับตาลงเพื่อพักผ่อน
ต่อมาฮัวลี่ลี่นอนหลับจนถึงตอนสาย จากนั้นเธอได้ยินเสียงดังมากจนทำให้สะดุ้งตื่นจนต้องค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ทำให้มองเห็นแสงไฟสีขาวอยู่บนเพดานเหนือศีรษะของเธอ
จากนั้นมีมือคู่หนึ่งยื่นมาอุ้มทารกน้อยขึ้นมาจากเตียง และพบว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะอายุประมาณสี่สิบปี และเธอทักทายเด็กทารกน้อยด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ตื่นแล้วเหรอ? หิวไหมคะ?”
จากนั้นผู้หญิงคนนี้ร้องตะโกนว่า “เสี่ยวเสี่ยวเอานมอุ่นมาให้หน่อยสิ”
เมื่อเสียงนี้สิ้นสุดลงต่อมาไม่นานขวดนมก็ถูกยัดเข้าไปในปากเล็ก ๆ ของฮัวลี่ลี่ ทำให้เด็กน้อยไม่มีเวลาคิดที่จะคิดเรื่องอื่นนอกจากการดูดนม
ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีอะไรให้คิดอยู่แล้ว เนื่องจากทารกน้อยรู้ว่าสองคนข้างหน้าควรจะถูกสั่งให้มาดูแลเธอเป็นพิเศษหลังจากที่เกิดเหตุการณ์เมื่อคืน และเธอไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมีความอดทนเพียงพอที่จะดูแลทารกน้อยด้วยตนเอง
“ป้าจ้าว! เด็กคนนี้น่ารักมากเลย”
“ใช่! นี่เป็นครั้งแรกของฉันที่ได้ดูแลเด็กทารกที่น่ารักแบบนี้ ดูสิ! ตื่นขึ้นมาเเล้วไม่ร้องไห้งอแงเลยสักนิด”
“ป้าจ้าว ป้าคิดว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของคุณฮัวจริง ๆ หรือป่าว?”
ป้าจ้าวตกตะลึงทันทีพร้อมกับมองไปที่อีกฝ่าย
ขณะที่เด็กทารกน้อยที่มีความอยากรู้อยากเห็นรีบเงี่ยหูฟังในทันที ซึ่งดูเหมือนว่าเธออยากรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนและนี่ไม่ใช่นิสัยที่ดีเลย
“เสี่ยวเสี่ยว เราได้รับคำสั่งจากคุณฮัวให้มาดูแลเด็กคนนี้ แล้วเธอจะให้ฉันจะไปสอดรู้สอดเห็นกับเรื่องส่วนตัวของเขาทำไม?”
เสี่ยวเสี่ยวค่อนข้างละอายใจและรีบยิ้มอย่างรวดเร็ว “ฉันเข้าใจเเล้ว ยังไงป้าจ้าวก็พูดถูก ฉันจะไม่ถามเรื่องนี้อีกก็ละกัน”
*******