Ep.797 - สถานะของผู้ใช้พลังสั่นคลอน
1/5
Ep.797 - สถานะของผู้ใช้พลังสั่นคลอน
“รีบช่วยกันเร็วเข้า แล้วนั่นพวกคุณกำลังทำอะไร? ตอนนี้ยังมีเวลาให้ทะเลาะกันอีกหรือ?” ฉินเฟิงตำหนิ
เป็นเพราะความอาจหาญและความสามารถที่ฉินเฟิงแสดงให้ทุกคนได้เห็น ทำให้แม้คนธรรมดาจะรู้แล้วว่าผู้ใช้พลังได้สูญเสียความรุ่งโรจน์ที่เคยครอบครอง แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าดูถูกฉินเฟิง
บวกกับสถานะทางสังคมที่มีมายาวนาน ในช่วงระยะเวลาสั้นๆอย่างหนึ่งหรือสองวัน ย่อมไม่อาจถูกทำลายลงได้ คนเหล่านี้เชื่อฟังคำพูดของฉินเฟิง แต่ละคนเริ่มเคลื่อนไหว บ้างยกเชื้อเพลิง บ้างคอยจุดไฟ
ไม่นาน เบื้องล่างนอกประตูเมืองทิศเหนือก็ลุกเป็นไฟ เชื้อเพลิงถูกเติมเต็มลงไปอย่างต่อเนื่อง เริ่มขยายเป็นวงกว้าง งูพิษพวกนี้ไม่แข็งแกร่งมากนัก มีเพียงพิษจากเขี้ยวเท่านั้นที่ทรงพลัง อีกอย่าง สิ่งมีชีวิตประเภทนี้มักกลัวไฟ เมื่อเปลวเพลิงลุกโหม พวกมันก็ล่าถอยอย่างเร่งรีบ ไม่กล้าเลื้อยขึ้นมาอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงที่อยู่อีกฝั่งของทะเลเพลิง มองเข้าไปในป่าอันลึกลับจากระยะไกล และเกิดความรู้สึกตลอดเวลา ว่าภัยพิบัติร้ายแรงยิ่งกว่า กำลังเฝ้ารอพวกเขาอยู่
อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นเรื่อยๆ ผู้อพยพบางคนมีอายุมากแล้ว ไหนจะเด็กๆที่ยังไม่ได้รับการปลุกพลัง พวกเขาเริ่มทนไม่ไหว
“ล่าถอย!” ฉินเฟิงสั่งการ ละทิ้งกำแพงเมือง ฝูงชนทยอยหนีกลับไปเบื้องหลัง มองจากมุมสูงราวกับกระแสคลื่นน้ำ
เนื่องจากเหตุการณ์นี้สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ชาวเมืองเลยตามเข้ามาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ บนถนนเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน ดังนั้นเวลาล่าถอย เลยยิ่งสับสนวุ่นวาย
ในทางตรงกันข้าม ในตอนนี้ไม่สามารถใช้อบิลิตี้และวรยุทธโบราณได้ ส่งผลให้ผู้ใช้พลัง กระทั่งควบคุมฝูงชนไม่ให้เสียงดังยังทำไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ยังวุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ
“รองเจ้าเมืองกวน ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี พวกเราต้องไปที่ไหน?”
“นั่นสิ ช่องว่างมิติบนฟ้า … จะยังเปิดขึ้นอีกไหม พวกเราจะออกไปได้เมื่อไหร่?”
“รัฐมนตรีหลี่ ฉันได้ยินจากคนอื่นๆมาว่าไม่สามารถใช้พลังได้อีกแล้ว ถ้างั้นแล้วกองทัพล่ะ? เมื่อไหร่กองทัพจะมาช่วยพวกเราซักที!”
ในฝูงชน แต่ละคนเอ่ยถามคำถามตรงประเด็น
“ใครบอกคุณว่าไม่สามารถใช้พลังได้อีกแล้ว?” หลี่หยวนซานชะงักงัน มองไปยังชายคนนั้นอย่างเดือดดาล
ร่างของชายคนนั้นสั่นสะท้าน ก่อนเหลือบมองไปยังผู้ใช้พลังที่อยู่รอบๆตัวเขา และพบว่ามีหลายคนหลบสายตา การกระทำนี้ช่วยยืนยันความคิดได้เป็นอย่างดี กล้าเอ่ยเสียงดังสวนกลับไป “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกหรือ? งั้นในเมื่อคุณปรากฏตัวแล้วทำไมไม่สู้? ผู้ใช้พลังคนอื่นๆก็เหมือนกัน ไม่เห็นมีใครใช้วรยุทธโบราณหรืออบิลิตี้เลย จริงๆแล้วไม่ใช่ไม่ทำ แต่พวกคุณทำไม่ได้ต่างหากใช่ไหม!”
ชาวเมืองคนนั้นระบายความในใจออกมา เป็นธรรมดาที่เขาจะเกิดความกังวล
ถ้าผู้ใช้พลังไม่สามารถปลดปล่อยพลังได้ งั้นก็จะไม่มีใครสามารถปกป้องพวกเขาได้อีก แถมคนพวกนี้ยังผลักภาระตอนเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายให้กับพวกเขาอีก นั่นยิ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสตาย
ขณะเดียวกัน ในมุมมองของผู้ใช้พลัง เห็นได้ชัดว่าชีวิตของพวกเขามีค่ามาก หากสามารถรอดชีวิตออกไปได้ พวกเขาสามารถทำอะไรได้อิสระตามต้องการ ตอนนี้สถานการณ์ของเมืองยังไม่ชัดเจน แต่ที่ชัดเจนก็คือ ยังมีผู้ใช้พลังรอดชีวิตอยู่อีกมาก อย่างน้อยก็มีหลี่หยวนซานกับกวนฉาน หากออกไปได้ ด้วยฐานะระดับสูงในพันธมิตรมนุษย์ ย่อมมีคนให้ความช่วยเหลือพวกเขา
เดิมทีหากไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แปลกๆเช่นนี้ การติดตามทั้งสองคนถือเป็นตัวเลือกที่ดี ทว่าในตอนนี้ชาวเมืองไม่อยากถูกทั้งสองคนส่งไปตาย และในเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นแค่คนอ่อนแอแล้ว ฝั่งชาวเมืองที่มีจำนวนมากกว่า ย่อมไม่ต้องหวาดกลัวและเกรงใจพวกเขาอีกต่อไป!
หลี่หยวนซานมองไปยังคนธรรมดาพวกนี้ หัวใจเต้นแรง เกิดความรู้สึกแย่
สายตาไว้วางใจแบบนี้ เกรงว่ามันจะทำให้สถานะของเขาสั่นคลอน
หลี่หยวนซานคิดเอ่ยปากปฏิเสธ แต่ในเวลานั้นเอง อีกเสียงหนึ่งได้ดังแทรกเข้ามาในหูของฝูงชน
“ที่พวกคุณก็ไม่ถูกซะทีเดียว แต่เรื่องที่ว่าผู้ใช้พลังไม่สามารถปลดปล่อยพลังได้ในตอนนี้เป็นเรื่องจริง!”
“นายพลฉิน เอ่อ …” กวนฉานรีบขยิบตาเตือนฉินเฟิง แต่อีกฝ่ายไม่สนใจ กล่าวต่อว่า “ฉะนั้น พวกคุณอย่าหวังว่าจะให้คนอื่นคอยปกป้อง ถ้าอยากรอดชีวิต ก็จงปลุกจิตแห่งการต่อสู้ให้ลุกโชน เรียกความเชื่อมั่นว่าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป พวกเราสามารถช่วยพวกคุณได้ แต่ไม่มากเกินความจำเป็น ดังนั้นอย่าคิดหวังพึ่งพาใคร!”
ฉินเฟิงตะโกน ในประโยคนี้ส่วนใหญ่พยายามสร้างแรงดลใจให้ฝูงชน บอกว่าพวกเขาเองก็สามารถทำอะไรด้วยตัวเองได้นะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในปัจจุบัน ผู้ใช้พลังไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้อีกต่อไป เอาจริงๆผู้ใช้พลังบางคน ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ด้วยซ้ำ
ยังไงก็ตาม เมื่อคำพูดนี้ถูกประกาศออกไป คนที่มีจิตใจเข้มแข็ง ต่างก็รับทราบ เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น แต่คนที่อ่อนแอ กลับหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม สิ้นหวังมากขึ้น
และสำหรับคนที่สิ้นหวัง ต่อให้คนทั้งโลกเอ่ยปากยืนกราน พวกเขาก็ไม่เห็นด้วย ทั้งยังบังเกิดความแค้น ความไม่พอใจในจุดนี้
“ถ้าแบบนั้นเงื่อนไขที่พวกเขาเคยเสนอก่อนหน้านี้ อย่างให้พวกเราจ่ายภาษีที่มากขึ้นล่ะ จะให้ทำเป็นลืมมันไปหรือ? พอถึงช่วงเวลาวิกฤต พวกเขาไม่มีประโยชน์แม้แต่ผายลมด้วยซ้ำ ให้พวกเราสู้เอาตัวรอดเอง แล้วจะมีพวกผู้ใช้พลังไว้ทำไม อ๊า!”
หลังชายคนนั้นพูดจบ หลายคนก็รู้สึกว่าเห็นด้วย พวกเขาคาดหวังให้มีคนปกป้องตน
ฉินเฟิงแสยะยิ้มเย็น กล่าวว่า “พวกคุณอาศัยอยู่ในฉงโหลวเป็นเวลานาน ก่อนหน้านี้เป็นใครที่คอยปกป้องพวกคุณ? ใครกันเป็นคนมอบที่พักอาศัยในเมืองให้พวกคุณ? ไม่ต้องไปถูกสัตว์ร้ายจับกินนอกกำแพงเมือง”
“พวกเขาปกป้องพวกคุณมาตลอด 30 - 40 ปี แค่นั้นยังไม่พออีกหรือ? แล้วนี่อะไร แค่ปกป้องไม่ได้ครั้งเดียว พวกคุณก็บ่นแล้ว”
“ถ้าพวกคุณมีความสามารถ ก็แค่จับอาวุธในมือ แล้วออกไปสู้ และล่าสังหารมาให้ได้ซะ! ต้องรู้นะว่า นี่อาจเป็นโอกาสเดียวของพวกคุณ!”
ฉินเฟิงสามารถคาดเดาบางอย่างได้ในใจของเขา
ก่อนหน้านี้เขาสามารถโค่นพืชกลายพันธุ์ เลยทำให้ได้รับพลังพิเศษบางอย่างมา ตอนนี้ร่างกายของเขาไม่เกิดความรู้สึกว่าถูกยับยั้งอีกต่อไป ราวกับว่าเขาปรับตัวให้เข้ากับกฏเกณฑ์ของมิตินี้ได้แล้ว
ฉะนั้น นี่มิได้หมายความว่า คนธรรมดาพวกนี้ก็สามารถทำได้เช่นกันหรือ?
จะเป็นอย่างไรหากชาวเมืองเหล่านี้ สามารถได้รับพลังงานที่นี่ได้ นั่นไม่หมายความว่า หลังจากพวกเขาออกไป พวกเขาจะกลายเป็นผู้ใช้พลังหรอกหรือ?
การค้นพบนี้ แทบจะเป็นการพลิกตลบโลกทั้งใบ! แม้ฉินเฟิงยังไม่มั่นใจก็เถอะ
กระนั้น เขาก็หวังเช่นกัน ว่านี่จะเป็นโอกาสใหม่ของมนุษยชาติ!
พอฉินเฟิงพูดจบ ผู้คนก็ราวกับถูกชำระล้างจิตใจ ไม่มีใครคิดถกเถียงเรื่องประเด็นนี้อีก สีหน้าของเหล่าผู้ใช้พลัง ค่อยผ่อนคลายมากขึ้น ทุกคนรู้สึกว่าฉินเฟิงกำลังพูดให้พวกเขา
ฉินเฟิงเดินไปหาหลี่หยวนซานและเอ่ยถาม “กระดาษก่อนหน้านี้เขียนว่าอะไรบ้าง?”
หลี่หยวนซานไม่สามารถปกปิดมันได้ในตอนนี้ มอบกระดาษแก่ฉินเฟิง
ฉินเฟิงกวาดตาอ่าน และเข้าใจว่านี่น่าจะเป็นวิธีที่ไป๋หลีใช้ปกป้องเขา
“ตอนนี้ ขอให้ทุกคนมุ่งหน้าไปยังใจกลางเมืองพร้อมกัน พรุ่งนี้ช่องว่างมิติจะเปิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อพาพวกคุณทั้งหมดออกไป”
เวลานี้ เหล่าคนธรรมดา บังเกิดความโล่งอกในที่สุด
ตราบใดที่พวกเขาออกจากที่นี่ ไม่ติดแหง่กอยู่ในเมืองบ้าๆนี่ แค่นั้นก็พอแล้ว!
“รัฐมนตรีหลี่ ท่านรองเจ้าเมืองกวน ขอฝากคนพวกนี้ไว้กับคุณ ส่วนผมมีภารกิจพิเศษต้องทำ ไว้ภายหลังจะกลับมารวมตัว”
“นั่นคุณคิดจะไปไหน?” แม้หลี่หยวนซานจะไม่รู้สึกดีกับฉินเฟิง แต่ตอนนี้ เขาไม่อยากให้ฉินเฟิงแยกตัวออกไปจริงๆ
ปัจจุบันความแข็งแกร่งของพวกเขาถูกสะกดเอาไว้ หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นคงแย่ อย่าลืมสิว่าพวกเขาเชื่อมั่นว่าชีวิตของตัวเองมีค่ามาก
“เป็นภารกิจพิเศษจากตัวตนทรงอำนาจเลเวล S ผมต้องไปจัดการให้เสร็จสิ้น”
ว่าจบ ฉินเฟิงก็หยิบตราของ Z ออกมา เดิมฉินเฟิงเชืื่อว่าแซดเป็นคนขององค์กรมืด แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนๆนี้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธมิตรมนุษย์
“อาาา!”
“อึก … เป็นตัวตนทรงอำนาจเลเวล S จริงๆ”
ทั้งสองตื่นตะลึง เวลานี้ไม่มีใครกล้าหยุดฉินเฟิง