มังกร1000ปี : ตอนที่14 สี่ตระกูลใหญ่และห้าตระกูลเล็ก
ตอนที่14 สี่ตระกูลใหญ่และห้าตระกูลเล็ก
“เฮ้ เพื่อน เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาหลายปี ไม่รู้มาก่อนเลยนะว่านายนี่มันเป็นคนรวย! ถึงขั้นขับ Audi A4” เมื่อเขาเข้าไปในรถ หลิงฉวนก็ยิ้มและพูดทักทาย
หยางเจิ้นเงียบสักพัก “คุณเพื่อน ผมเพิ่งพาคุณเพื่อนไปกินอาหารเย็นเมื่อวานนี้เอง ใช่ไหม? ไม่ใช่ว่านายเพิ่งจะสังเกตุใช่ไหม!”
“อ้าวๆ เป็นแบบนี้เองงั้นเหรอ! เมื่อวานผมไม่ได้สนใจเองแหล่ะ ผมเพิ่งเห็นเมื่อกี้ ดูเหมือนว่าฐานะทางบ้านของนายจะดีมากเลยนะเนี่ย!” หลิงฉวนยิ้มอย่างเชื่องช้า
ในความเป็นจริงหยางเจิ้นคบกับหลิงฉวนเพราะนิสัยแบบนี้ของหลิงฉวนนี่แหล่ะ หลิงฉวนเป็นคนที่ไม่จงใจที่จะคบใครหรืออวยใครเพราะผลประโยชน์
ในอดีต เมื่อใดก็ตามที่หยางเจิ้นไปไหนมาไหน พอคนอื่น รู้ว่าเขาคือคนจากตระกูลหยาง ก็จะมีแต่คนเข้ามาตีสนิทกับหยางเจิ้นด้วยความคิดสารพัดหวังผลประโยชน์เต็มไปหมด คนแบบนี้ที่หยางเจิ้นเกลียดที่สุด
จนกระทั่งเขาได้พบกับหลิงฉวน .... แต่ว่านะหลิงเฉินมันก็เกินไปไหม? เป็นเพื่อนที่ดีมาสามสี่ปีแล้วก็ยังไม่ใส่ใจกัน แถมยังชอบนินทาเรื่องราวหยางเจิ้นไปทั่ว
“เอิ่ม! เอาล่ะผมจะแนะนำตัวเองอย่างจริงจังสักหน่อย! ผมมาจากตระกูลหยาง ตอนนี้รู้แล้วหรือยัง?”
“อ๋อๆ แบบนี้นี่เอง!” แต่หลิงฉวนก็ยืดน้ำเสียงของเขาเพื่อล้อเลียน “แต่แล้วมันยังไง? ตระกูลหยางคืออะไรแล้วตระกูลหยางพิเศษตรงไหน? ผมจำได้ว่าหมู่บ้านของผมก็มี” หลิงฉวนยิ้มและถามอย่างกวนโอ้ย
ครั้งนี่หลิงฉวนทำให้หยางเจิ้นตกตะลึงจริงๆ “ตระกูลหยางไง ไม่รู้จักเหรอ? มันคือตระกูลใหญ่ของจีนเชียวนะ!”
หยางเจิ้นคิดในใจ ‘หลิงฉวนไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่? เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? เขาต้องไม่สนโลกขนาดไหน?’
หลังจากนั้นหยางเจิ้นก็พูดต่อ “ไม่รู้จักตระกูลหยางเหรอ สี่ตระกูลใหญ่ห้าตระกูลเล็กหล่ะรู้จักไหม? ตระกูลทั้งเก้านี้ถือสิทธิและความมั่งคั่งของจีนมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เลยนะ!”
หลิงฉวนตกใจ “อะไรนะ? เก้าสิบเปอร์เซ็นต์? แบบนี้มันเจ๋งเกินไปแล้ว!”
“เป็นไงหล่ะๆ ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม!”
หลิงฉวนหันไปยิ้มให้หยางเจิ้นด้วยใบหน้าที่ดูใสซื่อ
หยางเจิ้นตีความได้ทันทีว่า ไอหมอนี่มันไม่เข้าใจหรอก หยางเจิ้นจึงอธิบายให้ฟัง “ผมไม่ได้เป็นสายตรงของตระกูลหยางจริงๆ แต่ก็มีฐานะขนาดนี้แล้ว... เป็นไงเจ๋งไหมตระกูลหยาง”
หลิงฉวนได้ยินแบบนั้นก็ทำใบหน้าตกตะลึง
หยางเจิ้นมองหน้าหลิงฉวนที่แสดงความตกตะลึงแบบนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกได้ใจ เลยพูดต่อไป “เฮ้ยๆ นอกจากตระกูลหยางแล้วอีกแปดตระกูลเลยนะ”
หลิงฉวนทำหน้างงและถามต่อ “แล้วในตระกูลทั้งเก้านี้เป็นยังไง คืออะไรงั้นหรอ? บอกผมหน่อย เผื่ออนาคตผมเจอกับตระกูลเหล่านี้ ผมจะได้เดินหลีกทางให้พวกเขา!”
“ฮ่าฮ่า หลิงฉวนนายนี่ติดตลกเหมือนกันนะ.. เอาล่ะฟังให้ดี.. ตระกูลใหญ่ทั้งสี่คือตระกูลหลง ตระกูลเหลย ตระกูลจูเก่อ และตระกูลหยู ส่วนห้าตระกูลเล็กนอกจากตระกูลหยางของเราแล้วยังมีตระกูลซิง ตระกูลทัง ตระกูลหู และตระกูลจาง .. ในความเป็นจริงตระกูลเล็กทั้งห้าของเราก็คล้ายกัน ดังนั้นอย่ากังวลมากเกินไปตราบใดที่พวกเขาไม่ใช่ลูกหลานโดยตรง คนอื่นๆก็คล้ายกับผม อย่างไรก็ตาม สี่ตระกูลหลักแตกต่างจากเรา พวกเขาอยู่เหนือตระกูลเล็กทั้งห้าโดยสิ้นเชิง มีเพียงไม่กี่คนในตระกูลของพวกเขาที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับโลก แต่ตราบใดที่หนึ่งในนั้นออกมา พวกเขาก็แข็งแกร่งกว่าลูกหลานสายตรงของผมมาก ถ้าวันหลังเจอคนพวกนี้ ต้องเดินหลีกไปให้ห่างๆเลยนะ และอย่าไปสร้างความขุ่นเคืองเด็ดขาด เข้าใจไหม?” หยางเจิ้นก็รู้ว่าหลิงฉวนแค่ล้อเล่น แต่สุดท้ายเขาก็บอกหลิงฉวนอย่างจริงจัง
“เอิ่ม! ก็ได้? แล้วเก้าตระกูลเหมือนกันแต่ทำไมสี่ตระกูลใหญ่นั้นถึงได้เหนือกว่าห้าตระกูลเล็กขนาดนั้น”
“เพราะทั้งสี่ตระกูลนั้น ถูกก่อตั้งโดยคนสี่คนผู้กอบกู้ในเรื่องเล่าไง เมื่อวานอาจารย์ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้นิ? สิบหกคนกลับมาจากเมืองมังกรโดยสี่คนเป็นชาวจีน และสี่คนนี้ก่อตั้งตระกูลใหญ่ทั้งสี่ตระกูล ส่วนอีกห้าตระกูลเล็กๆ ที่เหลือรอดก็อยู่ระหว่างซอกมุมของสี่ตระกูล ถึงอย่างนั้นก็ยังนับว่าเป็นมหาอำนาจ”
“ผมแค่บอกว่าตระกูลทั้งเก้าควบคุม 90% ของประเทศจีน อันที่จริงสิทธิและความมั่งคั่งส่วนใหญ่ดำเนินการโดยตระกูลเล็กทั้งห้า ส่วนตระกูลใหญ่ทั้งสี่เน้นทำการผลิตปรมาจารย์หลิงซือ ตราบเท่าที่หนึ่งในตระกูลใหญ่ต้องการสิทธิหรือความมั่งคั่งจากตระกูลเล็ก พวกเขาสามารถทำลายได้ในเวลาอันสั้น” หลังจากที่หยางเจิ้นพูดจบเขาก็สังเกตเห็นว่า หลิงฉวนที่นั่งอยู่ข้างๆไม่ทำการตอบสนองมานานแล้ว
จึงหันศีรษะไปดูและพบว่าหลิงฉวนได้เปิดหน้าต่างและนอนพิงอยู่ที่หน้าต่างโดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ทันใดนั้นหลิงฉวนก็หันหน้ามาหาหยางเจิ้นอย่างรวดเร็ว “เฮ้ย! มีคนอยู่ข้างหน้า เหยียบเบรกสิ้! มองที่ถนนสิมองที่ผมทำไม?”
หยางเจิ้นได้ยินแบบนั้นเหยียบเบรกกระทันหัน โดยที่ตัวเองยังไม่ได้มองถนนเลยด้วยซ้ำ
พอหยางเจิ้นหันหน้ากลับไปมอง เขาก็เห็นหญิงสาวอยู่ข้างหน้ารถห่างออกไปไม่ถึงสองเมตร
แม้ว่าความเร็วรถในขณะนี้จะไม่เร็วมาก แต่ด้วยระยะแค่นี้นี้รถเบรคไม่ทันแน่!
“เฮ้ย นายจะทำอะไรหน่ะ?” หยางเจิ้นได้ยินเสียงเปิดประตูรถจากที่นั่งด้านข้าง และเห็นว่าหลิงฉวนเปิดประตูรถออกไปและกระโดดลงอย่างรวดเร็ว
“ผมจะไปช่วยเธอ” หลิงฉวนสัมผัสพลังหลิงเว่ยและโอนหลิงเว่ยไปที่ขา เพื่อวิ่งเข้าหาหญิงสาวอย่า
เร็วเหมือนจรวด และผลักหญิงสาวออกไป
*** หากถูกใจอย่าลืมกดติดตามไว้นะครับ เพื่อที่จะไม่พลาดตอนใหม่ๆ ***