ตอนที่แล้วตอนที่ 24: เนื้อสัตว์ปราณ - กระต่ายหิมะ (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26: ปีกไก่จี๊ดจ๊าด (2)

ตอนที่ 25: ปีกไก่จี๊ดจ๊าด (ส่วนที่1)


*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

--------------------------------------------------------------------------------------------

ชิยูเมินพวกปากร้ายนั่นแล้วนำหนังสือออกไป.

 

พอช่วงบ่ายมาถึงก็มีแค่เธอ,เสี่ยวฉีแล้วก็เล่าเอ๋อที่กำลังกินข้าวกัน. มื้อเที่ยงบ่ายนั้นก็ธรรมดาๆ, ข้าวผัดเนื้อสับ, อาหารผัดเป็นของเคียงแล้วก็น้ำซุปหนึ่งถ้วย. แม้สองคนนี้จะยังเด็กอยู่ แต่ปริมาณที่พวกเขากินนั้นไม่ใช่น้อยๆเลย. เสี่ยวฉีคนเดียวก็กินข้าวไปตั้ง3จานแล้ว เล่าเอ๋อมากกว่านั้นอีก.

 

ข้าวผัดนั้นใช้เนื้อของสัตว์ปราณมาทำ. เนื้อนั้นต้องสับให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยเอาไปผัดด้วยไฟธาตุจนมันกรอบและหอม จากนั้นก็เอาไปผัดกับข้าวที่เหลือจากเมื่อวานแล้วก็ปรุงรสด้วยเกลือ. มันที่ไหลออกมาจากเนื้อนั้นเคลือบเมล็ดข้าวทุกเมล็ดจนมันดูแวววับ. แค่ดมกลิ่นมันก็พุ่งผ่านจมูกขึ้นไปถึงแกนสมองเลย.

 

เสี่ยวฉีกับเล่าเอ๋อนั้นตั้งใจกินมากๆ พอชิยูเห็นว่าพวกเขากินพอแล้วจึงเทน้ำใส่แก้วให้.

 

“พวกเธอทั้งคู่อย่าเพิ่งไปนะ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” ชิยูกล่าว.

 

พอเด็กทั้งสองคนหันมารอฟัง ชิยูจึงค่อยๆหาทางพูด “ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว พี่ว่าพี่จะออกจากที่นี่ไปน่ะ”

 

“พี่จะออกไปไหนครับ?” เล่าเอ๋อถามด้วยน้ำเสียงสลด.

 

ตลอดเวลาที่เขาฝึกฝนวิชามา เขาเริ่มจะโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและใจเย็นขึ้นมากๆ.

 

“พี่จะออกไปท่องโลกน่ะ. พี่อยากเห็นพระราชวังหลวงแล้วก็ที่อื่นๆนอกเมืองด้วย. พี่ไม่อยากอยู่ที่เมืองนี้ไปตลอด” ชิยูบอกแผนของเธอไปหมดแล้ว “ตอนนี้ร้านเราก็ขายดีไม่มีปัญหาด้วย ต่อให้ไม่มีพี่ร้านก็ไม่เป็นอะไรหรอก”

 

ตั้งแต่แรกนั้นเธอเป็นคนให้คนอื่นจัดการดูแลร้านอาหารอยู่แล้ว. สิ่งเดียวที่เธอมีหน้าที่ทำก็คือทำอาหารจานพิเศษ. เธอได้สอนสูตรลับอาหารจานพิเศษให้พวกพ่อครัวคนอื่นๆด้วยเหมือนกัน ต่อให้ไม่มีเธอร้านก็ยังขายดีอยู่เหมือนเดิม. นอกจากนั้นเธอก็ได้สอนสูตรลับให้เสี่ยววูไปตั้งเยอะแล้วด้วย ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของเสี่ยววูที่จะพัฒนาพวกมันด้วยตัวเอง.

 

สูตรลับพวกนั้นเอาไว้เผื่อในอนาคตเวลาที่ร้านเจอปัญหาจะได้นำมันออกมาช่วยได้ทันเวลา.

 

“พี่สาวจะทิ้งพวกเราไปเหรอคะ?” พอเสี่ยวฉีเข้าใจแล้ว ตาของเธอก็เริ่มแดงขึ้น“แต่หนูไม่อยากให้พี่ไป พี่ไม่ไปได้มั้ยคะ?” เธอเข้ามากอดชิยูอย่างแน่นที่เอว.

 

ส่วนเล่าเอ๋อนั้น “โลกภายนอกมันอันตรายมากนะครับ พี่เป็นแค่ผู้หญิงบอบบางตัวเล็กๆ. มันอันตรายเกินไป ผมไม่อยากให้พี่ไป”

 

ชิยูก็คิดไว้แล้วล่ะว่ามันจะเป็นแบบนี้. เธอยื่นมือออกไปแล้วเรียกไฟสีน้ำเงินออกมาวนรอบๆมือของเธอ.

 

“พี่ไม่ใช่ผู้หญิงบอบบางนะจ๊ะ พี่กลายเป็นผู้มีพลังปราณแล้ว.

 

“ว๊าว!” เสี่ยวฉีร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ “พี่สาวก็เป็นผู้มีพลังปราณเหมือกันหรอคะ! ไฟนี้น่ารักจังเลย พี่มีปราณธาตุไฟหรอคะ?”

 

เล่าเอ๋ออึ้งไปตอนแรก จากนั้นเขาก็รู้สึกหดหู่ลง.

 

ขนาดพี่สาวยังมีพลังปราณได้……

 

ทว่าคำที่ชิยูกำลังจะพูดออกมาทำให้เขามีความหวังขึ้นมา.

 

“ความจริงแล้วพี่ก็ไม่มีพลังปราณแต่แรกหรอกนะ” เธอชำเลืองตาไปทางเล่าเอ๋อ “เหมือนเราไง”

 

“พี่ครับ….” ทั่วทั้งตัวของเล่าเอ๋อเริ่มสั่น. ไม่ใช่เพราะความกลัวแต่เป็นเพราะความตื่นเต้น. เขามองตาชิยูด้วยความหวังอันสดใสและความคาดหวัง แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร.

 

เขากลัวว่าจะผิดหวัง.

 

“มันเจ็บมากๆเลยล่ะ เธออาจจะเอาชีวิตไม่รอดเลยก็ได้นะ. โอกาสสำเร็จมันน้อยมาก ถ้าเธอพลาดบททดสอบล่ะก็ พวกเราจะเสียเธอไปตลอดกาลนะ. รู้งี้แล้วเรายังอยากจะลองต่อมั้ย?”

 

เล่าเอ๋อพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “เจ็บก็ยังดีกว่าเศร้าครับ”

 

“ดีมาก” ชิยูยิ้ม “พี่จะไม่ขัดขวางเธอนะ. เพราะเธอตัดสินใจแล้ว, พี่จะสนับสนุนเธอทุกๆทางเลย. เธอเห็นไฟในมือพี่แล้ว ตอนนี้พี่คือผู้มีพลังปราณธาตุไฟ. เหตุผลที่พี่มีได้ก็เพราะพี่กลืนเมล็ดอัคคีสีน้ำเงินเข้าไป. เล่าเอ๋อ เราอยากได้ธาตุแบบไหนล่ะบอกมาสิ”

 

ไม่รู้ว่านี่นับเป็นรางวัลจากสวรรค์หรือป่าว การได้เลือกธาตุของตัวเองเนี่ย แต่พระเป็นเจ้าจะไม่ยื่นมือมาช่วยบททดสอบนี้หรอกนะ.

 

“ไฟไม่ก็สายฟ้าครับ” เล่าเอ๋อตอบโดยไม่ลังเลเลย.

 

นอกจากปราณธาตุหลักทั้ง5แล้ว ยังมีปราณธาตุอื่นที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก. หนึ่งในนั้นก็คือธาตุสายฟ้าซึ่งว่ากันว่าเป็นธาตุที่แข็งแกร่งที่สุด. ต่อให้เป็นผู้มีวรยุทธระดับเดียวกันแล้ว ถ้าเจอปราณธาตุสายฟ้าเข้าล่ะก็จะถูกขยี้หายไปเลยแหละ. ดูหลินฟ่านเป็นตัวอย่างก็ได้ ปราณลับของเขาก็คือสายฟ้า.

 

“พี่เข้าใจนะจ๊ะแต่เมล็ดอัคคีกับอัสนีมันหายากอยู่นะ. ต่อให้พี่เจอมัน มันก็ต้องใช้เงินมหาศาลเพื่อซื้อมา. โชคดีนะที่เรายังเด็กอยู่ พี่จะกลับมาพร้อมกับของฝากซักอย่างก่อนเธออายุ15แน่นอน”

 

“พี่สาวครับ พี่จะไปจริงๆหรอ? โลกข้างนอกนั่น มันอันตรายจริงๆไม่ใช่เหรอครับ?” เล่าเอ๋อกล่าว “ถ้ามันอันตรายแบบนั้นผมก็ไม่อยากให้พี่ไป. ผมไม่อยากให้พี่ตายเพราะผมครับ.

 

“พูดอะไรน่ะ! ต่อให้ไม่ใช่เพราะเธอ พี่ก็ยังอยากจะไปท่องโลกอยู่ดี. ช่วยหาเมล็ดธาตุให้เธอก็เป็นแค่เรื่องรอง. แค่เพราะมันอันตรายก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ทำมันหนิ!” ชิยูใจเย็นมากๆ. “ถ้าถึงเวลาเราเองก็อยากจะไปเหมือนกันแหละ. อีกอย่างที่พี่จะไปก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกหนิ”

 

เธอจำได้ว่าในนิยายต้นฉบับ เมื่อหลินฟ่านกลับมาที่เมืองชิงฉาน, เขาก็มีเมียนับสินคน แต่ละคนก็งามราวกับดอกไม้และหยก. เขาจะใช้ชีวิตอยู่กับพวกนาง. พอชิยูคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็อดหัวเราะไม่ได้. อีกซักพักเขาก็จะออกไปเล่าเรียนที่นครหลวง ใครจะรู้ บางทีพวกเขาทั้งสองคนอาจจะเจอกันที่นั่นก็ได้.

 

“ถ้างั้น พี่สาวจะไปตอนไหนคะ?” เสี่ยวฉีถาม.

 

“เร็วๆนี้แหละจ่ะ อาจจะวันสองวันนี้” ตอนนี้เธอมีพลังปราณขั้นพื้นฐานแล้ว เธอเลยทนรอออกไปสำรวจโลกไม่ไหว.

 

พอคุณตากับคนอื่นๆกลับมา ชิยูก็ใช้โอกาสนี้บอกให้พวกเขารู้. แม้ว่าในตาพวกเขาจะดูเศร้าๆ แต่คุณตาก็จะไม่ห้ามเธอ. ส่วนเด็กคนอื่นๆก็พยายามจะอยู่กับเธอให้นานขึ้นกว่านี้. ชิยูจึงใช้เวลาในช่วงวันสองวันนั้นทำอาหารทุกๆแบบให้พวกเขากิน.

 

ข่าวเรื่องชิยูกำลังจะไปก็มาถึงหูของหลินฟ่าน.

 

ถึงเขากับลูหยานจะมาพบเธอพร้อมกัน แต่เธอก็รู้ว่าสองคนนี้มีอะไรบางอย่างกันแน่ๆ.

 

“เธอตัดสินใจดีแล้วเหรอ?” หลินฟ่านถาม.

 

“อื้อ” ชิยูพยักหน้า “อีกประมาณครึ่งปีจะมีการรับสมัครเข้าศึกษาที่นครหลวง. ชั้นอยากจะรู้น่ะว่าตัวเองจะเข้าได้มั้ย”

 

“ทำไมเธออยากจะเข้าเรียนที่นครหลวงล่ะ? เธอเป็นแม่ครัวไม่ใช่เหรอ?” ลู่หยานขมวดคิ้ว.

 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเครื่องรางที่ท้องเธอรึป่าว แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครรู้เลยว่าเธอเป็นผู้มีพลังปราณไปแล้ว.

 

“ก็ถ้าไม่มีเรื่องน่าประหลาดใจเกิดขึ้น ก็คงจะเป็นแบบนั้นแหละ” ชิยูกำลังเศร้าอยู่ในใจ เพราะตัวละครหญิงหลักคนนี้เริ่มดุขึ้นเรื่อยๆ. ยังไงเธอก็ยืนกรานว่าเธอกับหลินฟ่านไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งต่อกันเลย! สำหรับชิยูแล้ว เธอไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับเจ้าพระเอกนี่หรือไปเป็นหนึ่งในฮาเร็มของเขาเลย.

 

“เธอจะไปตอนไหน?” หลินฟ่านขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพยายามกลับเข้าเรื่อง.

“พรุ่งนี้” หลังจากคิดดูดีๆแล้วพรุ่งนี้น่าจะเหมาะที่สุด.

 

“ก็ดี” หลินฟ่านพยักหน้าแล้วควักกล่องออกมา “ชั้นไม่มีอะไรจะให้เธอเลยแต่ในเมื่อเธอทำอาหารเก่ง ชั้นขอมอบมีดเล่มนี้ให้เป็นของขวัญจากแล้วกัน. อีกไม่กี่เดือนชั้นเองก็จะเข้าไปที่เมืองหลวงเหมือนกัน. หวังว่าจะเจอเธอที่นั่นนะ”

 

“เหะๆ” ชิยูหัวเราะอย่างเดียว. ถ้าเป็นไปได้นะ เธอขอไม่เจอเขาอีกแล้วกัน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด