Ep.796 - สับเปลี่ยน
4/4
Ep.796 - สับเปลี่ยน
ร่มชูชีพร่อนตกลงฝั่งในเมือง ผู้ใช้พลังคนหนึ่งวิ่งออกไป คว้ารับมัน และนำมามอบให้กับหลี่หยวนซาน
ดูจากการมอบขอบในที่นี้ บ่งบอกได้ว่า แม้กวนฉานจะเป็นถึงรองเจ้าเมือง และหลี่หยวนซานเป็นเพียงรัฐมนตรีคลัง แต่สถานะของหลี่หยวนซาน เห็นได้ชัดว่ามีอำนาจยิ่งกว่า
และเมื่อเปิดขวดออก สิ่งที่เขียนไว้บนกระดาษภายในขวด ก็ทำให้คิ้วของหลี่หยวนซานต้องขมวดมุ่น ในหัวใจปะทุไปด้วยเพลิงแค้น
【ช่องว่างมิติจะเปิดขึ้นอีกครั้งในวันต่อไป แต่คนที่สามารถขึ้นมาได้ จะมีเพียงผู้ผ่านการคัดเลือกจากนายพลฉินเฟิงเท่านั้น หากมีผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่ง ช่องว่างมิติจะไม่เปิดขึ้นอีกเลย - กลุ่มเฟิงหลี】
“บนกระดาษเขียนว่าอะไร?” กวนฉานเดินเข้ามาถาม
หลี่หยวนซานแทบอยากฉีกกระดาษแผ่นนี้ออกเป็นชิ้นๆ แล้วไม่ปริปากบอกใคร แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถทำตามอำเภอใจ!
จะเกิดอะไรขึ้นหากหลี่หยวนซานไม่บอกฉินเฟิง? กล่องที่เข้ามาถูกคนภายนอกควบคุมเอาไว้ นั่นหมายความว่าพวกเขาคอยเฝ้ามองฉินเฟิงอยู่ตลอดเวลา ต่อให้ทำลายกระดาษไป ก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี!
“กวนฉาน บอกความจริงมา คนที่อยู่ข้างนอก มีแค่คนของฉินเฟิงหรือ? มีคนของพวกเราอยู่บ้างไหม?” หลี่หยวนซานกล่าวเสียงหม่น ยื่นจดหมายแก่กวนฉาน
แม้ทั้งคู่เพิ่งถกเถียงกันดุเดือด แต่หลี่หยวนซานทราบดี ว่าขณะนี้ มีพรรคพวกยิ่งมากก็ยิ่งแข็งแกร่ง ดังนั้นจะไม่มีการทะเลาะสร้างปัญหาใดๆอีกต่อไป
“รัฐมนตรีหลี่ เมื่อครู่ฉันไม่สามารถเอ่ยปากได้ เรื่องนี้แหละที่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องตำหนิคุณ ตอนนี้ฉินเฟิงไม่ใช่คนที่ควรยั่วยุ--”
“--เจียงเฮ่าหลินออกไปก่อนพวกเราแล้ว และเขายังได้ติดต่อกับท่านเจ้าเมือง แต่ดูเหมือนว่า … ท่านเจ้าเมืองไม่เต็มใจที่จะช่วยพวกเรา!”
“นี่- นี่เป็นไปได้อย่างไร!?” หลี่หยวนซานกล่าวพลางขบฟันแน่น คล้ายไม่อาจยอมรับคำพูดของกวนฉาน
กวนฉานยิ้มขม “ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ นี่เป็นเรื่องปกติ วิกฤตก็ผ่านมานานแล้ว คุณเองก็น่าจะรู้สึกได้ ว่าเมืองฉงโหลวมันเกิดอะไรขึ้นใช่ไหม? อีกมิติหนึ่งได้ระนาบเข้ากับเมืองนี้ กลายเป็นมิติทับซ้อน ไม่เพียงแค่นั้น แต่ผลกระทบจากมัน ยังทำให้ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ต้องห้าม ผู้ใช้พลังไม่สามารถปลดปล่อยกำลังภายในและพลังสมาธิได้”
หลี่หยวนซานสีหน้าเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด เขาพอคาดเดาได้อยู่ก่อนแล้วในใจ และมันน่าสิ้นหวังมาก
“ทางพันธมิตรมนุษย์ได้รับการแจ้งเรื่องรึยัง? แต่นี่เพิ่งเกิดขึ้นแค่วันเดียวไม่ใช่หรอ พวกเขาจะยอมแพ้เร็วไปรึเปล่า”
“สำหรับเรื่องนี้ อันที่จริงยังไม่มีการแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจน แต่พวกเขาสมควรยอมละทิ้งเมืองตั้งแต่ต้นแล้ว สถานการณ์ในตอนนี้ยังดี เพราะอย่างการเกิดมิติทับซ้อนสองครั้งก่อนในประวัติศาสตร์ ล้วนพบจุดจบอันน่าเศร้า แต่ครั้งนี้ พวกเรามีแฟนของฉินเฟิง อย่างน้อยอีกฝ่ายก็มีความเชี่ยวชาญเชิงมิติพอสมควร ทำให้สามารถเปิดช่องว่างมิติได้ ”
“แต่ต่อให้สามารถเข้ามาข้างในได้แล้วมันจะเป็นยังไง? กำลังเสริมไม่สามารถใช้พลังสมาธิและวรยุทธโบราณได้ แล้วพวกเขาจะยอมเข้ามาช่วยเหลือหรือ? กระทั่งท่านเจ้าเมืองยังไม่ยอมเลย! นี่แหละคือสาเหตุที่พวกเราถูกทอดทิ้ง!”
ในหัวใจของหลี่หยวนซานบังเกิดความรู้สึกอันซับซ้อน เขาเริ่มวิตกกังวล ลึกๆเขาอยากจะล้างแค้นให้หลานชาย แต่ก็รู้เช่นกัน ว่าไม่สามารถล่วงเกินฉินเฟิงได้
แต่ในเวลานี้ ไม่ไกลออกไป เกิดเสียงร้องตะโกนขึ้น ทั้งสองหันไปตามเสียง และพบว่าฉินเฟิงกำลังปีนขึ้นมาบนกำแพงเมืองแล้ว
กำแพงเมืองแข็งแกร่ง นี่คือเมืองที่มีผู้ใช้พลังเลเวล A ประจำการอยู่ ดังนั้นกำแพงทั้งหมดเลยถูกเสริมแกร่งด้วยอบิลิตี้ของผู้ใช้ธาตุดิน เลเวล B ผสานไปกับวัสดุคุณภาพก็ยิ่งทนทาน อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมายังไม่ถือเป็นคู่ต่อสู้ของมีดกษัตริย์คราม
ฉินเฟิงใช้มีดแทงลงบนกำแพงสองสามรู จากนั้นใช้พวกมันเป็นที่วางมือหยั่งเท้า ค่อยๆปีนขึ้นมา
“นายพลฉิน สถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?” กวนฉานถามอย่างร้อนรน อันที่จริงแล้วไม่ต้องเสียเวลาถาม เพราะเพียงชะโงกออกไปมองข้างนอก ใบหน้าของแต่ละคนก็เริ่มซีดเซียว
เพราะพวกเขาพบว่า เมื่อเวลาผ่านไป พวกหญ้าและต้นไม้เติบโตกันเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ งูพิษเขียวเหล่านั้น ยิ่งนานก็ยิ่งออกมาจากป่ามากขึ้นเช่นกัน ตอนนี้มีอย่างน้อยก็หลายพันตัว
ซึ่งเทียบได้เลยกับจำนวนมนุษย์ที่ถอยกลับมา แต่ต้องยอมรับความจริงว่างูเหล่านี้มีพิษ อีกอย่างสัตว์ร้ายกับมนุษย์ จะเอามาเปรียบกันได้อย่างไร
สัตว์ร้ายพวกนนี้ มีความแข็งแกร่งอยู่ในเลเวล F2 แต่มนุษย์กำลังอ่อนแอ ไม่แม้จะสามารถใช้พลังของตน
“มีเชื้อเพลิงเตรียมไว้รึเปล่า ถ้าไม่มีให้ไปหาน้ำมันมา เทลงไป เผาพวกมันซะ!”
“อา! รับทราบ จะรีบไปเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า รีบไปหาเชื้อเพลิงมาจุดไฟ!” กวนฉานออกคำสั่งคนของเขาทันที และไม่วายหันไปสั่งพวกคนธรรมดาด้วย
คนธรรมดาเหล่านี้ยังทราบว่านี่เป็นช่วงเวลาระหว่างความเป็นความตาย เมื่อถูกกระตุ้นโดยผู้ใช้พลัง ทั้งหมดก็เริ่มตามหาพวกเชื้อเพลิงทันที
งูพิษเขียวไล่ตามมา พวกมันเริ่มเลื้อยไปตามกำแพง เหล่าผู้ใช้พลังที่มีอาวุธในมือ ช่วยกันปัด ช่วยกันฟาด ขับไล่งูพิษเหล่านั้นออกไป บ้างก็หยิบจับสิ่งของมาขว้างปาหรือทุบตีงูพิษให้ร่วงตกลง
คนธรรมดาพอเห็นฉากนี้ ในที่สุดก็เริ่มเกิดคำถามในหัวใจ
“ท่านผู้ใหญ่ ทำไมถึงไม่ใช้กำลังภายในหรืออบิลิตี้เล่า?”
คำถามนี้ ทำให้คนอื่นๆเริ่มฉุกคิดขึ้นมาได้เช่นกัน ขณะนี้ กลุ่มของฉินเฟิงมีคนมารวมตัวกันจนแน่นขนัด และในกลุ่มมีเป็นจำนวนมากที่สวมตราผู้ใช้พลัง เพราะท้ายที่สุดแล้วในเมืองฉงโหลวมีผู้ใช้พลังประจำการอยู่เยอะพอสมควร
แต่มองไปยังพวกเขาตอนนี้ จะพบว่าผู้ใช้พลังอันเกรียงไกร ดูไม่ต่างจากคนธรรมดา หากไม่มีตราบนหน้าอก คงไม่มีใครจดจำตัวตนของพวกเขาได้
พวกผู้ใช้พลังที่กำลังต่อสู้กันอยู่ในตอนนี้ มีสภาพไม่ต่างจากถูกมัดมือมัดเท้า ถึงขั้นที่ว่าผู้ใช้พลังบางคนเลือกหลบอยู่หลังคนธรรมดา ซ่อนตัวอยู่ในตำแหน่งปลอดภัย ไม่คิดก้าวออกมาสู้
“ทุกคนกำลังสู้ แล้วทำไมคุณถึงมาซ่อนตัวอยู่ข้างหลังผู้หญิง? ยังเป็นผู้ชายอยู่รึเปล่า!”
ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวด้วยความไม่พอใจ
ผู้ชายคนนั้นพอถูกตำหนิก็ง้างแขน เหวี่ยงออกไปทันที ตบผู้หญิงคนนั้น ร้องคำราม “แกมันจะไปรู้อะไร ฉันจะสู้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของแก แต่ที่แน่ๆแกต้องเป็นโล่กำบังให้ฉัน!”
ในความเป็นจริงแล้ว ชายคนนี้ถือว่าเป็นคนแข็งแกร่งคนหนึ่ง เขาเป็นถึงผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล E อย่างไรก็ตาม สำหรับเมืองฉงโหลว เลเวลแค่นี้ไม่นับเป็นสิ่งใด ดังนั้นผู้หญิงธรรมดาเลยกล้าตั้งคำถามกับฝ่ายชาย
ฝ่ายชายไม่กล้าสู้เพราะกลัวว่าคนอื่นๆจะรู้ความจริง อีกอย่างถ้าเขาออกไปสู้ ไม่เท่ากับพาตัวเองไปตายหรอกหรือ?
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการทะเลาะกันของหลี่หยวนซานกับกวนฉาน ทำให้ชาวเมืองที่เดิมไม่รู้สถานการณ์ ตอนนี้ทุกคนทราบเรื่องแล้ว
“ฉันได้ยินมาว่า เมืองของพวกเราทับซ้อนเข้ากับมิติอื่น ส่งผลให้ไร้ซึ่งพลังงานใดๆ ดังนั้นผู้ใช้อบิลิตี้เลยไม่สามารถใช้พลังของตัวเองได้ในตอนนี้ ทางผู้ใช้วรยุทธโบราณเอง ก็ไม่สามารถใช้กระบวนท่าได้เช่นกัน!”
“ว่ายังไงนะ!?”
“นี่เรื่องจริงหรอ แล้วแบบนี้ใครจะปกป้องพวกเรา?”
“ฉันไม่รู้ แต่จากที่เห็น พวกเขาบางคนยังแข็งแกร่งมาก”
ชาวเมืองถ่ายทอดข้อมูลปากต่อปาก ข่าวถูกส่งต่อไปอย่างไฟลามทุ่ง ผู้หญิงที่ถูกทุบตีเข้าใจได้ทันที ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ บัดนี้เป็นเสือไร้เขี้ยวเล็บ วินาทีนั้นความโกรธในใจเธอปะทุขึ้นอย่างรุนแรง
เนื่องจากวิกฤตเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เอาจริงๆทุกคนกำลังอยู่ในอารมณ์ไม่สู้ดี วิตกกังวล และจำเป็นต้องหาที่ระบาย
กระทั่งบางคนยังรู้สึกว่า วันนี้อาจไม่รอด ดังนั้นในหัวใจเลยเต็มไปด้วยความทุกข์ และผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เต็มใจที่จะทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป เธอร้องตะโกนว่า “แกกล้าตีฉันได้ยังไง! แกนับเป็นตัวอะไร! คิดหรือว่าฉันจะไม่สู้!”
ผู้หญิงคนนี้มีร่างท้วม เธอสูงถึง 187 ซม. น้ำหนักอย่างน้อย 200 ปอนด์ ดูทรงพลังมาก เกิดท่ามกลางยุครอยแยกมิติ แต่ยังสามารถกินจนอ้วนพลีถึงขนาดนี้ได้ ต้องมีพรสวรรค์อย่างแน่นอน
ฝ่ามือขนาดเท่าพัดเหวี่ยงตบออกไป ฝ่ามือเดียวเล่นเอาผู้ใช้อบิลิตี้ลงไปนอนนับดาว ไร้หนทางจะตอบโต้
คนอื่นๆ เฝ้ามองดูเรื่องตลกนี้ ด้วยดวงตาทอประกาย
‘ผู้ใช้พลัง’ เป็นตำแหน่งที่มักได้รับความเคารพนับถือ ในโลกใบนี้ พวกเขาเป็นผู้กุมชีวิตผู้คนอย่างแน่นอน
แต่ในตอนนี้ ผู้กุมชีวิตผู้คนเหล่านั้นได้สูญสิ้นรัศมีไป เกรงว่าในเมืองฉงโหลว คงถึงคราวสับเปลี่ยนตำแหน่งใหม่แล้ว!
