บทที่ 3 เลือดที่พ่นออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ก่อนที่ลู่เจ๋อจะมีเวลามองดูลูกแก้วทั้งสองให้ดี พวกมันก็หายไปต่อหน้าต่อตาเขา
ลู่เจ๋อกะพริบตาอย่างงง ๆ มันจะหายไปแบบนี้ได้ยังไง?
ลูกแก้วนั่นดูเหมือนสมบัติ แต่มันกลับหายไป!
ตับของลู่เจ๋อเจ็บ...
และที่แย่ไปกว่านั้นคือตอนนี้มีกระต่าย 2 ตัวที่มีขนาดเท่ากับตัวที่เขาเพิ่งฆ่าไปปรากฏตัวขึ้นบนทุ่งหญ้าเบื้องหน้าเขา ตัวหนึ่งเป็นกระต่ายสีดำ และอีกตัวเป็นสีขาว พวกมันวิ่งเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังเขา
ลู่เจ๋อตัวแข็งทื่อขณะที่เขามองย้อนกลับไปด้านหลัง กระต่ายอีก 2 ตัวที่มีขนาดเท่ากันตัวสีเทาก็กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาด้วย
กระต่าย 4 ตัว…
ดวงตาสีแดงของพวกมันเปล่งแสงดุร้ายเมื่อวิ่งเข้ามาใกล้
ลู่เจ๋อวิ่งฉีกออกไปทางขวาอย่างไม่ลังเล แค่กระต่ายตัวเดียวก็แทบจะฆ่าเขาแล้ว ตอนนี้มี 4 ตัว เขารับไม่ไหวจริง ๆ!
ลู่เจ๋อใช้พลังไปมากในการต่อสู้ครั้งก่อน หลังจากพุ่งออกไปเต็มฝีเท้า ไม่นานเขาก็หอบ แต่เสียงหญ้าจากข้างหลังเขาก็ดังไม่เคยหยุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากระต่ายทั้ง 4 กำลังไล่ล่าเขาอยู่
ปากของลู่เจ๋อแห้งผาก เขาไม่ใช่กระต่ายตัวเมียสักหน่อยทำไมพวกมันถึงจ้องจะกินตับเขาขนาดนี้!
ในทุ่งหญ้าอันไร้ที่สิ้นสุด ลู่เจ๋อวิ่งไปหลายกิโลเมตร เขาหอบหนัก แต่ก็ทำได้แค่กัดฟันและวิ่งต่อไป เขาต้องวิ่งให้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น
นั่นเป็นเพราะขณะที่เขากำลังวิ่งหนี กระต่ายอีก 2 ตัวก็เข้าร่วมการไล่ล่า ตอนนี้มีกระต่าย 6 ตัวอยู่ข้างหลังเขา ถ้าเขากล้าที่จะหยุด เขาคงถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ
ลู่เจ๋อคิดอะไรไม่ออกแล้ว หน้าอกของเขาเจ็บ คอของเขาแห้งผาก และขาของเขาก็ชาราวกับว่ามันไม่ใช่ขาของเขาอีกต่อไป ตอนนี้เขากำลังวิ่งไปข้างหน้าด้วยสัญชาตญาณกลัวตายล้วน ๆ
มีกระต่ายจำนวนมากขึ้นรวมตัวกันอยู่ข้างหลังเขา พวกมันเรียงแถวกันข้างหลังลู่เจ๋ออย่างเป็นระเบียบเหมือนเด็กเล็กที่เดินตามหัวหน้าห้อง แน่นอนมันคงจะดีถ้าปากของเด็ก ๆ ไม่อ้ากว้างขนาดนี้
เมื่อสติของลู่เจ๋อเริ่มพร่าเลือน กระต่ายที่อยู่ข้างหลังเขาก็ทำหูตั้งแล้วหยุดวิ่งกระทันหัน ไม่นานพวกกระต่ายทั้งหมดก็วิ่งแตกกันไปตัวละทิศละทาง
แน่นอนลู่เจ๋อได้ยินการเคลื่อนไหวนั้น เมื่อเขาหันไปมอง เขาก็พบว่ากระต่ายที่ไล่ล่าเขาหายไปหมดไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว จิตใจที่ตึงเครียดของเขาก็เริ่มผ่อนคลาย จากนั้นร่างกายของเขาสะดุดล้มลงกับพื้น หลังจากนอนราบอยู่บนพื้นหญ้าจนหายเหนื่อย เขาก็ค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง
เมื่อมนุษย์มาถึงทุ่งหญ้า พวกเขาก็ถูกกระต่ายทารุณกรรม โอ้พระเจ้า เขาเกือบจะถูกฆ่าตาย
เขาจะจำความอับอายนี้ไว้ เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาจะกลับมาจัดการกระต่ายพวกนี้
ลู่เจ๋อแอบหมายมาดไว้ในใจ แต่แล้วเขาก็มีอาการเจ็บแปลบขึ้นมาที่หน้าอก พอมองลงไปก็เห็นเลือดพุ่งออกมา จากนั้นการมองเห็นของเขาก็ตกอยู่ในความมืด
…
ในห้องมืด จู่ ๆ ลู่เจ๋อก็ลืมตาและลุกขึ้นนั่ง เขาหอบอย่างรุนแรงและดวงตาของเขายังคงสั่นกลัว ผมสีเข้มและชุดนอนของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ไม่นานลู่เจ๋อก็ได้สติ สายตาของเขามองสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยอย่างสับสน
นี่มันอะไร?
เขาเพิ่งข้ามไป และตอนนี้เขาก็ข้ามกลับงั้นเหรอ?!
ลู่เจ๋อเลียริมฝีปากที่แห้งผาก นี่แสดงว่าเขาเพิ่งตายใช่ไหม?
เขาเคยสัมผัสกับความตายมาแล้วครั้งหนึ่งในอดีตก่อนข้ามมายังอนาคต เขาไม่คิดเลยว่าจะได้สัมผัสกับมันอีกครั้ง เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ฟ้ายังไม่สว่างเลยด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าเขาเสียชีวิต 2 ครั้งในวันเดียว…
ลู่เจ๋อหวนนึกถึงฉากสุดท้ายที่แปลกประหลาดบนทุ่งหญ้า ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือหน้าอกของเขาถูกตัดออกด้วยบางสิ่งที่แหลมคมและมองไม่เห็น
เลือดของเขาพ่นออกมาอย่างบ้าคลั่งเหมือนน้ำพุมนุษย์
ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นใคร เขาไม่เห็นเลย
แม้กระทั่งตอนนี้ ร่างกายของเขาก็ยังเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัว นี่แสดงว่าความรู้สึกที่เขาได้รับจากสถานที่แปลก ๆ นั่นจะถูกส่งผ่านมาด้วยงั้นเหรอ?
ลู่เจ๋อสับสนมากตอนนี้ เขาพึ่งข้ามหรือแค่ฝันไป? ความฝันที่สมจริงขนาดนี้ยังนับเป็นความฝันอยู่รึเปล่า?
ขณะที่เขากำลังจะบ้า ดวงตาของเขาก็มืดลง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงบางอย่างในจิตใจของเขา
เขารีบนั่งขัดสมาธ หลับตาลง และจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น ไม่นานลู่เจ๋อก็พบพื้นที่มิติรูปทรงลูกบาศก์ขนาดเล็กในจิตใจของเขา มันมีลูกแก้วสีแดง 2 ลูกลอยอยู่ในห้วงอวกาศทรงลูกบาศก์นั้น
“นี่ไม่ใช่ลูกแก้วที่มาจากกระต่ายขาวเหรอ” ลู่เจ๋อมองลูกแก้วที่ลอยอยู่อย่างงุนงง
นิ้วทองของผู้เกิดใหม่?
เป็นไปได้ไหมที่ฉันจะเป็นตัวเอกของจักรวาลนี้จริง ๆ?
เมื่อเขาคิด ลูกแก้วเล็ก ๆ ทั้งสองก็หายไปจากมิติจิตใจและปรากฏขึ้นในมือของเขา
มันเหมือนห้วงอวกาศที่แปลกประหลาด ไม่มีน้ำหนัก แต่ก็อบอุ่น
ลู่เจ๋อจ้องไปที่ลูกแก้วแสงด้วยดวงตาเป็นประกาย
นี่มันอะไร เขาจะใช้มันยังไง?
ลู่เจ๋อหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาจากหัวเตียงเปิดหาเบอร์พ่อในสมุดรายชื่อ เขาลังเลก่อนเปลี่ยนชื่อพ่อเป็นตาแก่
เขาจะลองกินมันดูก่อน ดูว่ารสชาติเป็นยังไง ในฐานะคนจีน ไม่มีอะไรที่เขากินไม่ได้ ถ้าท้องไส้ปั่นป่วน เขาจะต่อสายด่วนหาพ่อเพื่อขอความช่วยเหลือ
จากนั้นเขาก็กัดฟันและใส่ลูกแก้วสีแดงเข้าปาก แสงสีแดงจาง ๆ กลายเป็นกระแสอบอุ่นที่หลอมละลายเข้าไปในร่างกายของเขา ราวกับว่ามีเปลวไฟกำลังลุกไหม้ในร่างกาย
ผิวของลู่เจ๋อแดงก่ำ เขารีบใช้เทคนิคปรับแต่งร่างกายอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขานำทางพลังงานนี้ไปปรับแต่งร่างกายของเขา
ลู่เจ๋อไปถึงระดับ 4 แล้ว นั่นหมายความว่าเขาปรับแต่งผิวหนัง กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นเสร็จแล้ว แต่พลังงานนี้ไม่เป็นไปตามหลักการบำเพ็ญและเทคนิคปรับแต่งร่างกาย มันไม่ยอมไปปรับแต่งกระดูก แต่มันกลับมารวมตัวกันที่ผิวหนังและทำการปรับแต่งผิวหนังของเขา
ลู่เจ๋องงไปพักหนึ่งก่อนจะพบว่า พลังงานนี้กำลังเติมเต็มช่องโหว่ของเขา การปรับแต่งผิวเดิมของลู่เจ๋อยังไม่สมบูรณ์ดี ดังนั้นมันจึงเริ่มปรับแต่งผิวของเขาโดยสัญชาตญาณ เมื่อเข้าใจแล้วเขาก็ติดตามพลังงานและเริ่มโคจรพลังเพื่อปรับแต่งผิวหนังอีกครั้ง
ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดออกมา และผิวหนังใหม่ก็ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผิวหนังของเขาแข็งแรงมากขึ้นแถมมันยังเปล่งแสงจาง ๆ ด้วย
ลักษณะนี้คือสิ่งที่ปรากฏหลังจากที่การปรับแต่งผิวเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบ
หนึ่งชั่วโมงต่อมาลู่เจ๋อก็ลืมตาขึ้น เขาตื่นเต้นมาก เขาหยิบลูกแก้วสีแดงอีกลูกออกมาและกินมันอย่างไม่ลังเล
การปรับแต่งผิวยังคงดำเนินต่อไป!
…
ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นจากขอบฟ้า ดวงอาทิตย์ที่นี่ต่างจากดวงอาทิตย์บนดาวโลก เพราะดาวเคราะห์ของระบบเต๋อหลุน (ระบบเต๋อหลุน เป็นชื่อเรียกระบบที่คล้ายกับระบบสุริยะ) นี้มีขนาดใหญ่กว่า และดาวเคราะห์หลานเจียงเองก็อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่า ดังนั้นดวงอาทิตย์ที่นี่จึงดูใหญ่กว่าโลกมาก
เสียงนกร้องและสายลมที่พัดเอื่อย มาพร้อมกับแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้องของลู่เจ๋อ
ลู่เจ๋อลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความตื่นเต้นในแววตา ลูกแก้วเล็ก ๆ ทั้งสองทำให้เขาสามารถปรับแต่งผิวได้ดีขึ้น แม้ว่ามันจะเสร็จสิ้นไปเพียงครึ่งเดียว แต่พลังในปัจจุบันของเขาก็มากใหญ่กว่าเมื่อวานอย่างแน่นอน ถ้าเขาเจอกระต่ายอีกครั้ง เขาจะสามารถฆ่ามันได้ง่ายขึ้น
เมื่อนึกถึงกระต่ายขาวตัวใหญ่ เขาก็คิดถึงลูกแก้วแสง น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เข้าไปในสถานที่แห่งนั้นอีกหรือไม่
------------------------------------------------------------------