ตอนที่แล้วตอนที่ 38 เงา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 40 เจ้าแห่งความโกรธ

ตอนที่ 39 แสงสีฟ้า


ตอนที่ 39 แสงสีฟ้า

สิ่งที่อิมพ์ต้องการมากที่สุดในตอนนี้? เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นงั้นหรือ? เขาจำเป็นต้องเร็วขึ้น ฉลาดขึ้นหรือมีประสามสัมผัสที่เฉียบคมมากขึ้นจริงหรือ? เขาไม่รู้จริงๆ แต่เขาไม่สามารถเสียค่าสเตตัสทั้ง 7 นี้ไปกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ได้ในตอนนี้

อิมพ์เริ่มประหลาดใจอย่างช้าๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงและความคิดของเขาก็ไม่เป็นระเบียบ เด็ก ๆ ทุกคนหายตัวไปและเขาไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน แต่อิมพ์นั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมาก สิ่งที่อสูรเงาตัวนั้นทำก็คือเดินไปรอบๆราวกับเป็นเรื่องปกติเท่านั้นในขณะที่มันทำให้ผู้คนหายไปอย่างง่ายดาย    ... สิ่งมีชีวิตตนนี้คืออะไรกัน?

เขาจะรอดไปจากที่นี่ได้ไหม? บางทีถ้าเขาอยู่ที่นี่ต่อก็อาจจะทำได้   ... แล้วอิมพ์จะรับมือยังไงหากเจอกับสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งแบบนั้นอีก   ? แน่นอนว่าเขามีผ้าชิ้นนีเอยู่ แต่ถ้าเป็นเพียงแค่ความบังเอิญล่ะ?

อิมพ์ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสิ่งนี้จะใช้ได้ผลกับศัตรูทั้งหมดที่เขาอาจต้องเผชิญหน้าในเมืองนี้หรือ แต่ ... เขาก็ต้องพยายามดู

อิมพ์ไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นมาจากไหน แต่ราวกับว่ามือของเขาเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง มันกดไปที่ค่าสถานะ  'พลังจิต' สองสามครั้งและอิมพ์ก็สงบลงได้อีกครั้งโดยไม่มีปัญหา

ในที่สุดอิมพ์ก็สามารถตั้งสติได้และจากนั้นเขาก็พยายามหาวิธ๊ใชช้ผ้าเพื่อโจมตี เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถใช้กับอสูรตนอื่นได้ เพราะเขาเองยังได้รับผลกระทบ ผิวหนังของเขาไหม้เกรียมเมื่อสัมผัสมัน แต่มันก็ไม่ได้เจ็บปวดมากเท่าไหร่นักรวมๆแล้วก็คือไม่เป็นไร

แต่เขาไม่รู้วิธีต่อสู้โดยใช้ผ้าพันไว้ที่มือ ดังนั้นอิมพ์จึงต้องหาวิธี

เขาเคยเห็นคนต่อสู้กันไม่มากนัก แต่เขาจำได้ว่ามีคนๆหนึ่งีท่ต่อสู้ด้วยมือของเขาในบางครั้ง ซึ่งนั่นก็คือ เจมส์

และอิมพ์ก็เห็นเจมส์อาผ้าพันไว้รอบมือเช่นกัน ดังนั้นบางทีถ้าเขาสามารถนึกออกว่ามันใช้งานยังไงเขาก็จะสามารถใช้มือต่อสู้ได้อย่างถูกต้องในขณะที่ใช้ผ้าเป็นอาวุธ

เขาต้องมีสมาธิให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาพยายามนึกถึงช่วงเวลาที่เขามองดูการกระทำเหล่านั้นอยู๋ เจมส์ทำยังไง  ? เขาใช้ผ้ายังไง? เขาต้องทำอะไรบ้าง?

จากนั้นประกายแสงก็กระพริบขึ้นและปกคลุมดวงตาของเขาและอิมพ์ก็กระโดดถอยหลังไปด้วยความกลัวที่เพิ่งปรากฏขึ้นทันที เขาไม่ต้องการถูกศัตรูอีกตนเข้ามาโจมตีเหมือนอสูรเงานั่น

แต่ ... มันกลับไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ไม่มีอะไรเลยราวกับว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี สิ่งเดียวที่อิมพ์เห็นก็คือการแจ้งเตือนใหม่

[ปลดล็อคความสามารถทางสายเลือดของ อิมพ์ผู้รอบรู้   - ความทรงจำของผู้รอบรู้]

อิมพ์สับสนในสิ่งที่การแจ้งเตือนบอก แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รู้ว่ามันหมายถึงอะไร   แสงวาบนั้นไม่ใช่ศัตรู ... มันเป็นความสามารถของอิมพ์เอง

ดังนั้นอีกครั้ง เขาจึงต้องพยายามและทำสิ่งเดียวกันกับเมื่อกี้ อย่างช้าๆเขาก็นึกถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

และเมื่ออิมพ์จดจ่ออย่างหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้กับความทรงจำเดียวที่เห็นเจมส์ใช้ผ้าบนมือ แสงแฟลชก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่ในไม่ช้าอิมพ์ก็พบว่าแสงวาบนั้นคืออะไร

มันเป็นแสงของพระอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องเข้ามาในดวงตาของเขา ชั่วครู่อิมพ์รู้สึกสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ทำไมเขาถึงกลับมาที่นี่กัน? ด้วยไฟที่ลุกโชนและร่างที่เปียกน้ำด้านหลัง เจมส์ก็เพิ่งออกมาจากเต็นท์ในขณะที่เอวาลินและโทมัสนอนหลับอยู่ ส่วนอิมพ์นั้นถูกบังคับให้อยู่ตื่นตลอดทั้งคืนเพราะเชือกที่พันรอบคอเขา มันทำให้เขาหายใจไม่ออกและขาก็กำลังค่อยๆสูญเสียแรงไป

ตอนนี้อิมพ์จำได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้งตอนนั้นเองที่เจมส์ซึ่งยืนอยู่ข้างเต็นท์ในขณะที่เขาพันนิ้วของเขาด้วยวิธีบางอย่างที่เฉพาะเจาะจง

เมื่ออิมพ์จดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวเหล่านั้น มันเหมือนกับว่าโลกรอบตัวเขาเห็นเพียงมือของเจมส์ ส่วนอิมพ์นั้นได้หายไปแล้วหลงเหลืออยู่ก็เพียงแต่มือของเจมส์เท่านั้น

และหลังจากนั้นไม่นาน อิมพ์ที่รู้สึกราวกับหลงไปในที่แห่งหนึ่งเป็นระยะเวลายาวนานก็กลับมาอยู่ในห้องภายในโรงเตี๊ยม ทันใดนั้นเขาก็เคลื่อนไหวและใช้กริชตัดผ้าให้เป็นแถบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นก็พยายามัดปลายเข้าด้วยกันเพื่อให้มันเป็นแถบเส้นยาวๆเส้นเดียว จากนั้นอิมพ์ก็ใช้มันพันไปรอบนิ้วของเขาอย่างรวดเร็วเหมือนกับในความทรงจำที่เพิ่งเห็นมา

หลังจากนั้นไม่นานมือขวาของอิมพ์ก็ถูกพันด้วยผ้าแทนที่จะเป็นถุงมือที่อยู่ตรงนั้นมาก่อน เหลือผ้าอยู่อีกเล็กน้อยดังนั้นอิมพ์จึงพันมันรอบฐานของมีดกริชอย่างน้อยเขาก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับคนที่เขาแทงด้วยสิ่งนี้ได้หากพวกมันเป็นเหมือนกับอสูรเงาที่สามารถรับมือจากการแทงได้

ตอนนี้อิมพ์อาจมีโอกาสได้ต่อสู้กับศัตรูเหล่านั้นอีก ดังนั้นเพื่อความมั่นใจเขาจึงต้องการอาวุธมากขึ้น เขาจึงรีบคว้าไพ่ใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและถือมันไว้ในมือแน่นพร้อมกับยัดอีกใบกลับเข้าไปในกระเป๋า

ด้วยความระมัดระวังอิมพ์ก็เดินกลับไปที่ประตูจากนั้นค่อยๆเปิดมันออกและรีบก้าวถอยหลังทันทีเขาทำเช่นนี้ก็เพื่อระวังไว้ในกรณีที่มีเงาอีกตัวพุ่งเข้ามา

แต่คราวนี้ไม่มีใครอยู่ที่นั่นและ อิมพ์ก็ค่อยๆก้าวผ่านโถงทางเดินอย่างระมัดระวังเพื่อดูว่ามีใครอยู่ที่นั่นหรือไม่ แต่สิ่งเดียวที่เขาได้ยินคือเสียงหัวเราะและเสียงครวญครางที่แตกต่างกัน มันทั้งมีความสุข และเจ็บปวดหรือมันอาจเป็นทั้งสองอย่างพร้อมกัน เขาได้ยินมันจากด้านหลังประตูที่เขากำลังเดินผ่าน

จากนั้นขณะที่อิมพ์กำลังจะเริ่มเดินลงบันไดไม้เก่าๆ ประตูก็เปิดขึ้นด้านหลังเขาและอิมพ์ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดขึ้น

"อ๋อ ~? มีลูกค้าคนอื่นด้วยหรอเนี่ย ~" เธอถามและอิมพ์ก็พยายามหันกลับมาทันทีและแยกเขี้ยวพร้อมกับยื่นกริชไปทางเธอ แต่เธอคนนั้นกลับหัวเราะออกมา

เธอมีผิวสีแดงซีดและร่างทั้งหมดของเธอสัมผัสอยู่กับอากาศยกเว้นผ้าผืนเดียวที่พันอยู่รอบศีรษะเพื่อปิดดวงตาของเธอไว้ หางบางๆเคลื่อนที่จากด้านซ้ายไปขวาอยู่ด้านหลังของเธอและเธอก็มีเขาสองอันสั้นๆงอกอยู่บนหน้าผาก

ภายในห้องที่อยู่ด้านหลังของเธอมีชายคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงโดยไม่ใส่เสื้อผ้าและเขาก็กำลังหมดสติอยู่ ส่วนผู้หญิงคนนั้นเธอกลับกำลังยิ้มเยาะมาทางอิมพ์ในขณะที่ประคองหน้าอกของเธอด้วยแขนของเธอไว้

"น่าสนใจจริงๆ มีผู้ชายไม่มากนักที่สามารถต้านทานเสน่ห์ของข้าได้ง่ายเช่นนี้   ~!" หญิงสาวกล่าวพร้อมกับยิ้มเยาะและโน้มตัวไปข้างหน้าไปทางอิมพ์  และกำลังยื่นมือมาจับใบหน้าของเขาในขณะที่ระยะห่างเหลือเพียงนิดเดียวเท่านั้น

อิมพ์จะไม่ล้มลงอีกครั้งแล้ว ดังนั้นในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นเอื้อมมือไปหาหน้ากากของเขาและขยับมันไปด้านข้างเล็กน้อย อิมพ์ก็ซัดมือที่ห่อ 'ผ้าศักดิ์สิทธิ์' ซึ่งกำลังแผดเผาผิวหนังของเขาอยู่ออกไปที่ลำคอของผู้หญิงคนนั้น แต่แล้วผู้หญิงคนนั้นก็สังเกตเห็นคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งของอิมพ์ เธอเห็นเขาสีทับทีเล็กๆสองอันของเขา

"เจ้าก็เป็นอสูรรึ?" เธอถามด้วยความประหลาดใจและในขณะเดียวกันกับที่เธอพูดจบประโยคนั้น มือของอิมพ์ก็กระแทกเข้ากับคอของผู้หญิงคนนั้น

แต่ทันทีที่เธอยังพูดไม่ทันจบเสียงของเธอก็กลายเป็นอู้อี้และมีเลือดไหลหยดลงมาที่แขนของอิมพ์ ผู้หญิงคนนั้นล้มลงไปด้านหลังในขณะที่อิมพ์พยายามดันเะฮเข้าไปในห้องที่เธอเพิ่งออกมาและจากนั้นก็เอามือจับไว้ที่ลำคอของเธอ

[ซัคคิวบัสเล็ก -2191 ความเสียหาย]

ตอนนี้อิมพ์ไม่สนใจข้อความนั้นจากนั้นเขาก็รีบดันกริชของเขาลงไปที่ใบหน้าของสิ่งมีชีวิตตนนี้พร้อมกับทุบกระโหลกของมัน เมื่อสิ้นสุดเสียงกระแทกการแจ้งเตือนอีกอันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

[สร้างความเสียหายร้ายแรงให้ซัคคิวบัสเล็ก!]

[คุณได้ฆ่าซัคคิวบัสเล็ก!]

[คุณเลเวลอัพ!]

[คุณมีแต้มสเตตัสที่ยังไม่ได้ใช้ 1 แต้ม]

ในที่สุดอิมพ์ก์มองไปที่การแจ้งเตือนพร้อมกับขมวคดิ้ว เขามีความสุขที่สร้างความเสียหายได้เยอะเป็นอย่างมาก แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเลเวลอัพแค่ครั้งเดียว แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็รีบใส่แต้มสเตตัสไปที่ค่าพลังจิตอีกครั้งเพราะตอนนี้ดูเหมืนอว่ามันจะสำคัญที่สุด จากนั้นอิมพ์ก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้งและเดินออกไปจากห้องพร้อมกับปรับหน้ากากให้เหมาะสมอีกครั้งและสะบัดกริชที่ถืออยู่ลงเพื่อให้เลือดที่ติดอยู๋กระเด็นลงพื้น

จากนั้นอิมพ์ก็กลับไปที่บันไดและรีบลงไปโดยพยายามไม่สนใจความรู้สึกเจ็บปวดที่มือของเขาซึ่งเกิดจากผ้าที่รัดแน่น แต่ทันใดนั้นการแจ้งเตือนอีกอันก็ปรากฏขึ้น

[ทักษะต้านทานพลังงานศักดิ์สิทธิ์ระดับเริ่มต้น เพิ่มระดับ !]

ความเจ็บปวดลดลงเล็กน้อยตามการตอบสนอง แต่มันก็ยังทำให้เขาเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าเขาหยุดหละก็จะต้องไม่ดีเกิดขึ้นกับพวกเด็กๆแน่ๆ?

เมืองนี้ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่ปัญหาที่เขาจะค้นหาให้ทั่ว เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างดังนั้นสถานที่ที่เด็กๆถูกจับไปคงจะอยู่ไม่ไกล แต่ในขณะที่อิมพ์กำลังคิดว่าอย่างน้อยเมืองนี้ก็มีขนาดไม่ใหญ่ จู่ๆเขาก็ต้องประหลาดใจทันทีเมื่อเดินออกจากประตูมาแล้วพบเข้ากับอสูร

เหล่าอสูรที่เขาเห็นตอนนี้ไม่เพียงแต่มีตัวที่มีขนาดตัวที่ใหญ่ยักษ์และไม่สมส่วนเท่านั้น แต่ยังมีตัวที่มีเขา บางตัวก็มีแขนและขวาจำนวนมากเหมือนกับแมงมุม ที่น่ากลัวจริงๆคืออสูรที่มีขนาดใหญ่อย่างประหลาดใจ มันใหญ่พอจนมองเห็นว่าอยู่เหนืออาคารและเมืองได้เลย

โดยที่อิมพ์ไม่จำเป็นต้องสูงขนาดนั้น เขาก็สามารถสังเกตเห็นสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมได้ทันทีที่เขาก้าวออกมาจากอาคาร

สิ่งเดียวที่เขาสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลก่อนหน้านี้คือภูเขา ท้องฟ้าสีครามและต้นไม้ขนาดใหญ่ แต่ทว่าสตอนนี้พวกมันกลับถูกแทนที่อย่างสมบูรณ์โดยไม่มีอะไรเหมือนเดิมแม้แต่น้อย

ท้องฟ้าสีครามกลายเป็นสีแดงเข้มราวกับว่าเป็นเลือดแห้ง ส่วนภูเขาที่เห็นได้ตอนนี้ก็ล้อมอยู๋รอบๆเมืองราวกับเมืองแห่งีน้อยู่ที่ก้นชาม

มันไม่ได้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ทำให้อิมพ์กังวลมากที่สุดไม่ใช่สิ่งเหล่านั้น มันจะไม่มีอะไรสำคัญเลยหากแค่สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้รอบ ๆ เมืองนั้นสามารถเห็นสิ่งก่อสร้างมากมายที่สร้างขึ้นตามด้านที่สูงชันของภูเขาได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีอาคารใหญ่ที่โดดเด่นอีกเจ็ดแห่งอยู่รอบๆอีกด้วย นี่ทำให้อิมพ์รู้สึกมั่นใจได้อย่างหนึ่ง

เมืองนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

ในขณะที่ปีศาจหนุ่มกำลังพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ เขาก็มองขึ้นไปในระยะทางที่ห่างไกลซึ่งเป็นสถานที่ที่ดวงจันทร์ควรอยู่ แต่แล้วสิ่งที่เขาเห็นก็คือก้อนทรงกลมสีแดงที่กำลังส่องแสงลงมาจนทำให้เมืองแห่งนี้สว่างไสวด้วยแสงสีฟ้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด