Ep.789 - ออกคำสั่งละทิ้งเมือง
3/6
Ep.789 - ออกคำสั่งละทิ้งเมือง
“เทคนิคมังกรไฟ!”
มังกรไฟขนาดใหญ่กู่คำรามก้อง อุณหภูมิโดยรอบพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เปลวเพลิงโหมกระหน่ำ ต้นไม้และเถาวัลย์ แผดเผาพวกมันจนสิ้น
แม้เจียงเฮ่าหลินสามารถใช้อบิลิตี้ของเขาทำลายพืชรุกรานเบื้องหน้าลงได้ แต่สีหน้าของเขากลับไม่ดูผ่อนคลายลงสักนิด ตรงกันข้าม ดูหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน ทางไป๋หลี หน้าผากของเธอยับย่นเข้าหากันอย่างรุนแรง
ต้องรู้นะว่าพืชเหล่านี้มีความแข็งแกร่งในเลเวล B2 แต่ภายในมิติทับซ้อน มีฉินเฟิงเป็นกำลังรบหลักเพียงคนเดียว
สถานการณ์ในตอนนี้ อันตรายเกินไป!
ทุกคนแอบมองไป๋หลีอย่างระแวดระวัง เห็นได้ชัดว่าฉินเฟิงยังไม่กลับมา ในเมื่อทุกอย่างเป็นแบบนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้เลย--
--ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากฉินเฟิงออกมาไม่ได้?
สำหรับคนอื่นๆ บางทีอาจแค่รู้สึกเสียใจ แต่สำหรับกลุ่มเฟิงหลี , สำหรับไป๋หลีแล้ว เกรงว่ามันจะส่งผลกระทบร้ายแรง!
ทว่าในกลุ่มฝูงชน ไม่มีใครเลยที่กล้าพูดเรื่องนี้ออกไป
“รอก่อน!” ภายในจิตสำนึกของไป๋หลี เธอรับรู้ได้ว่าฉินเฟิงยังปลอดภัย ดังนั้นไม่ถึงขั้นต้องเป็นห่วงอีกฝ่าย ที่ต้องวิตกก็แค่อีกหวังว่าอีกฝ่ายจะไม่เผลอสะดุดล้มซะเอง
ไป๋หลีเอ่ยปากว่ารอ แต่ฝีเท้าของคนอื่นๆกลับยังไม่หยุด นอกเมืองฉงโหลว ผู้คนเริ่มแตกฮือ หลบหนีกระจัดกระจาย เพราะผู้ใช้พลังและชาวเมืองต่างพบว่าสถานที่ข้างนอกไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
และไป๋หลีเองก็ทราบว่าสถานการณ์มันเลวร้ายมาก เธอจึงตัดสินใจลงมือกวาดล้างด้วยตัวเอง
ไป๋หลีวุ่นทำลายพืชกลายพันธุ์ที่ลุกลาม แพร่พันธุ์ขยายไปรอบเมืองจนเหี้ยน เวลาก็ล่วงเลยไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่พอกลับมาถึงฐานชั่วคราว ก็พบว่าจำนวนคนในฐานลดลงอย่างรวดเร็ว หายไปถึง ⅓ จากตอนแรก
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีผู้ใช้พลังที่ตัดสินใจช้าบางส่วน กำลังล่าถอยอย่างเงียบๆ แต่เมื่อเห็นไป๋หลี ทั้งหมดก็ไม่กล้าสบตาเธอ รีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋หลีตรงไปยังรถศึกบัญชาการทันที
จังหวะเดียวกันนั้นเอง เสียงคำรามด้วยความโกรธของเจียงเฮ่าหลินสะท้อนออกมา “พวกคุณจะหนีไปไหน! ท่านจ้าวพรมแดนยังไม่มีคำสั่งให้ล่าถอยเลย พวกคุณจะจากไปแบบนี้ไม่ได้! ในเมืองฉงโหลวยังมีผู้คนติดอยู่อีกมาก ยอมแพ้กันง่ายๆแบบนี้ไม่ได้!”
แม้ปากเอ่ยเช่นนั้น แต่เป็นเจียงเฮ่าหลินนั่นแหละที่หมดหวังก่อนใครเพื่อน เพราะคนแรกที่ยอมแพ้ ก็คือเจ้าเมืองแท้ๆของพวกเขา!
“เกิดอะไรขึ้น?” ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของไป๋หลีราวกับถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง แต่อันที่จริงเธอก็พอคาดเดาในใจได้อยู่แล้ว
คนอื่นๆหันมามองไป๋หลี สีหน้าของแต่ละคนดูตึงเครียด แต่พยายามเค้นรอยยิ้มประจบเธอ “รองผู้การไป๋ ครบกำหนดเวลาภารกิจสนับสนุนแล้ว ฉันคงรั้งอยู่ไม่ได้อีกต่อไป”
“ส่วนฉันมีภารกิจอื่นต่อ คงต้องขอตัว!”
“ไอหย๋า หนึ่งในเมืองที่อยู่ในความดูแลของฉันถูกผู้ใช้พลังจากองค์กรมืดบุกโจมตีกะทันหัน ตอนนี้ฉันต้องใช้ตัวเชื่อมมิติกลับไปทันที แต่รองผู้การไป๋ คุณดูสิ นายพลเจียงกลับไม่ยอมให้ใครจากไป เขาคิดแต่ว่าตัวเองสูญเสีย ทั้งๆที่ทางฉันเองก็สูญเสียเหมือนกัน!”
“หึ!” ไป๋หลีส่งเสียงไม่พอใจผ่านลำคอของเธอ
จากนั้นกวาดสายตาจิกกัดมองคนในรถบัญชาการ พวกเขารู้สึกราวกับถูกจ้องมองโดยสัตว์ยักษ์ที่น่าหวาดกลัว เหงื่อท่วมไปทั้งตัว
“ไสหัวไปให้พ้น!” น้ำเสียงของไป๋หลีเย็นเยียบและเสียดแทง อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆที่ได้รับฟัง คล้ายดั่งได้รับคำอภัยโทษ ผงกหัวแยกย้ายกันไปคนละทาง
“รองผู้การไป๋ นี่ … พวกเราจะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้ไม่ได้!”
“ปล่อยไม่ได้? ก็แค่ขยะฝูงหนึ่งจะไม่เสียดายทำไม!” ไป๋หลีกล่าวด้วยความรังเกียจ หากเธอต้องการช่วยฉินเฟิง ยังมีวิธีอีกมากมาย แล้วแบบนี้ยังต้องให้ตัวถ่วงมาคอยขวางทางอีกหรือ?
【ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!】 อุปกรณ์สื่อสารของไป๋หลีส่งเสียงดังขึ้น เธอก้มดู และพบว่าเป็นสายเรียกเข้าจากซางฮัน
“ไป๋หลี ฉันได้ยินข่าวมา ฉินเฟิงในตอนนี้ …”
ไป๋หลีขัดจังหวะคำพูดของซางฮัน เอ่ยปากออกมาว่า “ฉันสามารถช่วยฉินเฟิงได้ เขายังปลอดภัย!”
“งั้นก็ดีแล้ว ได้ยินแบบนี้ฉันก็โล่งใจ แต่เรื่องกำลังเสริม …” ซางฮันพอพูดเรื่องนี้ก็เริ่มปวดหัวขึ้นมา เพราะผู้ใช้วรยุทธเทคนิคคู่ขนานเลเวล B ไม่มีใครตอบรับคำร้องกำลังเสริมในครั้งนี้เลย
การที่ต้องปล่อยให้เมืองๆหนึ่งหายไปดั่งฝุ่นควันเช่นนี้ เป็นเรื่องยากจะทำใจจริงๆ
อย่างไรก็ตาม สำหรับภูมิภาคเหนือ เรื่องราวประมาณนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเพราะภัยธรรมชาติหรือฝีมือของมนุษย์ อย่างปราการชาตงก็เป็นตัวอย่างอย่างดี
ด้วยเหตุนี้ เมื่อไร้ซึ่งผู้ใดอาสา ซางฮันจึงตัดสินใจยอมละทิ้งเมืองฉงโหลว
“ไป๋หลี คุณช่วยพาฉินเฟิงออกจากที่นั่นด้วย ฉันจะประกาศถอนกำลังผู้ใช้พลังแล้ว ต้องขอโทษด้วย ครั้งนี้ฉันสร้างปัญหาให้คุณจริงๆ”
ไป๋หลีไม่แปลกใจกับการตัดสินใจของซางฮัน กล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะดูแลส่วนที่เหลือเอง คุณไม่ต้องกังวลไป”
“เข้าใจแล้ว ภารกิจนี้คุณคงได้แต้มสงครามกับเงินรางวัลไปไม่น้อย ว่าแต่ครั้งนี้มีคำขออะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?”
“ถามแบบนั้นฉันก็จะตอบตรงๆ … ทางคุณมีแก่นสัตว์ร้ายเลเวล Aได้สักกี่ก้อน?”
ซางฮันถึงกับพูดไม่ออก ไอ้มีน่ะมี แต่ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น
ไป๋หลีเลียริมฝีปาก มีรางวัลพิเศษให้ก็ดี เธอจะได้ใช้มันกำจัดความหิวที่มีในตอนนี้ไป
“เอาเถอะ ฉันกำลังยุ่ง คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฝั่งนี้หรอก ฉันรับมือไหว”
“เข้าใจแล้ว มีคุณอยู่ที่นั่น ฉันก็วางใจ”
ซางฮันรีบวางสายทันที เกิดความกลัวว่าไป๋หลีจะเสนอให้นำแก่นสัตว์ร้ายเลเวล A หลายร้อยก้อนออกมา
หลังวางสาย ไป๋หลีก็กดอีกหมายเลขหนึ่ง โทรหากลุ่มเฟิงหลีโดยตรง
“ส่งเรือเหาะมาหาฉัน!”
…
ในเวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง ฉินเฟิงกำลังเริ่มเตรียมตัวพาฝูงชนออกจากเมือง ตอนแรกเขามาคนเดียว แม้รถที่ขับจะเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ แต่ก็ขนคนได้ประมาณ 100 คนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หลังเมื่อวานเคลียร์พื้นที่ชุมชนกว่าสิบแห่ง ฉินเฟิงก็สามารถนำผู้คนออกไปได้น่าจะมากถึง 3,000 คน
คนพวกนี้พอรวมตัวกัน ภารกิจช่วยเหลือก็กลายเป็นวุ่นวายอย่างไม่น่าเชื่อ ฉินเฟิงเลยยอมทิ้งรถบรรทุก เพราะจำนวนขนาดนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถใช้รถขนไปได้
ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่แห่งนี้ยังอยู่ห่างจากนอกเมืองเพียงหนึ่งชั่วโมง ดังนั้นคงพอเดินไหว
กวนฉานถืออาวุธในมือ รวมกลุ่มกับลูกน้องเขา ในมือของทุกคน กุมถุงบรรจุผงขับไล่สัตว์ร้ายเอาไว้
“คนหนึ่งถือเอาไว้หลายๆถุง เตรียมออกเดินทาง!” ฉินเฟิงกล่าว
“รับทราบ!”
กวนฉานพกถุงขับไล่สัตว์ร้ายไว้เองถึง 5 ใบ มือเดียวถือไม่หมดก็หนีบแขน เผื่อไว้รับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน
ฉินเฟิงก็ทำเช่นเดียวกัน ส่วนคนอื่นๆพกติดตัวมากบ้างน้อยบ้างตามเห็นสมควร
คนกลุ่มหนึ่งรีบหนีออกจากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ระหว่างทาง แวะผ่านเขตชุมชนครั้งก่อนที่ฉินเฟิงประกาศรวมพล
ฉินเฟิงมาหกโมงเช้าตามเวลานัด แต่ตอนนี้ กลับพบว่ามีคนมารอเขาไม่ถึงร้อยคน
สายตาของฉินเฟิงกวาดไปตามตึกรามรอบๆ เหมือนรู้ว่ายังมีอีกหลายคนกำลังเฝ้ามองจากหลังผ้าม่าน
เขาถอนสายตา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รีบจัดขบวน พวกผู้หญิงกับเด็กไปยืนอยู่ตรงกลาง ส่วนผู้ชายให้ยืนคุ้มกันอยู่รอบนอก พร้อมทาผงขับไล่สัตว์ร้าย ให้เวลาสิบนาที รีบลงมือ!”
แต่คนเหล่านั้นไม่ยอมทำตามในทันที สีหน้าแสดงออกถึงความลังเลจนเห็นได้ชัด ชายคนหนึ่งมิอาจระงับความสงสัย ต้องเอ่ยถาม “นี่คือกำลังทหารทั้งหมดที่มีแล้วหรอ?”
วันก่อนฉินเฟิงแจ้งว่าจะมารับที่นี่ แต่พวกเขาไม่นึกเลย ว่าในวันนี้ จะมีแค่ฉินเฟิงกับอีกไม่กี่คนอย่างกะทันหัน
“ใช่” ฉินเฟิงไม่ได้ปกปิดเช่นกัน กล่าวออกมาตามตรง
ทันใดนั้นใบหน้าของชายที่เอ่ยถามคล้ายตัดสินใจได้ ถอยหลังไปสองก้าว “ไม่ล่ะ ฉันจะไม่ไปกับพวกคุณ!”
อาศัยแค่กำลังคนเท่านี้ ย่อมไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้ ทั้งยังมีแนวโน้มว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะเป็นพวกเขาเสียเองที่ถูกโยนเป็นเหยื่อของสัตว์ร้าย!
“ฉันด้วย!”
“ฉันก็ไม่ไปเหมือนกัน!”
“ฉันจะอยู่ที่นี่ รอกองกำลังใหญ่เข้ามาช่วยเหลือ!”
คนส่วนใหญ่ที่มารอข้างล่าง ค่อยๆชักฝีเท้าถอยออกไปทีละคน ทีละคน
ใบหน้าของกวนฉานกลายเป็นน่าเกลียด ไม่นึกเลยว่าคนเหล่านี้จะไม่ไว้พวกเขามากขนาดนี้ ต่อให้ปัจจุบันกวนฉานจะสูญเสียประสิทธิภาพในการต่อสู้ แต่เขายังมีศักดิ์ศรี!
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา หากเป็นไปได้ กวนฉานก็หวังให้ฉินเฟิงพาแค่กลุ่มของเขาไป เพราะคนในชุมชนพวกนี้ล้วนเป็นตัวภาระ!
ฉินเฟิงไม่คิดโน้มน้าวใดๆ สั่งการทันที “คนที่เหลือตามฉันมา!”
เขาไม่หยุดฝีเท้า ระหว่างเดินทางผู้คนช่วยกันโปะผงขับไล่สัตว์ร้าย มุ่งหน้าสู่นอกเมือง