Ep.787 - คนอื่นๆอยู่ที่ไหน?

1/6

Ep.787 - คนอื่นๆอยู่ที่ไหน?

ภายในเมืองฉงโหลว

ฉินเฟิงกวัดแกว่งมีดกษัตริย์คราม สับสังหารสัตว์ร้ายที่ทยอยโผล่มาประจันหน้ากับเขาทีละตัว ทีละตัว

เบื้องหน้าเป็นลิงสัตว์ร้ายสายพันธุ์หนึ่ง โชคดีก็คือความแข็งแกร่งของพวกมันค่อนข้างต่ำ อยู่ในเลเวล D เท่านั้น ฉินเฟิงสามารถเข่นฆ่าได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม เจ้าลิงพวกนี้บ้ามาก ตัดหัวไปหนึ่ง ตัวที่เหลือก็กลายเป็นคลุ้มคลั่ง กระโจนเข้ามาทั้งฝูง ราวกับว่าไม่พวกมันก็ฉินเฟิงต้องตายกันไปข้าง

ฉินเฟิงไล่เชือดตลอดเส้นทาง ลิงสัตว์ร้ายหลายร้อยตัวถูกเขาสังหาร ร่างของฉินเฟิงเปรอะไปด้วยเลือด ขับหนุนให้เขายิ่งดูเหมือนเทพเจ้าแห่งการฆ่า

กลิ่นสาบเลือดชโลมไปทั่วกายเขา ยามพัดโชยหากใครได้สูดดมล้วนชวนให้รู้สึกขยะแขยง

“ฟู่ว!”

ฉินเฟิงผ่อนลมหายใจ ในที่สุดก็ไม่เหลือลิงสัตว์ร้ายคอยก่อกวนอีก แต่ยังเหลือพืชกลายพันธุ์อยู่ประปราย เจ้าพวกนี้เดิมคาดว่าน่าจะถูกปลูกในห้องพักอาศัย แต่ตอนนี้กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ชอนไชตึกราม จนอาคารพักอาศัยหลายแห่งพังทลาย ไม่ทราบว่ามีกี่คนข้างในที่ต้องจบชีวิตลง

ฉินเฟิงเดินเข้าสู่ละแวกชุมชน หรือถ้าจะให้กล่าวอย่างถูกต้องคือสลัม

สภาพแวดล้อมที่นี่ไม่ดีจนเห็นได้ชัด มันเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างกระจุกตัวกันหนาแน่น แต่ละตึกตั้งติดๆกัน ชั้นล่างไม่อาจสัมผัสถึงแสงแดด บนพื้นเต็มไปด้วยขยะ แม้จะส่งกลิ่นเหม็น แต่ตอนนี้มันถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายพืชกลายพันธุ์ เมื่อหลายกลิ่นผสมปนเป ไม่ให้ความรู้สึกที่ดี

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามุ่งความสนใจไปยังสถานะของคนเหล่านั้น หลังจากสังหารหมู่ฝูงลิงสัตว์ร้าย เขาก็เริ่มทำตามแผนต่อทันที

“ผมเป็นผู้ใช้พลังที่ทางพันธมิตรหัวเซี่ยส่งมา พรุ่งนี้ 6 โมงเช้า ขอให้ทุกท่านมารวมตัวกันที่ชั้นล่าง ผมจะรอแค่ 10 นาทีเท่านั้น หลังจากผ่านไป 10 นาทีแล้ว ถ้าพวกคุณยังไม่มา ก็ขออวยพรให้โชคดี!”

ฉินเฟิงตะโกนประโยคเดิมสามครั้ง ในยามค่ำคืนอันเงียบสงัด เขาเชื่อว่าทุกคนต้องได้ยินมัน!

“แกว๊ก!”

เสียงประกาศของฉินเฟิงเหมือนจะสะกิดความสนใจของสัตว์ร้ายเข้า คู่ดวงตาของศัตรูคราวนี้เปล่งประกายสีมรกต มันถลาลงจากฟากฟ้า โฉบเข้าหาฉินเฟิง

ศัตรูตัวนี้ มีลักษณะคล้ายกับนกฮูก

กรงเล็บแหลมของมันจิกหมับ! ลงบนไหล่ของฉินเฟิง ฉุดเขาลอยจากพื้นดิน

ท่ามกลางความมืดมิด เหล่าผู้คนที่ซ่อนอยู่ในห้อง ภายใต้แสงจันทร์สว่างไสว ช่วยให้สามารถมองเห็นสถานการณ์ของฉินเฟิง เฝ้ามองไปยังฉากนี้ หลายคนอดลอบสบถออกมาไม่ได้

“มีความแข็งแกร่งแค่นี้แล้วจะช่วยชีวิตคนได้อย่างไร?”

“นี่มันช่วงกลางดึก แต่กลับแหกปากดึงดูดสัตว์ร้าย อยากจะตายก็ตายไปสิ แต่อย่ามาลากพวกเราลงน้ำไปด้วย!”

“ทำไมพันธมิตรมนุษย์ถึงไม่ยอมมาช่วยพวกเรา? กองทหารรักษาการณ์ไปอยู่ที่ไหนกันหมด? ไอ้พวกกลุ่มนี้มันรู้จักแต่สูบเลือดสูบเนื้อคนอื่นรึไง สารเลวเอ๊ย!”

คนธรรมดาเหล่านี้ พวกเขาไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับผู้ใช้พลัง ทั้งหมดรู้เพียงว่าเมืองของพวกเขาถูกบุกอย่างกะทันหัน แต่ผ่านไปนานก็ยังไม่มีความช่วยเหลือใดๆ กระทั่งทหารรักษาการณ์ยังไม่โผล่หัวมาให้เห็น

พวกเขาเลยทำได้แค่หลบหนีและซ่อนตัว บางคนแอบอยู่ใต้ดิน ลากสิ่งของมาปิดกั้นทางเดิน ไม่ให้คนอื่นสามารถเข้าไปได้ บางคนก็ซ่อนตัวอยู่ในบ้านของตัวเอง

สิ่งที่โชคดีก็คือสัตว์ร้ายในมิตินี้ ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของตึกสูง ดังนั้นไม่มีความคิดบุกเข้ามาสังหารหมู่ในบ้านของพวกเขา แต่เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา

ณ ขณะนี้ พวกเขาเกิดความคิดเพียงว่าฉินเฟิงพูดจาโอ้อวดใหญ่โต จะอย่างไรย่อมไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้

แต่ในระหว่างที่คนเหล่านั้นเกิดความไม่เชื่อถือ จู่ๆเสียงกรีดร้องโหยหวนของสัตว์ร้ายนกฮูกก็สะท้านเข้ามาในรูหูของพวกเขา

ฉินเฟิงสะบัดมีดวูบ ตัดอุ้งเท้าและกรงเล็บแหลมของสัตว์ร้ายนกฮูกที่มีขนาดตัวสูงกว่าสองเมตร เมื่อไร้สิ่งใดคอยโอบอุ้ม ฉินเฟิงก็ร่วงตกจากฟ้า ทว่าเขาเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อนแล้ว เปิดกลไกที่อยู่เบื้องหลัง ปีกเครื่องร่อนพลันเด้งออกมา

เจ้าสิ่งนี้ ฉินเฟิงเคยใช้มันมาก่อนตอนเขาอยู่เลเวล G เมื่อหยิบยกขึ้นมาใช้ในเวลานี้ รู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่บ้าง

ฉินเฟิงลงร่อนลงจอดบนพื้นอย่างนุ่มนวล ขณะที่สัตว์ร้ายนกฮูกหลั่งเลือดอยู่บนท้องฟ้า ความเจ็บปวดบาดลึกตรงข้อเท้า เปล่งเสียงร้องปานใจจะขาดร่วงตกลงกับพื้น

ฉินเฟิงเก็บปีกเครื่องร่อน สับฝีเท้าพื้นตรงเข้าหาสัตว์ร้ายนกฮูก เมื่อประชิดตัวตัดสับคมมีดลงไปทันที!

สัตว์ร้ายเปล่งเสียงเฮือกสุดท้าย ก่อนน้ำเสียงชวนน่าสังเวชของมันเหือดหายไปตลอดกาล

ฉินเฟิงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เขาผุดลุกขึ้นและเดินจากไป

ชาวเมืองเดิมไม่ได้มองฉินเฟิงในแง่ดี บางคนหัวเราะเยาะเขาด้วยซ้ำ แต่เวลานี้คล้ายถูกตบหน้าอย่างแรง บังเกิดความรู้สึกกระดากอาย

แม้อีกฝ่ายจะแข็งแกร่ง แต่ก็ติดอยู่เรื่องเดียว นั่นคือฉินเฟิงมาเพียงลำพัง กำลังรบน้อยเท่ากับอ่อนแอ ประชากรในสลัมเขตนี้ไม่แน่ใจว่าจะตามฉินเฟิงไปดีหรือไม่

ฝั่งฉินเฟิง คนอื่นๆจะคิดยังไงเขาไม่สนใจ ตนไม่มีความคิดที่จะช่วยทุกคน ไหนจะภารกิจที่ได้รับจากแซด ดังนั้นจำเป็นต้องจัดการเรื่องราวต่างๆอย่างระมัดระวัง เขาตั้งใจไว้ว่าหลังจากพาผู้คนอพยพออกไปให้มากที่สุดแล้ว ค่อยคิดหาวิธีไปเอาของออกมาให้แซด

สำหรับตอนนี้ คงต้องมุ่งเน้นช่วยเหลือผู้คนให้ได้มากที่สุด

ฉินเฟิงวิ่งวุ่นไปรอบๆตลอดทั้งคืนโดยไม่พักผ่อน เข่นฆ่าสังหารสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วน โชคดีที่ในเมืองรอบนอก สัตว์ร้ายแกร่งสุดอยู่ในเลเวล C เท่านั้น ฉินเฟิงยังพอสามารถรับมือกับมันได้

ตกดึก เนื่องจากความแข็งแกร่งของฉินเฟิงลดทอนลงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้เขาไปประกาศได้แค่ 7 - 8 เขตชุนชมในละแวกใกล้เคียงเท่านั้น เขาไม่อาจไปได้ไกลกว่านี้อีก คงได้แต่รอพรุ่งนี้เช้า อีกอย่างหลังฉินเฟิงรวบรวมประชากรในเมืองเป็นกลุ่มใหญ่ เดี๋ยวคนอื่นๆที่อยู่ใกล้ก็เห็น และตามมาสมทบเอง

ในที่สุด ฉินเฟิงก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่

แม้เขาจะสูญเสียความสามารถในการรับรู้ แต่ฉินเฟิงยังรู้สึกได้ ว่ามีความเคลื่อนไหวผิดปกติภายในห้าง และดูจากการจัดการเฟอร์นิเจอร์ที่มากองรวมกัน กลายเป็นกำแพงป้องกันดูเรียบง่าย บ่งบอกชัดว่าต้องมีมนุษย์อยู่ข้างในอย่างแน่นอน!

กระจกนิรภัยหน้าห้างแตกไปแล้ว ฉินเฟิงเลยไม่ต้องทำลายมัน เขามุ่งหน้าตรงขึ้นไปยังชั้นสอง กระจกนิรภัยที่นี่ยังคงปิดไว้อย่างมิดชิด แต่ก็มีช่องว่างเล็กๆ ที่เล็กจนคาดว่าไม่น่าจะมีสัตว์ร้ายมุดเข้าไปได้

ฉินเฟิงชักมีดกษัตริย์ครามออกมา เคาะๆเบาๆตรงรูทางเข้าแห่งนั้น

“ใครกัน?” เสียงตะโกนดุดันเล็ดลอดออกมาทันที

ฉินเฟิงมุดเข้าไป ผ่านชั้นแนวป้องกันที่ถูกนำมาจัดเรียงกันอย่างเรียบง่าย และพบว่าผู้ที่เอ่ยปากถาม ที่แท้เป็นเลเวล B คนหนึ่ง

อีกฝ่ายมองตอบฉินเฟิงอย่างระแวดระวัง เพราะท้ายที่สุดแล้วทั้งเนื้อตัวของฉินเฟิงท่วมไปด้วยเลือด เขาเลยไม่ทราบว่าอีกฝ่ายมาในฐานะมิตรหรือศัตรูกันแน่

ต้องไม่ลืมนะว่า ทุกคนสูญเสียการควบคุมพลังสมาธิกับกำลังภายใน ในที่นี้ ผู้แข็งแกร่งกลายเป็นผู้อ่อนแอ ผู้อ่อนแอก็สามารถกลายเป็นผู้แข็งแกร่งได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามชายคนนั้นพอเห็นตราสัญลักษณ์บนอกของฉินเฟิง ก็ผงะไปเล็กน้อย ชัดเจนว่านั่นคือตรานายพลของหัวเซี่ย เจ้าสิ่งนี้ ไม่ใช่อะไรที่ทุกคนสามารถครอบครอง

มองไปยังร่างโชกเลือด ใบหน้าที่เปรอะเปื้อน ดูเยาว์วัยแต่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นอายสังหาร เลเวล B นิ่งงันไปเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ “หรือคุณจะเป็นนายพลฉินคนนั้น?”

ชื่อเสียงของฉินเฟิง ขจรขจายไปทั่วภูมิภาคเหนือแล้ว โดยเฉพาะในปีนี้ เขาได้ทำหลายสิ่งที่ให้ผู้คนรู้สึกตกใจ

ไม่ว่าจะเป็นการสังหารผู้ใช้พลังเลเวล A แม้หลายคนจะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในพันธมิตรวู้ดแลนด์กับเมืองหลวงแห่งความมืด แต่คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดย่อมไม่พ้นฉินเฟิง

ถึงอีกฝ่ายจะเป็นแค่เลเวล B แต่ด้วยสถานะลูกรักของพระเจ้า ทำให้ฉินเฟิงสามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ ไม่ว่าใครพอฟังต่างก็อิจฉาเลื่อมใส!

ด้วยเหตุนี้ การที่เลเวล B สามารถคาดเดาสถานะของฉินเฟิงได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

เพียงแต่ฉินเฟิงยังไม่รู้จักสถานะของอีกฝ่าย!

“สวัสดี ไม่ทราบว่าผมกำลังพูดอยู่กับใคร?” ฉินเฟิงกล่าว แต่มิได้ยื่นมือออกไป ตอนนี้มือของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด ให้เชคแฮนด์กันคงไม่ดีนัก

“สวัสดี ฉันคือรองเทศมนตรีเมืองฉงโหลว ชื่อว่ากวนฉาน!”

“ยินดีที่ได้รู้จัก” ฉินเฟิงพยักหน้า

สีหน้าของกวนฉานแสดงออกชัดถึงความตื่นเต้น รีบเอ่ยถาม “นายพลฉิน คุณมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเราใช่ไหม? แล้วกำลังเสริมคนอื่นๆเล่า?”