Ep.785 - ความอันตรายที่เพิ่มขึ้น
5/6
Ep.785 - ความอันตรายที่เพิ่มขึ้น
ฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยปากว่า “ไม่มีทางที่จะเปิดอุปกรณ์รูนมิติจากข้างในได้ ขณะเดียวกันถ้าให้เข้าไปขนสมบัติพวกนั้น มันจะใช้พลังงานมากเกินไป ผมขอเน้นไปทางช่วยผู้รอดชีวิตเป็นหลักดีกว่า”
เจียงเฮ่าหลินรีบพยักหน้า เร่งกล่าว “ก็จริง นั่นคือสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก!”
แม้ปากเอ่ยเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเจียงเฮ่าหลินมิอาจทำใจไม่คิดถึงสมบัติในคลังได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วเมืองฉงโหลวของพวกเขาไม่ใช่ชุมชนระดับต่ำต้อย หากแต่เป็นชุมชนขนาดใหญ่ระดับ A ครอบครองความมั่งคั่งมหาศาล
แน่นอนว่าสิ่งล้ำค่าที่สุดจะอยู่ในเขตแดนลับของเมือง แต่สมบัติอื่นๆที่อยู่ในคลัง ก็ยังเหลืออีกมากมาย หากฉินเฟิงไปช่วยบรรทุกสิ่งเหล่านั้น แม้หยิบฉวยไปหลายชิ้น ก็คงไม่มีใครว่าอะไร
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงกลับดูไม่แยแสเลย เจียงฮ่าหลินคาดเดาไม่ออกจริงๆว่าอีกฝ่ายไม่สนใจจริงๆ หรือแสร้งแสดงละครกันแน่
ในตอนนั้นเอง ฉินเฟิงเอ่ยปากอีกครั้ง “มีอีกอย่าง …”
เจียงเฮ่าหลินเงยหน้าขึ้น ในสมองพาลคิดว่าฉินเฟิงกำลังจะขอสมบัติเหล่านั้นแน่ๆ การยกคำชอบธรรมก่อนหน้านี้เป็นเพียงข้ออ้าง
แต่ไม่นึกเลย ว่าฉินเฟิงจะพูดขึ้นมาว่า “อย่าลืมส่งคนมาปิดล้อมสถานที่แห่งนี้ นอกจากคนของเราแล้ว ห้ามให้ใครเข้ามาที่นี่อีก!”
เจียงเฮ่าหลินตะลึง
ฉินเฟิงเห็นอีกฝ่ายยังนิ่ง เริ่มขมวดคิ้วกล่าว “ถ้าอยากได้สมบัติ คุณก็ออกไปเอาพวกมันด้วยตัวเองซะเลยสิ ไม่รู้รึไงว่าสถานการณ์ตอนนี้อันตรายแค่ไหน?”
ปัจจุบัน ผู้ใช้อบิลิตี้ในเมืองมีความเสี่ยงสูงมาก พวกเขาเปราะบางราวกับเด็กทารก แต่โอกาสตายของคนเหล่านี้ ใช่ว่าจะเกิดจากฝีมือสัตว์ร้ายเสมอไป บางทีอาจจะตายด้วยน้ำมือของผู้ใช้พลังด้วยกันเองก็ได้
เมื่อผู้ใช้พลังในเมืองไม่ทราบว่าพวกเขาจะออกไปได้เมื่อไหร่ ในใจก็ยิ่งเกิดความหวาดกลัว เข่นฆ่าสังหารกันเอง คนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ก็จะได้ครอบครองอุปกรณ์รูนของอีกฝ่าย
สมบัติของผู้คนที่สามารถฮุบมาได้อย่างง่ายดาย มันเย้ายวนเกินห้ามใจ!
บางทีคนของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์อาจไม่ฆ่าแกงกันเองในทันที แต่หากพวกพันธมิตรองค์กรมืดที่อยู่ในเมือง เกิดความคิดนี้ขึ้นมา เหล่าผู้คนที่ยังรอดชีวิตในเมืองอาจกลายเป็นลูกแกะในโรงเชือด!
ดังนั้นจะมัวชักช้า เบนความสนใจไปที่อย่างอื่นไม่ได้เด็ดขาด!
เจียงเฮ่าหลินถูกกระชากสติอีกครั้ง
“เข้าใจแล้ว ฉันจะรีบสั่งการลงไปทันที”
เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองใกล้เคียงกัน แต่ ณ เวลานี้ เจียงเฮ่าหลินทำตามทุกคำของฉินเฟิง รับใช้ไม่ต่างจากม้าจากลา
ไม่นาน ทุกอย่างก็เตรียมพร้อมเสร็จสิ้น แต่รวมๆแล้วมีผู้ใช้วรยุทธที่ฝึกฝนเทคนิคคู่ขนานเพียง 11 คนเท่านั้นที่ต้องการเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม ภารกิจได้ถูกส่งคำร้องออกไปแล้ว คาดว่าคงมีกำลังเสริมมาสมทบในภายหลัง
ฉินเฟิงไม่อยกาเสียเวลารอคน ออกคำสั่งให้สมาชิกในที่นี้เข้าไปก่อน
ไป๋หลีเปิดช่องว่างมิติ ฉินเฟิงขึ้นนั่งบนรถศึกที่ไม่มีแม้แต่ระบบขับขี่อัตโนมัติ ขับนำเข้าไปเป็นคนแรก
“เตรียมผงขับไล่สัตว์ร้ายให้พร้อม เตรียมรับมือเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ!”
มีผู้ใช้วรยุทธเทคนิคคู่ขนานมีทั้งสิ้น 11 คน แต่รถศึกที่ขับเข้าไปมีเพียง 5 คันเท่านั้น
ฉินเฟิงยืนอยู่บนรถศึกคันแรก เปิดถุงบรรจุผงขับไล่สัตว์ร้าย โปรยผงลงบนพื้นดินไปตลอดทาง
ฉินเฟิงนำขบวนคาราวาน วนไปรอบเมือง
กระบวนการนี้กินเวลาไปมากทีเดียว แต่ขั้นตอนนี้มีความจำเป็นอย่างมาก
เนื่องจากทั้งเมืองฉงโหลวตกอยู่ท่ามกลางมิติอันแปลกประหลาดนี้ ดังนั้นมีโอกาสสูงมากที่สัตว์ร้ายในเมืองยิ่งนานจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น และอาจรวมฝูงกันเป็นกองทัพสัตว์ร้ายได้ ถึงเวลานั้นแม้ฉินเฟิงทรงพลังเพียงใด หากไร้ซึ่งพลังสมาธิและกำลังภายใน ก็ไม่อาจทำอะไรได้
จริงอยู่ว่าเขาสามารถหลบหนี แต่คนอื่นๆเล่า? เกรงว่าพวกเขาคงต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่
“นายพลฉิน รายงานสถานการณ์!”
“มาแล้ว .. พวกมันกำลังมาแล้ว!”
บังเกิดความตื่นตระหนกขึ้นในกลุ่มผู้ใช้พลัง พวกเขาไม่มีทั้งพลังสมาธิและพลังการรับรู้ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าสัตว์ร้ายที่กำลังตรงเข้ามามีความแข็งแกร่งขนาดไหน
ยังไงก็ตาม เมื่อสัตว์ร้ายตรงเข้ามา พวกเขาถึงค่อยทราบว่า ที่แท้เป็นฝูงแมวสัตว์ร้ายเลเวล C แต่เอาจริงๆพวกมันดูเหมือนเสือดาวมากกว่า การเคลื่อนไหวของแต่ละตัวช่างดูว่องไวและดุดัน
จากการคำนวณด้วยสายตาคร่าวๆ คาดว่าไม่น้อยกว่า 20 ตัว
“พวกเราลงจากรถ!”
ฉินเฟิงเป็นผู้นำคนแรก พลิกตัวลงไปท้ายรถ
ฝูงสัตว์ร้ายค้นพบฉินเฟิงและคนอื่นๆแล้ว แต่เมื่อเข้าใกล้ พวกมันกลับจามไม่หยุด ก่อนสะบัดหางจากไปด้วยความรังเกียจ
ไม่ต้องสงสัยเลย ว่านี่คือผลจากผงขับไล่สัตว์ร้าย
ผงขับไล่ช่วยให้สัตว์ร้ายไม่อยากเข้าใกล้พวกเขา แต่ฉินเฟิงไม่มีแผนจะปล่อยสัตว์ร้ายพวกนี้ไป เมื่อพบมัน หากสามารถฆ่าได้ก็ต้องฆ่าเสีย!
ฉินเฟิงกระโจนนำหน้าออกไป มีดกษัตริย์ครามในมือมุ่งเป้าไปยังหนึ่งในฝูง ตวัดมีดลงในคราวเดียว
ฉัวะะะ!
ด้วยพละกำลังมหาศาล สามารถสะบั้นหัวสัตว์ร้ายตัวนี้ในทันที ร่างของศัตรูยังคงวิ่งอยู่ แต่เหลือเพียงส่วนลำคอลงที่ยังควบไปข้างหน้า ไกลกว่าสามเมตรค่อยล้มครืน บริเวณต้นคอทะลักไปด้วยเลือด
สองเท้าก้าวไปข้างหน้า หนึ่งมือกวัดแกว่งมีดกษัตริย์คราม ตลอดเส้นทางที่เดินผ่าน แมวสัตว์ร้ายล้วนถูกตัดคอโดยฉินเฟิง
“ก๊าซซ!”
สัตว์ร้ายส่งเสียงขู่รุนแรง แสดงออกถึงท่าทีคุกคาม ความว่องไวพุ่งพรวดขึ้นอย่างกะทันหัน วิ่งวนล้อมรอบฉินเฟิงและระดมโจมตี
ฉินเฟิงกำจัดสามสัตว์ร้ายที่อยู่เบื้องหน้าได้สำเร็จ ปรากฎรูลึกบนอกพวกมัน ขณะเดียวกันยังเหลือสัตว์ร้ายอีกตัวฉวยจังหวะทีเผลอ โจมตีจากข้างหลังเขา
ฉัวะะ!
ฉินเฟิงสามารถหลบเลี่ยงจุดสำคัญมาได้ แค่รู้สึกราวกับว่าแผ่นหลังถูกกรีดด้วยใบมีด ชุดรบถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
เกราะเทวะที่สวมทับอยู่ข้างใน มีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในเวลานี้ มันช่วยปกป้องเนื้อหนังของฉินเฟิง และเมื่อผสานไปกับพละกำลังอันแข็งกร้าวของเขา กรงเล็บนี้จึงไม่ถึงขั้นก่อผลกระทบร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง เสียงร้องโหยหวนพลันดังมาจากอีกมุมหนึ่ง
“อ๊ากกก!”
หนึ่งในผู้ใช้วรยุทธโบราณหลบไม่ทัน ช่วงท้องถูกกรีดเป็นแผลยาว เกราะรูนที่สวมทับอยู่ด้านใน ไม่ช่วยเหลืออะไรเลย
ผู้ใช้พลังคนนั้นถูกปลายเล็บเกี่ยวลำไส้ออกมา
ดวงตาของแมวสัตว์ร้ายเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด เมื่อจู่โจมสำเร็จไปหนึ่ง ความว่องไวของมันก็ทะยานสูงขึ้น พุ่งเข้าหาผู้ใช้วรยุทธเลเวล C ที่บาดเจ็บ และตวัดกรงเล็บออกไป ในชั่วพริบตา ร่างของเขาก็ถูกกรงเล็บฉีกออกเป็นชิ้นๆ ไม่อาจมองเห็นเค้าโครงรูปลักษณ์เดิมได้อีกเลย
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะผู้ใช้พลังสามารถกำจัดสัตว์ร้ายที่อ่อนแอกว่าตนเองได้เท่านั้น!
ผู้ใช้วรยุทธโบราณเหล่านี้ฝึกฝนเทคนิคคู่ขนานมาแล้วก็จริง แต่ปัจจุบันพวกเขาไม่มีกำลังภายในคอยหนุนเสริม ส่งผลให้ความแข็งแกร่งลดทอนลงครั้งแล้วครั้งเล่า เก่งกว่าคนอื่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ฉินเฟิงเมื่อเห็นฉากดังกล่าว ใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนช กระโจนเข้าไปสังหารแมวสัตว์ร้ายตัวนั้นทันที
ทุกการตวัดไหวของมีดกษัตริย์คราม จะสามารถสังหารสัตว์ร้ายได้
การต่อสู้ดำเนินต่อไปอีกไม่นาน เพียง 20 นาที ฝูงแมวสัตว์ร้ายก็ตระหนักถึงความร้ายกาจของฉินเฟิง ส่งเสียงแง๊วร้องเตือนกันและกัน แยกย้ายหลบหนีไป ตอนแรกพวกมันมีกัน 20 กว่าตัว ปัจจุบันเหลือเพียง 5 ตัวเท่านั้น!
อย่างไรก็ตาม ฝั่งฉินเฟิงสถานการณ์ก็ไม่สู้ดีนัก
ผู้ใช้วรยุทธโบราณคนหนึ่งเสียชีวิต ส่วนอีกสามคนได้รับบาดเจ็บ ไม่อาจร่วมสู้ได้อีก
ใบหน้าของฉินเฟิงไม่น่าดูนัก
พื้นที่ต้องห้ามแห่งนี้ มิใช่สถานที่ให้มนุษย์สามารถยืนหยัดได้จริงๆ
“อา ฉันเสียใจ เสียใจจริงๆ!” หนึ่งในผู้ใช้วรยุทธเทคนิคคู่ขนาน กล่าวด้วยน้ำตาอาบใบหน้า
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส อ่อนแอเกินกว่าจะยื้อไหว
“หุบปากซะ!”
ฉินเฟิงวิ่งเข้ามา ล้วงเอาผ้าพันแผลแล้วพันรอบอกของชายคนนั้น แต่สุดท้ายยังไม่ทันพันเสร็จ ผู้ใช้วรยุทธตรงหน้า ก็สูญสิ้นลมหายใจเฮือกสุดท้ายไปเสียก่อน
--หัวใจของเขาถูกสัตว์ร้ายแทง!
ทั้งคนทั้งร่างของฉินเฟิงซวนเซ แต่สุดท้ายกลับมาสงบนิ่ง
คนอื่นๆก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน สีหน้าของพวกเขาหวั่นไหว
เพราะไม่มีใครอยากตาย
ใบหน้าของฉินเฟิง ค่อยๆกลายเป็นหนักอึ้ง
หึ่ง หึ่ง!
พลันปรากฏประตูมิติขึ้นไม่ไกลจากพวกเขา ตอนนี้ ระหว่างฉินเฟิงกับคนอื่นๆเดินวนไปรอบเมือง ไป๋หลีก็คอยมองตาม สอดส่องจากภายนอกเช่นกัน จะได้ให้การสนับสนุนได้ตลอดเวลา แต่ไม่นึกเลย ว่าแค่พริบตาเดียว จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
“พวกคุณไปเถอะ ไม่ต้องตามมาแล้ว บอกคนข้างนอกด้วย ว่าระดับความอันตรายเพิ่มขึ้น และผมต้องการผู้ใช้วรยุทธที่ฝึกฝนเทคนิคคู่ขนานในระดับเลเวล B ขึ้นไปมาเป็นกำลังเสริม!”
“รับทราบนายพลฉิน!”
“น้อมรับคำสั่งนายพลฉิน!”
คนเหล่านี้รู้สึกขอบคุณพระเจ้า ที่อย่างน้อยก็ไม่ได้ส่งพวกเขาไปตายอีก!