Ep.784 - จัดเตรียมเสบียง
4/6
Ep.784 - จัดเตรียมเสบียง
ฉินเฟิงไม่ได้ใส่ใจ เดินตามออกไป
เมื่อเขาก้าวออกมา คนกลุ่มเดิมที่เคยตะโกนหยุดฉินเฟิงไม่ให้เข้าไปยังมิติทับซ้อนก่อนหน้านี้ ต่างเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังเขา ส่วนเจียงเฮ่าหลินและคนอื่นๆที่เพิ่งรอดชีวิตมาได้ กลับไม่มีใครสนใจแม้แต่น้อย
“โชคดีจริงๆที่มีนายพลฉิน!”
“ฉันไม่นึกเลยว่าเทคนิคฝึกยุทธคู่ขนานของนายพลฉินจะทรงพลังขนาดนี้”
“และต้องขอบคุณรองผู้การไป๋เช่นกัน!”
ทุกคนประทับใจฉินเฟิงกับไป๋หลีมาก ต่างยกยอพวกเขาไม่หยุด เพราะท้ายที่สุดแล้ว เมื่อสถานการณ์อยู่ในรูปแบบนี้ การปรากฎตัวของฉินเฟิงกับไป๋หลี ทำให้ผู้คนบังเกิดความหวังขึ้นอีกครั้ง
ฉินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย แต่มิได้สนใจคำเยินยอของคนอื่นๆ หลังออกจากมิติทับซ้อนอันแปลกประหลาด พลังสมาธิของเขาก็สามารถใช้งานได้อีกครั้ง หนึ่งมือเหยียดออก เรียกใช้อบิลิตี้เรียกน้ำ แทรกซึมตามตัว ชะล้างคราบเลือดออกไป
ฉินเฟิงหันไปมองไป๋หลี พบว่าเวลานี้เธอก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยฝูงชนเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเทคนิคของเธอช่างน่าทึ่งสำหรับทุกคน
“เจ้าสิ่งที่เรียกว่ามิติทับซ้อนแห่งนี้ เธอสามารถจัดการมันได้ไหม?”
แม้ปากจะเอ่ยถามเรื่องนี้ แต่สำหรับคำตอบของมัน ฉินเฟิงไม่ได้คาดหวังมากนักเพราะอย่างไรเสีย ในชีวิตก่อน ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ต้องห้าม และกระทั่งผ่านพ้นไปสิบปีก็ยังแก้ไขไม่ได้ แต่โชคดีที่มันไม่ขยับขยาย กินอาณาเขตมากเกินไป ไม่อย่างนั้นคงวุ่นกันทั้งภูมิภาคเหนือ
เมื่อได้ยิน ไป๋หลีส่ายหัวและกล่าว “สองมิติซ้อนทับกันไปแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะแยกออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้มิติของพวกเราเป็นฝ่ายอ่อนแอกว่า เมืองฉงโหลวได้ถูกรวมเข้ากับมิติของอีกฝั่งแล้ว!”
ฉินเฟิงพยักหน้า กล่าวว่า “งั้นคราวนี้เธอไม่ควรตามเข้าไป ข้างในมันประหลาดมากจริงๆ ไม่มีทางใช้อบิลิตี้หรือพลังสมาธิได้เลย ต่อให้เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านมิติ แต่กลัวว่าถ้าเข้าไปแล้วคงไม่สามารถออกมาได้”
ใบหน้าของไป๋หลีหม่นลงเช่นกัน จิ้งจอกน้อยผู้ไม่เกรงฟ้ากลัวดิน สีหน้ากลายเป็นหนักอึ้งอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
“อันที่จริง ท่ามกลางมิตินับไม่ถ้วน มักปรากฏสถานที่แปลกๆอยู่เสมอ ส่วนสถานที่แบบเดียวกับในเมืองฉงโหลว ตามความทรงจำที่ได้รับสืบทอดมาของฉัน พวกเขาเรียกมันว่าพื้นที่ต้องห้าม จริงอยู่ว่าฉันสามารถช่วยเปิดประตูมิติจากด้านนอกแบบเมื่อกี้ได้ แต่หากเป็นข้างในคงหมดหวัง!”
ไป๋หลีหยุดครู่หนึ่งก่อนกล่าวต่อ “เว้นแต่ฉันจะสามารถไปถึงตำแหน่งปรมาจารย์ควบคุมมิติ ในกรณีนั้นฉันถึงสามารถสั่งการอบิลิตี้ให้แยกมิติออกจากกันได้อย่างอิสระ!”
ฉินเฟิงพอได้ยินคำพูดของไป๋หลี ก็อดนึกถึงคำว่าผู้ควบคุมมิติไม่ได้ เกรงว่าผู้ที่สามารถทำเช่นนั้น คงต้องเป็นผู้ใช้พลังในระดับ SSS
การดำรงอยู่เช่นนั้น ฉินเฟิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอยู่จริงรึเปล่า
“อืม ฉันเข้าใจแล้ว เอาไว้ค่อยพูดถึงมันทีหลัง ตอนนี้พวกเราต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ อาวุธที่ทำจากโลหะหนัก , อาวุธปืนระดับต่ำ , น้ำกับอาหาร และรถศึกที่ไม่มีระบบล่องเวหา!” ฉินเฟิงกล่าวสิ่งที่เขาต้องการอย่างรวดเร็ว
อาวุธปืนระดับสูงล้วนสอดแทรกไว้ด้วยอักษรรูน , ระบบล่องเวหาติดตั้งไว้ด้วยรูนลมเพื่อให้บินได้ ดังนั้นไม่สามารถใช้สิ่งเหล่านี้เข้าไปในมิติทับซ้อน และพวกมันที่อยู่ภายใน ก็ไม่ต่างจากกองเศษเหล็กไร้ค่า
สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ แบบดั้งเดิมนี่แหละเหมาะสมต่อการใช้งานที่สุดแล้ว
คนอื่นๆพอก็ยินคำพูดของฉินเฟิง คล้ายถูกเรียกสติ ‘จริงสินะ ตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือช่วยเหลือคนที่ยังติดค้างอยู่ข้างใน!’
“ตกลง พวกเราจะไปจัดการให้ทันที”
“รีบระดมพลเร็วเข้า!”
ฝูงชนแตกฮือ แยกย้ายกันไปจัดการปฏิบัติภารกิจของตัวเอง
สิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมา สามารถจัดหาได้จากสถานชุมชนเล็กๆรอบเมืองฉงโหลว นอกจากนี้ยังเป็นคำสั่งที่ส่งตรงจากผู้ใช้พลังเลเวล B ฉะนั้นคนอื่นๆคงไม่กล้าไม่ปฏิบัติตาม รถศึกเริ่มทยอยกันมาทีละคัน ทีละคัน แต่สุดท้ายก็เจอปัญหาอีกจนได้
--นั่นคือเรื่องคนขับ!
อาศัยฉินเฟิงเพียงคนเดียวคงไม่ไหว เพราะเมื่อเข้าสู่พื้นที่ต้องห้าม จะไม่สามารถใช้พลังสมาธิได้อีกต่อไป เขาเพียงคนเดียวไม่สามารถควบคุมรถพร้อมกันหลายคันได้
เว้นแต่จะผูกเชือกมันแล้วลากไปด้วยกัน แต่แบบนั้น ในกรณีที่เกิดการต่อสู้ขึ้น น่ากลัวว่าก่อนจะทันได้ใช้ประโยชน์ รถพวกนี้คงถูกทำลายไปก่อน
ฉินเฟิงกวาดสายตาของเขาครู่หนึ่ง ไม่รอให้เขาเอ่ยปากอะไร ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล C สองคนก็ก้าวออกมา
“นายพลฉิน พอดีฉันฝึกฝนเทคนิคยุทธคู่ขนาน ฉันจะไปกับคุณเอง!”
“ใช่แล้ว ฉันก็จะไปกับคุณด้วย!”
“ถูกต้อง ถ้าพวกเราเข้าไป อาจช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้มากขึ้น!”
“พูดได้ดี!”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน หากพวกเขาสามารถหลบหนีออกมาจากข้างในมาได้ คงไม่ต้องการเข้าไปอีกอย่างแน่นอน ทว่าด้วยการดำรงอยู่ของไป๋หลี เห็นได้ชัดว่าเพิ่มความมั่นใจให้แก่พวกเขาขึ้นหลายส่วน
ไป๋หลีสามารถเปิดประตูมิติในมิติทับซ้อนจากภายนอกได้ ฉะนั้นขอเพียงพวกเขาช่วยเหลือผู้คน ก็สามารถขับรถออกมาได้ทันที นอกจากนี้ยังมีฉินเฟิงเป็นคนนำทีม ไม่มีอะไรให้หวาดกลัว
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้รับแต้มสงคราม!
ผู้ใช้วรยุทธโบราณที่ฝึกฝนเทคนิคคู่ขนาน เอาจริงๆแล้วพวกเขาอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างลำบาก ที่คนเหล่านี้เลือกฝึกฝนเทคนิคคู่ขนาน เป็นเพราะกำลังภายในของพวกเขาไม่แข็งแกร่ง เลยจำเป็นต้องกลบข้อด้อยโดยการเพิ่มความทนทานแก่กายเนื้อ ให้สามารถต่อกรกับสัตว์ร้าย เมื่อถึงคราวต่อสู้จริงๆ ก็สามารถใช้กระบวนท่าที่ระเบิดพลังจากร่างกายเข้าปะทะได้
แต่เมื่อเลือกหนทางนี้แล้วก็ต้องฝึกฝนไปเรื่อยๆ ไม่มีทางถอย และเมื่อมีโอกาสที่ดีในการแสดงพลัง พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะละทิ้งมันไป
สถานที่อันแปลกประหลาดเช่นนี้ บางทีอาจเป็นสรวงสวรรค์ของพวกเขาเลยก็ได้!
ฉินเฟิงพยักหน้าอนุมัติ เมื่อมีฉินเฟิงกับไป๋หลี คนอื่นๆก็ค่อยสงบใจลง และช่วยกันคิดวิธีหาทางออก
“เร็วเข้า รีบยื่นเรื่องร้องขอกำลังเสริม เอาเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณที่ฝึกฝนเทคนิคคู่ขนาน และมีความแข็งแกร่งในเลเวล D ขึ้นไป รีบนำพวกเขาไปช่วยชีวิตผู้คน!”
“ขอรับท่านนายพล!”
“จะปฏิบัติทันที!”
“ส่งคำร้องไปยังตึกผู้ใช้พลัง!”
รอบบริเวณกลายเป็นวุ่นวายอีกครั้ง
ในระหว่างนั้นเอง เจียงเฮ่าหลินที่พักผ่อนอยู่ ก็เดินเข้ามา
“นายพลฉิน ขอคุยด้วยสักครู่สิ”
ฉินเฟิงพยักหน้า เดินตามเจียงเฮ่าหลินออกไปด้านข้าง
เจียงเฮ่าหลินปลดปล่อยโล่พลังสมาธิ ป้องกันไม่ให้ผู้อื่นได้ยินบทสนทนา ผู้ใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือเลเวล B ดังนั้นย่อมไม่สามารถตรวจสอบสิ่งที่พวกเขาพูดได้
“ในเมืองฉงโหลว น่าจะมีผู้ใช้พลังเลเวล B อีกราวๆเจ็ดคน ในบรรดาพวกเขา มีสามคนน่าจะอยู่ในสำนักงาน , หนึ่งในตึกผู้ใช้พลัง , อีกสองคนน่าจะหลบอยู่ในห้องลับในบ้าน ….”
เจียงเฮ่าหลินบอกตำแหน่งของคนอื่นๆ แต่ในตอนท้ายเขากลับลำบากใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายกัดฟันกล่าว “และฉันหวังว่าถ้าคุณว่าง คุณพอจะช่วยภรรยาของฉันด้วยได้ไหม เธอสมควรอยู่ในเขตพื้นที่วิลล่า ยังไม่น่าจะออกไปไหน”
ฉินเฟิงมองอีกฝ่าย
ตอนนี้ดันมาคิดช่วยเมีย ทั้งๆที่ตอนแรกเสนอหน้าหนีออกมาก่อนใครเพื่อน
แต่ช่างเถอะ ฉินเฟิงไม่ใส่ใจ “ช่วยได้ก็จะช่วย แต่ถ้าเธอตกอยู่ในอันตรายก่อนที่ผมจะไปถึง ก็คงต้องแล้วแต่บุญกรรม”
สีหน้าของเจียงเฮ่าหลินหม่นลงเล็กน้อย แต่ยังคงกัดฟันกล่าว “นายพลฉิน จริงอยู่ว่าภรรยาของฉันเป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล D อาจไม่ควรค่าให้ช่วยเหมือนเลเวล B คนอื่นๆ แต่เธอคือเพื่อนสมัยเด็กของฉัน พวกเราอยู่ด้วยกันมา 30-40 ปี ถ้าไม่ใช่เพราะตำแหน่งตอนเกิดเรื่องฉันอยู่ใกล้ชานเมือง และถนนถูกปิดกั้นด้วยพืชกลายพันธุ์ ฉันคงไม่ได้มายืนอยู่ที่นี่ และถ้าไม่ได้พบคุณ ฉันคงกลับเข้าเมืองไปแล้ว!!”
ที่เจียงเฮ่าหลินตกอยู่ในสถานการณ์อึดอัดใจเช่นนี้ เพราะตนเป็นผู้ใช้อบิลิตี้ ในมิติทับซ้อนไม่มีความสามารถในการต่อสู้ กระทั่งตอนนำคนอื่นๆออกจากสถานที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เขายังถูกเขม่นเล็กน้อย แล้วจะไปสั่งให้คนอื่นๆกลับเข้าเมืองเพื่อช่วยภรรยาได้อย่างไร
ตอนนี้ได้แต่นึกแล้วก็เสียใจ!
“ตกลง เข้าใจแล้ว ผมจะพยายามให้ดีที่สุด”
ฉินเฟิงเริ่มจริงจังมากขึ้นในเวลานี้
เจียงเฮ่าหลินกล่าวอีกครั้ง “ยังไงก็ตาม นายพลฉิน รู้หรือไม่ว่าในเมืองฉงโหลว มีคลังสมบัติอยู่ด้วย!”
คลังสมบัติแห่งนี้ก็เป็นเหมือนกับคลังของเมืองอื่นๆที่เก็บรางวัลสำหรับการแลกเปลี่ยนแต้มสงครามกับผู้ใช้พลังภายในเมืองเอาไว้ มันมีสมบัติอยู่เยอะมากๆ แน่นอน ว่าไม่ได้มีของล้ำค่าจนเกินไป แต่ปริมาณมหาศาล คงน่าเสียดายหากต้องสูญเสียมันไปทั้งหมด เจียงเฮ่าหลินเลยหวังว่าฉินเฟิงจะสามารถขนพวกมันบางส่วนออกมาได้
