Ep.783 - เทคนิคคู่ขนาน
3/6
Ep.783 - เทคนิคคู่ขนาน
ฉัวะ!
เสียงใบมีดเฉือนเข้ามาในเนื้อ ตามมาติดๆด้วยเสียงร้องอันน่าหวาดกลัวของราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C
ร่างของมันสั่นสะท้าน ชายที่เหยียบอยู่บนหลังมัน ถูกสะบัดลอยออกไปทันที
ฉินเฟิงใช้พละกำลังของเขา หมุนตัวกลางอากาศ เคลื่อนไหวว่องไวและดุดัน แต่ไม่ได้ใช้พลังสมาธิหรือกำลังภายใน อาศัยเพียงสองขาร่อนลงกับพื้น สองมือวางลงบนดิน ลากยาวไปไกลกว่า 3 เมตรถึงค่อยสลายแรงเหวี่ยงลงได้ หากเป็นคนธรรมดา หรือผู้ใช้อบิลิตี้ที่มีเนื้อหนังอ่อนนุ่ม เกรงว่าตอนนี้ฝ่ามือคงเละไปแล้ว!
โชคยังดี ที่ร่างกายของฉินเฟิงได้รับการยกระดับนับครั้งไม่ถ้วน เลยไม่ได้รับบาดเจ็บจากแรงเสียดทานนี้
แต่กระนั้น วิกฤตก็ยังไม่ผ่านพ้นไป
“โฮกกก!”
ราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C สาดประกายดวงตาดุร้ายโหดเหี้ยม จ้องมองมายังฉินเฟิง
ขณะนี้ บริเวณคอของมัน ปรากฎหลุมเลือดขนาดใหญ่จนเห็นได้ชัด ขนาดของมีดกษัตริย์ครามในมือฉินเฟิง ไม่เพียงใหญ่โต แต่ยังครอบครองคุณสมบัติสั่นพันครั้ง ส่งผลให้บาดแผลขยายใหญ่ขึ้นจากแรงสะเทือน
แต่เมื่อเทียบกับร่างสูงเท่าตึกสามชั้นของศัตรู และลำคอที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางยาวกว่า 7 - 8 เมตรแล้ว เกรงว่าการโจมตีเมื่อครู่ อาจเป็นแค่การสะกิดบาดแผลตื้นๆบนผิวหนังเท่านั้น
ฉินเฟิงอดขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
“โจมตีตรงส่วนหัวน่าจะส่งผลมากกว่า!”
บางทีหากแทงทะลุกะโหลก น่าจะสามารถสังหารอีกฝ่ายได้!
อย่างไรก็ตาม ราชันย์สัตว์ร้ายเมื่อถูกทำร้ายก็โกรธแค้น มันไม่ปล่อยโอกาสให้ฉินเฟิงหาจังหวะ กระโจนเข้าใส่ฉินเฟิงอย่างบ้าคลั่ง อุ้งเท้าใหญ่ฟาดตบลงมา
“อ๊าาา!” กลุ่มคนก่อนหน้านี้ กรีดร้องเสียงหลง
“ระวัง!” ผู้หญิงในกลุ่ม เมื่อเห็นฉินเฟิงถูกโจมตี ก็กรีดร้องดั่งกระต่ายตื่นตูม ความสิ้นหวังสะท้อนในแววตาของเธอ หวาดกลัวจนร้องไห้ออกมา
“พวกเราถอยกลับกันเถอะ วิ่งเร็ว!”
“แต่ถ้าเราหนีไปแล้วเขาเล่า? เขามาที่นี่เพื่อช่วยพวกเรานะ!”
“เขากำลังจะตาย! แล้วถ้าพวกเรายังรั้งอยู่ พวกเราก็จะตายเหมือนกัน!”
ในกลุ่มเล็กๆ เกิดการโต้เถียงกันขึ้น
เมื่อเห็นอุ้งเท้ายักษ์ฟาดลงมาต่อหน้าต่อหน้า หากเวลานี้พวกเขามีพลัง คงฟาดฝ่ามือสวนกลับอย่างไม่ลังเล ส่งราชันย์สัตว์ร้ายตัวนี้ปลิวออกไปแล้ว
แต่ตอนนี้พวกเขาทำไม่ได้! และอีกอย่าง ต่อให้คนที่ก้าวเข้ามาช่วยสามารถโจมตีราชันย์สัตว์ร้ายได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถทานรับแรงตะปบนี้
ชนิดที่ว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะถูกสัตว์ร้ายตบบี้กลายเป็นเนื้อบด!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาจินตนาการ มันมิได้เกิดขึ้น
ฉินเฟิงกวัดแกว่งมีดกษัตริย์ครามสวนออกไปอย่างไม่ลังเล
อุ้งเท้าของสัตว์ร้ายถูกแทงทะลุทันที เลือดสดๆทะลักออกมา กระเซ็นท่วมร่างของฉินเฟิงจนเต็มไปด้วยกลิ่นสาบฉุน
“ว๊ากกกก” ฉินเฟิงคำรามลั่น พลังอันน่าหวาดกลัวปะทุจากร่างเขา
วินาทีต่อมา ร่างใหญ่ของสัตว์ร้าย ภายใต้เสียงคำรามของฉินเฟิง ร่างใหญ่เริ่มซวนเซถูกผลักดันกลับไป!
ฉินเฟิงฉวยโอกาสนี้โจมตีไล่ไขว่คว้าชัยชนะ มีดกษัตริย์ครามในมือสะบั้นอีกครั้ง ผ่าอุ้งเท้ายักษ์ขาดเป็นสองซีกทันที
โดยมิได้ใช้ออกด้วยกระบวนท่าใดๆ พอไม่สามารถใช้งานอบิลิตี้และวรยุทธโบราณ สิ่งเดียวที่พึ่งพาได้คือพละกำลังจากในร่างกายเท่านั้น
ฉินเฟิงไม่ต่างจากนักแล่เนื้อ ตรงเข้าเฉือนเข้าฟัน หั่นเนื้อของสัตว์ร้ายกระเด็นกระดอนนับชิ้นไม่ถ้วน
แต่ละการโจมตีของมีดกษัตริย์คราม สร้างบาดแผลแก่ราชันย์สัตว์ร้ายลึกกว่า 1 เมตร ด้วยกระบวนการนี้ แต่ละการโจมตีของฉินเฟิงสามารถแล่ชิ้นเนื้อสัตว์ร้ายได้ก้อนใหญ่!
ผู้คนที่เดิมรู้สึกหมดหวัง ช่วงเวลานี้ต่างเบิกตากว้างจ้องมองฉากตรงหน้าที่กำลังปกคลุมไปด้วยเลือดด้วยความตกตะลึง
พวกเขาไม่เคยนึกฝันเลย ว่าผลลัพธ์จะออกมาในรูปแบบนี้
ระหว่างหลบหนีออกจากเมือง พวกเขาถูกไล่โจมตีตลอดเส้นทาง แทบเอาชีวิตไม่รอด ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายจำนวนมาก มีหลายคนเสียชีวิตตกตาย --หลังผ่านพ้นเหตุการณ์เช่นนี้มา แล้วพวกเขาจะไม่ทราบได้อย่างไรว่ามนุษย์อ่อนแอแค่ไหนหากไร้ซึ่งพลังสมาธิและกำลังภายใน
มนุษย์ต่ำต้อยเพียงใด พวกเขาได้ลิ้มรสมันด้วยตัวเองแล้ว ฉะนั้นเพียงเห็นการโจมตีจากสัตว์ร้าย ก็พอคาดเดาได้ถึงผลลัพธ์
ทว่าตอนนี้ คนที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา แม้ไม่สามารถใช้วรยุทธหรืออบิลิตี้ แต่กลับสามารถสังหารราชันย์สัตว์ร้ายได้อย่างกะทันหัน ทั้งหมดรู้สึกว่ามันยากนักที่จะเชื่อ
“ได้รับความช่วยเหลือแล้ว ... พวกเรารอดแล้ว!”
“นี่-นี่จะต้องเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณคู่ขนานเลเวล B อย่างแน่นอน ยอดไปเลย!”
“เร็วเข้า รีบปกป้องนายพลเจียงออกไป!”
ผู้คนในกลุ่มตะโกนเรียกสติกันเอง แต่เมื่อมองไปยังกำแพงหมอก และทิวทัศน์แปลกตาที่อยู่เบื้องหน้า ทั้งหมดก็จมสู่ความเงียบ ความสิ้นหวังเริ่มเกาะกุมพวกเขาอีกครั้ง
นี่พวกเขา … จะรอดชีวิตไปได้จริงๆใช่ไหม?
ช่วงเวลานี้ ในที่สุดฉินเฟิงก็สามารถสังหารราชันย์เลเวล C ลงได้ เอาจริงๆแล้วตามปกติ ด้วยความแข็งแกร่งของเขา สัตว์ร้ายเลเวลเท่านี้ ไม่แม้จะสามารถเฉียดเข้ามาใกล้เขาในระยะ 100 เมตร เพียงก้าวเข้ามาในรัศมีจะถูกสังหารทันที แต่ตอนนี้ แค่การสังหารมัน กลับทำให้ฉินเฟิงเหงื่อท่วมไปทั้งตัว
“ฟู่ว …” ฉินเฟิงผ่อนลมหายใจออกมา
ส่วนคนอื่นๆได้มารวมตัวอีกครั้ง
มองมายังตราสัญลักษณ์บนอกเสื้อที่ท่วมไปด้วยเลือดของสัตว์ร้าย และฉากที่สามารถสังหารราชันย์เลเวล C ลงได้โดยไม่อาศัยกำลังภายในกับพลังสมาธิ หลายคนก็สามารถระบุสถานะของฉินเฟิงได้
“เกรงว่าคนๆนี้คงเป็นผู้การรัฐทะเลเหนือ”
“ไม่น่าจะผิดแล้ว ยังหนุ่มถึงขนาดนี้ แต่สามารถก้าวมาได้ถึงเลเวล B และพละกำลังมหาศาลเช่นนี้ สมควรเป็นเขา!”
“ว่าแต่คนๆนี้ไม่ใช่ผู้ใช้อบิลิตี้หรอกหรือ?”
“เรื่องนั้นฉันก็ไม่แน่ใจ แต่เดาได้เลยว่าคนตรงหน้านี่แหละคือเขา!”
คนเหล่านี้เมื่อยืนยันสถานะของฉินเฟิงได้ หัวหน้ากลุ่มที่เป็นเลเวล B ก็ก้าวออกมา
เขาคือหัวหน้ากองทหารรักษาการณ์แห่งเมืองฉงโหลว --เจียงเฮ่าหลิน
วันนี้เจียงเฮ่าหลินบังเอิญออกตรวจตราบริเวณขอบชานเมืองพอดี จึงรวมกลุ่มกับทหารรักษาการณ์ที่กระจายตัวอยู่บริเวณใกล้เคียง กลายเป็นกลุ่มแรกที่สามารถหลบหนีออกมา
สีหน้าของเจียงเฮ่าหลินดูกระอักกระอ่วนและหดหู่เล็กน้อย
“นายพลฉิน ขอบคุณที่ช่วยชีวิต! ถ้าไม่มีคุณ บางทีพวกเราอาจต้องตายที่นี่”
“อา ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอก ขอบคุณท่านจ้าวพรมแดนที่ส่งภารกิจมาดีกว่า” ฉินเฟิงตอบเสียงเย็น ก่อนหน้านี้เขาได้ยินเต็มสองหู ว่าคนเหล่านี้คิดละทิ้งตนแล้วหลบหนีไป ฉินเฟิงกวาดสายตาไปยังหลายคนที่เอ่ยปากพูดเมื่อครู่ พวกเขาก้มหน้างุดทันที ไม่กล้าสบสายตาฉินเฟิง
ปัจจุบันพวกเขาไร้อำนาจในฐานะผู้ใช้พลัง ดังนั้นหวั่นเกรงความตาย ใครจะรู้ฉินเฟิงอาจโกรธแค้นแล้วสังหารพวกเขาก็ได้
“จะยังไงก็ตาม เรื่องนี้ต้องขอบคุณจริงๆ น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถเปิดอุปกรณ์รูนมิติได้ในตอนนี้” เจียงเฮ่าหลินกล่าว
สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ เขามีสถานะเป็นผู้ใช้อบิลิตี้ กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ที่สุดในปัจจุบัน ในช่วงแรก เขายังคงสามารถรักษาอำนาจสั่งการ เพื่อควบคุมลูกน้องเอาไว้ได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน คนที่อยู่ในกลุ่มของเขา ต่างเกิดความคิดต่างๆนาๆในหัวใจ แต่ข้อสรุปคล้ายคลึงกันนั่นคือ--
--ไม่มีใครอยากพาตัวภาระร่วมเดินทางไปด้วย!
และนี่เอง คือเรื่องที่เจียงเฮ่าหลินกังวลมากที่สุด รองลงจากเรื่องโลกภายนอก
“นายพลฉิน ตอนนี้จ้าวพรมแดนหาทางออกได้หรือยัง? สถานการณ์ภายในเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง เจ้าสิ่งนี้ใช่ … ใช่มิติทับซ้อนหรือไม่?” เจียงเฮ่าหลินเห็นได้ชัดว่ามีความรู้กว้างขวาง มองจากสิ่งที่เกิดขึ้นก็สามารถคาดเดาได้
อีกอย่าง ครั้งล่าสุดที่มนุษย์หลุดเข้าไปในมิติทับซ้อน ผู้ใช้พลังที่สามารถออกมาได้ก็กล่าวถึงสภาพแวดล้อมประมาณนี้เช่นกัน
ปัจจุบัน ทิวทัศน์ที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตร นอกกำแพงหมอก มันไม่ใช่ฉากภายนอกของเมืองฉงโหลวอีกต่อไป เจียงเฮ่าหลินคาดเดาเอาไว้แล้ว!
แต่ประเด็นก็คือ ผู้ใช้พลังเลเวล A ที่อยู่ในมิติทับซ้อนได้นับหลายปีคนนั้นเนี่ยสิ เขาสามารถอยู่นานขนาดนั้นได้อย่างไร?
ขนาดตนแค่วันเดียวยังเอาชีวิตไม่รอด เจียงเฮ่าหลินไม่อาจจินตนาการได้จริงๆ
คล้ายตระหนักถึงสถานการณ์ยากลำบากของเจียงเฮ่าหลิน ฉินเฟิงเอ่ยปากขึ้น “มากับผม”
ฉินเฟิงหันหลังและเดินออกไป
ฝูงชนราวกับถูกกระชากสติ วิ่งตามฉินเฟิงไปทันที
แต่ในตอนนั้นเอง เบื้องหน้าพวกเขา จู่ๆพลันปรากฏรังสีแสงสีเงิน
รังสีนี้ ค่อยๆขยายตัว ช่องว่างมิติขนาดกว้าง 2 เมตรถูกเปิดออก
กลุ่มผู้ใช้พลังตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นสีหน้าท่าทีต่างแสดงออกถึงความปลาบปลื้ม!
“ออกไปได้แล้วจริงๆ?”
“ยอดไปเลย รีบวิ่ง! รีบไปเร็วเข้า”
“ฉันไม่อยากอยู่ในสถานที่เลวร้ายแบบนี้อีกต่อไปแล้ว!”
คนในกลุ่มสนทนา เร่งฝีเท้าทันที เบียดแซงฉินเฟิง ทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง