ตอนที่แล้วบทที่ 36 เพื่อน (5)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 38 เพื่อน(7)

บทที่ 37 เพื่อน (6)


“ฉันเดาว่านี่คงไม่ใช่ใบหน้าที่คุณกำลังคาดหวัง ฉันขอโทษด้วยที่ต้องทำให้คุณผิดหวัง”

“พะ...เพเรียน”

ใบหน้าของแพทริคเปลี่ยนเป็นสีขาว

เพเรียนจุน

เขาเป็นเชื้อสายของตระกูลจุนซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลขุนนางที่สำคัญที่สุดในจักรวรรดิและมีอำนาจเป็นรองแค่ตระกูลของจักรพรรดิ เขายังเป็นอัจฉริยะที่สถาบันเวสต์โร้ดอีกด้วย

เมื่อเขาไปถึงระดับ 4 ดาวตอนอายุต่ำกว่า 20 ปี มันก็ทำให้เกิดเสียงฮือฮาในจักรวรรดิไปชั่วขณะ

แพทริคไม่เคยเลยในความทรงจำของเขา ที่ถูกเหยียบหยามได้ขนาดนี้มาก่อน

ตระกูลเดอร์ซิดี้มีอำนาจมากจนไม่เคยก้มหัวให้ใครก็จริงแต่สำหรับตระกูลจุนเรื่องนั้นเป็นข้อยกเว้น

เพเรียนเป็นขุนนางในหมู่ขุนนางและผู้ติดตามของเขาก็จะมีเกินครึ่งหนึ่งของขุนนางทั้งหมดในเมืองหลวง

อย่างน้อยในโลกโซเชียลการทำให้เขากลายเป็นศัตรูก็ไม่ต่างกับการกัดลิ้นตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย

ใบหน้าของแพทริคซีดจนเป็นสีขาว

เขาต้องพูดอะไรบางอย่าง แต่จิตใจของเขาว่างเปล่าและเขาคิดอะไรไม่ออก

เพเรียนยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเยือกแข็งของเขา

“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ฉันจะต้องขออนุญาตจากตระกูลเดอร์ซิดี้ถึงจะเชิญเพื่อนของฉันได้? รวมถึงงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในนามของฉันด้วย”

“นะ- นั่นไม่ใช่…”

“นักเรียกในสถาบันเวสต์โร้ดไม่มีความสามารถ? นั่นเป็นคำพูดแปลกๆ เช่นกันเท่าที่ฉันรู้คุณเองก็ยังสอบเข้าสถาบันไม่ผ่านเลยนิ”

“ฉันฉัน…”

ปากของเขาเปิดแต่กลับไม่มีคำพูดใดๆ ออกมา

ขุนนางคนอื่นๆ ก็พูดคุยกันขณะที่มองเฟรย์ด้วยความประหลาดใจ

นั้นเพื่อนของเพเรียนจุน?

ใครกัน?

เฟรย์เบลค?

เป็นไปได้ไง?

มีใครบ้างที่เพเรียนเคยเอ่ยปากเรียกว่าเพื่อน?

ขณะที่แพทริคยืนพูดตะกุกตะกักโดยไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ สายตาเย็นชาของเพเรียนก็หันไปมองกัสปา

ในขณะนั้นกัสปาสะอึกโดยไม่รู้ตัวก่อนจะรีบปิดปากอีกครั้ง

"และนายคือ?"

“กะ - กัสปา…เปเลรอส”

“เปเลรอส?”

ในขณะนั้นกัสปามองเห็นความสับสนชัดเจนในดวงตาของเพเรียน เห็นได้ชัดว่าเพเรียนไม่เคยได้ยินชื่อสกุลของเขามาก่อน

ในตอนแรกเขาคงรู้สึกอับอายกับความจริงนั้น แต่ดวงตาของเพเรียนนั้นเย็นชามากในขณะนั้นเขาไม่สามารถแม้แต่จะคิดถึงเรื่องนี้ได้

"แล้วนายล่ะ?"

“พวก - เราเออ…”

“ผู้หญิงคนนั่นไง…เราก็แค่อยากคุยด้วย…”

หลังจากนั้นเสียงก็จางหายไป ในที่สุดพวกเขาก็เป็นเพียงฝูง "ไฮยีน่า" เท่านั้น

พวกเขารู้แค่วิธีที่จะรังแกผู้อ่อนแอกว่าเป็นร้อยวิธี แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งกว่า พวกเขารู้แค่วิธีที่จะก้มหัวให้เท่านั้น

พวกเขาไม่สามารถพูดอะไรต่อหน้าเพเรียนซึ่งเป็นเจ้าของงานเลี้ยงได้

เพเรียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างมากกว่านี้ แต่กลับปิดปากของเขาช้าๆแล้วมองไปรอบๆ

“…”

เขารู้สึกอายเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นบรรยากาศที่ตึงเครียดและหนาวเหน็บ

ดูเหมือนว่าในที่สุดเขาก็สงบลงได้แล้ว

เขาหายใจเข้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มทันที

“…ขอขอบคุณทุกๆคนที่มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้”

เขายกคางขึ้นแล้วเดินไปที่ตรงกลางห้องโถง

ขณะที่เพเรียนพูดบรรยากาศอันหนาวเหน็บในห้องโถงก็เริ่มเบาลง

ไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นใดๆ กับการที่เพเรียนได้การแสดงความโกรธเมื่อครู่นี้

แพทริคและผู้ติดตามรวมทั้งกัสปารีบหลบไปที่มุมของงานเลี้ยงและหวังว่าพวกเขาจะถูกลืม

เฟรย์หันกลับมาและเอ็นโซที่อยู่ใกล้เขาก็เดินเข้ามา

เขามองไปที่ด้านหลังของแพทริคที่กำลังหลบอย่างเย็นชา

“ฮึ่มชื่อของเดอร์ซิดี้ต้องเสียหายเพราะคนอย่างเขา นายสบายดีไหม?”

"ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของพวกนายนะ"

เอ็นโซและคนอื่นๆ หัวเราะอย่างประหลาดใจในเรื่องนั้น

“ฉันไม่อยากถูกหาเป็นคนขี้ขลาดที่ไม่คิดจะตอบแทนนายหรอกนะ”

“ขอบคุณที่ทำให้ฉันได้พักหายใจ”

ขณะที่เฟรย์ก้มหน้าเบาๆ เอ็นโซก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

เฟรย์ดูเย็นชามากจนเขาคาดว่าจะถูกตำหนิเพราะเข้ามาแทรกแซงในสถานการณ์ที่เขาไม่ต้องการ

การแสดงออกของเอนโซดูโล่งอกอย่างมากเมื่อเห็นสิ่งนี้

“เราต่างหากที่ต้องขอบนาย อีกอย่างเรายังไม่ได้ตอบแทนหนี้นายสักนิดเลย หากนายไปเยี่ยมที่ตระกูลของฉันฉันจะตอบแทนให้อย่างเหมาะสมเลยละ”

"อืม"

“ใช่แล้ว…เพเรียนมาโนนแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”

พรรคพวกของเอ็นโซก้าวออกไปและเพเรียนที่เพิ่งพูดจบก็เดินมา

“ฉันรู้ว่านายโกรธ”

“ก็ฉันเป็นมนุษย์คนหนึงนิ”

“บรรยากาศพังเพราะฉันหรือเปล่า?”

"นายไม่ได้ทำอะไรเลยนิ? โหว…เป็นเวลานานเท่าไหร่แล้วที่หัวของฉันไม่ได้เดือดแบบนี้”

เพเรียนถอนหายใจ

เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะเขาไม่สามารถควบคุมความโกรธได้

เฟรย์จิบไวน์ก่อนจะพึมพำ

"ขอบใจนะ"

"ฮะ?"

“ถ้านายไม่เข้าไปแทรกแซงแล้วละก็ งานเลี้ยงก็คงจะกลายเป็นเรื่องยุ่งเหยิงและฉันก็คงไม่มีหน้าไปพบนายได้”

“ฮ่าฮ่า เรื่องมันจะไปไกลถึงขนาดให้เกิดความปั่นป่วนเลยหรือ?”

เพเรียนหัวเราะด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้น

โซเนียไม่สามารถพูดแทรกขณะฟังการสนทนาของพวกเขาได้

ราวกับว่ามันเป็นพื้นที่สำหรับพวกผู้ชายเท่านั้นเธอจึงไม่สามารถแม้แต่จะอ้าปากได้ไม่ว่าพวกเขาจะสังเกตเห็นเธอก็ตาม

“…เหตุการณ์ที่คอร์เตซ ถ้าหากเป็นที่รู้กันในวงกว้างทัศนคติของคนเหล่านั้นจะเปลียนไปมาก”

“นายหมายถึงอะไร?”

“มีการปกปิดเหตุการณ์อยู่ เพราะแบบนี้ข่าวนี่เลยยังไม่ค่อยมีใครรู้มากนัก มีเรือรบสองลำเสียหาย หากมีข่าวว่าพวกเขาหมดหนทางเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามมันจะส่งผลกระทบต่อสถานะของจักรวรรดิ…”

เพเรียนถอนหายใจอีกครั้ง

เรื่องราวถูกปิดกั้น ดังนั้นมีเพียงแต่ขุนนางเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งขุนนางจากต่างจังหวัดและผู้คนอย่างแพทริคที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการในอาณาจักรมากนักคงจะไม่เคยได้ยินเรื่องราวนี่

“ไม่เป็นไรหรอก”

เขารู้ว่ามันจะไม่ถูกซ่อนไว้ตลอดกาล แต่เฟรย์รู้สึกเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องยึดติดมากเกินไปในตอนนี้

เพเรียนมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ

“นายเป็นคนแปลกจริงๆ หากความจริงถูกเปิดเผยสถานะของนายจะดีขึ้นอย่างน้อยสองสามเท่าเป็นเชียวนะ”

“เป็นเพราะฉันไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ยังไงละ”

“ฉันก็คิดอย่างนั้น”

เมื่อเขาพูดอย่างนั้นเพเรียนก็หัวเราะออกมา

“นายคุยอะไรกับพ่อของฉัน?”

“…เขาถามว่าฉันเป็นส่วนหนึ่งของโทร์วแมนริงส์หรือไม่”

“…”

มือของเพเรียนที่กำลังจะยกแก้วไวน์ขึ้นมาที่ริมฝีปากของเขาหยุดลง

เขาส่งสายตาแปลกๆ ไปที่เฟรย์แต่ก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นโซเนียอยู่ข้างๆเขา

"…ใช่ดูเหมือนว่าในที่สุดนายก็สนใจที่จะเข้าร่วมชมรมของเราแล้วใช่มั้ย?”

"อาจจะ"

“ฉันอยากจะลงรายละเอียดมากกว่านี้ แต่ที่นี่เสียงดังเกินไป”

เฟรย์พยักหน้าจากนั้นเขาก็พูดถึงแผนการของเขาในอนาคต

“ฉันจะไม่กลับไปเรียนที่สถาบันแล้วนะ”

"ฮะ?"

“ที่นั้นไม่มีอะไรให้ฉันเรียนรู้ได้อีกแล้ว”

มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดแต่เพเรียนกลับไม่แปลกใจ

เขาลูบคางของเขาสักครู่พลางครุ่นคิดก่อนที่จะพูด

“แล้วนายจะไปที่ไหน?”

“ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ …ก่อนอื่นฉันต้องฟื้นสภาพร่างกายก่อน”

เฟรย์พูดขณะมองไปที่ข้อมือที่ผอมบางของเขา

“…ฉันคิดว่าฉันต้องเพิ่มน้ำหนัก”

"นั่นเป็นความคิดที่ดี ตอนนี้นายดูผอมเกินไป”

เพเรียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูด

“แล้วหอคอยเวทมนตร์ล่ะ?”

“หอคอยเวทมนตร์?”

"ใช่ แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะมีราคาแพงสักหน่อย แต่ก็มีศูนย์ฝึกอบรมต่างๆและหนังสือมีค่ามากมายที่หาไม่ได้จากภายนอก นอกจากนี้ยังมีพ่อมดที่เก่งกาจอีกมากมายดังนั้นหากนายมีข้อสงสัยใดๆ นายจะสามารถหาคำตอบที่นั้นได้ทันที”

“อืม...”

เฟรย์คิดว่าข้อเสนอของเพเรียนนั้นน่าสนใจทีเดียว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเท็จจริงที่ว่ามีหนังสือที่มีค่ามากมายที่นั่น

ริมฝีปากของเพเรียนโค้งขึ้นเล็กน้อยขณะที่เขาพูดต่อ

“แน่นอนนายต้องผ่านการทดสอบ”

"การทดสอบ?"

“ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร มันก็คงจะเป็นเรื่องชิวๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนาย”

“น่าเสียดายที่ฉันจะไม่ได้เห็นใบหน้าของพวกพ่อมดเมื่อพวกเขาเห็นความสามารถของนาย”

“…?”

เฟรย์เริ่มอยากรู้มากขึ้้น แต่เขาก็ไม่ได้ถามเพราะเขารู้ว่าเพเรียนจะไม่บอกเขาแม้ว่าเขาจะถามก็ตาม

“ถ้านายใช้ชื่อของตระกูลจุนนายก็จะได้รับการปฏิบัติอย่างดี”

“ฉันไม่จำเป็นต้องทำ”

“ฉันคิดไว้แล้วว่านายคงพูดแบบนั้น”

ทั้งสองคนชนแก้วไวน์ของพวกเขา

ในขณะนั้นเองที่เพเรียนก็สะดุ้งก่อนที่จะมองไปที่โซเนีย

"อา..มารยาทของผมไม่ดีเอาเสียเลย เราไม่ได้ให้ความสนใจกับคุณเลยนะโซเนีย ผมขอโทษ"

“…ไม่เป็นไร”

โซเนียที่ได้ฟังบทสนทนาของพวกเขาทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นและรู้สึกอิจฉาความสัมพันธ์ของพวกผู้ชาย

หลังจากนั้นทั้งสามคนก็มีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันและแบ่งปันเรื่องราวส่วนตัวและงานเลี้ยงก็จบลงโดยไม่มีปัญหาอีกต่อไป

* * *

เช้าวันรุ่งขึ้นแดฟกอนมาหาเฟรย์อีกครั้ง

“นายท่านอยากคุยกับคุณครับ”

“ตอนนี้เลย?”

“เขากำลังรออยู่ที่สวนบนดาดฟ้าและเขาบอกว่าให้ไปหาเขาเมื่อคุณว่าง…”

นั่นเป็นคำพูดของเขาแต่มันก็ไม่สุภาพที่จะทำให้เจ้าของบ้านต้องรอ

เนื่องจากเขาไม่มีอะไรจะทำเขาจึงมุ่งหน้าไปบนคาคฤหาสน์ทันที

เชพเพิร์ดกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ระเบียง

“คุณจะไปไหนหลังจากนี้?”

“คุณไม่ได้คุยกับเพเรียนไปแล้วหรือ?”

“การถามเขาเกี่ยวกับคุณมันไม่สุภาพนะ”

เฟรย์บอกเขาอย่างตรงไปตรงมาเนื่องจากเขาไม่มีอะไรจะปิดบัง

“ผมจะเข้าไปในหอคอยเวทมนตร์”

“หอคอยเวทมนตร์? อืม...มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าไปหากเป็นคุณ”

เชพเพิร์ดเดาคร่าวๆเกี่ยวกับระดับปัจจุบันของเฟรย์เขาเดาได้ว่าเฟรย์อยู่ในระดับอย่างน้อย 5 ดาว

“ผมได้ยินมาว่ามีหนังสือมากมายที่นั่นที่ไม่ได้จากภายนอก ผมยังอยากรู้เพิ่มเกี่ยวกับศูนย์ฝึกอบรม”

“อืม…งั้นฉันขอแนะนำหอคอยเวทมนตร์ที่ 3 ในเรืองของเวทย์มนต์อาจจะไม่สูงเท่ากับหอคอยอื่นๆ แต่หากพูดถึงหนังสือเวทย์มนต์ที่นั้นเป็นที่ดีที่สุดในบรรดาหอคอยทั้งหมด”

“หอคอยเวทมนตร์ที่ 3”

มีความแตกต่างอย่างมากในบรรดาพ่อมดจากหอคอยเวทมนตร์แต่ละแห่ง

หอคอยเวทมนตร์แห่งที่ 3 เป็นสถานที่ที่มีนักเล่นแร่แปรธาตุมากที่สุดจากที่เฟรย์จำได้

นอกจากนี้ยังหมายความว่ามันมีบรรยากาศที่สงบกว่าเมื่อเทียบกับสถานที่ต่างๆเช่น หอคอยเวทย์มนต์ แห่งที่ 1 ที่มีการต่อสู้มากที่สุดหอคอยเวทมนตร์แห่งที่ 2 ซึ่งอุทิศให้กับการพัฒนาคาถาใหม่หรือหอคอยเวทย์มนตร์ที่ 4 ซึ่งถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักรบเวทมนตร์

ไม่มีหอคอยอื่นใดที่จะให้เขาได้ใช้เวลาเงียบๆได้เลย

“ผมจะทำตามที่คุณพูด ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ”

“ฉันยินดีที่จะช่วย และตอนนี้สำหรับธุระของฉัน”

สีหน้าของเขากลายเป็นจริงจัง

“คุณรู้ไหมว่าทำไมฉันไม่สงสัยว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเดมิก็อด”

“ไม่ใช่เพราะผมใช้ต่างหูไต้ฝุ่นได้หรือ?”

“นั่นคือเหตุผลหนึ่ง ฉันยังคงมีข้อสงสัยอื่นๆ… แต่ฉันมั่นใจว่าต่างหูอย่างเดียวนั้นไม่ได้เกี่ยวข้อง”

“…?”

"มีคนพิสูจน์ตัวตนให้คุณเฟรย์!"

ใครกัน?

เชพเพิร์ดเปิดเผยชื่อบุคคล

“เค้าคือไฮนซ์เบลค ลูกชายคนที่สองของตระกูลเบลค”

เขาสังเกตปฏิกิริยาของเฟรย์ก่อนจะเสริม

“เขาเองก็เป็นหนึงในสมาชิกของสโตรว์เน็คลิซเหมือนกับฉัน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด