ตอนที่ 35 ของแพงในเมือง
ตอนที่ 35 ของแพงในเมือง
“คุณดูเหมือนเมื่อก่อนเสมอมางั้นหรอ.. ?” อาร์คถามพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยและอิมพ์ก็พยักหน้าตอบรับก่อนที่จะพูดต่อเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองจำได้ในชีวิตของเขา
“ความทรงจำแรกของข้าตั้งแต่ที่กำเนิดมาก็คือข้าเดินทางร่วมกับฝูง ข้าถูกล้อมด้วยอสูรตัวอื่นตลอดเวลา ข้าไม่เคยโต ข้าเป็นแบบนี้เสมอมาตลอด ”อิมพ์อธิบาย แต่ดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับข้อเท็จจริงนี้ แน่นอนเขาจำไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นตัวเล็กที่สุดในอิมพ์เล็ก เขาเพียงคิดว่าตัวเองเพียงเตี้ยกว่าคนอื่นเล็กน้อยเท่านั้นซึ่งจริงๆแล้วมันแตกต่างจากคนอื่นที่ค่อยๆเติบโตขึ้น
"มีไหม ... " อิมพ์เริ่มพูดอย่างช้าๆไม่แน่ใจว่านี่คือสิ่งที่เขาต้องการรู้จริงๆหรือไม่ "หนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ หนังสือที่เกี่ยวกับการเติบโตขึ้นของอสูร?" เขาถามพวกเขา แต่อาร์คยักไหล่เล็กน้อย
"ข้าก็ไม่แน่ใจ เราต้องไปดู … งั้นตอนนี้เราไปช้อปปิ้งกันเลยดีกว่าไหม?" เด็กหนุ่มแนะนำในขณะที่เขาหันไปหาเด็กคนอื่น ๆ ซึ่งทุกคนก็ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงเช่นกันในขณะที่อิมพ์พยักหน้า
เขาอาจจะหามันเจอ แต่เขาก็ต้องทดสอบดูก่อนด้วยว่าพวกมันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะอิมพ์ไม่คิดจะเชื่อในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
จากนั้นไม่นานกลุ่มของพวกเขาก็ออกจากห้องไป แต่อีกครู่หนึ่งพวกอิมพ์ก็หันมาตรวจสอบห้องของตัวว่าพวกมันอยู่ในสภาพใด เขานั้นรู้สึกแปลกๆตั้งแต่พวกเขามาที่เมืองนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องมั่นใจว่าทุกอย่างในห้องจะเหมือนเดิมหลังจากพวกเขากลับมาและเพื่อการนี้อิมพ์จึงใช้กลอุบายเล็กๆบางอย่างไว้ซึ่งเขาจำมาจากเอวาลินอีกที
มีเศษดินอยู่ในกระเป๋าของเขาดังนั้นอิมพ์จึงดึงมันออกมาและปิดประตูจนเหลือเพียงมือของเขาเท่านั้นที่สามารถสอดผ่านช่องนั้นได้ก่อนที่จะโยนสิ่งสกปรกนั้นลงบนพื้นหน้าประตูในห้อง เอวาลินอธิบายเพียงสั้น ๆ แต่เธอนั้นบอกว่ามันสามารถบอกได้ว่ามีใครเข้ามาในห้องหรือไม่ หากดินพวกนี้แตกกระจายหรือไม่เหมือนเดิมนั่นหมายความว่ามีคนเปิดประตูจนดันดินเหล่านี้ออกไป แม้ว่ามันจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดแต่มันก็ดีกว่าไม่ทำอะไร
หลังจากนั้นไม่ช้าอิมพ์ก็ปิดและล็อกประตูก่อนที่กลุ่มพวกเขาจะก้าวลงบันไดของโรงเตี๊ยมไปและออกมาจากอาคารและอาร์คก็หันไปหาอิมพ์อีกครั้ง "เราควรแยกกันไปนะ จะได้ทำทุกอย่างให้เสร็จเร็วๆ" เขาพูดพร้อมกับยิ้มออกมา
ชั่วขณะหนึ่งอิมพ์ต้องการที่จะพยักหน้าและตอบกลับด้วยคำว่า 'ใช่' แต่แล้วเขาก็รู้สึกได้ถึงความกลัวที่คืบคลานเข้ามาหาเขาอกีครั้ง "ไม่ เราจะอยู่ด้วยกัน นั่นจะปลอดภัยกว่า"
อาร์คส่ายหัวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ "คุณหมายความว่าไงหรอ " อันตราย " อะไรกัน ? นี่คุณจำไม่ได้หรอว่ารูดี้นั้นไม่มีวันบาดเจ็บ ?" เด็กหนุ่มถาม แต่อิมพ์ก็จ้องไปที่เขาและส่ายหัว
"ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ถูกจับได้ รูดี้ปกป้องตัวเองไม่ได้และเขาก็ยังอ่อนแอเกินไป มีหลายวิธีที่จะจับเขาได้โดยไม่ต้องทำร้าย " อิมพ์บอกเด็กคนนั้นและเด็กคนอื่น ๆ ก็นิ่งเงียบในขณะที่รูดี้ดูเหมือนจะเริ่มประหลาดใจกับความคิดนั้น อย่างช้าๆจากอิมพ์ก็หันกลับมาและมองไปรอบ ๆ พยายามหา 'ร้านค้าทั่วไป'
"ไปกันเถอะ." อิมพ์บอกพวกเขาและรอจนกว่าพวกเขาทั้งหมดจะเดินก่อนจากนั้นเขาค่อยเดินตามหลังไป ไม่นานแซมมี่ก็มาถึงหน้าร้านที่ดูสกปรกแห่งหนึ่ง เธอเปิดประดูเข้าไปและกลิ่นเหม็นก็โชยออกมาอย่างช้าๆ ส่วนรูดี้นั้นแอบอยู่หลังเธอ เพราะกังวลว่าจะถูก 'จับโดยไม่ทำร้าย' อย่างที่อิมพ์เพิ่งบอกไป
และเมื่ออิมพ์ก้าวเข้ามาในร้านหลังจากพวกเขา ทุกคนก็เริ่มเดินไปรอบ ๆ พื้นที่เล็ก ๆ ด้วยกันเพื่อหาว่าพวกเขาต้องการอะไร ทั้งอาหารแห้ง เครื่องเทศง่ายๆและเสื้อผ้าเรียบง่ายที่ทุกคนสามารถสวมใส่สลับกันระหว่างเสื้อผ้าที่ใส่ตอนนี้และมันก็ต้องเพียงพอตอนที่ชุดสกปรกถูกเอาไปซัก แน่นอนว่าพวกเขายังต้องหานมจำนวนมากด้วยและต้องพยายามหาอย่างสดใหม่จากทุกๆเมืองเพราะมันเน่าเสียได้ง่าย
นอกเหนือจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากผ้าอ้อม ดังนั้นหลังจากที่พวกเขาซื้อเสร็จพวกเขาก็ต้องการออกจากอาคารแต่จู่ๆผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ก็พูดบางอย่างเกี่ยวกับบางสิ่งขึ้นมาก่อนที่พวกเขาจะเปิดประตูออกไป
ดูเหมือนพวกคุณจะเหลือเงินกันอยู่อีกไม่มากสินะ... หากคุณต้องการหางานบางอย่างทำ คุณสามารถไปถามรอบๆเมืองได้หรือไม่ก็สามารถขายของบางอย่างที่ไม่ใช้แล้วก็ได้เหมือนกัน “หญิงสาวแนะนำและอิมพ์ก็มองมาที่เธอและพยักหน้า” ข้าก็คิดจะทำอยู่เหมือนกัน ขอบคุณ "เขาตอบแล้วหันกลับไปก่อนที่พวกเขาจะออกจากร้าน
เป็นความจริงที่ว่าพวกเขาไม่มีเงินเหลือมากแล้ว ที่แน่ๆมันไม่พอให้พวกเขาใช้จ่ายอีกครั้งแน่นอน โชคดีที่ทุกอย่างในร้านนี้ถูกเป็นอย่างมาก ชุดทั่วๆไปแพงสุดก็แค่เหรียญทองแดงปกติต่อชุดเท่านั้นแล้วพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องซื้อของที่มัน 'ยอดเยี่ยม' หรือ 'น่ารัก' อย่างที่แซมมี่บอกด้วย
"ไปที่ห้องกันเถอะ" แซมมี่พูดขณะที่เธออุ้มลีออนไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับกระเป๋าที่มีผ้าอ้อมเด็กบางส่วน แต่อิมพ์ก็ส่ายหัวตอบ
"เราควรไปที่รถม้า" อิมพ์พูดขึ้น และแซมมี่ก็มองไปที่เขาพร้อมกับขมวดคิ้ว "แต่ห้องเราอยู่ตรงข้ามกับเส้นทางนั้นนะ!" เธอร้องอุทานและอิมพ์ก็พยักหน้า "ถ้าเราเอามันไปเก็บที่รถม้า เราก็จะแบกของพวกนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น" เขาตอบก่อนที่แซมมี่จะมองเขาอย่างรำคาญและกลอกตาไปที่เขา "ก็จริงแหะ ... " แซมมี่พึมพำกับตัวเองก่อนที่อิมพ์จะมองไปที่เด็กคนอื่น ๆ แล้วบอกให้พวกเขาเดินไปที่คอกม้า
ไม่นานพวกเขาก็มาพบกับชายคนก่อนหน้านี้ และให้เขาพาพวกเขาไปยังรถม้าและหลังจากนำทุกอย่างเข้าไปเก็บไว้แล้วอิมพ์ก็สังเกตเห็นบางอย่างที่แปลกประหลาด มันไม่มีอะไรผิดไปจากเดิมที่เขาจำได้ ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมก่อนที่พวกเขาจะจากไป แต่ถว่าข้างในนี้กลับมีกลิ่นแปลกๆอยู่ซึ่งพวกมันยังหลงเหลืออยู่โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว
เมื่อเก็บของเสร็จอิมพ์ก็ออกมาจากรถม้าอีกครั้ง จากนั้นพวกเขาก็เดินไปตามถนนสายหลักพยายามหาร้านหนังสือ ระหว่างทางอิมพ์มองไปยังร้านต่างๆบนถนน เขามองผ่านหน้าต่างด้านหน้าเพื่ออ่านป้ายที่วางอยู่กับสิ่งของที่แสดงอยู่ในนั้น
ตัวอย่างเช่นมีขวดเล็ก ๆ ที่มีของเหลวสีแดงอยู่ข้างในซึ่งมันดูเหมือนกับของเหลวที่ทำให้เอวาลินหายจากบาดแผลได้อย่างรวดเร็วและที่น่าแปลกใจกว่าคือป้ายที่อยู่ถัดจากขวดนั้นซึ่งมันเขียนไว้ว่า '5 เหรียญเงินใหญ่' ซึ่งมันเป็นสิ่งที่แพงที่สุดเท่าที่อิมพ์เคยเห็นมา แต่เพราะร้านนั้นสะอาดและน่าอยู่เป็นอย่างมากดังนั้นมันจึงดูสมเหตุสมผลที่มันจะแพง
แต่ที่น่าแปลกใจสำหรับอิมพ์อีกอย่างก็คือของทุกอย่างบนถนนสายนี้ดูแพงเป็นอย่างมาก มีบางสิ่งที่เรียกว่า 'อัญมณี' ใกล้ๆกับ 'ร้านนักปรุงยา' ที่อิมพ์อยู่ในตอนนี้และของบางอย่างก็แพงเท่ากับเหรียญทองเล็กเลยทีเดียวซึ่งนี่ทำให้อิมพ์ประหลาดใจมาก พวกเขาสามารถซื้อนมจำนวนมากได้ด้วยเงินเท่านั้นเลยนะแต่ทำไมหินมันวาวก้อนเล็กๆอันเดียวถึงได้มีค่าขนาดนั้นกัน?
ไม่ว่าจะทำยังไงอิมพ์ก็คิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลย ดังนั้นเขาจึงไม่มองของพวกนี้ต่อ แต่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าความสนใจของเขาก็ยังถูกดึงไปที่ร้านค้าต่างๆ ทั้งร้านเบเกอรี่ที่มีเค้กราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อตั้งอยู่ตรงหน้าต่างและร้านขายเสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าที่ราคาต่ำสุดก็คือเหรียญเงินเล็ก
แต่ก็น่าแปลกที่ร้านค้าเหล่านี้ทั้งหมดล้วนว่างเปล่า ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่หลังเคาน์เตอร์เลยด้วยซ้ำ และมันก็สะอาดเป็นอย่างมาก สถานที่ที่มีลูกค้าส่วนมากจะเป็นร้านค้าที่สกปรกและทรุดโทรมซึ่งมีเพียงสองสามแห่งในเมืองเท่านั้นในขณะเดียวกันร้านหรูเหล่านี้กลับมีอยู่ถึงโหลหนึ่งเลยทีเดียว
ไม่มีคนที่นี่ใส่อะไรเลยนอกจากเสื้อผ้าราคาถูกแบบเดียวกับที่พวกเขาซื้อมา ไม่มีสักคนเดียวที่สวมใส่ของที่แวววาวจากอัญมณีและถ้าอิมพ์เห็นใครกินอะไรส่วนมากพวกมันก็จะเป็นของสกปรกจากพื้นดินที่แม้แต่อิมพ์ก็ยังเลที่จะกินมัน
นี่เป็นเมืองที่แปลกประหลาดมาก ไม่น่าแปลกใจที่เขารู้สึกถึงการจ้องมองที่น่ากลัวเหล่านี้อยู่ด้านหลังศีรษะตลอดเวลา ต้องมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้แน่นอน แต่อิมพ์ยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาควรจะค้างคืนแล้วค่อยออกเดินทางตอนเช้าอีกครั้งทันทีซึ่งนั้นดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
"อา….ดูนั่นสิ!" คลีเมนไทน์ก็อุทานออกมาอย่างมีความสุขขณะที่เธอชี้ไปยังทิศทางของร้านค้าที่สกปรกและทรุดโทรมแห่งหนึ่งในพื้นนั้น มันมีรูปหนังสือเล็กๆเปิดปรากฏอยู่บนป้ายไม้หน้าร้าน ด้วยการพยักหน้าจากอิมพ์ พวกเขาทั้งหมดก็มุ่งไปที่ร้านนั้นทันทีและเมื่อพวกเขาเข้ามาอิมพ์ก็เห็นชั้นหนังสือที่มีหนังสืออยู่มากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น
และด้วยความโชคดีของเขา ป้ายราคาหน้าหนังสือแต่ละเล่มนั้นอยู่ที่ '1 ทองแดง' หรือ '8 ทองแดงเล็ก'เท่านั้น ตามที่อิมคิดนี่คือหนึ่งในร้านราคาถูก แต่มันก็สร้างความแปลกใจให้อิมพ์เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าหนังสือเหล่านี้ประโยชน์มากหรอกรึ มันควรจะแพงกว่าผ้าอ้อมเด็กสิ ?
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามในท้ายที่สุด อิมพ์ก็ไม่คิดที่จะบ่นเกี่ยวกับเหตุการณ์อันโชคดีนี้และเขาก็เริ่มมองไปรอบๆ มันค่อนข้างง่ายที่จะมองไปทั่วห้องในร้านได้ ดังนั้นอิมพ์จึงปล่อยให้เด็กๆเดินไปมาเล็กน้อยในขณะที่เขาเข้าไปคุยกับชายสูงอายุที่ดูป่วยด้านหลังเคาน์เตอร์
และหลังจากที่อิมพ์กำลังตรวจสอบให้แน่ใจ อีกฝ่ายก็รับรู้และยิ้มให้กับเขาพร้อมกับพูดด้วยเสี่ยงสั่นที่ราวกับว่าเกิดจากความอ่อนแอ ความประหลาดใจหรือความกลัวอย่างที่อิมพ์คุ้นเคย "อา มีอะไรให้ข้าช่วยงั้นหรอพ่อหนุ่ม " เขาถามและอิมพ์ก็คิดอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับข้อมูลที่เขาต้องการมากที่สุด จากนั้นเขาก็จำกัดให้มันแคบลงจนเหลือสามหัวข้อ
"หนังสือเกี่ยวกับเวทมนตร์ระดับเริ่มต้น ความรู้ทั่วไปและอสูร" อิมพ์อธิบายค่อนข้างชัดเจนก่อนที่ชายสูงอายุจะพยักหน้า
“ได้เลย” ชายคนนั้นตอบและค่อยๆก้าวไปที่หน้าเคาน์เตอร์และเคลื่อนมือไปทางชั้นวางของ "เล่มแรกคือ 'ทฤษฎีเวทมนตร์และการปฏิบัติ' ... และเล่มนี้ก็คือ 'สารานุกรมอสูร' ... กับนี่หนังสือ 'ความรู้ทั่วไป' พวกมันคือหนังสือที่ตรงกับหัวข้อที่เจ้าเอ่ยมามากที่สุด ... แล้วก็มีประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ หรือสมุนไพรวิทยา ด้วยนะหากเจ้าสนใจ... "ชายสูงอายุอธิบายแล้วขยับนิ้วผ่านเคราแพะเล็กๆของเขา" ว่าแต่พวกเจ้าจะซื้อมันไปทำอะไร? " ชายคนนั้นถามและอิมพ์ก็พยักหน้าช้าๆ
"ข้าเพิ่งเรียนรู้ทักษะเวทย์มนตร์ระดับเริ่มต้น และเราก็กำลังเดินทางผ่านป้าลำพังดังนั้นข้าจึงต้องการรู้ข้อมูลเกี่ยวกับอสูรและตัวข้าเองก็รู้เรื่องต่างๆไม่มากนักข้าก็เลยอยากหาข้อมูลเพิ่ม" อิมพ์อธิบาย
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถบอกชายคนนี้ได้ว่าที่เขาต้องการซื้อหนังสือเกี่ยวกับอสูรนั้นก็เพื่อดูว่าเขาปกติหรือไม่