EP 232 ไม่ใช่อย่างที่คิด! และ EP 233 อย่ากระโดดลงมานะ!
EP 232 ไม่ใช่อย่างที่คิด!
By loop
กลางคืน. 22.00 น.
ณ บ้านพักของคณะกรรมการพรรคของมณฑล อพาร์ตเมนต์ของนายกเทศมนตรี
ดงซิบนั้นอยู่ในห้องน้ำแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันอันใหม่ เขาบ้วนปากและวางแปรงสีฟันไว้ข้างแปรงสีฟันสีม่วงของเสี่ยวหลาน หลังจากนั้นก็เปิดฮีตเตอร์ก่อนจะล้างหน้า ในที่สุดก็ถึงเวลานอนเสียที
ในห้องนอน เสี่ยวหลานกำลังอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
ชุดที่เสี่ยวหลานสวมอยู่บนเก้าอี้และเธอคลุมตัวด้วยผ้าห่มบาง ๆ
ดงซูบินเข้ามาในห้องอย่างเขินอายและถาม “พี่สาวเสี่ยวผ้าห่มของผมอยู่ตรงไหนหรอครับ”
เสี่ยวหลานมองไปที่เขาและยิ้ม “ผ้าห่มอะไร”
ดงซูบินชี้ไปที่เตียง “คุณมีแค่ผ้าห่ม คุณมีอะไรพิเศษหรือป่าว”
“ฮิฮิ…คุณมั่วยืนทำอะไรอยู่”เสี่ยวหลานปิดหนังสือและหรี่ตาลง “เรายังไม่ได้แต่งงานกันและคุณคิดว่าเหมาะสมอย่างงั้นหรอที่เราจะนอนเตียงเดียวกัน”
ดงซูบินได้แต่พึมพำ “เอ่อ…. ไม่…มันไม่ถูกต้อง…”
เสี่ยวหลานเองก็หัวเราะ "ถูกแล้ว. คุณควรจะไปนอนห้องอื่นถูกไหม?”
ฮะ. ก่อนหน้านี้ฉันอุสาตื่นเต้นแต่ตอนนี้กับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดงซูบินคิดว่าน้องสาวเสี่ยว ขอให้เขาอยู่ค้างคืนเพราะเธออยากนอนกับเขา
เสี่ยวหลานปิดปากของเธอขณะที่เธอหาว “ฮิฮิ…ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ฉันยังมีงานต้องทำ”
ดงซูบินมองไปที่ร่างบางของเสี่ยวหลานเป็นครั้งสุดท้ายและเห็นเธอปิดโคมไฟข้างเตียง ดงซูบินลังเลอยู่ครู่หนึ่งและเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวในความมืด เขาสามารถเห็นเสี่ยวหลานหันมาหาเขาและเขาก็กระแอมในลำคอ “เมื่อแยกจากกันคู่รักมักจะจูบ…เอ่อ…. เราควร…”
เสี่ยวหลานไม่พูดอะไรและจ้องมองเขาต่อไป
ดงซูบินโน้มตัวไปข้างหน้าและจูบเธอเบา ๆ ที่ริมฝีปากของเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน ดงซูบินก็เงยหน้าขึ้น “พี่สาว…คุณ…ตอบสนองผมหน่อยไม่ได้หรอ”
“ฉันควรตอบสนองอย่างไร”
“คุณควรจูบผมกลับและอย่าให้ผมทำเองทั้งหมดเลย”
เสี่ยวหลานหัวเราะคิกคักและลุกขึ้นนั่งเพื่อจูบดงซูบินที่ริมฝีปากของเขา เธอมองเขาอย่างขี้เล่น “ไม่เป็นไรเหรอ? ฮิฮิ…ราตรีสวัสดิ์?”
ดงซูบินถอดเสื้อผ้าของเขาในอีกห้องแล้วนอนบนเตียงจ้องมองไปที่เพดาน ภาพของรอยยิ้มของ เสี่ยวหลานรูปร่างของเธอและริมฝีปากยังคงสดชื่นอยู่ในใจของเขา เขาเลียริมฝีปากและคิดถึงจูบนั้น บรรพบุรุษของเขาต้องทำความดีมากมายเพื่อให้เขามีโชคได้พบกับผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมคนนี้
ดงซูบินปล่อยให้ความคิดของเขาเคว้งคว้างจนหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้นดวงอาทิตย์ส่องลงบนใบหน้าของดงซูบิน
ดงซูบินเองลืมตาขึ้นและมองดูเวลา ตอนเช้าเป็นเวลา 5.40 น. และไม่ควรมีคนอยู่รอบ ๆ ครอบครัวมากนัก นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการจากไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็น เขาลงจากเตียงและล้างตัวและแต่งตัว เขาไม่ได้ปลุกเสี่ยวหลาน เพราะเขาต้องการให้เธอนอนหลับอีกสักพัก เขาไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าและเขียนบันทึกให้เธอก่อนที่จะออกไป
ทันใดนั้นประตูห้องนอนก็เปิดออก “ซูบินคุณตื่นแล้วเหรอ?”
ดงซูบินเองขอโทษ “ขอโทษที่ปลุกคุณ ยังเช้าอยู่เลยและคุณควรนอนหลับอีกสักนิด ผมขอตัวก่อน.”
"ฉันตื่นแล้ว." เสี่ยวหลานเดินออกจากห้องนอน “คุณทานอาหารเช้าหรือยัง? อาหารเต็มโต๊ะเลย เมื่อคืนฉันเองก็ทำงานยังไม่เสร็จเลย” เสี่ยวหลานเพิ่งตื่นนอน แต่เธอก็ยังดูสง่างามมากเมื่อเดินไปที่โต๊ะอาหาร เธอมองไปที่โน้ตแล้วยิ้ม “คุณทิ้งโน้ตไว้ให้ฉันด้วยเหรอ? ฉันขอดูหน่อยสิ…. พี่เสี่ยวอุ่นอาหารก่อนทาน อย่ากินของเย็นเพราะไม่ดีต่อกระเพาะอาหาร ผมจะขอตัวไปก่อนและจะกลับมาอีกครั้งเมื่อผมมีโอกาส ถ้าอยากกินอะไรก็โทรมาได้เลย…ฮิฮิ…”
ดงซูบินยิ้ม “ทำไมคุณถึงอ่านมัน”
เสี่ยวหลานหัวเราะและรวบผมไว้ข้างหลังหูของเธอ "ขอบคุณ. รอให้ฉันแปรงฟันก่อนสิ”
ณ โต๊ะทานข้าว.
เสี่ยวหลานเองเคี้ยวไข่ดาวช้าๆแล้วยิ้ม “ซูบินฝีมืออาหารของคุณเยี่ยมมากดลย จนฉันไม่อยากให้คุณไปไหนเลย”
ดงซูบินรู้สึกดี “ผมยินดีที่จะมาทำอาหารให้คุณตอนที่คุณว่าง”
เสี่ยวหลานพยักหน้า “คุณต้องการให้ฉันช่วยอะไรไหมเกี่ยวกับเรื่องงาน”
“ไม่…” ดงซูบินคิดสักพักแล้วมองไปที่เสี่ยวหลาน “เอ่อ…คุณคิดว่าถึงเวลาที่ผมต้องเป็นหัวหน้าส่วนแล้วหรือยัง” ดงซูบินได้ไขคดีใหญ่เมื่อไม่นานมานี้และเมื่อเสี่ยวหลาน ย้ายมาเป็นนายกเทศมนตรีเขาก็เริ่มคิดถึงการเลื่อนตำแหน่ง
เสี่ยวหลานหัวเราะและชี้ไปที่เขา “คุณ…หยุดคิดที่จะวิ่งก่อนที่คุณจะเดินได้ หัวหน้าส่วน? คุณคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยหรอ? คุณเพิ่งเข้ารับราชการเพียงแค่ปีเดียว และคุณได้เป็นรองหัวหน้าส่วนและรองหัวหน้าสำนักงานด้านความมั่นคงสาธารณะแล้ว แต่คุณก็ยังไม่พอใจ? เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ และสำหรับฉัน คุณกำลังก้าวขึ้นตำแหน่งเร็วมาก หยุดคิดถึงการเลื่อนขั้นอยู่ตลอดเวลา”
ดงซูบินเลียริมฝีปากและถาม “ผมยังขาดคุณสมบัติอะไรอีกในการเป็นหัวหน้าส่วน”
เสี่ยวหลานมองไปที่ดงซูบินและวางตะเกียบลง “คุณยังขาดคุณสมบัติอีกมาก การไม่ทำตามคำสั่ง และไม่สนใจเหล่าคณะกรรมการพรรคและนั้นไม่ร่วมถึงที่คุณเคยทำให้เหล่าพวกผู้บริหารขุ่นเคืองแค่ระยะเวลาในการทำงานของคุณไม่เพียงพอ ข้าราชการที่เข้าร่วมเป็นเวลาหนึ่งปีจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร? อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้เกี่ยวกับขั้นตอนปกติของรัฐบาล การได้รับการเลื่อนตำแหน่งในสามปีถือว่าเร็วมากและการเลื่อนตำแหน่งรองหัวหน้าส่วนเมื่อหกเดือนที่แล้วถือเป็นกรณีพิเศษ ตอนนี้คุณยังคิดถึงหัวหน้าส่วนอยู่หรือเปล่า? คุณคิดว่านี่เป็น บริษัท ส่วนตัวของคุณอย่างงั้นหรอ”
ดงซูบินตอบอย่างละอายใจ "ผมเพียงแค่ขอให้."
เสี่ยวหลานหัวเราะ “ฉันรู้ว่าคุณทำอะไรมาบ้างตั้งแต่ย้ายมาที่นี่ คุณทำได้ดีและผลลัพธ์ของคุณเทียบเท่ากับที่คนอื่นทำในสองถึงสามปี ฉันต้องยอมรับว่าคุณมีความสามารถมาก แต่การได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าส่วนเป็นพิเศษสำหรับผลงานนี้ไม่เพียงพอ หากคุณต้องการให้ฉันเสนอชื่อคุณเพื่อเลื่อนตำแหน่งคุณต้องมีผลงานที่โดดเด่น ถ้าไม่ฉันจะดูไม่ดีกับฉันที่ทำให้คุณได้รับการเลื่อนตำแหน่ง คุณเคยพบข้าราชการคนไหนบ้างที่ได้รับการเลื่อนขั้นไปในตำแหน่งสูงในปีหนึ่ง”
ดงซูบิน เกาหัวของเขา “ผมยังต้องทำผลงานให้มากขึ้นกว่านี้อีกใช่ไหม?”
เสี่ยวหลานพยักหน้า "ใช่. ในสถานการณ์ของคุณคุณต้องได้รับบุญชั้นสองหรือบุญชั้นหนึ่งเป็นอย่างน้อย แน่นอนแม้ว่าคุณจะได้รับความดีความชอบระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่จะได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการพรรค ตอนนี้เลขาธิการพรรคเซียงมีอำนาจมากกว่าฉันและคุณไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการเสนอชื่อหากคุณไม่มีผลงานที่โดดเด่น ฮิฮิ…เข้าใจไหม”
"ครับ. ผมจะทำงานให้หนักขึ้น”
เสี่ยวหลานตอบ “เป็นเรื่องดีที่จะมีแรงจูงใจ แต่คุณต้องไม่โลภมากเกินไป”
ดงซูบินพยักหน้า "ได้. ผมจะจำเรื่องนี้ไว้”
ดงซูบินพูดแบบนี้ แต่ในใจเขาไม่คิดอย่างนั้น มันอาจจะยากสำหรับเขาที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าส่วน แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะล้มเหลวโดยไม่ต้องพยายาม? กลยุทธ์ทางการเมืองของดงซูบินนั้นยังถือว่าอ่อนหัด เสี่ยวหลานและไม่ได้คำนึงถึงสิ่งต่างๆมากมาย เมื่อเขาตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้วเขาจะไม่คิดถึงผลที่ตามมาและพยายามอย่างเต็มที่ นี่เป็นเหตุผลที่เขาได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าในสำนักงานกิจการทั่วไปและตำแหน่งรองหัวหน้าส่วนในปัจจุบัน
ดงซูบินมีความคิดของเขาเอง
ดงซูบินไม่สนใจว่าคณะกรรมการพรรคจะอนุมัติการเลื่อนตำแหน่งของเขาหรือไม่เพราะเป็นเรื่องเร็วที่จะคิดถึงเรื่องนี้ เขาต้องคิดว่าจะได้รับเครดิตเพิ่มอีกสักสองสามครั้งภายใต้เข็มขัดของเขา มันจะดีที่สุดถ้าเขาสามารถไขคดีอื่นได้เช่นคดีแหกคุกและมันจะดีกับประวัติการทำงานของเธอ ด้วยเครดิตอื่นเช่นนี้เขาสามารถได้รับการเสนอชื่อเพื่อเลื่อนตำแหน่งและจะได้รับโอกาสเป็นหัวหน้าส่วน ถ้าไม่ถึงแม้ว่าเขาจะสนินสนมกับสมาชิกทั้งสิบคนจากคณะกรรมการพรรค แต่เขาก็จะไม่ได้รับคะแนนเสียงเนื่องจากอายุยืนยาว
หลังอาหารเช้า ดงซูบินตัดสินใจว่าเขาจะคิดหาวิธีเลื่อนตำแหน่ง
คะแนนและอำนาจทางการเมือง สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ดงซูบินต้องได้รับก่อนสิ้นปีนี้ เป้าหมายของเขาคือการได้รับการเสนอชื่อเพื่อเลื่อนตำแหน่ง!
ดงซูบินไม่จำเป็นต้องดำรงตำแหน่งสำคัญเช่นรองผู้อำนวยการสำนักหรือหัวหน้าแผนกการเงิน ฯลฯ สิ่งที่สำคัญสำหรับเขาคือการเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่แผนก
ผล!
ผล!
ผล!
ด้วยเป้าหมายดงซูบินกลายเป็นผลักดันสำหรับตัวเขาเองและทำให้เขาต้องการกลับไปทำงานโดยเร็วที่สุด!
EP 233 อย่ากระโดดลงมานะ!
By loop
ตอนเช้าตอน 6 โมง
ในฤดูร้อนรุ่งสางเร็วกว่าและในเวลานี้อากาศเย็นและสดชื่น
หลังอาหารเช้า ดงซูบินแอบออกจากบ้านของเสี่ยวหลานเขาไม่ได้ใช้ลิฟต์เพราะเขาอาจจะเจอใครบางคนระหว่างทางลง เขาเดินลงบันไดอย่างเงียบ ๆ และออกจากห้องพักโดยไม่มีใครเห็น
จากระยะไกล ดงซูบินสามารถมองเห็นรถเบนซ์เอ็มพีวี ของเขาปกคลุมไปด้วยใบไม้และคราบน้ำจากพายุเมื่อคืนที่ผ่านมา
ดงซูบินขึ้นรถและขับรถไปล้างรถ หลังจากใช้เงิน 5 หยวนในการล้างรถเขาก็ขับรถกลับไปที่สำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะและเข้าไปในห้องทำงานของเขา ดงซูฐินจุดบุหรี่และดื่มชาขณะที่เขาอ่านแฟ้มคดีเก่า ๆ ที่ยังไม่ได้ถูกไขคดี เขาต้องการไขคดีมากขึ้นและได้รับเครดิตมากขึ้นภายใต้เข็มขัดของเขาเพื่อได้รับการเสนอชื่อเพื่อเลื่อนตำแหน่ง แต่ดงซูบินพลิกดูไฟล์ทั้งหมดและไม่พบว่ามีกรณีใดที่โดดเด่นเพียงพอที่จะให้ชื่อเสียงแก่เขา ดงซูบินรู้สึกหนักใจ ฉันควรทำอย่างไรดี? ฉันจะหาเคสที่ให้เครดิตเพียงพอได้ที่ไหน?
บางทีพระเจ้าอาจได้ยินความปรารถนาของดงซูบิน และโทรศัพท์ของเขาบนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้นดงซูบิน มองไปที่หมายเลขและมาจากศูนย์บัญชาการ โดยปกติศูนย์บัญชาการจะโทรหาเขาเมื่อมีคดีใหม่เท่านั้นและเป็นคดีประเภทเหตุฉุกเฉินเหล่านั้น ดงซูบิน ซึ่งเป็นเพียงผู้ดูแลสถานีหมู่บ้านฮุยเทียน โดยปกติจะไม่ได้รับคดีใหม่เนื่องจากคดีทั่วไปจะถูกจัดการไปยังทีมสอบสวนหรือส่วนสั่งการสาธารณะ
ดงซูบินตอบ "สวัสดี?"
“หัวหน้าซูบิน ผมชื่อห่าวชุน”ห่าวชุน เป็นผู้อำนวยการสำนักงานที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่
ดงซูบิน ตอบอย่างเย็นชา “โอ้ผู้อำนวยการห่าว. มีอะไรหรอ?”
ห่าวชุนตอบ “ใครบางคนกำลังจะกระโดดลงมาอาคารคณะกรรมการพรรคของมณฑล หัวหน้าเหลียงขอให้ผมแจ้งให้คุณไปที่นั่นทันที”
ดงซูบินเองรู้สึกประหลาดใจ “กระโดดจากตึกเหรอ? มันคือใคร? เกิดอะไรขึ้น?”
ห่าวชุนไม่ชอบ ดงซูบินเพราะในระหว่างการประชุมดงซูบินได้พูดแทน ฮูซินเยียนและไม่ต้องการให้เธอถูกปลดออกจากตำแหน่ง เขาเคยโต้เถียงกับผู้นำคนอื่น ๆ และแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ต้องการให้ห่าวชุน เข้ารับตำแหน่งฮูซินเยียน ห่าวชุนรู้สึกว่าเขาไม่ได้รับความเคารพเลย แต่เขารู้ดีว่าหัวหน้าตงผู้มีชื่อเสียงสามารถทำอะไรได้บ้าง นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่แสดงความไม่พอใจต่อ ดงซูบินเขาไม่ต้องการมีปัญหากกับ 'เทพเจ้าแห่งความโชคร้าย' “มันเป็นแบบนี้ คนที่อยากจะกระโดดตึกคือพนักงานของโรงงานเครื่องนุ่งห่มฝ้าย บางทีเขาอาจถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมและไปที่ชั้นดาดฟ้าของอาคารเพื่อข่มขู่ผู้นำของมณฑล เขาบอกว่าเขาต้องการพบนายกเทศมนตรีและต้องการให้นายกเทศมนตรียุติข้อข้องใจ เฮ้อ…”
ดงซูบินเองก็หายใจเข้าลึก ๆ “อาคารคณะกรรมการพรรคของมณฑล? เขาเข้ามาได้อย่างไร”
“เขาเข้าไปขวางและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็หยุดเขาไม่ได้และหาทางขึ้นไปบนดาดฟ้าได้”
ดงซูบินรู้ถึงความรุนแรงของคดีนี้และขับรถไปที่อาคารคณะกรรมการพรรคของมณฑลทันที
ด้านนอกอาคารคณะกรรมการพรรคมีผู้คนพลุกพล่านและมีกลุ่มคนมารวมตัวกันเพื่อดูความปั่นป่วน ตำรวจบางคนหยุดพวกเขาไม่ให้เข้าไปใกล้อาคาร ที่สนามด้านหน้าของอาคารที่มีอิทธิพลมากที่สุดของมณฑลเต็มไปด้วยข้าราชการและผู้นำมณฑลหูยินเก่าและ จ้าวจินซองมาถึงแล้วและ เฉาซูเผิง รองเลขาธิการพรรคของมณฑล และเลขาธิการคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายหวางลี่ก็ยืนอยู่ที่นั่นเพื่อดูอาคารเจ็ดชั้น
บนดาดฟ้าชายในชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินยืนอยู่บนขอบตึก
“ฉันอยากพบนายกเทศมนตรี! ฉันอยากพบนายกเทศมนตรีเสี่ยว!”
"ใจเย็น ๆ. เราสามารถคุยกันได้หลังจากที่คุณลงมา”
“อย่าเข้ามาใกล้! ถ้าพวกคุณไม่ปลดผู้อำนวยการโรงงานวันนี้ฉันจะกระโดดลงไป!”
“ลงมาก่อน. เราจะช่วยคุณหลังจากที่คุณบอกเราเกี่ยวกับปัญหาของคุณ”
“นายกเทศมนตรีเสี่ยวอยู่ที่ไหน? ฉันอยากคุยกับที่นี่!”
ทุกคนที่อยู่เชิงตึกได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้น เจ้าหน้าที่และนักดับเพลิงบางคนควรอยู่บนหลังคาพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาออกไปจากขอบ คนงานนั้นอารมณ์ไม่มั่นคงและสามารถกระโดดได้ทุกเมื่อ นี่คืออาคารคณะกรรมการพรรคของมณฑลและเป็นสถานที่ที่ผู้นำมณฑลทำงาน หากคนงานคนนี้กระโดดลงจากอาคารและเสียชีวิตจะเป็นการมองไม่ดีต่อรัฐบาลมณฑล สิ่งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นและผู้นำทุกคนในที่เกิดเหตุไม่มีความสุข
ดงซูบินจอดรถของเขาข้างนอกและถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ “เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปถึงหรือยัง”
เจ้าหน้าที่คนนั้นเห็นดวศิบนและตอบกลับอย่างสุภาพ “ หัวหน้าซูบินมาถึงแล้ว แต่เบาะเป่าลมยังอยู่ระหว่างการเดินทาง
ในเวลานี้เบาะรองนั่งเป่าลมมีความสำคัญต่อการช่วยชีวิตชายคนนั้นและใบหน้าของดงซูบินก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ “ทำไมพวกเขาช้าจัง”
“เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเปลี่ยนกะ ดังนั้นจึงมีความล่าช้าอยู่บ้าง”
ไม่ไกลออกไป เฉาซูเผิงกำลังดุเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนของอาคารคณะกรรมการพรรคมณฑล ดูเหมือนเขาจะตั้งคำถามว่าทำไมพวกเขาถึงยอมให้คนงานคนนี้เข้าไปในบริเวณนั้น หูยินเก่าและ จ้าวจินซองนำเรือเป่าลมจากที่ไหนสักแห่งและสั่งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงวางไว้ที่เชิงอาคาร แต่เรือเป่าลมนั้นเล็กเกินไปและไม่หนาพอ มันจะไม่ช่วยในการทำลายผู้ชายคนนั้นถ้าเขากระโดด
คนงานยังคงตะโกนอยู่บนหลังคาและสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่อย่างใด ด้วยเหตุผลบางประการคนงานจึงถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยผู้นำของเขาและเขาไม่พอใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ เขาดื่มแอลกอฮอล์ในตอนเช้าและมาที่อาคารคณะกรรมการพรรคประจำมณฑลเพื่อขอคำอธิบาย เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามให้เหตุผลกับเขา แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะให้เหตุผลกับชายที่เมาและไร้การศึกษา
“นายกเทศมนตรีอยู่ไหน!”
“นายกเทศมนตรีเสี่ยว ไม่ได้อยู่ในอาคาร ใจเย็น ๆ แล้วลงจากหลังคา เราช่วยคุณได้”
“โทรหาเธอทันที! ถ้าไม่งั้นฉันจะกระโดด!”
เวรเอ๋ย! แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกตกงานและแกมาที่อาคารคณะกรรมการมณฑลเพื่อสร้างปัญหาพวกนี้หรอ? คุณยังต้องการพบพี่สาวเสี่ยวอีกอย่างงั้นหรอ? ดงซูบินอย่าจะตะโกนออกมาดังๆ
ในอีกอาคารหนึ่งฮูซินเยียนเดินออกไปอย่างใจจดใจจ่อ
หูยินเก่าถามทันที “เลขานุการฮู นายกเทศมนตรีเสี่ยวอยู่ที่ไหน”
ฮูซินเยียนตอบ “นายกเทศมนตรีเดินทางไปตรวจพื้นที่นอกเมือง ตอนนี้เธอกำลังเดินทางกลับมา หัวหน้าหูอารมณ์ของคนงานเป็นอย่างไรบ้าง”
หูยินเก่าเองก็ถอนหายใจ “ตอนนี้อารมณ์ของเขายังไม่มั่นคงและยืนกรานที่จะพบกับนายกเทศมนตรี เขาอาจกระโดดลงมาได้ทุกเมื่อ”
ในขณะนี้รถดับเพลิงได้เข้ามาในบริเวณที่มีเบาะเป่าลมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็รีบวิ่งไปที่เบาะเป่าลม
หวางลี่ตะโกนใส่พนักงานดับเพลิง “เร็วเข้า!”
ดงซูบินมองไปที่สถานการณ์ตึงเครียดและแอบไปที่มุมหนึ่งเพื่อโทรหาเสี่ยวหลานครั้งแรกที่เขาโทรหาเขามีธุระและเสี่ยวหลาน รับสายครั้งที่สอง ดงซูบินรีบถาม “นายกเทศมนตรีเสี่ยว คุณน่าจะได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ที่นี่ เราจะทำอย่างไรดี?”
เสี่ยวหลาน ตอบ “ผู้ชายคนนั้นจะต้องรอด!”
ดงซูบินกล่าว “แต่…ถ้าเขาไม่พบคุณเขาอาจ…”
“หัวหน้าซูบิน ถ้าฉัเจอเขามันจะเป็นแบบอย่าง ในอนาคตจะเป็นปัญหาไม่รู้จบในอาคารคณะกรรมการพรรคมณฑล เราต้องไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ตกลง. ตอนนี้ฉันกำลังรีบกลับไป พยายามจัดการกับสถานการณ์ให้ดีที่สุดและจำไว้ว่าคุณต้องช่วยชายคนนั้นโดยเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมด” เสี่ยวหลาน เน้นย้ำในขณะที่เธอต้องเผชิญกับปัญหามากมายหากสถานการณ์นี้ไม่ได้รับการจัดการอย่างดี
ดงซูบินเองก็พยักหน้า “ไม่ต้องกังวล ผมสัญญาว่าผมจะช่วยชายคนนั้นให้รอดให้ได้”
"ดีเลย. ฉันไว้ใจคุณ."
หลังจากวางสายดงซูบินเข้าใจว่าทำไมเสี่ยวหลานถึงทุกข์ใจกับเหตุการณ์นี้ นี่ไม่ใช่เหตุการณ์สำคัญและหากพี่สาวเสี่ยว ให้การกับคนงานที่ถูกไล่ออกและเปลี่ยนผู้อำนวยการโรงงานรัฐบาลมณฑลจะสูญเสียความน่าเชื่อถือและความเคารพ จะเป็นอย่างไรถ้าคนงานคนอื่นเข้ามาทุกวันและขู่ว่าจะฆ่าตัวตายหากรัฐบาลไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา? ผู้นำรัฐบาลมณฑลไม่จำเป็นต้องทำงานเช่นนี้และต้องห้ามไม่ให้ผู้คนกระโดดลงจากอาคารท
พี่สาวเสี่ยวต้องไม่มาพบกับคนงานคนนี้
แต่ถ้าคนงานคนนี้กระโดดออกจากอาคารชื่อเสียงของรัฐบาลมณฑลและพี่สาวเสี่ยวจะได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดผู้คนจะสงสัยว่าทำไมนายกเทศมนตรีถึงปฏิเสธที่จะพบกับงานนั้นเมื่อเขากำลังจะฆ่าตัวตาย? ถ้านายกเทศมนตรีได้พบคนงานคนนั้นเขาอาจไม่กระโดดลงจากอาคารเสี่ยวหลาน จะต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของคนงานนั้น
นี่เป็นการทดสอบครั้งแรกของ พี่สาวเสี่ยวหลังจากที่เธอมาที่เมืองหยางไท่
ดงซูบินเองรู้สึกกดดัน เขาต้องจัดการปัญหานี้ให้พี่สาวเสี่ยว
เซียงดาวเลขาธิการพรรคประจำมณฑลกำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่ในห้องทำงาน เขาขมวดคิ้วขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่เขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้. เขาต้องการดูว่าเสี่ยวหลานจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร หากเธอรับมือกับเหตุการณ์นี้ไม่ดีและคนงานคนนั้นเสียชีวิตเขาก็สามารถตีเธอได้เมื่อเธอล้มลง ท้ายที่สุดเซียงดาวไม่ชอบเธอ
ที่ชั้นดาดฟ้าคนงานตะโกน “นายกเทศมนตรีอยู่ที่ไหนกัน”
หวางลี่รู้ว่าสิ่งนี้ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้และตะโกนใส่คนงาน “เราจะตรวจสอบสาเหตุที่คุณถูกไล่ออก ลงมาเถอะ มาบอกเราว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราเพื่อช่วยคุณ”
คนงานเห็นผู้นำรัฐบาลมณฑลยอมเล็กน้อยจึงขอเพิ่มทันที “พวกคุณต้องไล่ผู้อำนวยการโรงงานออก! ฉัน…ฉันอยากเป็นหัวหน้างาน!”
ใบหน้าของหวางลี่ เปลี่ยนไปและ ดงซูบินโกรธเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ เวรเถอะ! มันมากเกินไปแล้ว!
คนงานตะโกนสุดเสียง “ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของฉัน ฉันจะกระโดดทันที!”
รองเลขาธิการพรรคเฉาซูเผิงโกรธมากเช่นกัน “ผู้ชายคนนี้เมาและเรียกร้องมากเกินไป!”
หูยินเก่ากล่าว “ผู้สื่อข่าวอยู่ข้างนอกและดูเหมือนพวกเขาจะมาจากเมือง พวกเขากำลังถ่ายรูปด้วย”
หวางลี่ระงับความโกรธของเขา “เบาะเป่าลมพร้อมหรือยัง”
“ยังไม่…มันจะพร้อมเร็ว ๆ นี้”
คนงานตะโกนจากด้านบนของอาคาร “ทำไมนายกเทศมนตรีถึงยังไม่มาอีกล่ะ? ถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่ภายในหนึ่งนาทีฉันจะกระโดด!”
ดงซูบินกล่าวด้วยความโมโห “นายกล้าเข้ามาคุกคามรัฐบาลมณฑลเหรอ? นายรู้หรือเปล่าว่านายกำลังก่ออาชญากรรมร้ายแรงอยู่ตอนนี้”
คนงานจ้องไปที่ดงซูบินจากชั้นดาดฟ้า “อย่าพยายามทำให้ฉันใจอ่อน! ฉันตกงานและดูแลครอบครัวไม่ได้ด้วยซ้ำ! นี่มันเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย! ฉันไม่กลัวเรื่องพวกนั้นหรอก”
หูยินเก่าขมวดคิ้วและมองไปที่ดงซูบิน "คุณพยายามจะทำอะไร? หยุดพูดเช่นนั้นได้แล้ว!”
แต่ในขณะนี้สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
สภาพอากาศในเมืองหยางไท่ ไม่ดีในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาและจะมีลมกระโชกแรงอย่างกะทันหัน ลมแรงปรากฏขึ้นและพัดฝุ่นเข้าตาคนงาน คนงานหลับตาและใช้มือขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว เมื่อหลับตาเขาขยับขาโดยไม่ได้ตั้งใจและเสียการทรงตัว ร่างของเขาแกว่งไปมา ... และทุกคนตกใจมากที่เขาก็ตกลงมาจากขอบหลังคา
“อื้อ….” คนงานตะโกนขณะที่เขาล้มลงกับพื้น
ทุกคนตกตะลึง
เบาะเป่าลมเพิ่งพองขึ้นและถูกวางไว้ใต้คนงานตรงๆ แต่เนื่องจากลมแรงและคนงานได้เตะกับกำแพงเมื่อเขาพยายามที่จะกลับมาสมดุลร่างกายของเขาจึงขยับไปด้านข้างเล็กน้อย ทุกคนในที่เกิดเหตุเห็นคนงานตกจากเบาะเป่าลมและจะร่อนลงห่างจากที่เกิดเหตุประมาณหกถึงเจ็ดเมตร จุดที่คนงานตกลงมาคือพื้นที่คอนกรีต
การล่มสลายจากเรื่องที่เจ็ดจะฆ่าคนงาน
หัวใจของดงซูบินถูกทิ้งไว้กลางอากาศ แม้ว่าเขาจะเกลียดคนงาน แต่เขาก็ไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับเขา หากคนงานเสียชีวิตชื่อเสียงของแฟนสาวจะได้รับผลกระทบ เสี่ยวหลานยงใหม่ในมณฑลและเหตุการณ์นี้จะส่งผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพการงานของเธอ หากเซียงดาวหรือคนที่น่ารังเกียจอื่น ๆ ใช้ประโยชน์จากสื่อเพื่อต่อต้านเสี่ยวหลาน ชื่อเสียงของเธอก็เป็นไปในทางลบ
ดงซูบินกัดฟันและอธิษฐานกับตัวเอง ได้โปรด…อย่าตาย…
“เบาะนั้นไม่ตรงกับจุดที่เขาตกลงมา!”
"เวรเอ๋ย!"
หลายคนอ้าปากค้าง
สิบเมตร…
แปดเมตร…
ห้าเมตร…
ตุบ! ได้ยินเสียงดังขึ้นมา
คนงานตกลงมากับพื้นและศีรษะของเขากระทบพื้นอย่างแรง เลือดไหลออกจากร่างกายของเขา เขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ลูกทีมคนหนึ่งเห็นศพแล้วอาเจียน หลายคนหลับตาและหันหน้าหนีจากสายตาที่น่าสยดสยอง
ดงซูบินเองก็หน้าซีด ตอนนี้พี่สาวเสี่ยวกำลังมีปัญหา เขายังจำสิ่งที่เสี่ยวหลานบอกเขาทางโทรศัพท์ได้ “ฉันเชื่อใจคุณ” และ“ช่วยผู้ชายคนนั้นโดยเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมด” หัวใจของดงซูบินจมลงและรู้สึกว่าเขาปล่อยให้ความไว้วางใจของพี่สาวเสี่ยวลดลง ดงซูบินเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจและการตายของคนงานคนนี้จะส่งผลกระทบต่ออาชีพของพี่สาวเสี่ยว ในขณะที่ดงซูบิน ตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง
ดงซูบินต้องไม่ปล่อยให้ไอ้นี่ตาย!
ย้อนกลับไป 1 นาที!
……
ฉากนั้นสว่างวาบต่อหน้าต่อตาของดงซูบิน
“ผู้สื่อข่าวอยู่ข้างนอกและดูเหมือนพวกเขาจะมาจากเมือง พวกเขากำลังถ่ายรูปด้วย”
“เบาะเป่าลมพร้อมหรือยัง”
“ยังไม่…มันจะพร้อมเร็ว ๆ นี้”
“ทำไมนายกเทศมนตรีถึงยังไม่มาที่นี่? ถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่ภายในหนึ่งนาทีฉันจะกระโดด!”
เวลาย้อนกลับมาแล้ว
ดงซูบินต้องการย้อนกลับไปในอดีตมากขึ้น แต่เขาใช้ย้อนกลับเกือบหมดแล้วในช่วงสถานการณ์ตัวประกันและเหลือเวลาไม่ถึง 3 นาทีในตอนนี้ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาทำได้ ดงซูบินรู้สึกสบาย ๆ กับเช็คของเขาและนี่คือสัญญาณของลมกระโชกแรงอย่างกะทันหัน คนงานจะเสียการทรงตัวและตกจากหลังคาในไม่ช้า
ดงซูบินต้องทำงานที่พี่สาวเสี่ยวมอบให้เขาให้สำเร็จ!
ดงซูบินพุ่งตรงไปที่อาคาร
หวางลี่เห็น ดงซูบินและตะโกนใส่เขา “หัวหน้าซูบิน คุณกำลังจะไปไหน? อย่ายืนตรงเชิงตึก! มันอันตราย!”
ไม่มีใครอยู่ที่เชิงตึกเพราะทุกคนกลัวคนงานตกลงมา ดงซูบินเพิกเฉยต่อหวางลี่และมองไปที่เบาะเป่าลมขณะวิ่ง เบาะเป่าลมใหญ่และหนาเกินไปและสายเกินไปที่จะให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงแบกไปยังจุดที่คนงานจะลงจอด นอกจากนี้ดงซูบินไม่มีข้ออ้างที่ถูกต้องที่จะขอให้พวกเขาย้ายเบาะ ดงซูบินหันมาเห็นเรือเป่าลม
แม้ว่าเรือเป่าลมจะมีขนาดเล็กและไม่หนาพอ แต่ ดงซูบินก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ลมกระโชกก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน
หลายคนที่อยู่เบื้องหลังดงซูบินเองอ้าปากค้าง
ดงซูบินไม่มีเวลาเงยหน้าขึ้นและวิ่งไปแบกเรือเป่าลมไปยังจุดที่คนงานจะลงจอด
ขั้นตอนเดียว…สามขั้น…ห้าขั้น…เจ็ดขั้น…
“อ๊ะ !!!!”
“เขากำลังจะตกลงมา!”
“หัวหน้าซูบิน!”
ผู้นำและเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดในที่เกิดเหตุต่างกังวลและไม่เข้าใจว่าเหตุใดหัวหน้าซูบินจึงวิ่งไปที่อาคาร แต่ตอนนี้ทุกคนเข้าใจสิ่งที่ ดงซูบินพยายามทำ พวกเขาเห็นดงซูบินเหลือบขึ้นมาและโยนเรือเป่าลมลงบนพื้น แต่… แต่เรือมีขนาดเล็กเกินไปและโอกาสที่คนงานจะลงจอดบนเรือนั้นมีน้อย
สิบเมตร…
แปดเมตร…
ห้าเมตร…
ทุกคนประหลาดใจคนงานตกไปที่เรือเป่าลม! ทุกคนสามารถมองเห็นได้จากความเร็วและมุมของคนงานที่ตกลงมาและเขาจะร่อนลงบนเรือเป่าลม! หัวหน้าซูบินได้ทำนายจุดที่คนงานจะลงจอด!
ไม่น่าเชื่อ!
แต่ตอนนี้มีปัญหาอีกอย่างคือ
เบาะเป่าลมไม่หนาพอที่จะต้านทานแรงของคนงานที่ตกลงมาจากเรื่องที่เจ็ดและเขาจะยังคงเสียชีวิตจากแรงกระแทก
คนงานกรีดร้องขณะที่เขาตกลงมาและเขาก็เข้ามาใกล้เรือเป่าลมบนพื้นมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนนี้ดงซูบินให้ความเคารพอย่างมากในการรักษาความปลอดภัยสาธารณะและเจ้าหน้าที่ทุกคนก็มองมาที่เขา เมื่อทุกคนเห็นว่า ดงซูบินตกอยู่ในอันตรายพวกเขาทั้งหมดก็กังวล
“หัวหน้าซูบินหนีไปจากที่นั่น!”
"ใช่! สายเกินไปที่จะช่วยเขา! ออกไปและอย่าปล่อยให้เขาตกหลุมรักคุณ!”
"ระวัง!"
เจ้าหน้าที่ตะโกนเรียก ดงซูบินในเวลาเดียวกันและในเสี้ยววินาทีคนงานก็อยู่ตรงหน้าเขา
ดงซูบินนั้นด่าตัวเองในใจ หลบ? ถ้าเขาหลบคนงานก็จะต้องตายอย่างแน่นอนและพี่สาวเสี่ยว จะต้องตกที่นั่งลำบาก ดงซูบิน ไม่รู้ว่าผลกระทบต่อชื่อเสียงของพี่สาวเสี่ย จะเป็นอย่างไร แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะยอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ดงซูบินทำได้เพียงแค่ลองเสี่ยงโชคและเขายังมีเวลาเหลือมากกว่าหนึ่งนาที ทำให้ทุกคนประหลาดใจ ดงซูบินเหยียดแขนทั้งสองข้างขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาจำเป็นต้องทำลายการตกของคนงานและลดแรงบนเรือเป่าลม วิธีนี้เรือสามารถทนต่อแรงกระแทกได้
ทุกคนหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่พวกเขาเข้าใจสิ่งที่หัวหน้าซูบินพยายามจะทำ
หัวหน้าซูบินต้องการจับคนที่ตกจากเรื่องที่เจ็ดด้วยแขนของเขาหรือไม่! เขาบ้าเหรอ!
เฉาซูเผิงและผู้นำคนอื่น ๆ ตกตะลึง พวกเขาสงสัยว่าทำไม ดงซูบินถึงยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อทำเช่นนี้ เขาทำแบบนี้เพื่อกอบโกยคะแนนทางการเมืองให้ตัวเองหรือเปล่า? แน่นอน. หากดงซูบินสามารถช่วยชีวิตชายคนนั้นได้และช่วยให้รัฐบาลมณฑลและนายกเทศมนตรียุติเหตุการณ์นี้อย่างน้อยก็จะต้องได้รับการยอมรับในผลงานครั้งนี้แน่! แต่ความผิดพลาดครั้งหนึ่งคุณอาจถูกฆ่า!
หัวหน้าซูบินเป็นคนบ้า!
รับราชการยังมีคนกล้าเสี่ยงชีวิตอีกเหรอ?!
ทุกคนรู้ว่าหัวหน้าซูบินกล้าหาญ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะกล้าขนาดนี้
มีเพียงเลขาธิการคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายหวางลี่เท่านั้นที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของดงซูบินกับ เสี่ยวหลานและเขาสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้ หัวหน้าซูบินไม่ได้ทำเช่นนี้เพื่อจุดประสงค์ทางการเมืองหรือชื่อเสียงของเขา เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อป้องกันไม่ให้เสี่ยวหลานตกที่นั่งลำบากและหวางลี่ก็รู้สึกสะเทือนใจกับการกระทำของเขา เขารู้สึกว่าดงซูบินไม่มีค่าพอสำหรับเสี่ยวหลานเนื่องจากช่องว่างระหว่างทั้งคู่กว้างเกินไปในตอนแรก แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อดงซูบิน ดงซูบินเป็นคนที่กล้าเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องแฟนสาวของเขาและนายกเทศมนตรีเสี่ยวเป็นคนที่โชคดีในความสัมพันธ์นี้
หนึ่งเมตร…
ครึ่งเมตร…
คนงานเกือบจะถึงพื้นแล้ว
ดงซูบินกัดฟันและจับคนงานด้วยแขนทั้งสองข้าง
มันเกิดขึ้นเร็วมากและ ดงซูบินต้องการปล่อยทันทีที่จับคนงานได้ แต่ก่อนที่ดงซูบินจะกระพริบตาคนงานคนนั้นก็เกาะแขนของดงซูบินและแรงกระแทกดึงดงซูบินขึ้นไปบนเบาะเป่าลม ตูม! เบาะเป่าลมไม่สามารถต้านทานแรงโน้มถ่วงได้ และระเบิดได้ ศีรษะของคนงานกระแทกพื้นและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุอีกครั้งและแขนของดงซูบินก็พัง!
ดงซูบินแทบจะเป็นลมจากความเจ็บปวด ก ** ก! ย้อนกลับ 3 วินาที!
เวลากลับมา
หนึ่งเมตร…
ครึ่งเมตร…
ร่างของคนงานกลับสู่กลางอากาศ
ดงซูบินถือโอกาสนี้ใช้เท้าปรับตำแหน่งของเรือเป่าลมและยกแขนขวาขึ้นเล็กน้อย วิธีนี้ ดงซูบินจะจับขาของคนงานก่อนและเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงไปทางด้านหลังเพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะของเขาลงสู่พื้นก่อน หลังจากนั้นมือซ้ายของดงซูบินจับหลังคนงานและตะโกนด้วยความเจ็บปวด เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชะลอการล่มสลายของคนงาน
ตูม!
วางเบาะพลาดอีกแล้ว ตำแหน่งไม่ถูกต้อง
แม้ว่าครั้งนี้คนงานจะไม่ได้ลงจอดบนไหล่ แต่ศีรษะของเขาก็ยังกระแทกพื้นและเสียชีวิตอีกครั้ง
ย้อนกลับ 3 วินาที!
ครั้งหนึ่งสองครั้ง…สามครั้ง…สี่ครั้ง…
ดงซูบินแบกรับความเจ็บปวดและในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จเมื่อเขาเกือบจะใช้พลังย้อนกลับจนหมด เขาปรับตำแหน่งการล้มของคนงานได้สำเร็จและปล่อยก้นของเขาลงบนเรือเป่าลมก่อน ตูม !! เบาะเป่าลมระเบิดออกและดงซูบินก็ถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็วโดยถอนแขนออกจากใต้คนงานและล้มตัวนอนหงาย
“อ๊า !!!!”
คนงานร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด!
คนงานยังไม่ตาย!
คราวนี้คนงานรอดจากการตกจากตึก!
ดงซูบินหายใจออกมาอย่างแรง ด้วยความโล่งใจและเป็นลม
“หัวหน้าซูบิน!”