ตอนที่แล้วตอนที่ 92 - ถูกลงโทษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 94 ผู้ปกครองทัณฑ์สายฟ้าแห่งสวรรค์

บทที่ 93 ท้าทาย


บทที่ 93 ท้าทาย

“เจ้ากล้าฆ่าคนของข้า!” เส้นผมของจินจือเฟยปลิวว่อน ด้วยเสียงลมที่พัดมาอย่างบ้าคลั่ง อารมณ์ของเขาปะทุขึ้นทันที!

ตอนนี้เขาเหมือนหอกที่พุ่งไปข้างหน้ารวดเร็วดุจสายฟ้า

สือฮ่าวฆ่าคนสองคนต่อหน้าทุกคน สีหน้าของเขาสงบนิ่งขณะที่เขาตอบกลับอย่างเรียบง่ายและตรงไปตรงมา “เจ้าคิดว่าตัวเองมีอะไรพิเศษหรือ?”

“วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้า!” ใบหน้าของจินจือเฟยมืดมน ทั่วทั้งร่างของเขาเปล่งประกายความสว่างอันไร้ที่สิ้นสุด ทุกรูขุมขนของเขาสุกสกาวราวกับดวงอาทิตย์

“ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเจ้ากำลังหาข้ออ้างในการต่อสู้กับข้าหรือตอนนี้ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว! เลิกทำตัวเสแสร้งเสียที!” สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา

"หยุด!" ฉีหงรีบลุกขึ้นขวางระหว่างทั้งสองไม่ให้พวกเขาต่อสู้กัน

“น้องฉีกรุณาหลบไปด้านข้างอย่าปกป้องเขา วันนี้ข้าต้องประหารสัตว์ร้ายตัวนี้!” ดวงตาของจินจือเฟยนั้นเต็มไปด้วยเจตนาสังหารไม่ปิดบังแม้แต่น้อย

“เจ้าพูดเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้ไร้เทียมทานเสียเต็มประดา แต่ในความเป็นจริงเจ้าไม่มีค่าอะไรเลย! ครั้งที่แล้วเจ้าไม่ได้ถูกทุบตีจนต้องมอบสัตว์ขี่ออกมาเพื่อให้ฮวงแสดงความเมตตาต่อเจ้าหรอกหรือ? ตอนนี้เหตุการณ์เพิ่งผ่านไปไม่นาน เจ้าก็มาเห่าหอนที่นี่อีกครั้ง!” เฉาอวี่เซิ่งเยาะเย้ย

“ทำไมเจ้าถึงได้หยิ่งผยองถึงขนาดนี้? ครั้งที่แล้วยังโดนทุบตีไม่พออีกหรือ!” มดน้อยสีทองยังพูดอย่างเย็นชา

วันนี้พวกเขาถูกรังแกถึงขนาดนี้แล้ว แม้แต่คนรุ่นหลังของตระกูลจินกับคนรับใช้ก็ยังกล้าที่จะดูหมิ่นสือฮ่าว นับว่าล้ำเส้นเกินไปจริงๆ!

ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายไม่สามารถที่จะกลับมาเป็นมิตรกันได้อีกต่อไป

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแม้แต่คนรับใช้และเด็กรุ่นหลังจากตระกูลจินถึงกล้าปีนขึ้นไปบนหัวของสือฮ่าว สือฮ่าวจึงไม่จำเป็นต้องแสดงความเมตตาใดๆเพียงสังหารพวกเขาเหมือนกับบดขยี้มดปลวกก็เท่านั้น

“ดีดีดี! หากวันนี้ข้าไม่สังหารพวกเจ้า นับว่าเป็นการทำให้ผู้คนผิดหวังจริงๆ!” จินจือเฟยตะโกนดวงตาของเขาโหดเหี้ยมเจตนาฆ่าฟันพุ่งขึ้นไปบนสวรรค์

ในเวลาเดียวกันจินซานก็เดินขึ้นไปยืนอยู่ข้างหลังลุงของเขาด้วยสีหน้าเย็นชา เขาจ้องไปที่สือฮ่าวในในลักษณะเดียวกับจินจือเฟย

“ฮวงเจ้าทำเกินไปแล้วคิดว่าตระกูลจินของข้าจะถูกรังแกอย่างง่ายๆเหรอ? การฆ่าพี่น้องของข้าความแค้นนี้ต้องถูกชำระด้วยเลือด เจ้าจะจัดการตัวเองหรือต้องการให้พวกเราลงมือ?!” จินซานแสดงเจตจำนงอย่างแน่ชัดว่าต้องการเข้าร่วมต่อสู้ครั้งนี้

บรรยากาศที่นี่ตึงเครียดขึ้นมาทันที จิตใจของทุกคนหวั่นไหวไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะพัฒนามาถึงขั้นนี้

“ตระกูลจินของพวกเจ้าทำแต่เรื่องไร้สาระ หยุดแสร้งได้แล้วในที่แห่งนี้มีผู้ใดไม่ทราบว่าพวกเจ้าต้องการหาเรื่องสือฮ่าว? ตอนนี้พวกเจ้ากำลังทำทุกอย่างให้ตัวเองดูชอบธรรมเท่านั้น ไร้ยางอายจริงๆ!”เฉาอวี่เซิ่งเริ่มโมโหแล้ว

“ตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นจะเป็นศัตรูกับพวกเรา แต่ยังต้องการความสง่างามมีระดับ? ถ้าพวกเจ้าไม่เต็มใจก็ลงมือเถอะรับรองว่าพวกเราไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว!” มดเขาสวรรค์กล่าวออกไปตรงๆมันไม่เคยหวาดกลัวการต่อสู้อยู่แล้ว

“ข้ายืนอยู่ตรงนี้หากพวกเจ้าไม่พอใจก็เข้ามาเถอะ!” สือฮ่าวยังคงปราศจากความกลัวดวงตาของเขาเหมือนสายฟ้าสีทองทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง

ทุกคนต่างพากันสั่นสะท้าน การรวมตัวเพิ่งเริ่มต้น แต่ก็มีสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น

ถึงแม้บางคนไม่ต้องการให้มีการต่อสู้เกิดขึ้นในวันนี้ แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยรอชมเรื่องสนุกสนานอยู่

ฉีหง,ทัวปาอู่หลง และหงส์เพลิงทั้ง 4 ของตระกูลเว่ย ต่างเดินไปข้างหน้าโดยแยกพวกเขาออกเป็น 2 ฝั่ง

“การชุมนุมครั้งนี้ถ้ามันจบลงด้วยความโกลาหลเพราะมีข้อบาดหมางมันคงไม่ดีแน่ พวกข้าไม่ต้องการให้ทั้งสองฝ่ายหันอาวุธเข้าหากัน” ทัวปาอู่หลงกล่าว

“พี่ทัวปาท่านไม่มีความยุติธรรมเลย” หวังซีเดินเข้ามานางมีใบหน้างดงามราวกับเทพธิดาชุดสีขาวราวกับหิมะที่ไม่ได้รับการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรก ทั้งยังดูสูงสง่าและปราณีต

ก่อนหน้านี้นางเคยร่วมทางมากับตระกูลทัวปา ทุกคนล้วนคิดว่าความสัมพันธ์ของสองตระกูลแน่นแฟ้นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น

"ข้าพูดความจริง. การรวมตัวของพวกเราในวันนี้เกิดขึ้นเพื่อการสนทนาเต๋าที่สนุกสนานเท่านั้น เราจะเผชิญหน้ากันด้วยความเกลียดชังกันได้อย่างไร” ทัวปาอู่หลงกล่าว

หวังซีมีรอยยิ้มไม่แยแสบนใบหน้านางเดินเข้ามาและพูดว่า“ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่คนผู้นี้สังหารสมาชิกตระกูลจินด้วยความโหดร้ายที่นี่ ขณะเดียวกันในเมืองจักรพรรดิ์แห่งนี้ไม่อนุญาตให้ใครทำการสังหารผู้อื่นหากฝ่าฝืนจะถูกทำลายล้างทั้งตระกูล!”

เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งนี้พวกเขาก็สูดลมหายใจเข้าไปยังหนาวเหน็บ หญิงสาวที่งดงามผู้นี้กลับใจดำยิ่งนักถึงกับคิดจะกวาดล้างตระกูลหินผาที่มีความเกี่ยวข้องกับสือฮ่าวไปในครั้งเดียว

ในตอนแรกไม่มีใครสนใจมากนักเพราะชายหนุ่มของตระกูลจินทำตัวเลวทรามล้ำเส้นเกินไป หลังจากที่เขาถูกฆ่าหลายคนถึงกับปรบมือด้วยความดีใจ

อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าหวังซีจะนำกฎของเมืองมาใช้เพื่อลงโทษสือฮ่าวในเหตุการณ์ครั้งนี้

“ข้าจำได้ว่าหากมีผู้ใดพยายามที่จะยั่วยุทำให้ผู้อื่นอับอายการสังหารเขานับเป็นเรื่องอันชอบด้วยเหตุผล สถานการณ์นี้ก็อยู่ในกฎของข้อนี้ด้วย ดังนั้นการกระทำก่อนหน้านี้ของข้าย่อมไม่ถือเป็นอาชญากรรม” สือฮ่าวกล่าวอย่างใจเย็น

“ถูกต้องแล้วมีกฎข้อนี้จริงๆ” หญิงสาวจากของตระกูลเว่ยพยักหน้าเห็นด้วย

“เนื่องจากพวกเจ้าเป็นฝ่ายยั่วยุก่อน การที่เจ้าเด็กน้อยผู้นั้นถูกสังหารไปก็นับเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ฮ่าๆๆ!”เฉาอวี่เซิ่งเย้ยหยัน

“ทุกคนที่นี่สามารถยืนยันได้ว่าเจ้าเด็กชราผู้นี้พยายามยั่วยุสือฮ่าวมาตลอดแม้กระทั่งให้ลูกหลานของตัวเองมีส่วนร่วมในข้อขัดแย้งนี้!” มดตัวน้อยสีทองชี้ไปที่จินจือเฟยทำให้ใบหน้าของเขามืดลงทันที

ในช่วงเวลานั้นการแสดงออกบนใบหน้าของหวังซีก็เย็นลงเล็กน้อย

ดวงตาของจินซานเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า

“ตามกฎแล้วตอนนี้ที่ฮวงสังหารศิษย์คนสำคัญจากตระกูลจินนี่ถือเป็นการยั่วยุเช่นเดียวกันดังนั้นตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต้องต่อสู้กันถึงจะเหมาะสม!” หวังซีกล่าว

“ถูกต้องเนื่องจากผู้คนเสียชีวิตไปแล้วการต่อสู้จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้!” จินจือเฟยกล่าวอย่างเย็นชา

ทัวปาอู่หลงและฉีหงพยายามไกล่เกลี่ยอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในตอนนี้ สือฮ่าวก็เดินออกมารับคำท้าด้วยเสียงหัวเราะ

“เนื่องจากเจ้าต้องการต่อสู้ จะรอช้าไปทำไมเข้ามาเถอะ!” สือฮ่าวกล่าว

การสนทนาครั้งนี้เสร็จสิ้นทันทีทั้งสองฝ่ายต่างปลดปล่อยปราณต่อสู้ออกมา พร้อมจะผู้เข้าสังหารอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ

ควรทราบว่าทั้งสองคนล้วนไม่ธรรมดา ไม่จำเป็นต้องพูดถึงฮวงที่ไม่มีใครไม่รู้จักเขา ตอนนี้หลายคนอยากเห็นว่าเขาเป็นคนพิเศษเพียงใดถึงสามารถสังหารสิบราชาของศัตรูด้วยตัวคนเดียวได้

ในขณะเดียวกันจินจือเฟยเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงเมื่อไม่นานมานี้ ถึงเขาจะอายุเพียงสามสิบเศษแต่ก็เข้าสู่ขอบเขตการปลดปล่อยตัวเองแล้วพรสวรรค์ของเขาสูงส่งเพียงใดเป็นที่ทราบได้

“ข้ากำลังรอคำนี้อยู่เลย วันนี้ข้าจะสังหารเจ้าที่นี่!” จินจือเฟยคำรามด้วยเสียงหัวเราะเย่อหยิ่ง

“เด็กน้อยเจ้าลืมความพ่ายแพ้เมื่อวันวานไปแล้วหรือ?”

“เจ้าเด็กชราเมื่อบาดแผลหายก็ลืมความเจ็บปวดไปทันที ฮ่าๆๆ!”

เฉาอวี่เซิ่งและมดเขาสวรรค์เย้ยหยันออกมาพร้อมกัน

อาจกล่าวได้ว่าในตอนแรกจินจือเฟยรู้สึกอิ่มเอมใจที่สุดที่ได้มีโอกาสล้างความอัปยศ แต่อารมณ์ของเขาถูกทำลายลงทันทีด้วยสอง2 ประโยคดังกล่าว

“ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เมื่อข้าสังหารฮวงได้แล้วข้าจะจัดการกับพวกเจ้าทั้งหมด!” จินจือเฟยกล่าว

การต่อสู้ครั้งใหญ่ใกล้จะปะทุ ตอนนี้ไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้อีกต่อไป จึงจำเป็นต้องปล่อยให้พวกเขาเผชิญหน้ากัน

“ก่อนหน้านี้มีสถานที่พิเศษอยู่ในเกาะแห่งนี้ พวกเจ้าสามารถต่อสู้กันที่นั่นจะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น” หนึ่งในสี่หงส์เพลิงกล่าว

แม้ว่าเซียนโบราณจะจากไปนานแล้ว แต่สถานที่ที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่ก็ยังทนทานอย่างน่าเหลือเชื่อยากที่อาวุธจะสร้างความเสียหายได้

“เจ้าคนเดียวพอแล้วเหรอ?ข้าอนุญาติให้เจ้าหาคนมาช่วยก็ได้” ก่อนที่จะมาถึงสนามประลองนี้ สือฮ่าวถามอย่างใจเย็น

เนื่องจากอีกฝ่ายกระทำการยั่วยุเขาครั้งแล้วครั้งเล่า สือฮ่าวจึงรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องให้เกียรติพวกเขาอีกต่อไป

“อย่างไรซะตระกูลจินและตระกูลหวังของพวกเจ้าก็เป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วทำไมพวกเจ้าทั้ง 3 คนไม่เข้ามาพร้อมกันทั้งหมดล่ะ?!”สือฮ่าวกล่าว

เขากวาดสายตาผ่าน จินจือเฟย,จินซาน และหวังซี

ใบหน้าของของจินซานเย็นชา เขาได้รับการยกย่องให้เป็นความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์ของคนรุ่นนี้ ใครกล้าดูถูกเขา?

อย่างไรก็ตามตอนนี้สือฮ่าวกลับต้องการให้พวกเขาสามคนร่วมมือ นับเป็นการดูถูกเหยียดหยามพวกเขาอย่างมาก

ริมฝีปากแดงของหวังซีเม้มแน่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ

“เจ้าหนูเจ้ามอบชีวิตของเจ้ามาเถอะ!” จินจือเฟยพูดอย่างเย็นชาเริ่มโจมตีเข้าใส่สือฮ่าว

“เต่าชราเจ้าไปตามทางของตัวเองเถิด!” สือฮ่าวกล่าวโดยไม่แสดงความอ่อนแอออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด