บทที่ 38 - แซ่ของเขา
บทที่ 38 - แซ่ของเขา
ในสนามรบตลบอบอวลด้วยแสงอันเป็นมงคล ร่างสีทองเดินออกมาจากความมืด
ราชาหนุ่มสาวจากฝ่ายตรงข้ามแสดงความตื่นเต้นออกมาราวกับว่าพวกเขากำลังต้อนรับราชาที่แข็งแกร่ง นับเป็นฉากอันน่าตกใจอย่างยิ่ง
ต้องเข้าใจว่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์เหล่านี้ล้วนเป็นราชาจากเผ่าต่างๆพวกเขาหยิ่งยโสจะก้มหัวให้อีกคนได้อย่างไร? พวกเขาทั้งหมดดุร้ายทรงพลัง แต่ตอนนี้ฉากประเภทนี้ก็ปรากฏขึ้นจริง
เมืองโบราณสวรรค์สีชาดถูกสร้างจากกระดูกเซียนโบราณ แต่ตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง ด้านล่างเป็นเหวสีดำขนาดยักษ์
บริเวณนี้มืดสนิทไม่มีใครสามารถมองเห็นนิ้วทั้งห้าของตัวเองได้ สิ่งมีชีวิตต่างถิ่นยืนอยู่ที่นั่นยากที่จะมองเห็นร่างที่แท้จริงของพวกมัน ทุกตัวเลือนลางไม่ชัดเจน
ผมสีทองยาวกระจัดกระจายลงมาถึงหัวเข่าขณะที่เดินไปก็มีแสงศักดิ์สิทธิ์สุกสกาวส่องออกมาจากตัวเขาทำลายความมืดที่อยู่รอบๆ
มันเหมือนกับป่าเขียวขจีที่ปรากฏขึ้นในทะเลทรายราวกับว่าต้นไม้แห่งชีวิตที่โผล่ออกมาจากสนามรบที่เต็มไปด้วยกองกระดูก ทำให้รู้สึกสดชื่นและเป็นมงคล เขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับราชาหนุ่มสาวที่อยู่ที่นี่
“ผู้ยิ่งใหญ่โปรดดำเนินการสังหารทายาทของผู้พ่ายแพ้!”
“ตั้งแต่ผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏตัวก็ไม่มีเรื่องน่าสงสัยอีกต่อไป การสังหารฮวงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น!”
นี่เป็นความคิดที่อยู่ในใจของเหล่าราชารุ่นเยาว์ พวกเขาเชื่ออย่างแท้จริงว่าตราบใดที่ชายผมสีทองคนนี้ลงมือเขาจะสามารถฆ่าสือฮ่าวได้อย่างแน่นอน!
ทุกคนรู้สึกเคารพเขาโดยไม่มีความอิจฉาริษยาแม้แต่น้อย เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าบางสิ่งบางอย่างแม้ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถไล่ตามทัน ความแตกต่างมีแต่จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ !
“ข้าจะฆ่าเจ้า! เจ้าคนแซ่เฮ่อมอบชีวิตของเจ้ามา!” ทางฝั่งของเก้าสวรรค์สิบพิภพมดตัวน้อยสีทองกำลังบ้าคลั่งร่างกายทั้งตัวลุกโชนด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องประกายอย่างรุนแรง แม้ว่ามันจะตัวเล็กแต่ตอนนี้ความตั้งใจในการต่อสู้ของมันก็ถูกปลดปล่อยจนโลกสั่นสะเทือน
เป็นเพราะมันสามารถปลดปล่อยความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์ เมื่อเข้าต่อสู้จะมีพละกำลังมากมายมหาศาลขึ้นหลายเท่า
อย่างไรก็ตามผลที่ตามมาคือเมื่อเจตุจำนงค์ให้การต่อสู้หมดลงร่างกายจะได้รับภาระอย่างหนักจนเกิดความเสียหายเหน็ดเหนื่อยอย่างถึงที่สุด ต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายปีจึงจะสามารถกลับมาเป็นปกติ
มีหลายคนจากฝั่งเก้าสวรรค์สิบพิภพเกิดความสับสนไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆมดเขาสวรรค์ถึงได้บ้าคลั่งราวกับว่ามันถูกยั่วยุ ดวงตาของมันแดงฉานราวกับจะแตกออกจากกัน
“มันรู้ว่าคน ๆ นั้นคือใครและถึงกับกล้าเรียกชื่อเขา!” ใครบางคนกล่าวเบาๆ
มีเพียงสือฮ่าวเท่านั้นที่รู้ว่าหลังจากที่พี่น้องของมดเขาสวรรค์ถูกฆ่าตายในสนามรบ ร่างของพวกเขายังถูกป้อนให้กับสัตว์เลี้ยงของอีกฝ่ายแม้แต่ซากศพก็ไม่คงอยู่
เปง!
สือฮ่าวคว้าตัวหมดเขาสวรรค์ไม่ให้บู่มบ่าม เขาเข้าใจดีว่ามดตัวน้อยรู้สึกอย่างไรเขาจะรู้สึกสงบได้อย่างไรหลังจากเห็นศัตรูที่ฆ่าพี่น้อง
"ปล่อยข้าไป! มันจะมีชีวิตต่อไปไม่ได้ปล่อยข้าฆ่ามัน! … ” ความแข็งแกร่งของมดตัวน้อยมากมายมหาศาลจนสือฮ่าวแทบจะจับเอาไว้ไม่ไหว
"ตื่นสักที! นั่นไม่ใช่เขา!” สือฮ่าวใช้เสียงแห่งเต๋า ตะโกนข้างหูของมัน
สิ่งนี้ได้ผลดีมาก มดตัวน้อยที่บ้าดีเดือดเหม่อลอยไปหมดแล้วดวงตาของมันก็กระจ่างขึ้นเล็กน้อย สือฮ่าวชี้ไปที่ใบหน้าของตัวเอง
“จำข้าได้หรือยัง?”
ในความมืดชายคนหนึ่งเดินออกมาจากเหวใต้ดินของซากปรักหักพัง เส้นทางสีทองปรากฏขึ้นใต้เท้าของเขาพลังอันศักดิ์สิทธิ์พุ่งพล่านออกมาทั่วพื้นที่
นี่เป็นคนพิเศษไม่เหมือนกับผู้บ่มเพาะหนุ่มสาวคนอื่น ๆ เขาเป็นเหมือนจักรพรรดิที่ปกครองโลกทำให้ไม่มีใครกล้าจับจ้องเขาตรงๆ
ลมเย็นพัดผ่าน เสียงหวู่หวู่ เส้นขอบท้องฟ้าสีแดงเข้มที่มืดมิดเริ่มว่างเปล่า เสียงก้องกังวานของดวงดาวที่หมุนวนอยู่ข้างขอบของความโกลาหล
ผมสีทองปลิวไปตามลมเผยให้เห็นแก้มขาวราวกับหิมะของเขา เขาดูคล้ายกับเฮ่ออู่ซวง แต่พวกเขาไม่ใช่คนเดียวกันแน่นอน
หากพิจารณาอย่างรอบคอบสิ่งที่คล้ายกันมากที่สุดระหว่างทั้งสองควรเป็นบรรยากาศรอบๆตัว ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่สูงสง่าผิวขาวและผมยาวสีทอง อย่างไรก็ตามใบหน้าของพวกเขายังมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง
“ดูคล้ายกัน แต่ไม่ใช่คนเดียวกันเฮ่ออู่ซวงอยู่ที่ไหนเจ้าเป็นอะไรกับเขา?!” มดน้อยสีทองตะโกน
“เขาเป็นปู่ของข้า” ชายผมทองคนนั้นพูดอย่างใจเย็น แม้ว่าเขาจะถูกมดเขาสวรรค์เรียกชื่อปู่ของเขาอย่างหยาบคาย แต่เขาก็ไม่โกรธเคืองกลับยิ้มอย่างอ่อนโยนแทน
คล้ายกันจริงๆเช่นเดียวกับเมื่อพวกเขาเห็นเฮ่ออู่ซวงในอดีต เขามีอารมณ์แบบพิเศษไม่ธรรมดาดูศักดิ์สิทธิ์สูงส่งเหนือโลกมรรตย ราวกับเป็นเซียนผู้โดดเดี่ยว
ทุกสิ่งในโลกดูเหมือนจะปนเปื้อนความบริสุทธิ์ของเขา ราวกับว่ามีโลกของตัวเองก่อตัวขึ้นรอบๆตัวเขา โลกมนุษย์อยู่ไกลจากเขามากเกินไป
“เจ้ากล้า! บรรพบุรุษอู่ซวงเป็นคนที่เจ้าเรียกได้อย่างไร? การกระทำของเจ้าครั้งนี้จะได้รับความตายอย่างสาสม!” ใครบางคนตะโกนออกมา
ชายผมทองคนนั้นไม่ได้พูดอะไร แต่คนอื่นๆไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้ ไม่เพียงแต่ราชาหนุ่มสาวเท่านั้นแต่ตัวประหลาดอาวุโสก็ยังมีท่าทีขุ่นเคือง
“ชื่อต้องห้ามนั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถพูดได้ง่ายๆ! เจ้าเพียงกำลังแสวงหาความตายให้กับตัวเอง!” หญิงสาวผมสีเงินตะโกน
ในด้านของเก้าสวรรค์สิบพิภพจิตใจของทุกคนเกิดความหนาวเหน็บ ชื่อต้องห้ามนั้นดำรงอยู่ในระดับใด? มันควรจะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกใช่มั้ย?
สือฮ่าวก็ตกตะลึงเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยพบเฮ่ออู่ซวงมาก่อนรู้สึกเหมือนความฝันอยู่บ้าง สำหรับเขาเพียงไม่กี่วันผ่านไป แต่ในความเป็นจริงกลับผ่านมาแล้วหลายล้านปี
ใช่แล้วยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ผ่านไป คนคนนั้นย่อมน่ากลัวขึ้นมากไม่ว่าจะอย่างไรตอนนี้เขาก็ต้องเป็นผู้ไม่ดับสูญอย่างแน่แท้ ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดการพัฒนาของเขาได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ!
มดตัวน้อยสีทองยิ่งจ้องมองออกไป เต็มไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ ไม่ว่าเขาอยากจะยอมรับหรือไม่ก็ตามคนที่ฆ่าพี่ชายและพี่สาวของเขาได้กลายเป็นตัวตนที่ไม่มีใครเทียบได้ไปแล้ว
“การมีอยู่ต้องห้ามอะไร สักวันข้าจะต้องฆ่ามันให้ได้!”มดเขาสวรรค์กล่าวสาบาน
"หุบปาก!แม้แต่มดแมลงตัวเล็กอย่างเจ้ายังกล้าดูหมิ่นผู้ไม่ดับสูญ?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ท่านผู้นั้นได้ก้าวเข้าสู่ระดับผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ว่าใครเอ่ยชื่อออกมาจะถูกลบร้างวิญญาณทันที!” ใครบางคนตะโกน
ทุกคนตกตะลึงสือฮ่าวและมดตัวน้อยยิ่งตะลึง เฮ่ออู่ซวงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับนั้นไปแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะไล่ตามบรรพบุรุษโบราณของตระกูลอันหลานได้ทันแล้ว?
“ข้าไม่เชื่อ! เฮ่ออู่ซวงไสหัวออกมา!” มดเขาสวรรค์ตะโกนดังลั่น
มันตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเดิมหลายสิบครั้ง
ตอนนี้หลายคนในอีกด้านหนึ่งโกรธแค้นเป็นอย่างมากการเรียกชื่อของสิ่งมีชีวิตระดับผู้ไม่ดับสูญเป็นสิ่งที่ไม่สามารถให้อภัยได้
“หวู่..บรรพบุรุษสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง จิตวิญญาณอาวุธของเขากำลังฟื้นขึ้นมา” ชายผมทองคนนั้นพูดอย่างสงบนิ่งไม่มีความโกรธแค้นต่อเสียงร่ำร้องของมดเขาสวรรค์
จิ!
ทันใดนั้นเองท่ามกลางท้องฟ้าง้าวขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นราวกับว่ามันสามารถบดขยี้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ใบมีดง้าวสีขาวสว่างไสวสามารถปราบปรามจักรวาลที่ยิ่งใหญ่ได้ มันโอนเอนไปมาอย่างน่าประหลาดพลังแห่งความโกลาหลถูกปลดปล่อยออกมาจำนวนมหาศาล!
มันปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันเกินไปคล้ายจะทำลายดวงอาทิตย์และจันทรา ง้าวนี้น่ากลัวอย่างยิ่งเมื่อมันตัดผ่านท้องฟ้า!
ทุกคนสูดอากาศเย็นๆ ผู้คนมากมายจากต่างมิติล้วนก้มกราบลง ในด้านของ เก้าสวรรค์สิบพิภพทุกคนต่างใจสั่นสะท้าน นี่เป็นการดำรงอยู่ที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
“เขาจะแข็งแกร่งกว่าบรรพบุรุษตระกูลอันหลานหรือไม่?” สือฮ่าวตัวสั่นอยู่ข้างใน พลังของกาลเวลาไม่สามารถท้าทายได้ ตอนนี้เวลาที่ผ่านไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเฮ่ออู่ซวงแข็งแกร่งขึ้นเกินกว่าที่เขาจินตนาการไปมาก
เขารู้ว่านี่เป็นเรื่องปกติ คงจะแปลกถ้าเฮ่ออู่ซวงไม่สามารถบรรลุระดับนี้ได้
ในวันนั้นเขาและเฮ่ออู่ซวงจบลงด้วยการตกตายทั้งสองฝ่าย แต่เวลาผ่านไปหลายล้านปีเฮ่ออู่ซวงจะไม่ผงาดขึ้นมาได้อย่างไร? ส่วนตัวเขาเป็นเพียงแค่คนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในปัจจุบันเท่านั้น!
อย่างไรก็ตามสามารถเห็นได้ว่าเฮ่ออู่ซวงยังด้อยอยู่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับบรรพบุรุษโบราณของตระกูลอันหลาน ที่เพียงแค่พูดถึงแซ่ของเขาหอกทองคำจะฉีกผ่านสวรรค์และโลกสร้างความหวาดกลัวให้กับจิตวิญญาณอย่างแท้จริง
โชคดีที่พวกสือฮ่าวอยู่ในด้านนี้ของโลก หากพวกเขาอยู่ในต่างแดนการพูดออกมาดังๆแบบนี้ อาจทำให้เกิดการสังหารอันโหดเหี้ยมจากบรรพบุรุษโบราณอันหลาน!
เฮ่ออู่ซวงแข็งแกร่งมากมีพรสวรรค์ในการปกครองโลกทั้งในอดีตและปัจจุบัน อย่างไรก็ตามบางทีอาจเป็นเพราะเวลาในการบ่มเพาะของเขาน้อยกว่าบรรพบุรุษโบราณเหล่านั้นหรืออาจเป็นเพราะเหตุผลอื่นเมื่อเทียบกันแล้วจึงทำให้เขาด้อยกว่าอยู่บ้าง
เมื่อพูดชื่อจริงของเขาสามครั้งอาวุธวิเศษของเขาจึงปรากฏขึ้นเพื่อแสดงพลังของมัน
สำหรับด้านของเก้าสวรรค์สิบพิภพนี่ไม่ใช่ข่าวดีอย่างแน่นอน แต่เป็นหายนะครั้งใหญ่!
“ผู้ยิ่งใหญ่โปรดดำเนินการฆ่าทายาทของทาสผู้ต่ำต้อย!” หญิงสาวผมสีเงินกล่าวพร้อมกับเดินขึ้นไปด้วยความเคารพ
คำทักทายประเภทนี้การดูถูกประเภทนี้เป็นเพราะความแข็งแกร่งของชายผมสีทอง ราชาหนุ่มสาวที่นี่ทุกคนรู้สึกว่าสมควรเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่ศัตรูทั้งหมดจะต้องพ่ายแพ้
“ไม่ต้องเร่งรีบ” ชายผมทองมองไปที่สือฮ่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเขา เขาเป็นคนใจเย็นไม่เคยมีความรีบร้อน จากนั้นเขาก็มองไปที่อีกด้านหนึ่งของสนามรบและพูดว่า“ข้ามาที่นี่เพื่อประกาศเรื่องสำคัญ!”