ตอน 104 - ตระกูลจักรพรรดิที่
ตอน 104 - ตระกูลจักรพรรดิที่
จักรพรรดิ์ในที่นี้ไม่ใช่ลักษณะเดียวกับเผ่าพันธุ์จักรพรรดิของโลกมนุษย์
ในเก้าสวรรค์สิบพิภพมีตระกูลที่มีอำนาจสูงสุดเช่นเดียวกับมรดกที่ยังคงไม่มีใครเทียบ ได้ตกทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณสิ่งเหล่านี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นตระกูลจักรพรรดิ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีตระกูลที่ดำรงอยู่มาอย่างยาวนานในโลกนี้บรรพบุรุษของพวกเขาเคยบรรลุความเป็นอมตะมาก่อนพวกเขาจึงรู้จักกันในนามตระกูลอมตะ
นั่นคือเหตุผลที่ตระกูลจักรพรรดิ เป็นคำที่ไม่ได้ใช้บ่อยในเก้าสวรรค์แต่เป็นคำที่ใช้ในสิบพิภพ จักรพรรดิของโลกมนุษย์ยังคงอยู่ในขอบเขตของมนุษย์
ในขณะเดียวกันกลุ่มจักรพรรดิ์ต่างมิตินั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงพวกเขาได้รับการยกย่องเพราะการดำรงอยู่ของผู้ไม่ดับสูญ
ตัวอย่างเช่นอันหลาน,ซือถู สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ดำรงมาอย่างยาวนานแม้ว่าจะผ่านยุคยิ่งใหญ่มาถึง 2 ยุคแล้ว แต่พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่และยังมีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ ตระกูลของพวกเขาได้รับการยกย่องให้เป็นตระกูลจักรพรรดิ
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ไม่มีใครเทียบได้
ในขณะเดียวกันอันหลาน ซือถู และคนอื่น ๆ พวกเขานำกองทัพที่ยิ่งใหญ่เอาชนะเก้าสวรรค์สิบพิภพได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พวกเขาถูกมองว่าสูงส่งกว่าราชาอมตะจึงถูกเรียกว่าจักรพรรดิ
กล่าวให้ถูกต้องคือบุคคลเหล่านี้เป็นจักรพรรดิของผู้ไม่ดับสูญ!
แน่นอนว่าในความเป็นจริงพวกเขาไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากไปกว่าราชาอมตะ เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วอาณาจักรการบ่มเพาะของพวกเขาถือได้ว่าเป็นขั้นสุดท้ายไม่สามารถแข็งแกร่งไปกว่านี้ได้อีก
อย่างไรก็ตามในโลกนี้มีมรดกโบราณมากเกินไปรวมทั้งความลึกลับมากมายนับไม่ถ้วน ดินแดนฝังศพโบราณยังคงไม่ได้รับการเปิดเผยขุดค้น ในฝั่งต่างมิติก็เช่นกัน
แม้ว่าพวกเขาจะค้นคว้าเรื่องอาณาจักรที่อยู่สูงกว่าความเป็นอมตะอย่างรอบคอบแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจเพราะไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตประเภทนั้นอยู่ พวกเขาแข็งแกร่งเกินไปมันเป็นไปไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าพวกเขามีอยู่จริงตลอดหลายล้านปีทำไมถึงไม่เคยมีร่องรอยของพวกเขาเลย? พวกเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ ดินแดนและมรดกของพวกเขากลายเป็นพื้นที่ฝังศพ พวกเขาไม่ควรกลายเป็นอากาศไปเฉยๆ
อย่างไรก็ตามในกลุ่มสิ่งมีชีวิตต่างมิติมีเริ่มมีความหวังในเรื่องนี้แม้ว่าจะไม่มีการพิสูจน์ที่ชัดเจนว่ามีอยู่จริงก็ตาม
หลังจากหลายปีผ่านไปไม่มีใครรู้ว่าอันหลานและซือถูค้นคว้าอะไรหรือค้นพบเบาะแสใหม่หรือไม่
แต่ที่แน่ๆฝั่งเก้าสวรรค์สิบพิภพไม่เคยค้นพบเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะแค่ในอาณาจักรแห่งความเป็นอมตะพวกเขายังทำได้แค่ฝัน นับประสาอะไรกับอาณาจักรที่สูงส่งไปกว่านั้น
“หนุ่มสาวจากตระกูลจักรพรรดิพวกนี้เป็นลูกหลานของซือถู อันหลานหรือไม่? พวกเขาเป็นที่รู้กันดีว่าไม่มีใครเทียบได้ ตราบใดที่หนึ่งในนั้นปรากฏขึ้นไม่มีใครในหมู่คนรุ่นเยาว์จากทั้งสองโลกสามารถต่อกรได้!”
มีบางคนที่พูดถึงเรื่องนี้เบาๆ เฉาอวี่เซิ่ง,มดเขาสวรรค์, กระต่ายหยกจันทราและคนอื่นต่างใบหน้าที่ซีดเผือดลง พวกเขารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก
“หากไม่มีอะไรผิดพลาด ฮวงก็จะตายอย่างไม่ต้องสงสัย!” ปู่ของจินซานกล่าว แม้ว่าเขาจะเป็นสมาชิกของตะกูลอมตะ แต่ใบหน้าของเขายังคงมืดคล้ำลงเมื่อเผชิญหน้ากับตระกูลจักรพรรดิต่างมิติ
ในการต่อสู้ในระดับเดียวกันผู้คนจากตระกูลจักรพรรดิ์ไม่เคยมีใครเทียบได้ พวกเขาไม่เคยประสบกับความพ่ายแพ้มาก่อน
ในขณะนี้มีสิ่งมีชีวิตหลายตัวปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกันมาจากทิศทางที่แตกต่างกัน พวกเขาทั้งหมดก้าวไปบนเส้นทางสีทองอันยิ่งใหญ่?
ไม่มีใครเชื่อว่าสือฮ่าวสามารถเผชิญหน้าผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์หลายคนจาก ตระกูลจักรพรรดิเพียงลำพังได้!
“ดูเหมือนว่าต่อให้เราไม่เข้าไปยุ่งเขาก็จะต้องตายแน่นอน ในเวลาเดียวกันเราสามารถเห็นได้ว่าตระกูลจักรพรรดิต่างมิติในตำนานนั้นพิเศษเพียงใด!” ปู่ของหวังซีกล่าวด้วยความเย้ยหยัน
กองทัพที่ยิ่งใหญ่ได้ล้อมสือฮ่าวไว้ ซึ่งเป็นเส้นทางสีทองอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะไปถึง สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นต่างยึดครองเส้นทางทุกด้านไว้ไม่ว่าเขาจะหลบไปทางไหนก็ไม่สามารถหลบพ้น
“ในที่สุดก็มาแล้วสินะ!” สือฮ่าวจ้องมองศัตรูรุ่นเยาว์พวกนั้น เขารู้สึกมานานแล้วว่าจะได้เห็นเผ่าพันธุ์ในตำนานเหล่านี้!
ฮ่อง!
ชายคนหนึ่งในหมู่พวกเขาชูกำปั้นของตัวเองทำลายมองฟ้าเบื้องบน เขาพุ่งตรงไปข้างหน้าทะลุความว่างเปล่าทำลายทุกสิ่งด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่!
เปง!
สือฮ่าวกระแทกกำปั้นออกไป เกิดการระเบิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคนความว่างเปล่าถูกลบเลือนเป็นภาพที่น่ากลัวอย่างยิ่ง!
ในขณะเดียวกันนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น แต่ละเผ่าพันธุ์จักรพรรดิไม่ได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดของตัวเองอย่างแท้จริง!
การแสดงออกบนใบหน้าของผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่เฝ้าดูเปลี่ยนไปทั้งหมด แม้ว่าพวกเขาจะดูเพียงอย่างเดียว แต่ก็สามารถบอกได้ว่าคนเหล่านี้น่ากลัวอย่างไม่มีใครเทียบได้เช่นเดียวกับตำนานของตระกูลพวกเขา
โชคดีที่เผ่าจักรพรรดิมีจำนวนน้อยนิดมรดกของพวกเขาเกือบทั้งหมดถูกครอบครองโดยคนไม่กี่คน
ทุกตระกูลจักรพรรดิ์มีกองทัพไม่มากนักพวกเขาไม่ได้เข้ามาในโลกใบนี้บ่อยๆ พวกเขาอาศัยอยู่ในสถานที่ที่เก่าแก่และอยู่ลึกที่สุดในดินแดน ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเก้าสวรรค์หรือสิ่งมีชีวิตต่างมิติ ต่างก็ภาวนาไม่ให้พวกเขาปรากฏตัว!
ผู้คนในเก้าสวรรค์กำลังอธิษฐานเพราะกลัวว่าพวกเขาแข็งแกร่งเกินไปไม่สามารถเผชิญหน้าได้
ในขณะเดียวกันคนต่างชาติก็รู้สึกเช่นนี้เพราะพวกเขาเบื่อหน่ายกับอารมณ์ที่ขัดแย้งกัน เป็นเพราะครั้งหนึ่งมีตระกูลจักรพรรดิปรากฏตัวขึ้นในโลกนี้แล้วยุคนั้นก็จะเป็นของบุคคลจากตระกูลจักรพรรดิอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทุกคนจึงเลิกล้มการแข่งขันกับเขาไป
“มาเถอะเผ่าพันธุ์จักรพรรดิให้ข้าดูว่าพวกเจ้ามีทักษะแบบไหนกัน!” สือฮ่าวส่งเสียงคำราม ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายมากนี่ไม่ใช่แค่ทำการต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งตระกูลจักรพรรดิเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้ในวงล้อมของคู่แข่งขันจากตระกูลจักรพรรดิ
“นี่มันไม่ยุติธรรมเลยนี่คือบททดสอบแห่งสวรรค์ที่โหดร้ายแบบไหนกัน? มันจะทำให้เขาต่อสู้เป็นกลุ่มด้วยตัวคนเดียวได้อย่างไร” เฉาอวี่เซิ่งตะโกน
อย่างไรก็ตามบททดสอบแห่งสวรรค์นั้นไร้ความรู้สึกมันจะไม่ตอบสนองใด ๆ ดังนั้นการตะโกนแบบนี้จึงไร้ประโยชน์
“เฮ้เฮ้ข้ารอคอยมานานแล้วรอคอยที่จะได้เห็นจุดจบของเขา?” ปู่ของ หวังซีกล่าว แน่นอนว่ามีเพียงคนที่อยู่ข้างๆเขาเท่านั้นที่ได้ยิน เขายังไม่กล้ายั่วโมโหต่อหน้าสาธารณชน
ทุกคนเฝ้าดูอย่างระมัดระวังเพราะผลของการต่อสู้ครั้งนี้จะมีผลกระทบอันยิ่งใหญ่ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ตอนนี้พวกเขาจะได้เห็นแล้วว่าเผ่าพันธุ์จักรพรรดิที่น่ากลัวจริงๆเป็นอย่างไร
"ฆ่า!"
ในที่สุดก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่เคลื่อนไหวก่อน ยิ่งไปกว่านั้นหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มีความสูงอย่างยิ่ง นางสูงกว่าผู้ชายถึงครึ่งช่วงศีรษะก้าวของนางเหมือนดอกบัวที่พลิ้วไหว นิ้วของนางชี้ไปที่ช่องว่างระหว่างคิ้วของ สือฮ่าว
ฮ่อง!
แสงสีทองพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของนางด้วยรัศมีพลังอันน่ากลัวยิ่งกว่าการโจมตีของเทพเจ้า มันมีพลังของผู้ไม่ดับสูญที่ปะทุขึ้น น่ากลัวเกินกว่าจะเปรียบเทียบได้
แขนของนางกลายเป็นสีทองจางๆ แสงสีทองขยายไปยังนิ้วนั้นอย่างสมบูรณ์ รัศมีแห่งสวรรค์ที่ทรงพลังที่สุดพุ่งออกไปที่สือฮ่าว
นี่คือตระกูลจักรพรรดิ์ที่แท้จริง เมื่อพวกเขาลงมือสามารถทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน!
“นั่นคือ…หอกของอันหลาน?!” หลายคนส่งเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก
เป็นเพราะแขนของหญิงสาวคนนั้นเปลี่ยนเป็นสีทองสุกใสรูปร่างคล้ายหอก!”
มีข่าวลือว่าตราบใดที่ใครคนหนึ่งเป็นลูกหลานของอันหลาน พวกเขาก็จะมีพลังศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษผู้ไม่ดับสูญโดยกำเนิด
“วัฏสังขาร!”
สือฮ่าวส่งเสียงตะโกนเปิดใช้งานญาณวิเศษอันล้ำค่าโดยกำเนิดของตัวเอง มันทรงพลังเกินกว่าจะเปรียบเทียบการกดขี่ข่มเหงอย่างไม่น่าเชื่อพร้อมด้วยพลังแห่งกาลเวลาปะทุขึ้น
กำปั้นวัฏสังขารของเขาทรงพลังถึงขีดสุดไม่มีใครเทียบได้ เศษเสี้ยวของเวลาอยู่ทุกหนทุกแห่งกลบทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเขา
ดิง!
กำปั้นแห่งวัฏสังขารกระแทกเข้ากับรัศมีสีทองอันศักดิ์สิทธิ์ที่ปล่อยออกมาจากนิ้วอันงดงามนั้นทั้งสองพลังปะทะกันอย่างดุเดือดรุนแรง
นั่นเป็นหอกสีทองที่ยอดเยี่ยมเกินใคร อย่างไรก็ตามหลังจากที่มันถูกห่อหุ้มด้วยพลังของกาลเวลามันก็เริ่มสึกกร่อนแสงสีทองจางลงเล็กน้อย
เกียง!
หอกสีทองสั่นสะเทือนทำให้ชั้นสนิมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากพลังของเวลา
แดง!
สือฮ่าวส่งกำปั้นไปอีกครั้งทันที!
ทุกคนตกตะลึง พวกนี้เป็นเผ่าพันธ์จักรพรรดิอย่างแน่นอนตอนนี้พวกเขาลงมือแล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้นในเวลานี้บนเส้นทางสีทองอันยิ่งใหญ่อื่นๆ ผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์จากตระกูลจักรพรรดิเหล่านั้นต่างยกฝ่ามือขึ้นใช้ญาณวิเศษของบรรพบุรุษโจมตีเข้าใส่ฮวง!