ตอนที่แล้วตอนที่74 - บาปของบรรพบุรุษสือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 76 - สามอาณาจักรผู้ยิ่งใหญ่

ตอนที่75 - การเกณฑ์ทหาร


ตอนที่75 - การเกณฑ์ทหาร

เขาเป็นเจ้าสำนักชราที่มีชีวิตอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณจากตระกูลเทพสวรรค์ หลังจากไม่ได้พบกันเป็นเวลาหลายปีไม่เพียงแต่เขาไม่ได้ตายในการทำสมาธิพลังของเขาก็ยังเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

ร่างกายของเจ้าสำนักชรานั้นอ่อนเยาว์ลงเล็กน้อย

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้รับโชคจากเมืองจักรพรรดิไม่น้อย เปลวไฟชีวิตของเจ้าจะไม่ดับลงและยังคงลุกโชนต่อไปอีกสองสามปี” สือฮ่าวกล่าว

ย้อนกลับไปตอนนั้นเจ้าสำนักชราไม่เหลืออายุขัยมากนัก ตอนนี้วิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าตัวเองจะตายไปอีกอย่างน้อยหลายปี

“การเข้าสู่เมืองจักรพรรดิครั้งนี้ช่วยให้ข้ามีชีวิตอยู่อีกหลายปีพอสมควรนับว่าต้องขอบคุณเจ้า?”เจ้าสำนักผู้เฒ่ากล่าว

ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก เหล่าผู้แข็งแกร่งวัยชราที่เข้าสู่เมืองจักรพรรดิ์แห่งนี้จะได้รับยาบางอย่าง

ปรมาจารย์ด้านยาผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองจะมอบยาศักดิ์สิทธิ์เพื่อยืดชีวิตให้พวกเขาอีกเล็กน้อย เพื่อต่อสู้ในสงคราม

“มีข่าวลือว่าด้านนอกเมืองจักรพรรดิ์แห่งนี้มียาอมตะทิ้งไว้โดยเซียนโบราณ ข้าได้ออกไปค้นหาหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยพบเจออะไรโชคดีไม่น้อยที่ยังมีชีวิตรอดกลับมา…การมีชีวิตที่ 2 ช่างยากลำบากเสียจริง” เจ้าสำนักผู้เฒ่ากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

ความคิดของสือฮ่าวล่องลอยออกไปด้านนอกเมืองจักรพรรดิแล้ว เขาเคยได้ยินมาว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่กำลังจะตายที่ออกจากเมืองจักรพรรดิ์และกลับมามีชีวิตที่สองอีกครั้ง!

ปรากฎว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับยาอมตะ?

เจ้าสำนักผู้เฒ่าพูดอย่างลึกซึ้งว่า“โชควาสนาที่ท้าทายสวรรค์นั้นไม่ง่ายเหมือนยาอมตะมีหลายวิธีในการมีชีวิตที่สอง แต่ทั้งหมดนั้นยากเกินไป โอกาสที่จะออกไปนอกเมืองแล้วกลับมาอย่างมีชีวิตนั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยาก”

“เจ้ามีเจตนาอะไรหลังจากบอกข้าเรื่องนี้” สือฮ่าวมองไปที่เขา

ย้อนกลับไปในสามพันแค้นเขาได้พาหยิ๋นซีเดินทางไปหลายแสนลี้หลีกเลี่ยงการไล่ตามของตระกูลเทพสงครามแต่ในท้ายที่สุดเมื่อเขามาถึง ตระกูลเทพสวรรค์ อีกฝ่ายก็ปรารถนาวิชาคุนเผิงของเขาแทน

ในท้ายที่สุดตระกูลเทพสวรรค์ไม่เพียงแต่ไม่แสดงความขอบคุณแต่กลับเอาเขาไปทรมานในคุกแทน

คนพวกนี้เป็นคนเนรคุณอย่างแท้จริง  สือฮ่าวแสดงความรังเกียจออกมา

“เพื่อนตัวน้อยเจ้าได้อยู่ในเมืองจักรพรรดิ์มา 2-3 วันแล้วถึงเวลาที่ต้องเกณฑ์ทหารสักที อย่างไรก็ตามข้ารู้ว่าพรสวรรค์ของเจ้านั้นยอดเยี่ยมมากดังนั้นข้าจึงไม่ต้องการส่งเจ้าตรงเข้าไปในสนามรบที่โชกเลือด ถ้าเจ้าตายนั่นก็เป็นเรื่องน่าเสียดายมาก นั่นคือเหตุผลที่ข้าแนะนำผู้อาวุโสให้เจ้าได้เลือกเม็ดยาเซียนเจ้าคิดเห็นอย่างไร?” เจ้าสำนักชรากล่าวอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส

ใบหน้าของสือฮ่าวกลายเป็นเย็นชาทันที เขาอยากจะเหยียบย่ำใบหน้าของชายชราคนนี้โดยตรง นี่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ถ้ายาเซียนนั้นง่ายต่อการได้มาพวกศัตรูคงสูญพันธุ์ไปนานแล้ว?

“โอกาสของเจ้ามีมากพอสมควร เมื่อข้าคิดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ถ้ามีใครสามารถเลือกยาได้สำเร็จก็จะต้องเป็นคนแบบเจ้า” เจ้าสำนักผู้เฒ่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ข้าไม่สนใจเรื่องยาข้ามาที่นี่เพื่อรับคมตัวเองเท่านั้น นอกจากนี้ข้าไม่ยอมรับกฎใดๆของพวกเจ้า ข้าจะออกรบและปฏิบัติการด้วยตัวเองเท่านั้น” สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา

“อย่างนั้นเหรอ? อย่างไรก็ตามหน่วยทหารของเราที่นี่ไม่ได้รับแจ้งอะไรเลย” เจ้าสำนักผู้เฒ่ายิ้มแย้มแจ่มใส

ที่ด้านข้างของเขาชายวัยกลางคนสี่คนทุกคนสวมชุดเกราะสีเงินมีเจตนาฆ่าเปี่ยมล้น พวกเขาเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายที่มีความแข็งแกร่งทรงพลังจ้องมองไปที่สือฮ่าวเหมือนเสือที่เฝ้ามองเหยื่อของมัน

“ถ้าเจ้าไม่เต็มใจที่จะเลือกยานั่นก็เป็นเรื่องหนึ่งเจ้าสามารถติดตามกองทัพออกไปได้ แต่เจ้าต้องเข้าใจไว้ว่าที่นั่นไม่ใช่สถานที่เด็กเล่นเราต้องเผชิญกับอันตรายทั้งชีวิตและความตาย” เจ้าสำนักผู้เฒ่ากล่าว

สือฮ่าวมองเขาอย่างเย็นชาไม่พูดอะไร

“ข้าคิดว่าหลังจากมาถึงอาณาจักรธรรมปลอมแล้วข้าจะอยู่ไม่ห่างจากเจ้าเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าข้ายังขาดอะไรอยู่นิดหน่อย” สือฮ่าวถอนหายใจไม่ได้แสดงความอวดดี

“เฮ้เฮ้ เจ้าหนูเจ้าทำให้ข้ากลัวจริงๆ เมื่อเปรียบเทียบกันตอนที่ข้าอายุเท่าๆกับเจ้าข้าก็ไม่ต่างจากเด็กทารกเท่าไหร่เลย” เจ้าสำนักผู้เฒ่ากล่าวด้วยการเยาะเย้ยตนเอง

จากนั้นเขาก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างใจเย็นกล่าวว่า“ในระดับชั้นเจ้าสำนักแบ่งออกเป็น 3 ขั้นอาณาจักรเทพสวรรค์อ่อนแอที่สุด ส่วนเจ้าอยู่ในอาณาจักรธรรมปลอม เป็นขั้นที่ 2 เราผู้เฒ่าอยู่ในขั้นที่ 3 อาณาจักรแห่งความว่างเปล่า แม้ว่าจะไม่ถือว่าอ่อนแอแต่ก็ไม่นับว่าเป็นผู้แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน”

!

“เพื่อนตัวน้อยในความเป็นจริงข้าคิดถึงเจ้าอย่างมากและข้าเสียใจกับการตัดสินใจในอดีตไม่น้อยจริงๆเจ้าควรจะได้แต่งงานกับยวิ๋นซีตั้งแต่ตอนนั้นเจ้ากับข้าก็จะถือเป็นญาติกัน” เจ้าสำนักผู้เฒ่ากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

สือฮ่าวไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เพราะทุกอย่างผ่านมานานแล้ว ไม่มีความหมายในการกล่าวถึงอดีต

“ฮ่าฮ่าบางทีเจ้าอาจคิดว่าข้าพูดโกหก แต่สิ่งที่ข้าอยากจะพูดก็คือข้ารู้สึกเสียใจจริงๆ ถ้าตอนนี้ข้าเสนอให้เจ้าและหยิ๋นซีกลายเป็นคู่บำเพ็ญเต๋าเจ้าจะว่าอย่างไร” เจ้าสำนักผู้เฒ่าถาม

“ผู้อาวุโสเราควรปล่อยให้เหตุการณ์ในอดีตผ่านไป” สือฮ่าวกล่าว

เป็นเพราะเขารู้ว่ามันยากมากสำหรับเขาที่จะเข้าร่วมกับเผ่าเทพสวรรค์วิญญาณผู้พิทักษ์ของตระกูลถึงกับตายเพราะเขา ความจริงของเรื่องนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้คนของตระกูลเทพสวรรค์ จะได้รู้อย่างแน่นอน

“เรื่องในอดีตมันยากที่จะย้อนกลับไปแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้ยินว่าเทพารักษ์ของตระกูลเทพสวรรค์เสียชีวิต มันเหมือนกับมีมีดทิ่มแทงอยู่ในใจของข้ามาตลอด” เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้ดวงตาของเจ้าสำนักชราก็ปลดปล่อยแสงออกมาทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือน!

“มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า อายุของเทพารักษ์คนนั้นมากเกินไปและหมดสิ้นอายุขัยไปเองตามธรรมชาติ” สือฮ่าวกล่าวอย่างใจเย็น

“เจ้าทำให้มันฟังดูเรียบง่ายจริงๆ!” เจ้าสำนักผู้เฒ่าหรี่ตาของเขาละทิ้งเจตนาฆ่าและฟื้นคืนความเยือกเย็นกลับมา

อย่างไรก็ตามไม่มีใครพูดอะไรเป็นเวลานาน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพยายามยับยั้งสิ่งกระตุ้นภายในตัวเอง เพราะนี่คือเมืองจักรพรรดิ์ไม่มีผู้ใดกล้าสังหารคนที่นี่

“ยวิ๋นซีในตระกูลของข้าไม่ได้มาด้วยเหรอทำไมข้ามองไม่เห็น จักรพรรดิสามศิลาเล่า(จักรพรรดิหินสามก้อน)ไปที่ใดแล้ว?”เจ้าสำนักผู้เฒ่าถาม

"ข้าไม่รู้." สือฮ่าวส่ายหัวหยิ๋นซีไม่เคยเข้าสู่เก้าสวรรค์ด้วยซ้ำดังนั้นเขาจึงไม่มีทางรู้โดยธรรมชาติ

สำหรับจักรพรรดิสามศิลาคนนี้เป็นคนที่สือฮ่าวค่อนข้างสงสัยว่าเขาหายไปที่ใด? มีข่าวลือว่าเขาเข้าสู่เก้าสวรรค์แต่ก็ไม่มีวี่แววของเขา

เจ้าสำนักผู้เฒ่าไม่ได้พูดอะไรกับเขามากเกินไป แต่มองไปที่คนอื่นๆ ที่มาด้วยกันว่า“ฮ่าฮ่าสหายตัวน้อยคนนี้เป็นอัจฉริยะจากสวรรค์ศักยภาพของเขาในอดีตและอนาคตเป็นที่น่าตกใจอย่างแท้จริง เมื่อเกณฑ์เขาไปแล้วพวกเจ้าต้องพิจารณาสิ่งต่างๆอย่างรอบคอบแน่นอนต้องใส่ใจกับความปลอดภัยของเขามาเป็นอันดับหนึ่ง”

สือฮ่าวมองไปที่เจ้าสำนักชราอย่างเย็นชา การปรากฏตัวของอีกฝ่ายในครั้งนี้ไม่ได้มาจากความตั้งใจดีอย่างแน่นอน

“ข้าเคยบอกไปแล้วว่าข้ามาที่นี่เพื่อฝึกฝนตัวเองข้าจะไม่ยอมรับข้อตกลงใด ๆ พวกเจ้าจะพาข้าไปให้ได้จริงๆหรือ” สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา พร้อมกับปลดปล่อยปราณต่อสู้ออกมา

“พี่ใหญ่อย่าไป!”

“อย่าเอาพี่ใหญ่ไป!”

เด็กกลุ่มนั้นตะโกนลั่น แม้ว่าพวกเขาจะยังเด็ก แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นฉากประเภทนี้ พวกเขารู้ดีว่าเมื่อแยกทางกันแล้วพวกเขาจะถูกพรากจากกันด้วยความตาย ยากสำหรับผู้ที่ถูกเกณฑ์จะกลับมาอย่างมีชีวิต!

“ท่านผู้ยิ่งใหญ่มันท่านไม่สามารถพาชายหนุ่มคนนี้ไปได้!” สือฮั่วเต๋อและคนอื่น ๆ ก็พูดขึ้น

“จริงๆแล้วนี่เป็นกลุ่มเด็กน้อยที่น่ารักทำให้ผู้คนรู้สึกสงสารเพียงแค่มองดูพวกเขา พวกเขาควรจะอยู่ไกลจากสนามรบให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม…  เฮ่อ” เจ้าสำนักชราส่ายหัวพลางถอนหายใจ

สือฮ่าวตัวสั่นด้วยความโกรธแค้น ชายชราคนนี้ดูสุภาพและเป็นมิตร แต่การกระทำของเขาเย็นชาและโหดเหี้ยม?

“หากมีใครก็ตามที่กำหนดเป้าหมายไปที่ตระกูลหินผา เมื่อออกไปด้านนอกของกำแพงก็ขอให้พวกเขาระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน!” สือฮ่าวกล่าวอย่างแข็งกร้าวไม่อ่อนข้อแม้แต่น้อย

เจ้าสำนักชราและผู้คนในชุดเกราะสีเงินต่างตกตะลึงและจากนั้นพวกเขาก็เข้าสู่ความเงียบชั่วขณะ เป็นเพราะพวกเขานึกถึงเย่ชิงเซียน, เมิ่งเทียนเจิ้งและคนอื่นๆ เด็กน้อยที่ชื่อฮวงผู้นี้มีรากฐานที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อย

เจ้าสำนักผู้เฒ่ากล่าวว่า“เจ้าหนูเจ้าคิดมากเกินไป เจ้าควรเตรียมตัวให้พร้อม ตอนนี้ถึงเวลาต้องออกจากเมืองแล้ว”

คนในชุดเกราะสีเงินเป็นคนที่ออกหน้าเกณฑ์ทหารและอาจเรียกได้ว่าเป็นผู้บังคับกฎเกณฑ์ พวกเขาทั้งหมดพยักหน้าและระบุว่าพวกเขาไม่ได้มาเกณฑ์สือฮ่าว แต่มีกฎกำหนดไว้แม้แต่อัจฉริยะที่มาลับคมตัวเองเมื่อถึงเวลาออกไปรบก็ต้องไป ถ้าพวกเขาไม่ไปพวกเขาจะถูกส่งกลับไปที่ เก้าสวรรค์ทันที

เด็กกลุ่มนั้นยิ่งดึงเสื้อผ้าของเขามากขึ้นใบหน้าเล็กๆ ของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล เด็กสาวสองสามคนร้องไห้เพราะพวกนางรู้สึกเหมือนเขากำลังจะตายข้างนอก

“อาจารย์ท่านต้องมีชีวิตกลับมา!” ดวงตาของอาซูมีน้ำตาไหล

“ข้าได้ยินคนพูดว่าพี่ใหญ่เป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดในหมู่คนรุ่นใหม่ เป็นคนที่มีความกล้าหาญไม่มีใครเทียบได้ ก่อนหน้านี้ได้สังหารราชาผู้ยิ่งใหญ่จากต่างมิติสิบคน เขาจะกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน!” เด็กหนุ่มคนหนึ่งตะโกน

“เด็กเอ๋ยการรักษาชีวิตของตัวเองสำคัญที่สุดอย่าพยายามแสดงความกล้าหาญ!” คนของเผ่านี้ส่งเขาออกไปทุกคนเตือนอย่างเงียบๆ

“พี่ใหญ่เจ้าต้องกลับมาอย่างปลอดภัย!” เด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้

สือฮ่าวรู้สึกถึงคลื่นแห่งความอบอุ่นภายในตัวเขา เป็นเวลานานแล้วที่เขารู้สึกถึงความรู้สึกนี้ ราวกับว่าเขากลับไปยังหมู่บ้านหินผาเมื่อครั้งยังเด็กซึ่งเป็นความรู้สึกที่เขามีต่อคนที่เขารัก

“ไม่ต้องกังวลในสวรรค์นี้ไม่มีใครสามารถหยุดข้าได้ จะมีวันหนึ่งที่ข้าจะกวาดล้างศัตรูให้หมดสิ้น!” สือฮ่าวกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ จากนั้นก็เดินจากไป

“ข้าอยากรู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถชดใช้ความผิดของตระกูลนี้จนหมดไป” ระหว่างทางเขาถามชายวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะเงิน

“โอ้? เจ้าต้องการชดใช้ความผิดของสายเลือดคนบาปหรือไม่?” หนึ่งในนั้นกล่าวด้วยความตกใจ

“ข้าเป็นคนจากสายเลือดนี้!” สือฮ่าวกล่าว

“เพื่อไถ่ชีวิตคนเดียวเจ้าต้องฆ่าศัตรูหนึ่งร้อย ตอนนี้ประชากรของ หมู่บ้านหินผามีเพียงประมาณหนึ่งพันคนดังนั้นเจ้าต้องฆ่าผู้เชี่ยวชาญจากฝั่งต่างมิติจำนวนหนึ่งแสนคนจากนั้นบาปใหญ่จะได้รับการยกเว้นอย่างแท้จริง” ทหารในชุดเกราะสีเงินกล่าวอย่างเย็นชา

ฆ่าแสนคน?!สือฮ่าวสูดหายใจด้วยความหนาวเหน็บ นี่เป็นเรื่องยากเกินไป

นี่ไม่ใช่การเผชิญหน้าระหว่างคนรุ่นเดียวกัน แต่เป็นในสนามรบที่สถานการณ์ซับซ้อน ความยากลำบากในการสังหารผู้เชี่ยวชาญกว่าแสนคนนั้นยากเกินไป

เป็นเพราะมี 'นักล่ามังกร' ของฝ่ายศัตรูอยู่ที่นั่นโดยเฉพาะ ทำหน้าที่ตรวจสอบสนามรบ เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งมีชีวิตที่มีศักยภาพหรือใครก็ตามที่โดดเด่นเกินไปพวกเขาจะดำเนินการสังหารขั้นเด็ดขาดในทันที!

นอกเหนือจากนี้ในสนามรบที่แท้จริงบางครั้งอาจมีสิ่งมีชีวิตระดับผู้ไม่ดับสูญ!

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ในด้านของเก้าสวรรค์สิบพิภพใครจะสามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญได้ถึงแสนคน?

"เจ้าอยากทำอะไรล่ะ?" ทหารในชุดคลุมสีเงินหัวเราะอย่างเย็นชา

“ข้าจะทำมัน ถ้ามีเวลาพอข้าจะทำสำเร็จอย่างแน่นอน!” สือฮ่าวกล่าว

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงเวทีการต่อสู้ขนาดยักษ์ มีหลายคนอยู่ที่นี่แล้ว ทหารในชุดคลุมสีเงินหัวเราะเสียงดังกล่าวว่า“ทุกคนมีคนบอกว่าเขาต้องการฆ่าศัตรูต่างมิติเป็นแสนๆคน พวกเจ้าเชื่อไหม?”

ในขณะนี้สายตาของทุกคนมองไปที่สือฮ่าว

ผู้เชี่ยวชาญของทุกเผ่ามารวมตัวกันที่นี่เตรียมพร้อมที่จะออกจากเมืองและเตรียมการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ในชายแดนรกร้าง!

“ข้าอยากจะรู้ว่าถ้าข้าสามารถกวาดล้างกลุ่มผู้ปกครองของฝ่ายต่างมิติได้เช่นอันหลาน,ซือถู,ตระกูลจักรพรรดิเหล่านี้ หากสามารถสังหารคนของสกุลเหล่านี้มันจะมีค่ามากกว่าไหม?”สือฮ่าวถาม

“อันที่จริงมีบางหัวที่มีค่ามากกว่าหนึ่งพันหัวของคนอื่นจนถึงระดับที่มีบุคคลสำคัญที่มีหัวที่มีค่ามากกว่าแสนหัว!” เหนือท้องฟ้าอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ที่นั่งอยู่บนอสูรกลืนสวรรค์กล่าว

“ดี! ข้าเข้าใจแล้ว!” สือฮ่าวพยักหน้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด