ตอนที่ 91 - เขาคือฮวง!
ตอนที่ 91 - เขาคือฮวง!
ขอเปลี่ยนจาก ตู๋กูอู่หลงเป็น ทัวปาอู่หลงนะครับ ตอนก่อนหน้านี้คนแปลอังกฤษน่าจะแปลผิดมา เพราะว่าหลังจากตอนนี้เป็นต้นไปเขาจะใช้ทัวปาทั้งหมด
สือฮ่าวและเฉาอวี่เซิ่งเดินไปข้างหน้าเข้าสู่ทะเลสาบหยก พวกเขาก้าวขึ้นเรือลำเล็กๆ ระลอกคลื่นกระจายออกไปด้านนอก
ในบริเวณรอบๆทะเลสาบมีภูเขาแห่งจิตวิญญาณมากมาย มันช่างงดงามและน่าอัศจรรย์มีหมอกสีขาวหมุนวนอยู่รอบตัวพวกเขา
หลายคนเริ่มเข้าสู่ทะเลสาบเพราะว่าใกล้ถึงเวลาประชุมแล้ว
“อู๋! มีข่าวว่าผู้คนจากดินแดนปิดผนึกอาจปรากฏตัวในวันนี้”
มีคนส่งผ่านข้อมูลนี้ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ทุกคนเริ่มตกใจ
มีสิ่งมีชีวิตที่ออกจากดินแดนปิดผนึกมาถึงเมืองจักรพรรดิ์จริงๆหรือ?ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจะมีสักกี่คนที่เคยเห็นพวกเขา
ในช่วงเวลานั้นสิ่งนี้กลายเป็นประเด็นหลักของการสนทนา
หลายคนตื่นเต้น หากแม้แต่สิ่งมีชีวิตจากดินแดนปิดผนึกของเก้าสวรรค์มา ก็จะเป็นการประชุมที่โดดเด่นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ฮ่อง!
ในเวลานี้คลื่นแสงพุ่งขึ้นจากทะเลสาบหยก เกาะสีเขียวขนาดเล็กระยิบระยับโผล่ออกมาล้อมรอบด้วยม่านแสงป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่เกาะแม้ว่าเกาะนั้นจะอยู่ที่ก้นทะเลสาบก็ตาม
สำหรับผู้บ่มเพาะเกาะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าหรือซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ อย่างไรก็ตามเกาะนี้ค่อนข้างแปลกสักหน่อย มันถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นซากศพของผู้อมตะในอดีต
เป็นเพราะตอนนี้พวกเขาไม่พบที่อยู่อาศัยหรือถ้ำใดๆ มีเพียงพืชที่เขียวชอุ่มเท่านั้นที่ปกคลุมอยู่รอบเกาะ
และการประชุมของเหล่าอัจฉริยะเริ่มได้ขึ้นแล้ว
ทุกๆคนต่างมารวมกันที่ก่อนนี้
ในเวลาเดียวกันราชันย์สวรรค์น้อย,มหาโสดาฉวีโต้ว,ทัวปาอู่หลง และคนอื่นๆ ก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนจำนวนมาก
สำหรับหงส์เพลิงทั้งสี่ของตระกูลเว่ยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูดถึง หญิงสาวที่งดงามถึงสี่คนย่อมเป็นที่หมายปองของอัจฉริยะรุ่นเยาว์มากมายที่อยู่ที่นี่
“มีคนจำนวนมากจริงๆ…” มดเขาสวรรค์กล่าว
“หือ? เป็นเจ้านั้นเอง?!” เมื่อผู้บ่มเพาะคนหนึ่งมองเห็นมดเขาสวรรค์ใบหน้าเขาซีดขาวทันที
มันเป็นคนที่ส่งบัตรเชิญคนนั้นนั่นเอง เขารีบถอยห่างให้ไวกลัวว่ามดเขาสวรรค์ตัวน้อยจะพูดอะไรที่ไม่เหมาะสมออกมา นั่นย่อมสร้างปัญหาต่อคนตัวเล็กๆอย่างมันแน่นอน
“อ๊ะ เจ้าก็มาด้วยหรือ!” ในขณะที่เขาถอยหลังเขาก็เห็นเฉาอวี่เซิ่งยืนอยู่ตรงนั้น มีเส้นเลือดโผล่ขึ้นมาบนหน้าผากของเขา เขารีบหันหลังกลับออกไปทันทีเพราะเขาถูกเจ้าอ้วนเฉาทุบตีเมื่อสามวันก่อน
เกาะกลางทะเลสาบหยกนั้นงดงามมากหญ้าสีเขียวเหมือนพรมนุ่มๆ ต้นไม้สวยงามเขียวชอุ่ม น้ำพุศักดิ์สิทธิ์พุ่งสูงขึ้น สมุนไพรวิเศษที่ปล่อยแสงหลากสีส่งกลิ่นหอมทำให้ผู้คนมึนเมา
“อย่าเข้ามาหาข้า!” ชายหนุ่มผู้น่าสงสารหลบหนีอย่างเสียสติ
“ข้าขอโทษจริงๆปล่อยข้าไปเถอะ…”
“เมื่อกี้คืออะไร” มีคนถามเขาขึ้น
“คนที่ไม่ได้รับคำเชิญก็มาด้วย” ผู้ส่งสารกล่าว เมื่อเขาพูดเช่นนี้ใบหน้าของเจ้าอ้วนเฉาก็มืดครึ้ม
“ใครกล้า? เจ้ากำลังพยายามสร้างความวุ่นวายในการชุมนุมครั้งนี้หรือไม่” ชายหนุ่มผมสีม่วงที่รับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อยก้าวไปทางเฉาอวี่เซิ่งทันที เมื่อเขามาถึงเขาตะโกนว่า“เจ้าไสหัวออกไป!”
เฉาอวี่เซิ่งมองเขาด้วยความรังเกียจและพูดว่า“เจ้ากำลังหาเคราะห์ร้ายใส่ตัวเอง? เจ้ากล้าตะโกนใส่แขกผู้มีเกียรติหรือ? เปิดตาสุนัขดูสินี่มันอะไรกัน” ในขณะที่พูดเขาโบกบัตรเชิญที่อยู่ในมือ
คนที่มาเริ่มสงสัยจึงให้คนรับสารดู
“เจ้าจงขอโทษพี่ชายผู้นี้ด้วย จะทำตัวสุภาพกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ ขอโทษมาเดี๋ยวนี้”เฉาอวี่เซิ่งกล่าว
“เขาไม่มีคำเชิญจริงๆนั่นเป็นของคนอื่น!” ผู้ส่งสารกล่าวจากระยะไกล
“เจ้าขโมยบัตรเชิญของคนอื่นมาหรือเปล่า” ชายหนุ่มผมสีม่วงผู้รักษาความสงบเรียบร้อยขึ้นเสียง
ในบริเวณโดยรอบมีผู้คนจำนวนมากหันกลับมาทันทีเพราะความวุ่นวายที่นี่กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ทำเอาหลายคนตกใจ มีใครกล้าก่อปัญหาขึ้นที่นี่จริงหรือ?
“นี่เป็นบัตรเชิญของสหายข้า” เฉาอวี่เซิ่งกล่าว
“ไม่สำคัญว่าเป็นของใครต่อให้สหายของเจ้ามาด้วยตัวเองเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ขึ้นมาบนเกาะนี้หากเจ้าไม่มีบัตรเชิญ” เด็กหนุ่มผมสีม่วงเข้มงวดมากเขาตะโกนออกไปอย่างไม่ไว้หน้า
“อย่างนั้นเหรอ? อย่างไรก็ตามข้าเห็นว่าด้านหลังของจินซานและ หวังซีก็มีผู้ติดตามของตระกูลจินและตระกูลหวังที่มาด้วย ข้าไม่มีทางที่จะเชื่อว่าสหายของข้าไม่สามารถพาผู้ติดตามมาได้” เฉาอวี่เซิ่งเผยรอยยิ้มที่เย็นชา
หลังจากที่เขาเข้ามาเขาก็เห็นจินจื่อเฟยลุงตัวน้อยของจินซานมาพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องของหวังซีอีกคน!
“เจ้า…” เด็กหนุ่มผมสีม่วงรู้สึกรำคาญเล็กน้อยเพราะมีเพียงคนใหญ่คนโตเท่านั้นที่สามารถนำผู้ติดตามมาได้
“หากเขาไม่ใช่ผู้ติดตามเขาเป็นอะไรชายชราผู้นั้นมีอายุเกินกว่าจะเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ไปมากแล้ว? เจ้าไม่กล้าไล่เขาไป แต่กลับมาทำเสียงดังที่นี่แทน” เฉาอวี่เซิ่งชี้ไปที่จินจื่อเฟยคนที่เคยต่อสู้กับสือฮ่าวเมื่อไม่นานมานี้ จากนั้นเขากล่าวว่า“เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นอันดับสองของคนรุ่นใหม่ของโลกปัจจุบัน? สหายของข้าคือผู้แข็งแกร่งลำดับ 1 ส่วนข้าคือลำดับ 2!”
ในขณะที่มองไปที่ท่าทางการพูดไร้สาระของเขาเด็กหนุ่มผมสีม่วงก็หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า "ไม่ว่าเจ้าจะว่าอย่างไรเจ้าก็ไม่มีคุณสมบัติอยู่ที่นี่!”
“ทำไมพวกเขาถึงเข้าไปได้” เฉาอวี่เซิ่งชี้ไปที่คนของตระกูลหวังและ ตระกูลจินรวมถึงคนอื่นๆที่ไม่มีคำเชิญ
“เจ้าสามารถเปรียบเทียบกับพวกเขาได้หรือ? พวกเขาเป็นความภาคภูมิใจของสวรรค์แห่งตระกูลอมตะคนที่พวกเขานำมาก็เพียงพอที่จะเขย่าพิภพแห่งนี้” เจ้าหนูผมม่วงหัวเราะเยาะ
เห็นได้ชัดว่าความวุ่นวายที่นี่เกิดขึ้นแล้ว
“นั่นมัน..เจ้าอ้วนเฉา!” ใครบางคนกล่าวเบาๆมีผู้ฝึกฝนจากเก้าสวรรค์เบื้องบนที่จำเขาได้โดยรู้ว่าเขาสนิทกับสือฮ่าวเป็นอย่างมาก พวกเขากำลังรอดูเรื่องสนุกอยู่ หากเจ้าอ้วนเฉาไม่ได้รับการไว้หน้าฮวงต้องลงมืออย่างแน่นอน
“ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง” ในเวลานี้สือฮ่าวเดินมาจากด้านหลังและมองไปที่ชายหนุ่มผมสีม่วงตรงหน้าเขา
ในเวลานี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่จำเขาได้เช่นผู้ยิ่งใหญ่ฉวีโต้ว ตู๋กูหยวน ซีกู้ และคนอื่นๆ พวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่คุ้นเคยกัน ตอนนี้พวกเขาพยักหน้าตามทิศทางของสือฮ่าวเพื่อส่งคำทักทาย
"เจ้าคือใคร?" ชายหนุ่มผมม่วงถาม
ผู้ส่งสารรีบวิ่งขึ้นมาพูดสองสามประโยคเบาๆในหูของเขา
เด็กหนุ่มผมสีม่วงเบิกตากว้างทันที นี่คือฮวงจริงๆ ตอนนี้เขากำลังสนทนากับผู้ยิ่งใหญ่เป็นการส่วนตัว!
“มีความเข้าใจผิดบางอย่าง ตั้งแต่พี่สือมาเจ้าก็พาสหายมาได้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว” เขาเผยให้เห็นการแสดงออกที่น่าอึดอัดใจ
“คน ๆ นั้นคือใคร” มีคนถามรู้สึกไม่พอใจ
ในเวลานี้ความวุ่นวายเกิดขึ้น เจ้าของรถศึกห้าวิญญาณฉีหงเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า“นี่พี่สือใช่ไหม ข้ารอคอยที่จะได้พบท่านมาระยะหนึ่งแล้ว การได้พบกันตอนนี้มันเป็นความสุขความสุขอย่างแท้จริง!”
ฉีหงผู้รับมรดกของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเทียบ ได้ทักทายเป็นการส่วนอย่างตัวสุภาพกับเด็กหนุ่มที่บอบบางและหล่อเหลาคนนี้ มันทำให้ทุกคนตกตะลึง
หลายคนต่างเข้ามารุมล้อมสือฮ่าวไว้ภายในด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
“ปรากฎว่าเจ้าคือฮวง เราพบกันระหว่างทางแล้ว! รูปร่างหน้าตาของเจ้าดูบอบบางและน่ารัก แต่ความสำเร็จในการต่อสู้นั้นช่างน่าเหลือเชื่อ ในจินตนาการของเรา คิดว่าเจ้าจะมีแขนสามหัวหกแขนเสียอีก” หงส์เพลิงสี่ตัวของตระกูลเว่ยเดินเข้ามาพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
ทุกคนตื่นตระหนก แม้แต่หญิงสาวอัจฉริยะทั้งสี่ก็เข้ามาทักทายชายหนุ่มคนนั้นพยายามที่จะได้รับมิตรภาพจากเขา เขาเป็นใครกันแน่?
“ฮ่าฮ่า ฮวงคนที่ผงาดขึ้นมาจากการต่อสู้เพียงครั้งเดียวสังหารราชาต่างมิติสิบคนในดินแดนสวรรค์สีชาดทำให้โลกใต้ฟ้าตกตะลึงในที่สุดเราก็ได้พบกันในวันนี้” ทัวปาอู่หลงจากตระกูลอมตะเดินเข้ามาร่วมวง
ทำให้ใบหน้าของผู้ที่รุมล้อมอยู่ซีดเซียวลงทันที
ขณะเดียวกันในที่สุดทุกคนก็รู้แล้วว่าคนที่มาคือใคร ทัวปาอู่หลงบอกมาแล้วว่านั่นคือฮวง!
สือฮ่าวรู้สึกประหลาดใจไม่คาดคิดว่าคนเหล่านี้จะต้อนรับเขา
หงส์เพลิงทั้งสี่ของตระกูลเว่ยเท่านั้นที่ไม่มีข้อขัดแย้งกับเขา แต่ฉีหงได้เชื้อเชิญจินซานให้นั่งรถไปด้วยกันนี่ย่อมเป็นการเลือกข้างอย่างชัดเจนแล้ว ในขณะที่น้องสาวของทัวปาอู่หลงมากับหวังซี ทำให้เขาอดงุนงงไม่ได้?
สถานที่แห่งนี้กลายเป็นชุลมุนวุ่นวายผู้คนจากเก้าสวรรค์ต่างจดจำสือฮ่าวได้แน่นอน แต่ยังมีคนจำนวนมากจากเมืองจักรพรรดิ์ไม่เคยพบเขามาก่อน
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจและได้เห็นบุคคลผู้นี้ด้วยตัวเอง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี
“สวรรค์เขาคือฮวง! ตอนเดินเข้ามาข้าเดินอยู่เคียงข้างเขา ข้าไม่เคยคิดว่าตัวเองจะโชคดีถึงขนาดนี้!”
“พี่สือ ข้ารู้สึกชื่นชมเจ้ามาตลอด! ในการต่อสู้ของดินแดนสวรรค์สีชาด เจ้าได้นำความรุ่งโรจน์มาสู่ฝั่งเราผ่านการเข่นฆ่า ทำให้ทุกคนปลดปล่อยคลื่นแห่งความแค้นออกมาได้! วันนี้โชคดีจริงๆที่ได้พบเจ้า!”
ผู้คนจำนวนมากรายล้อมสือฮ่าวชนิดที่ว่าไม่มีน้ำสักหยดที่จะสามารถไหลผ่านออกมาได้ ยังมีหญิงสาวบางคนที่ดวงตาลุกโชนด้วยความหลงใหลจ้องมองไปที่สือฮ่าว
เมืองจักรพรรดิ์ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าสุดของอาณาจักรนี้โดยต้องเผชิญกับภัยคุกคามของอีกด้านอยู่ตลอดเวลา ไม่มีใครเข้าใจความน่ากลัวของสิ่งมีชีวิตจากอีกฝั่งดีไปกว่าพวกเขาอีกแล้ว สังหารราชาสิบคนอย่างต่อเนื่องสำหรับพวกเขามันเป็นเพียงตำนานที่ไม่สามารถเกิดขึ้นจริง!
ทุกๆคนที่มาจากเมืองจักรพรรดิ์ต่างรายล้อมเขาด้วยความยินดี
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่แสดงออกอย่างกระตือรือร้นเช่นจินซานที่นั่งเฉยเมยตลอดเวลาหรือหวังซีที่ไม่เคยหันหน้ามามองสือฮ่าวแม้สักครั้ง
รวมไปถึงราชันหกสมัยหนิงชวน