ตอนที่ 88 - เพื่อการฝึกฝนเท่านั้น
ตอนที่ 88 - เพื่อการฝึกฝนเท่านั้น
อูวววว ...
เสียงแตรดังขึ้นทำให้สวรรค์และปฐพีสั่นสะเทือน กองทัพใหญ่จากต่างมิติถอนตัวออกไปเหมือนกระแสน้ำ พื้นที่สีดำค่อยๆหายไปในขอบเขตของทะเลทราย
จากนั้นสัตว์อสูรกลืนสวรรค์ก็คำราม สิงโตสามตัวลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าบินไปยังเมืองจักรพรรดิ์ผู้ฝึกฝนในด้านเก้าสวรรค์ก็เริ่มถอนตัวภายใต้คำสั่งของนักรบผู้ยิ่งใหญ่
การต่อสู้สิ้นสุดลงเช่นนี้
ระหว่างทางนักรบจากหลายตระกูลต่างเงียบกริบ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับความยากลำบากในการต่อสู้วันนี้ แต่ทุกคนก็ยังคงกังวลอยู่ เป็นเพราะอีกฝ่ายมีพลังมากเกินไป ทั้งยังมีสิ่งมีชีวิตระดับผู้ไม่ดับสูญ หากพวกเขาเข่นฆ่าเข้ามา! ผู้คนจากเก้าสวรรค์ได้แต่งอมือรับความตาย
สิ่งเดียวที่พวกเขาพึ่งพาได้คือสวรรค์อเวจีเมื่อมันถูกทำลายลง เมืองเส้นทางจักรพรรดิจะไม่สามารถป้องกันได้อีกต่อไปแน่นอนว่าเก้าสวรรค์สิบพิภพคงถูกฝังอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในขณะเดียวกันอันหลานและซือถูของอีกฝ่ายซึ่งเป็นบรรพบุรุษโบราณที่ไม่มีใครเทียบได้จากยุคที่ยิ่งใหญ่ที่ผ่านมา ได้เคลื่อนไหวบางอย่างแล้วผ่านราชโองการทองคำดังนั้นในอนาคตพวกเขาจะทำอะไรอีก?
หากพวกเขาเคลื่อนไหวจริงๆมีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สวรรค์อเวจีจะยังคงปลอดภัยหรือไม่?
วูวู… ทันใดนั้นก็มีใครบางคนส่งเสียงสะอื้นออกมาซึ่งเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ข้างหน้าซากศพถูกเก็บกู้ขึ้นมาทีละคนบางคนที่ร่างได้รับความเสียหายเละเป็นชิ้นๆ จนต้องทิ้งร่างของพวกเขาไว้ข้างหลัง
คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ฝึกฝนที่ตายไป บางคนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่รู้จักกันดี แต่ก็มีบางคนที่ไม่เป็นที่รู้จักเช่นกัน หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้พวกเขาทั้งหมดมีสภาพเหมือนกันคือกลายเป็นวิญญาณเฝ้าเส้นทางจักรพรรดินี้ไว้
เมื่อหลายคนหันกลับไปมองข้างหลัง พวกเขาจะเห็นซากศพมากมาย มันเป็นภาพที่น่าตกใจทำให้ใครๆต่างก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
เสียงร้องไห้ค่อยๆดังขึ้นมีฉากแห่งความโศกเศร้าอยู่เบื้องหลังมากเกินไปยากที่จะมองกลับไปได้
ในขณะเดียวกันนี่เป็นเพียงส่วนเดียวเนื่องจากผู้ฝึกตนจำนวนมากถูกระเบิดโดยตรงร่างกายหายไปไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย
ซากศพที่สามารถนำกลับมาได้นั้นมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น!
“ผู้อาวุโสหากมีสวรรค์อเวจีหยุดพวกเขาไว้ได้ ทำไมเรายังต้องต่อสู้กับศัตรู? มีคนเสียชีวิตมากมายมันน่าอนาถเกินไป!” มีคนอดกลั้นไม่ไหวถามท่านแม่ทัพ
ถ้าพวกเขาไม่ออกนอกเมืองคนเหล่านี้ก็จะไม่ตาย
มีบางคนที่เชื่อว่าด้วยสวรรค์อเวจียังดำรงอยู่ กองทัพใหญ่จากต่างมิติไม่สามารถข้ามผ่านมาได้อย่างแน่นอน
การต่อสู้กับอีกฝ่ายเช่นนี้ก็แค่ทำให้มีทหารตายอย่างไร้เหตุผลไม่ใช่หรือ?
“อีกด้านหนึ่งตั้งเป้าไปที่สวรรค์อเวจีดังนั้นเราต้องโจมตีหยุดแผนการของพวกเขา!” ชายวัยกลางคนพูดเสียงดัง เขาไม่ใช่ผู้นำ แต่เขาอธิบายเรื่องนี้เสียงดังเพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจของพวกเขา
อย่างไรก็ตามนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่นั่งบนปี่เซียะสีทองยกมือขึ้นหยุดเขา เขาเริ่มอธิบายพูดขึ้นเอง
“ทุกอย่างเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการฝึกทหารเท่านั้น!”
ประโยคง่ายๆนี้อธิบายทุกอย่าง
“วันนั้นอาจมาถึงเมื่อสวรรค์อเวจีหายไป ตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น” ผู้อาวุโสสองสามคนจากตระกูลต่างๆเพิ่มเข้ามา
ทุกคนเริ่มเงียบ นี่คือสิ่งที่พวกเขาเต็มใจเผชิญน้อยที่สุด แต่มันก็เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้
การส่งทหารออกไปในตอนนี้เพื่อประโยชน์ในการลับคมทหารของเผ่าพันธ์ต่างๆเตรียมการสำหรับการต่อสู้ที่เด็ดขาดสำหรับชีวิตและความตายในอนาคต นั่นอาจเป็นการต่อสู้ที่ทำลายล้างโลก ทั้งโลกอาจจะชุ่มไปด้วยเลือด
คราวนี้ขนาดของการต่อสู้ระหว่างสองอาณาจักรไม่เล็กนักสิ่งมีชีวิตทุกหนทุกแห่งในทะเลทราย ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บมากมายจนเลือดทำให้ทรายกลายเป็นสีแดง
ในขณะเดียวกันทหารที่ออกเดินทางจากเมืองจักรพรรดิยังคงเป็นส่วนน้อยของกองทัพพวกเขาไม่ได้ออกไปทั้งหมด
เมื่อมองจากมุมมองที่สูงขึ้นนี่เป็นเพียงการต่อสู้ที่ดุเดือดขนาดเล็ก
พวกเขาฝึกทหาร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากยังคงดำเนินต่อไปทหารจากกลุ่มต่างๆทั้งหมดจะออกไปพบกับความโหดร้ายของเลือดและกระดูก
ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้โลกภายนอกเมืองจักรพรรดิ์ไม่เคยขาดความตายจะมีมากมีน้อยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้!
เสียงร้องไห้เริ่มเงียบลงกองทัพใหญ่ทั้งหมดเดินทางกลับเมืองจักรพรรดิอย่างหงอยเหงา
ความเงียบประเภทนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันอย่างมาก
มันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ผู้บ่มเพาะจำนวนมากเหี่ยวเฉาตายลงในการต่อสู้ข้างนอกเมือง นี่เป็นความเศร้าโศกและความเจ็บปวดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
กองทัพเดินเข้าไปในหมอกแห่งความโกลาหล
จิ!
แสงเซียนกระจายลงมาโดยครอบทุกคนไว้
ทันใดนั้นมีสิ่งมีชีวิตที่ร้องออกมาอย่างน่าสังเวชเปลี่ยนเป็นขี้เถ้าโดยตรงไม่สามารถต้านทานได้
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตต่างถิ่นที่ผสมเข้ามาในกองทัพของพวกเขา โดยต้องการแทรกซึมเข้าไปในเมือง อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่สามารถเข้าไปได้ หลังจากกระจกโบราณส่องลงมาที่พวกเขาเพื่อเปิดเผยร่างที่แท้จริง พวกเขาก็กลายเป็นควันและขี้เถ้ากระจัดกระจาย
เมื่อพวกสือฮ่าวออกเดินทางก่อนหน้านี้พวกเขาได้ทิ้งรัศมีของตัวเองไว้ที่นี่แล้ว การตรวจสอบร่างกายจึงไม่ใช้เวลานานมากนัก
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เข้ามาในเมือง แต่ในที่สุดพวกเขาก็พบว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทุกคนมองไปในทิศของกองทัพอย่างประหม่า พวกเขาเป็นคนจากตระกูลใหญ่ที่แตกต่างกันเงยหน้าขึ้นมาหวังว่าจะได้เห็นคนจากครอบครัวของตัวเองมีชีวิตรอด
เห็นได้ชัดว่ากระบวนการนี้จะเต็มไปด้วยความเศร้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สือฮ่าวจากไป ไม่มีใครรอเขาอยู่ที่นี่เพราะชนเผ่าตระกูลหินผาอ่อนแอเกินไปไม่มีคุณสมบัติที่จะมาที่นี่ได้
ซุป!
ร่างสีทองวิ่งลงมาบนไหล่ของสือฮ่าวและกลับไปพร้อมกับเขา
“รู้สึกดีจริงๆ!ข้าฆ่าศัตรูไปมากมายโดยที่ข้าไม่ได้เจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งเลย มีชายชราคนหนึ่งมักจะยืนอยู่ข้างหลังข้า เขากลัวว่าข้าจะหลงทางช่างไร้สาระจริงๆ!”มดเขาสวรรค์กล่าว
สือฮ่าวพูดไม่ออก เขารู้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจากเมืองที่คอยปกป้องมดเขาสวรรค์ตัวน้อยอยู่ลับๆ กลัวว่าเขาจะตายก่อนที่เขาจะเติบโตเต็มที่ การสูญเสียประเภทนั้นจะมากเกินไป
เป็นเพราะลูกหลานของสิบอสูรผู้ยิ่งใหญ่หากไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นพวกเขาจะต้องผงาดขึ้นมา เป็นสิ่งมีชีวิตระดับผู้อมตะสักวันหนึ่ง
---
กองทัพที่ยิ่งใหญ่ของต่างมิติถอนตัวออกไปก่อนหน้านี้
พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดุร้ายแม้จะมีความเศร้าโศกเสียใจที่สหายร่วมรบได้จากไป แต่ไม่ช้าพวกเขาก็จะกลับมาใหม่
ด้านต่างมิตินั้นกว้างใหญ่และไร้ขอบเขต ไม่มีผู้ใดรู้ว่าใหญ่กว่าเก้าสวรรค์สิบพิภพกี่เท่า
หลังจากที่กองทัพกลับมาแล้วพวกเขาทั้งหมดก็กลับไปยังดินแดนของกองทัพตามลำดับโดยค่ายกลเคลื่อนย้ายขั้นสูง
อย่างไรก็ตามมีบางคนที่ยังรวมตัวกันโดยตรงมุ่งหน้าไปที่การประชุมบางอย่าง การรวมตัวของผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ในครั้งนี้ยิ่งไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ
“ไปเชิญคนอื่นที่เป็นอัจฉริยะที่ทรงพลังที่สุดในรุ่นของเรามา หากเราไม่สามารถกำจัดฮวงได้นั่นก็คือความอัปยศอดสูอย่างแท้จริง คนรุ่นใหม่ของพวกเราจะอ่อนด้อยกว่าศัตรูได้อย่างไร!”
ในสงครามทะเลทรายครั้งยิ่งใหญ่แม้แต่ราชันย์บู๊ผู้อยู่อันดับ 4 ของราชาสวรรค์ก็ยังพ่ายแพ้ทำให้สิ่งมีชีวิตต่างมิติรุ่นเยาว์จำนวนมากรู้สึกหวั่นไหวภายใน พวกเขาไม่ต้องการยอมรับความพ่ายแพ้ให้แก่มนุษย์จากอีกด้านหนึ่งจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีนี้หลังจากราชันย์บู๊พูดออกมาว่า ฮวงเป็นบุคคลที่คนรุ่นเดียวกันไม่สามารถต่อสู้ได้ สิ่งนี้ทำให้หลายคนตกตะลึงทุกคนในยุคนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
“เราสามารถมุ่งหน้าไปยังดินแดนโบราณในตำนานเชิญผู้คนจากตระกูลจักรพรรดิออกมาได้ไหม”
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกไปอัจฉริยะจากรุ่นหลังหลายคนก็ตกใจ ฮวงที่น่ากลัวขนาดนี้ต้องรบกวนตระกูลจักรพรรดิเลยหรือ?
“ระวังให้ดีตระกูลจักรพรรดิ์ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของโลกภายนอกมาเป็นเวลานาน หากมีคนออกมาจากดินแดนโบราณพวกเขาจะครองโลกอย่างแน่นอน จะไม่มีโอกาสใดๆ สำหรับคนรุ่นเราเลย!”
สือฮ่าวกลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียงของโลกฝั่งนี้ไปโดยปริยาย
ในการต่อสู้ในทะเลทรายครั้งยิ่งใหญ่เขาเอาชนะราชันย์บู๊ซึ่งดึงดูดสายตาของผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ทุกคน พวกเขาเห็นสือฮ่าวเป็นภูเขาสูงขวางเส้นทางของพวกเขาซึ่งจำเป็นต้องถอนรากถอนโคน
“อาจารย์…ท่านกลับมาแล้ว!” ที่ทางเข้าหมู่บ้านของตระกูลหินผาอาซูเห็นร่างหนึ่งเดินมาจากระยะไกล เขาอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาด้วยความประหลาดใจ
เมื่อเด็กกลุ่มนั้นได้ยินพวกเขาก็รีบวิ่งไป พวกเขาทุกคนตกใจและดีใจที่ได้พบเขา
“พี่ใหญ่ท่านน่ากลัวจริงๆ! ข้าได้ยินมาว่าครั้งนี้การต่อสู้นั้นขมขื่นมาก แต่ท่านกลับมาอย่างปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บเลย! ข้ามีความสุขมาก!” เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ตะโกนใบหน้าเล็กๆที่มีเลือดฝาดของนางเผยให้เห็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นานนาง็ร้องไห้เพราะนางเสียบิดาไปเมื่อไม่นานมานี่เอง
ผู้คนจากหมู่บ้านตระกูลหินผาต่างก็ปรากฏตัวขึ้น เมื่อพวกเขาเห็นสือฮ่าวพวกเขาทุกคนมีความสุขมากเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เรียบง่ายและซื่อสัตย์ มีใครบางคนเดินมาตบไหล่คนอื่นที่เอาสุราแรงๆมาชามใหญ่คนอื่นที่เหลือเอาผ้าขนหนูมาเช็ดสิ่งสกปรกและทรายให้กับเขา
“เป็นเรื่องดีที่เจ้ากลับมาอย่างมีชีวิตจริงๆ…” หัวหน้าตระกูลสือฮั่วเต๋อตัวสั่นเล็กน้อย สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือเมื่อมีคนกลับมาจากนอกเมืองพวกเขามักจะได้ยินข่าวที่น่าเศร้า คนที่แข็งแกร่งของตระกูลมักจะถูกหามกลับมา
“เด็กเอ๋ยรีบกินเนื้อแห้งฟื้นฟูความแข็งแกร่งสักหน่อย” มีหญิงวัยกลางคนเดินผ่านมาพร้อมกับยิ้มใจดี
สือฮ่าวขอบคุณพวกเขา เขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่นี่ซึ่งเป็นความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน
เขาอาศัยอยู่ที่นี่โดยไม่มีแผนจะจากไป เขาเตรียมที่จะทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เขาจะอยู่ในบางครั้ง
ในช่วงครึ่งเดือนถัดมาสือฮ่าวไม่ได้ออกไปข้างนอก เขาอยู่ที่นี่เพื่อแนะนำเด็กๆให้ก้าวเข้าสู่เส้นทางการบ่มเพาะที่ถูกต้อง นอกจากนี้ตัวเขาเองยังวิเคราะห์เส้นทางเซียนที่ยิ่งใหญ่ของตัวเอง
เขากำลังรอ เมื่อถึงเวลาที่ต้องออกสนามอีกครั้งเป้าหมายของเขาจะไม่เพียงแต่เป็นสนามรบเท่านั้น!
ไม่กี่วันต่อมาในเทือกเขา มีคนนำจดหมายมาส่งให้กับสือฮ่าว
“ฮวงอยู่ที่นี่หรือไม่? เขาอยู่ในสถานที่ห่างไกลจริงๆ ถึงกลับอยู่ในภูเขาที่แห้งแล้งนี้” คนที่มาพึมพำเบาๆ
“ท่านเป็นใครและต้องการอะไร” ชายหนุ่มอาซูทักทายพวกเขา
“ข้ามาหาฮวงเพื่อส่งคำเชิญให้เขา ในอีกสามวันจะมีการรวมตัวกันใน เมืองจักรพรรดิ์ผู้ที่ได้รับเชิญทั้งหมดเป็นบุคคลสำคัญของรุ่นเยาว์ชนชั้นสูงของตระกูลทั้งหมดต่างเข้าร่วม”
“งานชุมนุมอะไร” แสงสีทองเล็กๆพุ่งเข้ามาคว้าจดหมายไป ทำให้ผู้ส่งสารตกใจอย่างยิ่ง
“พวกเรากำลังยุ่งอยู่กับการบ่มเพาะ ไม่มีเวลาไปทำเรื่องไร้สาระ” มดเขาสวรรค์กล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
“การมารวมตัวกันในครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษมีเพียงบุคคลชั้นนำรุ่นเยาว์ของโลกเท่านั้นที่มีโอกาสเข้าร่วม การประชุมนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ไม่มีอันตรายใดๆ” คนส่งสารพยายามอธิบาย
“ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยพบพวกเขามาก่อนในเก้าสวรรค์!” มดตัวน้อยหมดความอดทน
“ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นผู้บ่มเพาะจากเก้าสวรรค์เท่านั้น ผู้สืบทอดที่ทรงพลังที่สุดของกลุ่มต่างๆในเมืองจักรพรรดิ์ก็จะอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกันรวมทั้งทายาทโดยตรงของผู้อมตะก็จะเข้าร่วมด้วย พวกเขาไม่เคยไปเยือนเก้าสวรรค์มาก่อน” ผู้ส่งสารพยายามอย่างยิ่งในการอธิบาย เห็นได้ชัดว่าเขาหวังว่าสือฮ่าวจะไปได้