ตอนที่ 86 - ต่อรองกับสวรรค์
ตอนที่ 86 - ต่อรองกับสวรรค์
ฉากนี้ทำให้ทุกคนมึนงงและตกใจ บรรพบุรุษโบราณต่างมิติทั้งสองกำลังสื่อสารกับสวรรค์อเวจี?
บนพื้นแท่นกะโหลกนั้นสูงสามจ้างมีสีดำสนิทเหมือนหมึกปลดปล่อยพลังงานแก่นแท้ออกมากลายเป็นเปลวไฟลึกลับ เปลวไฟนี้เผาราชโองการทองคำอย่างต่อเนื่องทำให้มันสุกใสมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เดี๋ยวก่อนกะโหลกนั้นจะมีพลังแห่งดาวเซียนได้อย่างไร” ทางด้านเก้าสวรรค์หลายคนตื่นตระหนก กะโหลกนั้นมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แต่มันก็ถูกทำให้เป็นแท่นบูชาโดยศัตรู
ทุกคนรู้ดีว่าเมื่อเปลวไฟชนิดนี้สัมผัสกับร่างกาย พวกเขาจะถูกเผาเป็นขี้เถ้าโดยตรง
เป็นเพราะพวกเขาสามารถเห็นได้ว่าแม้แต่พื้นที่ใกล้เคียงก็ลุกเป็นไฟถูกดูดซับพลังจากจักรวาลอันยิ่งใหญ่โดยกะโหลกดำ!
ในขณะเดียวกันนี่เป็นสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมอุณหภูมิของเปลวไฟจึงน่ากลัวมากสามารถเผาแผ่นสีทองทำให้สัญลักษณ์ที่อยู่บนนั้นพุ่งไปสู่สวรรค์อเวจี
“อูมานิดาลาเด…”
ภายในสวรรค์อเวจีอักขระโบราณสีทองปรากฏขึ้นทีละอันและส่งเสียงดังออกมาราวกับว่าพระโบราณสามพันรูปกำลังสวดมนต์เป็นฉากที่น่าตกใจอย่างยิ่ง
มันน่ากลัวเกินไปเสียงนี้มีศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครเทียบ มันกำลังพยายามต่อรองในเรื่องบางอย่าง
ทุกคนต่างหวาดผวาอันหลาน,ซือถู, บรรพบุรุษโบราณสองถึงกับกล้าท้าทายสวรรค์?
ในขณะนี้สิ่งมีชีวิตต่างแดนคุกเข่าลงโดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเขากราบกรานไปที่แท่นบูชากะโหลก
ในด้านของเก้าสวรรค์สิบพิภพแม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยังมีบางคนที่จิตวิญญาณของพวกเขาสั่นเทาสั่งให้คุกเข่าลง
นี่เป็นความกดดันประเภทหนึ่งที่คล้ายกับสัตว์เล็กที่ได้เห็นราชาสัตว์ร้ายซึ่งเป็นความกลัวโดยกำเนิดที่ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมจำนน
“ไม่!”
มีใครบางคนที่คำรามอย่างโกรธเกรี้ยวไม่ยอมก้มหัวคุกเข่า เลือดแก่นแท้ถูกพ่นออกมาจากปากของเขาพยายามฝืนร่างกายให้ยืนหยัดอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามร่างกายของพวกเขากลับทรยศ มันบังคับให้พวกเขาคุกเข่าลงให้ได้โดยไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งจากจิตใจ
เห็นได้ชัดว่าอักขระของราชโองการทองคำนี้เขียนขึ้นโดยผู้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความลึกลับของร่างกาย นั่นคือเหตุผลที่เมื่อคำสั่งเวทย์มนตร์ถูกส่งออกมามันจึงส่งผลกระทบต่อวิญญาณทั้งหมด
ฮั้ว!
แผนภาพโบราณปิดผนึกสวรรค์คลี่ออกด้วยสายลมเซียนแผ่ซ่านไปในอากาศ ผู้อาวุโสใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งมาถึงในมือของเขามีแผนภาพสิบพิภพ เขาปล่อยให้มันลอยขึ้นด้านบนหยุดอำนาจของราชโองการทองคำป้องผู้คนจากเก้าสวรรค์สิบพิภพ
ในขณะนี้ทุกคนระบายลมหายใจอย่างโล่งอกเช็ดเลือดที่มุมริมฝีปากของตนเอง ในที่สุดพวกเขาก็ยังไม่ได้คุกเข่าลงไม่เช่นนั้นพวกเขาจะทนรับความอัปยศอดสูแบบนี้ได้อย่างไร
ในเวลาเดียวกันผู้อาวุโสคนหนึ่งปรากฏตัวจากด้านฝั่งตรงข้ามพร้อมกับถุงสวรรค์พิภพในมือของเขา มันปลดปล่อยแสงหมื่นเส้นปกป้องด้านข้างของพวกเขากลัวว่าผู้อาวุโสใหญ่จะแสดงท่าทีดุร้าย
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเงียบลงชั่วขณะกลั้นหายใจเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ราชโองการทองคำถูกเผาจนหมดเหลือเพียงเศษขี้เถ้า อักขระหลายพันตัวบินขึ้นไปบนฟ้าเข้าสู่สวรรค์อเวจี
สามารถเห็นได้อย่างคลุมเครือว่ามีร่างสีทองจางๆ สองร่างปรากฏขึ้น บนท้องฟ้าพวกเขาชี้ไปที่ขอบเขตของก้นบึ้งและปลดปล่อยเสียงที่ทรงพลังที่สุด
“พวกเขากำลังคุยเรื่องกรรมกับสวรรค์อเวจี!” แม้แต่ผู้อาวุโสใหญ่ก็รู้สึกมึนงง คลื่นแห่งความหนาวเย็นเกาะกุมจิตใจของเขา อันหลานและ ซือถูของฝ่ายศัตรูนั้นน่ากลัวเกินไป
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาคิดถึงเรื่องนี้มากขึ้นพวกเขาก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจเบาๆ สองผู้ไม่ดับสูญนั้นน่ากลัวเพียงใด? พวกเขากำเนิดมาก่อนยุคเซียนโบราณอันยิ่งใหญ่ด้วยซ้ำ
ในเวลานั้นพวกเขาได้ต่อสู้กับเซียนที่แท้จริงของฝั่งเก้าสวรรค์สิบพิภพและในท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้รับชัยชนะ
สิ่งนี้น่ากลัวแค่ไหน?
อันหลาน, ซือถูและผู้ไม่ดับสูญคนอื่นๆมีชีวิตอยู่มาเป็นเวลานานอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าพวกเขาปรากฏตัวในยุคใดก่อนหน้านี้พวกเขาเคยต่อสู้กับราชาอมตะไร้ที่สิ้นสุดและราชาอมตะหกดาราอวตาร
แม้ว่าจะมีสาเหตุหลายประการ แต่ราชาอมตะทั้งสองก็ไม่ได้อ่อนแอกว่าผู้ใด เป็นเพราะพวกเขาไม่มีกำลังเสริมเพียงพอ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังพ่ายแพ้ในท้ายที่สุด
คนที่ได้หัวเราะเป็นคนสุดท้ายยังคงเป็นอันหลาน,ซือถูและคนอื่นๆจากฝั่งต่างมิติ!
ฮ่อง!
สวรรค์อเวจีแสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างโหดเหี้ยม คลื่นของพลังแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์สีขาวถูกปล่อยออกมาพลุ่งพล่านไปทั่วโลก
จิ!
โซ่สีแดงแดงปรากฏขึ้นทีละเส้นพวกมันพุ่งเข้าใส่สองร่างสีทองที่ลอยอยู่บนฟ้า
ในทันใดนั้นเสียงการปะทะก็ดังขึ้นจนสั่นสะเทือนทั่วสวรรค์และปฐพี วิญญาณดั้งเดิมของทุกคนถึงกับสั่นสะท้านราวกับว่าพวกมันกำลังแตกสลาย
อักขระโบราณสีทองส่วนหนึ่งถูกทำลาย!
อาดูลีเดมีอูกา!
มีเสียงตะโกนภาษาโบราณดังขึ้นราวกับว่ามันกำลังโกรธมาก สิ่งนี้แสดงถึงเจตนาสังหารของบรรพบุรุษโบราณทั้งสองที่กำลังจะกลืนกินสวรรค์อเวจี
แม้ว่าร่างทั้งสองที่ปรากฏขึ้นมาจะแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตามพวกมันเป็นเพียงแค่ร่างที่ออกมาจากตัวอักขระในราชโองการทองคำในท้ายที่สุดย่อมไม่สามารถต่อต้านพลังของสวรรค์อเวจีไว้ได้
โซ่สีแดงแดงกระจายออกไปนับหมื่นเส้นปลดปล่อยเสียง ฮัวลาลา ราวกับว่าเป็นการพิพากษาลงมาจากสวรรค์เบื้องบน พวกมันพุ่งเข้าใส่ร่างสีทองทั้งสองอย่างไม่หยุดพัก
ปู!
ในท้ายที่สุดอักขระทั้งหมดก็ถูกทำลายร่างโบราณสีทองทั้งสองก็หายไปด้วย!
“ผู้อาวุโสใหญ่เสียงที่เปล่งออกมาจากราชโองการทองคำหมายความว่าอย่างไร”สือฮ่าวมาถึงด้านข้างของผู้อาวุโสใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งถามด้วยเสียงที่นุ่มนวล
ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างมีสีหน้าจริงจังเคร่งเครียด
“ก็เป็นไปตามที่พวกเจ้าทุกคนคาดไว้พวกเขาพยายามต่อรองอะไรบางอย่าง!” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
ความเย็นพุ่งเข้าสู่สันหลังของทุกคน ถึงแม้จะคำนวณได้แล้วแต่เมื่อได้รับการยืนยันอีกครั้งหนึ่งก็ยังทำให้จิตใจของทุกคนหนาวเหน็บ!
?
แม้ว่าราชโองการทองคำจะถูกทำลายไปแล้ว แต่พวกเขาก็เห็นได้ชัดว่า อันหลานและซือถูไม่ได้มีความหวาดกลัวต่อสวรรค์อเวจีแห่งนี้ มิฉะนั้นพวกเขาจะกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?
แน่นอนว่าด้วยเหตุผลบางประการ ร่างที่แท้จริงของพวกเขาไม่สามารถเข้าใกล้สถานที่แห่งนี้ได้
“พวกเขาพูดอะไรกันแน่?” สือฮ่าวขอคำแนะนำ เขาอยากรู้จริงๆว่าเนื้อหาของการสนทนานั้นคืออะไร
ในความเป็นจริงฝ่ายต่างมิติก็คุยกันเงียบๆ ถามบรรพบุรุษอาวุโสของพวกเขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เป็นเพราะพวกเขาไม่รู้จักอักขระโบราณเหล่านี้ พวกมันมีความพิเศษเป็นอย่างมากคนที่รู้จักพวกมันมีน้อยกว่าน้อยแม้จะนับทั้งสองโลกรวมกันก็มีไม่เกิน 5 คน
“ข้าเพียงเข้าใจอย่างคลุมเครือเท่านั้น” ผู้อาวุโสใหญ่ถอนหายใจเบา ๆ
นักธนูศักดิ์สิทธิ์จากเมืองจักรพรรดิ์เดินเข้ามาพร้อมกับแสดงความเคารพจากนั้นจึงขอคำแนะนำจากผู้อาวุโสใหญ่เพื่อพูดถึงรายละเอียดเพิ่มเติม
“ความหมายคร่าวๆคือผู้ไม่ดับสูญทั้สองต้องการพบกับพี่น้องของเขาอีกครั้ง นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาต้องเข้าสู่เมืองจักรพรรดิให้ได้!” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวเบาๆสีหน้าของเขาจริงจังอย่างไม่น่าเชื่อ
นี่เป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน!
เมื่อทุกคนที่นี่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ร่างกายของพวกเขาทั้งหมดก็แข็งเกร็งสีหน้าซีดขาว ข้อมูลนี้น่ากลัวเกินไปทำให้พวกเขาไม่กล้าคิดถึงเบื้องหลังของเรื่องนี้ ทุกคนเริ่มสั่นสะท้านจากภายใน
เก้าสวรรค์สิบพิภพมีอะไรดึงดูดพวกเขากันแน่?
นอกเหนือจากนี้อันหลานและซือถูบอกว่าพวกเขาต้องการพบกับพี่น้องอีกครั้งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก ไม่ต้องกล่าวถึงเหล่านักรบผู้ยิ่งใหญ่ แม้แต่ผู้อาวุโสใหญ่เองก็รู้สึกว่าหนังศีรษะของเขาชาด้าน
เมืองจักรพรรดิมีศัตรูต่างมิติอาศัยอยู่?
ยิ่งไปกว่านั้นตามที่ราชโองการสีทองกล่าวไว้ พี่น้องที่ว่าต้องอยู่ในระดับเดียวกับอันหลานและซือถูอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นจะเรียกว่าพี่น้องได้อย่างไร?
ข้อมูลชิ้นนี้เพียงแค่คิดเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ร่างกายของเขาเย็นยะเยือก มันช่างน่าสยดสยองถึงขีดสุดจริงๆ!
เป็นความหวาดกลัวอย่างแท้จริงนี่เป็นความรู้สึกที่ตรงที่สุดของทุกคน
อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้พวกเขาก็ยังคงสงสัย หากมีสิ่งมีชีวิตระดับนี้อาศัยอยู่ในเมืองจักรพรรดิพวกเขายังจะมีชีวิตรอดได้อีกหรือ? เพียงแค่ฝ่ามือเดียวของคนผู้นั้นก็เพียงพอที่จะทำลายโลกฝั่งนี้จนราบคาบ แล้วทั้งสองฝั่งจะต้องทำสงครามยืดเยื้อกันไปเพื่ออะไร?
“เดินทางกลับ…” ผู้อาวุโสใหญ่พูดกับนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นผู้นำขบวนทัพ
ทันใดนั้นเองผู้อาวุโสคนหนึ่งจากความต่างมิติก็เดินเข้ามาหาผู้อาวุโสใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งด้วยสีหน้ามืดคล้ำ
“ข้าแนะนำให้ทุกคนส่งมอบสิ่งนั้นออกมาโดยเร็วที่สุด!” นี่คือคำขอของเขา
ในช่วงเวลานั้นสือฮ่าวและคนอื่นๆรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็เต็มไปด้วยความคาดหวังและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากปากของเขา ว่า ‘สิ่งนั้น’ คืออะไรกันแน่?